คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความจริงที่ไม่อยากยอมรับ
หลี่ซือหนี่กอดตัวเองไว้แน่น นั่งนิ่งอยู่กับพื้น หัวใจเธอเต้นรัวเหมือนกลองศึก ความคิดในหัวพันกันยุ่งเหยิง ขณะที่เธอพยายามหาคำอธิบายสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ความหวาดกลัวและความสับสนเริ่มกลืนกินเธออย่างช้าๆ
"มันต้องเป็นแค่ฝัน… ใช่ มันต้องเป็นแค่ฝัน" เธอพยายามพูดกับตัวเอง ย้ำซ้ำๆ แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับดูจริงเกินไป ผิวสัมผัสของพื้นไม้ใต้ฝ่ามือ กลิ่นอ่อนๆ ของสมุนไพรในอากาศ และเสียงหายใจของเม่ยหลันที่ยังยืนอยู่ข้างๆ อย่างระมัดระวัง
หลี่ซือหนี่หลับตาแน่น พยายามบังคับให้ตัวเองตื่นจากฝันร้ายนี้ แต่มันไม่เป็นผล ทุกครั้งที่เธอลืมตาขึ้นมาก็ยังคงพบกับห้องโบราณแบบเดิม สาวใช้ที่เธอไม่รู้จักยังคงยืนมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง
“ทำไมฉันถึงยังไม่ตื่น!” เธอตะโกนสุดเสียง น้ำตาที่ไหลออกมานั้นเต็มไปด้วยความโกรธและสิ้นหวัง เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ในโลกปัจจุบันเธอเป็นคนที่เข้มแข็งและควบคุมทุกอย่างได้ แต่ที่นี่… ทุกอย่างมันเกินกว่าจะควบคุม
เม่ยหลันสะดุ้งกับเสียงตะโกนของคุณหนู เธอรู้สึกกลัวแต่ก็เป็นห่วงคุณหนูของเธอมากกว่า “คุณหนู… ข้าขอร้อง อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะเจ้าคะ ท่านป่วยหนักมาก หากไม่พักฟื้นจะยิ่งแย่ลงไปอีก”
หลี่ซือหนี่หันไปจ้องเม่ยหลัน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความร้อนรนและไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สายตาที่เห็นความหวาดกลัวในตัวเม่ยหลันกลับทำให้หลี่ซือหนี่เริ่มหยุดชะงักลงทีละน้อย เธอสูดหายใจลึกพยายามทำใจให้เย็นลง แม้หัวใจยังเต้นแรง แต่เธอต้องการเวลาในการรวบรวมความคิดและรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“บอกฉันที ที่นี่มันที่ไหน?” หลี่ซือหนี่ถามอีกครั้ง แต่คราวนี้เสียงของเธอแผ่วเบาลง ไม่ได้แฝงความโกรธเหมือนก่อนหน้า
เม่ยหลันก้มหน้าเล็กน้อย รู้สึกโล่งใจที่คุณหนูดูสงบลง "คุณหนู ท่านอยู่ในจวนแม่ทัพไงเจ้าคะ ที่นี่คือเรือนหลังเล็กของท่าน ท่านป่วยหนักจนเกือบไม่ได้สติ ข้าเพิ่งดูแลท่านให้ฟื้นฟูกลับมาได้เพียงไม่กี่วันเอง"
"จวนแม่ทัพ? เรือนหลังเล็ก?" หลี่ซือหนี่พึมพำกับตัวเอง ใจของเธอยิ่งหมุนติ้วไปอีก จวนแม่ทัพอะไร? เธอไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ในชีวิต ความทรงจำทุกอย่างมันคล้ายกับภาพยนตร์โบราณที่เธอเคยดู แต่มันกลับกลายเป็นชีวิตจริงของเธอในตอนนี้
"แล้วฉันเป็นใคร?" เธอถามคำถามนี้อีกครั้ง แต่ในใจเริ่มหวาดหวั่นว่าคำตอบจะเป็นไปตามที่เธอกลัว
