คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : โดนลองเชิง
ซูเหม่ยอี้ถอนหายใจในใจ เพราะรู้ดีว่าหลี่เจิ้งไม่ได้หมายความว่าจะเข้ามาขัดจังหวะ นางจึงพยายามรักษาน้ำเสียงให้คงที่ ไม่ให้หลี่เจิ้งรู้สึกแปลกใจ
“เจ้า...มาทำอะไร?” ซูเหม่ยอี้เอ่ยเสียงเบาๆ จากในห้องน้ำ ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
หลี่เจิ้งยืนอยู่ข้างนอกห้องน้ำในระยะที่พอจะพูดคุยกันได้ เขาหัวเราะเบาๆ และกล่าว “ข้าเป็นห่วง เห็นเจ้าหายไปนานเลยมาดู”
ซูเหม่ยอี้นิ่งเงียบสักพัก ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี นางเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของหลี่เจิ้งได้
ในที่สุด ซูเหม่ยอี้ก็กล่าวเสียงเบาและตรงไปตรงมา “ข้าก็แค่ต้องการอาบน้ำ ไม่ต้องห่วง”
หลี่เจิ้งได้ยินก็ไม่พูดอะไรต่อ เขาหันหลังแล้วเดินจากไปอย่างช้าๆ ขณะที่ซูเหม่ยอี้ค่อยๆ หยิบเสื้อผ้าและเตรียมตัวออกจากห้องอาบน้ำ ความรู้สึกที่อึดอัดก็ยังไม่คลายไปไหน แม้ว่าจะไม่ถูกทำลายโดยใคร
ซูเหม่ยอี้รีบแต่งตัวและเดินออกจากห้องอาบน้ำ ก่อนจะพบกับหลี่เจิ้งที่กำลังยืนอยู่ห่างออกไปพลางยิ้มให้
“เสร็จแล้วหรือ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
ซูเหม่ยอี้ตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ “อืม เสร็จแล้ว”
หลี่เจิ้งหัวเราะเบาๆ แล้วพยักหน้า “อะแฮ่ม.. งั้นกลับกันเถอะ”
เมื่อทั้งสองเดินกลับไปยังกระโจมที่พักของทหารใหม่ ซูเหม่ยอี้รู้สึกได้ถึงความเงียบสงบในอากาศยามค่ำคืน บรรยากาศรอบๆ นั้นช่างเงียบสงัด จนเสียงฝีเท้าของพวกเขาดังก้องขึ้นในคืนที่ไร้แสงดาว บริเวณรอบๆ ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด มีเพียงแสงจากตะเกียงน้ำมันที่จางลง
เมื่อถึงกระโจม หลี่เจิ้งก็ยิ้มให้กับซูเหม่ยอี้ “เข้าไปพักผ่อนเถอะ เจ้าคงเหนื่อยจากการฝึกมากแล้ว” เขาพูดเสียงเบา ดูเหมือนจะเป็นการบอกให้หยุดคิดถึงอะไรที่นอกเหนือจากการพักผ่อน
ภายในนั้นทหารคนอื่นๆ นอนหลับสนิทกันหมด หลี่เจิ้งเดินตามหลังเข้ามา พลางมองไปที่เพื่อนๆที่นอนหลับอย่างหมดแรงจากการฝึกหนักในวันนี้
ทั้งสองต่างเงียบไปสักพัก ก่อนที่หลี่เจิ้งจะเอนตัวลงนอนแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “พรุ่งนี้ฝึกหนักแน่ๆ อย่าลืมพักผ่อนให้เต็มที่”
ซูเหม่ยอี้พยักหน้ารับ แล้วนอนลงมองไปยังหลังคากระโจมที่ดูเก่าไปตามกาลเวลา นางพยายามกล่อมตัวเองให้นอนหลับ
เวลาผ่านไปจนกระทั่งเสียงหายใจของหลี่เจิ้งที่ข้างๆ กลายเป็นเสียงที่เคลื่อนไหวช้าลง แสดงว่าหลี่เจิ้งหลับไปแล้ว ซูเหม่ยหลินค่อยๆ หลับตาลง ร่างกายที่เหนื่อยล้าก็ค่อยๆ ผ่อนคลายตามไปเช่นกัน แต่ในใจกลับยังคงคิดถึงเรื่องราวในวันข้างหน้า
