คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 18: ประชุมเสนอแผนการแก้ปัญหา
รุ่งเช้า ขณะที่แสงแดดเริ่มส่องเข้ามาในห้อง เซียวหยางที่นั่งเหม่ออยู่บนเก้าอี้มองออกไปนอกหน้าต่าง งานทั้งหมดที่คั่งค้างเขาก็จัดการจนเสร็จหมดแล้ว แต่เขายังคงรู้สึกตื่นตัวจากผลกระทบของกาแฟเมื่อคืน ร่างกายเขาหมดแรงไปหมด แต่จิตใจกลับไม่ยอมหยุดพัก มันกระวนกระวายเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังหมุนวนอยู่ในหัว จนในที่สุดก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
"เข้ามา..." เซียวหยางตอบกลับเสียงแหบๆ ก่อนจะหันมามองที่ประตูห้อง
เมื่อประตูเปิดออกก็เผยให้เห็น หลี่หยางเหอ องค์ชายใหญ่ของราชวงศ์ ที่เข้ามา แต่เมื่อเห็นสภาพของเซียวหยางก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
"เซียวหยาง... เจ้าดูไม่ดีเลยนะ?" องค์ชายใหญ่เอ่ยอย่างแปลกใจ สายตาของเขามองไปที่เซียวหยางที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ คิ้วขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าอิดโรยของเขา
เซียวหยางที่พยายามจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ก็ต้องหยุดลงเพราะความอ่อนเพลีย ทำให้เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มบางๆ อย่างเหนื่อยล้า
"ข้า... ข้านอนไม่หลับ" เขาพูดเสียงเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นปัดเหงื่อที่ยังคงซึมออกมาอยู่จากใบหน้า
องค์ชายใหญ่พยักหน้าและเดินเข้ามาใกล้ เขามองดูสภาพของเซียวหยางที่ไม่เหมือนเดิมที่ดูเป็นคุณชายผู้สง่างาม แต่วันนี้เขากลับดูเหมือนจะสูญเสียพลังไปหมดสิ้น
"... เกิดจากอะไรหรือ?" องค์ชายใหญ่ถามอย่างกังวล เขารู้ดีว่าเซียวหยางไม่ใช่คนที่ขาดความมั่นคงในการจัดการตัวเอง
เซียวหยางเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง "เมื่อวานนี้ข้า... ดื่มกาแฟของพระชายาองค์ชายสาม... แล้วก็เลย..."
"กาแฟ?" องค์ชายใหญ่ถามย้อนกลับไปอย่างไม่เข้าใจ
เซียวหยางพยักหน้าและเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง "ใช่แล้ว เมื่อวานนี้ข้าไปที่จวนขององค์ชายสาม ข้ามีคำถามเรื่องกลไกที่จะต้องสอบถามกับพระชายาขององค์ชายสามน่ะ"
องค์ชายใหญ่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจและสนใจในเวลาเดียวกัน "ได้ความว่าอย่างไร?"
เซียวหยางยิ้มบางๆ อย่างเหนื่อยล้า ก่อนจะยื่นกระดาษที่มีแบบกังหันน้ำให้ดู "นี่คือแบบกังหันน้ำที่ข้าศึกษามา ข้าใช้เวลาทั้งคืนศึกษาแบบนี้ และข้าคิดว่าถ้าสร้างขึ้นมาจริงๆ ก็น่าจะแก้ไขปัญหาภัยแล้งทางตอนใต้ได้รัยะยาวเลยทีเดียว"
องค์ชายใหญ่รับกระดาษไปพิจารณาด้วยความตั้งใจ ก่อนจะหันกลับมามองเซียวหยางด้วยแววตาชื่นชม
เซียวหยางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "พระชายานั้นช่างฉลาดและมีความคิดที่แตกต่างจากผู้คนทั่วไปจริงๆ ข้าเองยังรู้สึกทึ่งในการวาดภาพของนางมาก" เขาพูดพร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ
องค์ชายใหญ่ยิ้มบางๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าจะนำไปเสนอให้ฝ่าบาท"
เซียวหยางพยักหน้าอย่างดีใจ แม้ว่าตัวเองจะอ่อนเพลียจากการนอนไม่หลับ แต่เมื่อคิดถึงประโยชน์ของแบบกังหันน้ำที่จะนำไปใช้ได้ เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจ
องค์ชายใหญ่ยิ้มบางๆ พลางมองสภาพเซียวหยางที่ดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงล้อเลียน "ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็ควรพักผ่อนเสียบ้างเถิด ข้าจะกลับก่อน แล้วจะนำแบบกังหันนี้ไปด้วย"
เซียวหยางพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความโล่งใจ "ขอบพระทัยพะยะค่ะองค์ชายใหญ่" เขากล่าวพร้อมกับส่งกระดาษแบบกังหันน้ำให้ องค์ชายใหญ่รับกระดาษไว้แล้วกล่าวลา "ข้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมเอง เจ้าทำดีมาก"
เมื่อองค์ชายใหญ่เดินออกไป เซียวหยางก็เอนตัวลงนั่งพลางถอนหายใจ เขารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือบ้านเมือง แม้จะแลกกับคืนที่ไม่ได้นอน แต่เขาก็หวังว่าผลงานนี้จะเป็นประโยชน์ต่อราษฎร และเมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็ผ่อนคลายลง รู้สึกเหนื่อยล้าเข้าแทรกจนเขาเอนกายนอนและหลับไปอย่างรวดเร็ว
ในห้องประชุมใหญ่ของพระราชวัง บรรยากาศอึดอัดและเคร่งเครียดปกคลุมไปทั่ว ทั้งขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชบริพาร และที่ปรึกษาผู้มากประสบการณ์ต่างนั่งกันเงียบงัน ภายใต้สายตาที่แน่วแน่และหนักแน่นของฮ่องเต้หลี่เจิ้ง พระองค์ประทับบนบัลลังก์อันสง่างาม ทรงตั้งพระทัยฟังเสียงความคิดเห็นเพื่อหาทางแก้ไขภัยแล้งที่ทำให้บ้านเมืองเดือดร้อน
ขุนนางฝ่ายซ้ายซึ่งเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมและการจัดการน้ำ ลุกขึ้นยืนพร้อมคำนับฮ่องเต้ "ฝ่าบาท พื้นที่เพาะปลูกทางตอนใต้แห้งแล้งหนัก เราควรหาทางจัดสรรน้ำจากแม่น้ำสายหลัก โดยอาจใช้การขุดลอกเสริมคลองและเขื่อนกักเก็บน้ำตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ราษฎรมีน้ำใช้ในฤดูแล้งนี้"
ฮ่องเต้หลี่เจิ้งทรงพยักหน้าเบาๆ พลางตรองถึงความเป็นไปได้ในคำแนะนำนี้ ขณะที่ขุนนางอีกฝ่ายลุกขึ้นเสนอต่อ "ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าทางที่ดีเราควรส่งกองทัพไปช่วยขุดลอกคูคลองที่ตื้นเขิน และสร้างระบบกระจายน้ำเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำที่จะนำไปใช้ในพื้นที่การเกษตร อีกทั้งยังช่วยบรรเทาความแห้งแล้งได้ในระยะยาว"
ฮ่องเต้ทรงครุ่นคิด พระองค์ทราบดีว่าการขุดลอกคลองจะช่วยแก้ปัญหาบางส่วนได้ แต่การขุดลอกอาจไม่เพียงพอในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้
"แต่การจะขุดลอกคูคลองก็ต้องใช้เวลานานเกินไป อีกทั้งยังใช้แรงงานอีกมาก จะมีใครอาสามาช่วย?" ฮ่องเต้ทรงเอ่ย
ขณะที่ขุนนางกำลังอภิปรายกันอยู่นั้น องค์ชายใหญ่ หลี่หยางเหอ ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทรงมองพระบิดาด้วยแววตามุ่งมั่น พลางก้าวมายืนอยู่เบื้องหน้า
"ฝ่าบาท" องค์ชายใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง "กระหม่อมมีอีกหนึ่งวิธีที่อาจช่วยแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ทุกสายตาหันไปมององค์ชายใหญ่ด้วยความสนใจ หลายคนรู้ดีถึงสติปัญญาและความรอบคอบของพระองค์ องค์ชายใหญ่ค้อมศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะหยิบแบบแผนที่ถือมาด้วยขึ้นมาเบื้องหน้า พลางกล่าวต่อ "กระหม่อมได้รับแบบแผนของกังหันน้ำนี้ ซึ่งสามารถใช้กลไกหมุนสูบน้ำจากแม่น้ำขึ้นมาสู่พื้นที่เพาะปลูก หากเราสร้างกังหันน้ำตามพื้นที่ประสบภัยแล้ง มันจะสามารถกระจายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารแก้ปัญหาได้ระยะยาวพ่ะย่ะค่ะ"
เสียงพึมพำด้วยความสงสัยดังขึ้นจากขุนนางหลายคน ขุนนางอาวุโสคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญในด้านการก่อสร้างจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย "กังหันน้ำหรือ? ไม่เคยได้ยินมาก่อน หากสร้างขึ้นจริง มันจะใช้งานได้อย่างที่องค์ชายทรงกล่าวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"