เม่ยหลันมองเธอด้วยสายตางุนงง "ท่านเป็นคุณหนูอวี้เหมย ลูกสาวของอนุในจวนแม่ทัพ ท่านพึ่งฟื้นจากไข้หนักและ—"
หลี่ซือหนี่สะดุ้ง หัวใจเธอกระตุกเมื่อได้ยินชื่อนี้ "อวี้เหมย…" เธอพูดออกมาเบาๆ ราวกับไม่อยากเชื่อ
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนร่างหรือการหลุดเข้ามาในโลกใหม่ เธอได้เกิดใหม่ในโลกนี้ โลกที่ทุกอย่างต่างจากชีวิตที่เธอรู้จัก ในฐานะลูกอนุของแม่ทัพ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นตำแหน่งที่ต่ำต้อย และที่สำคัญ…เธอไม่ใช่หลี่ซือหนี่อีกต่อไป
"นี่มันอะไรกัน… ทำไมถึงเป็นแบบนี้" หลี่ซือหนี่พึมพำออกมา เธอรู้สึกโดดเดี่ยวและสูญเสียตัวตน แม้ว่าเธอจะเคยเป็นเจ้าแม่เงินกู้ผู้แข็งแกร่งในโลกปัจจุบัน แต่ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรเลย
"คุณหนู… ท่านต้องพักผ่อน ข้าน้อยจะไปเตรียมยามาให้นะเจ้าคะ" เม่ยหลันพูดอย่างใจเย็น พลางโค้งตัวเตรียมจะออกจากห้อง
หลี่ซือหนี่พยักหน้าเบาๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร เธอนั่งนิ่งอยู่ที่พื้น รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมา ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความโกรธ สับสน และความกลัวนี้มันแทบจะท่วมท้น
เมื่อเม่ยหลันออกจากห้องไปแล้ว หลี่ซือหนี่จึงเริ่มหันไปมองรอบๆ อีกครั้งอย่างพินิจพิเคราะห์ เธอต้องยอมรับความจริงว่าเธอไม่ได้อยู่ในโลกของเธออีกต่อไปแล้ว นี่เป็นชีวิตใหม่ ชีวิตในโลกที่เธอไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเตรียมใจสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่หนักหนาเช่นนี้
“ถ้านี่เป็นชีวิตใหม่ของฉันจริงๆ ฉันจะทำยังไงต่อไป…” เธอพึมพำกับตัวเอง แม้จะยังรับไม่ได้ทั้งหมด แต่เธอรู้ว่าต้องหาแผนการใหม่เพื่ออยู่รอดในโลกใบนี้
หลี่ซือหนี่นั่งอยู่ในความเงียบ ดวงตาจ้องมองไปที่พื้นไม้สีน้ำตาลเข้ม มือของเธอวางไว้บนตัก รู้สึกได้ถึงความอ่อนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ แม้จะยังยอมรับความจริงไม่ทั้งหมด แต่ลึกๆ แล้ว เธอเริ่มรู้ว่าหนีไม่พ้น ต้องหาทางอยู่รอดในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยนี้
“ฉันต้องคิดให้ได้...” หลี่ซือหนี่พึมพำกับตัวเอง พยายามตั้งสติและคิดหาหนทาง เธอเป็นเจ้าแม่เงินกู้ที่เคยผ่านการเจรจาทางธุรกิจมาอย่างมากมาย มีศัตรู มีลูกหนี้ มีคนที่นับถือและหวาดกลัวเธอ แต่ในตอนนี้เธอไม่เหลืออำนาจ ไม่มีคนที่เธอรู้จัก และที่สำคัญ เธอไม่ใช่หลี่ซือหนี่อีกต่อไป