องค์ชายใหญ่หลี่หยางเหอทรงชี้แจง "กังหันน้ำที่ข้านำมานี้ผ่านการออกแบบและทดสอบเบื้องต้นโดยช่างที่มีความรู้ ถึงจะยังใหม่ แต่ข้ามั่นใจว่ามันสามารถช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งได้ในระดับหนึ่ง และหากได้ช่างฝีมือดีมาช่วยต่อยอด พวกเราก็อาจเห็นผลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น"
เสียงกระซิบกระซาบของขุนนางบางคนแสดงถึงความสนใจปนกังวล ฮ่องเต้หลี่เจิ้งเงียบไปครู่หนึ่ง ทรงตริตรองตามความเป็นไปได้ในแบบแผนนี้
เมื่อขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า "ผู้ใดเป็นผู้คิดค้นสิ่งนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ?" บรรยากาศในห้องประชุมก็เงียบสงัด ขุนนางหลายคนมองไปยังองค์ชายใหญ่หลี่หยางเหอด้วยความอยากรู้
องค์ชายใหญ่สบตากับขุนนางที่ถาม จากนั้นก็ยิ้มบางๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงสุขุม "แบบแผนกังหันน้ำนี้มาจากฝีมือของพระชายาขององค์ชายสาม ซูเฟยหรง"
เมื่อสิ้นคำกล่าว ทุกคนต่างพากันประหลาดใจและพึมพำด้วยความทึ่ง การที่พระชายาขององค์ชายสาม ผู้ซึ่งไม่น่าจะมีความเชี่ยวชาญด้านกลไก กลับสามารถออกแบบสิ่งประดิษฐ์เช่นนี้ได้ ทำให้พวกเขาเกิดความเคารพและนับถือมากขึ้น ขุนนางบางคนถึงกับเอ่ยชมว่า "พระชายาซูช่างเป็นผู้ที่มีปัญญาและรอบรู้เสียจริง นับว่าเป็นโชคดีของแผ่นดินที่มีผู้มากความสามารถเช่นนี้"
ฮ่องเต้หลี่เจิ้งพยักหน้าช้าๆ ด้วยแววพระเนตรที่ฉายแววพึงพอพระทัย พระองค์ทรงหันไปกล่าวกับขุนนางที่กำลังชื่นชม "ดูเหมือนว่าพระชายาซูจะไม่ธรรมดาเลย เป็นเรื่องที่น่ายินดีนักที่ข้ามีคนเก่งกาจอยู่เคียงข้างบุตรของข้า"
เมื่อเสนาบดีกรมพระคลังซู ได้ยินว่าแบบแผนกังหันน้ำนี้เป็นฝีมือของบุตรสาวของตน ซูเฟยหรง เขาก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อ “เป็นฝีมือของพระชายาสามจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?” น้ำเสียงของเขาผสมไปด้วยความประหลาดใจและความสงสัย
องค์ชายใหญ่หลี่หยางเหอ มองไปยังเสนาบดีซูแล้วพยักหน้ายืนยัน “ใช่แล้ว พระชายาสามเป็นผู้คิดค้นและออกแบบด้วยตัวเอง นางมีความรู้ด้านกลไกที่ลึกซึ้งกว่าที่หลายคนจะคาดคิด”
เสนาบดีกรมพระคลังซูถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาไม่คาดคิดว่าบุตรสาวที่เขาเคยมองว่าไม่มีประโยชน์และไร้ความสามารถจะกลายมาเป็นผู้ที่สามารถคิดค้นสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ภัยแล้งของบ้านเมืองได้ ขุนนางอื่นๆ เองก็หันมามองเขาด้วยแววตาชื่นชมและเป็นเชิงถามว่าความสามารถนี้มาจากบุตรสาวของเขาจริงๆ หรือไม่
เสนาบดีซูจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หากเป็นเช่นนั้น ข้ายินดีให้การสนับสนุนเต็มที่พ่ะย่ะค่ะ” ความภาคภูมิใจเริ่มส่องประกายในสายตาของเขาแม้จะยังมีความไม่เชื่อบางส่วน
ฮ่องเต้เห็นท่าทีของเสนาบดีซูก็แย้มสรวลเล็กน้อย “ในเมื่อเสนาบดีซูยินดีสนับสนุน เช่นนั้นพวกเจ้าทุกคนก็จงร่วมมือกันให้เต็มที่ ข้าจะคอยเฝ้าดูผลลัพธ์ของแผนการนี้”
เมื่อขุนนางคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแฝงด้วยความกังวล “แต่ถ้ากังหันน้ำนี้ไม่ได้ผล แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบพ่ะย่ะค่ะ?” ทำให้บรรยากาศในท้องพระโรงตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย ขุนนางหลายคนหันมองไปยังองค์ชายใหญ่หลี่หยางเหอ รอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น