"อวี้เหมย..." เธอพึมพำชื่อใหม่นี้ซ้ำเบาๆ รู้สึกถึงความแตกต่างของชื่อ ความเป็นอวี้เหมยจะทำให้เธอมีตัวตนในโลกนี้อย่างไร? หญิงสาวในร่างใหม่ค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นด้วยความยากลำบาก ร่างกายอ่อนแอเหลือเกิน ความรู้สึกเหมือนเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องการการพักฟื้นนานนับเดือน
เธอเดินไปที่หน้าต่างบานเล็กเพื่อมองออกไปข้างนอก จวนที่เธออาศัยอยู่ดูเรียบง่าย ไม่ใช่คฤหาสน์หรูหราของชนชั้นสูงตามที่จินตนาการไว้ ห้องที่เธออยู่เหมือนเรือนหลังเล็กที่ถูกละเลย ชายหญิงในชุดเก่าแก่เดินไปมาในลานอย่างเงียบเชียบ ทุกอย่างดูเหมือนเป็นโลกที่อยู่ห่างไกลจากเทคโนโลยีและอารยธรรมสมัยใหม่
"ไม่ใช่แค่โลกที่เปลี่ยนไป..." หลี่ซือหนี่คิดในใจ "แต่ตัวตนของฉันก็เปลี่ยนไปด้วย"
เธอเริ่มตระหนักถึงสิ่งหนึ่ง หากนี่คือโลกใหม่และชีวิตใหม่ เธอก็ยังมีโอกาสที่จะสร้างอำนาจของตัวเองขึ้นมาได้อีกครั้ง ทักษะการจัดการ ความสามารถในการเจรจาต่อรอง และความรู้เรื่องการเงินจากโลกเดิม อาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้เธอประสบความสำเร็จในโลกใบนี้
“ถ้าเปลี่ยนร่างแล้ว ฉันก็ต้องเปลี่ยนชีวิตใหม่…” เธอบอกกับตัวเอง แม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่าต้องทำอย่างไร แต่เธอก็ตั้งใจว่าเธอจะไม่ยอมเป็นแค่ลูกอนุที่ถูกละเลยเหมือนในอดีต
ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิด เสียงประตูถูกเคาะเบาๆ ทำให้เธอหลุดออกจากภวังค์ เม่ยหลันเข้ามาพร้อมกับถ้วยยาในมือและพูดเสียงเบา “คุณหนู ท่านควรดื่มยานี้เพื่อฟื้นฟูร่างกายนะเจ้าคะ”
หลี่ซือหนี่มองถ้วยยาที่ส่งมาให้ก่อนจะพยักหน้ารับโดยไม่ได้ปฏิเสธ แม้จะรู้สึกหวาดระแวงบ้าง แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าร่างกายของเธอไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับสิ่งใดได้ เธอต้องฟื้นฟูตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก
เมื่อยกถ้วยยาขึ้นดื่ม ความขมที่ท่วมลิ้นทำให้เธอขมวดคิ้ว แต่เธอก็ทนกลืนมันลงไปจนหมด ก่อนจะส่งถ้วยคืนให้เม่ยหลัน เธอพยายามเก็บความอ่อนแอในใจไว้และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“เม่ยหลัน ข้าจะถามเจ้าบางอย่าง… จวนแม่ทัพนี้มีใครเป็นผู้ปกครอง?”
เม่ยหลันชะงักไปเล็กน้อยกับคำถามของคุณหนู แต่ก็รีบตอบอย่างสุภาพ “ท่านแม่ทัพอวี้กงหลาง เป็นบิดาของท่านเจ้าค่ะ แต่ท่านแม่ทัพออกไปรบที่ชายแดนมาหลายปีแล้ว ไม่ได้กลับมาเลย”
หลี่ซือหนี่ฟังด้วยความสนใจ “แล้วมารดาของข้าเล่า?”
เม่ยหลันนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบเบาๆ “ท่านเป็นบุตรีของอนุ เจ้าค่ะ... มารดาของท่านคือซูหว่าน นาง...เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ท่านอยู่ในความดูแลของฮูหยินใหญ่....”
“ฮูหยินใหญ่…” หลี่ซือหนี่ทวนคำด้วยความรู้สึกบางอย่าง สถานการณ์ของเธอดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก การเป็นลูกอนุในจวนใหญ่ย่อมไม่ใช่สิ่งที่นำพาอำนาจหรือความสำเร็จมาให้ เธอรู้ดีว่าชีวิตในสถานการณ์เช่นนี้มักจะถูกกดขี่และไร้ค่า
"ถ้าอย่างนั้น…" หลี่ซือหนี่หรี่ตาเล็กน้อย ความคิดบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในหัว "ฉันจะต้องหาทางก้าวขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม"
เธอจะไม่ยอมเป็นแค่เบี้ยในเกมนี้อีกต่อไป!
หลี่ซือหนี่หันกลับไปนั่งลงบนเตียงที่มีฟูกบางๆ ปูอยู่ ความคิดในหัวเริ่มชัดเจนขึ้นทีละน้อย แม้ว่าเธอจะยังไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับชีวิตใหม่ของเธอในฐานะอวี้เหมย แต่เธอเข้าใจดีว่าการอยู่ในจวนที่ถูกควบคุมโดยฮูหยินใหญ่และพี่น้องต่างมารดาคงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ผ่านมาเธอคงถูกละเลย และอาจถึงขั้นถูกรังแกเสียด้วยซ้ำ
“ฉันต้องเริ่มจากการรวบรวมข้อมูล” หลี่ซือหนี่พึมพำกับตัวเอง นี่คือสิ่งที่เธอเคยทำเมื่อครั้งยังเป็นเจ้าแม่เงินกู้ ในโลกของธุรกิจ การรู้ข้อมูลของทุกฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้เปรียบ แม้ในสถานการณ์ใหม่ เธอยังเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้จะช่วยให้เธอเริ่มต้นใหม่ได้
“เม่ยหลัน…” หลี่ซือหนี่เรียกสาวใช้ที่ยังคงยืนอยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "เจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้ในจวนมีใครบ้าง? และพวกเขาอยู่ในตำแหน่งใด?"
เม่ยหลันหันมามองคุณหนูของนางเล็กน้อย รู้สึกแปลกใจที่คุณหนูเริ่มสนใจเรื่องราวในจวน ทั้งที่ปกติคุณหนูของนางมักจะไม่ถามถึงอะไรเช่นนี้ แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เธอก้มศีรษะลงและตอบเสียงเบา
“ท่านแม่ทัพคือผู้ปกครองจวน แต่ท่านไม่อยู่ เจ้าค่ะ ตอนนี้ฮูหยินใหญ่เป็นผู้ดูแลทุกอย่าง นางมีบุตรชายสองคน คนโตชื่ออวี้เหวินฉาง เป็นท่านรองแม่ทัพ ส่วนคนรองชื่ออวี้เหวินฉี เป็นบัณฑิตที่สอบจอหงวนได้ คุณหนูอวี้หลันฮวา บุตรีของฮูหยินใหญ่ก็เป็นผู้ดูแลเรือนใหญ่...” เม่ยหลันหยุดเล็กน้อยเพื่อคิดถึงรายละเอียด
“ส่วนท่าน... เป็นบุตรสาวของอนุซูหว่านที่เสียชีวิตไปแล้ว ท่านเคยถูกยกย่องในฐานะคุณหนูแห่งจวนแม่ทัพแต่หลังจากมารดาเสีย ท่านถูกย้ายมาที่เรือนหลังเล็กเพื่อพักฟื้นจากอาการป่วยค่ะ” เม่ยหลันพูดด้วยน้ำเสียงเบาแต่เต็มไปด้วยความเห็นใจ
หลี่ซือหนี่ฟังอย่างเงียบๆ พลางเก็บรายละเอียดในหัว คำว่า "บุตรอนุ" คงเป็นตราบาปที่ทำให้เธอถูกละเลยไปจากการดูแลที่ดี การย้ายมาอยู่เรือนหลังเล็กยิ่งเป็นการบ่งบอกถึงการตกต่ำของสถานะเธอในจวน
สวัสดีค่ะทุกคนมาลุ้นกันว่าอดีตเจ้าแม่เงินกู้จะทำอย่างไรต่อไป และจะเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน อย่าลืมกดติดตามและกดให้กำลังใจกันด้วยนะขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น