รุ่งเช้าของวันใหม่ เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว แสงแดดอ่อนๆ ของเช้าวันใหม่ส่องผ่านช่องประตูของกระโจมเข้าไป เมื่อเสียงนกร้องและลมที่พัดผ่านเข้ามา การฝึกก็เริ่มขึ้นแล้ว
เหล่าทหารใหม่ต่างตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลังได้ยินเสียงสัญญาณจากนายกองเฝิง ที่ตะโกนสั่งให้ทุกคนเตรียมตัว พวกเขาหยิบอาวุธแล้วรีบวิ่งออกไปยังลานฝึกที่กว้างขวาง แม้ว่าทุกคนจะเหนื่อยล้าจากการฝึกหนักในวันก่อนหน้านี้ แต่ทุกคนก็ยังคงตั้งใจฝึกฝน
ซูเหม่ยอี้ก้าวออกจากกระโจมในชุดฝึกทหาร ตั้งใจเต็มที่ที่จะทำให้ดีที่สุดในวันนี้ หลี่เจิ้ง ซุนฟาง และเซียวเทียนต่างก็เตรียมตัวไปพร้อมๆ กัน พวกเขายิ้มให้กัน แม้ว่าความเหนื่อยล้าจะยังค้างอยู่ในร่างกาย แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาหยุดที่จะพยายาม
เมื่อพวกเขาถึงลานฝึก นายกองเฝิงยืนอยู่ด้านหน้า กางแผนผังและกำหนดแผนการฝึกให้กับทุกคน “วันนี้เราจะฝึกการต่อสู้ระยะประชิดให้ดีกว่าเดิม ใครที่ทำได้ดี จะได้รับการยกย่อง!” เขาตะโกนเสียงดัง ทุกคนต่างตั้งใจฟังคำสั่ง
“เริ่มฝึกตามคู่ของแต่ละคนเลย!” นายกองเฝิงตะโกน แล้วทุกคนก็เริ่มจับคู่ฝึกกัน ซูเหม่ยอี้เดินไปจับคู่กับหลี่เจิ้งเหมือนเดิม หลี่เจิ้งที่ยิ้มอย่างฝืนๆ “คราวนี้เจ้าอย่าลืมอ่อนข้อให้ข้าด้วยล่ะ..”
ซูเหม่ยอี้ยิ้มตอบกลับ “ข้าจะระวัง” นางตั้งใจแน่วแน่
ทั้งสองเริ่มจับอาวุธและเข้าสู่การต่อสู้ ซูเหม่ยอี้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หลี่เจิ้งพยายามใช้ท่าไม้ตายที่เรียนมาเพื่อที่จะชนะ แต่ครั้งนี้ ซูเหม่ยอี้กลับขยับตัวไปในทิศทางที่หลี่เจิ้งไม่ทันคาดคิด นางตีลูกกระบี่ในมือเขาหมุนไปทางขวา จากนั้นเปลี่ยนทิศทางทันที เพื่อให้หลี่เจิ้งหลุดจากการตั้งท่าได้สำเร็จ
"เจ้า...!" หลี่เจิ้งตะโกนเสียงดัง รู้สึกถึงความเร็วและความแม่นยำของท่าไม้ตายของซูเหม่ยอี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ซูเหม่ยอี้ไม่พูดอะไรแค่ยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปฝึกต่อ นายกองเฝิงมองดูการฝึกของพวกเขาและพยักหน้า “ดีมาก! น้องใหม่คนนี้ไม่ธรรมดาเลย! ข้าจะจับตามองเจ้า!”
หลี่เจิ้งที่ล้มลงจากการฝึกสู้กับซูเหม่ยอี้ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ “เจ้าชนะข้าไปได้อีกแล้วรึ?! ข้าเสียหน้าเหมือนกันนะ!”
"ข้าก็ลงมือเบาแล้วนะ?" ซูเหม่ยหลินเอ่ยจนทำให้หลี่เจิ้งอ้าปากพูดไม่ออก
หลังจากที่หลี่เจิ้งแพ้การประลองกับซูเหม่ยอี้ เขาลุกขึ้นจากพื้นดินด้วยท่าทางที่ยังคงตั้งตัวไม่ทัน รู้สึกอายเล็กน้อยและเริ่มเครียด เพราะไม่ได้คาดหวังว่าจะพ่ายแพ้ในท่าประลองนี้
“ฮ่า ๆ เห็นไหมล่ะ หลี่เจิ้ง! ถูกซูเหม่ยอี้จับล้มไปแล้ว!” ซุนฟางหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหันไปมองเซียวเทียนด้วยท่าทางล้อเลียน "อ่ะ จริง ๆ แล้ว เขามีดีไม่น้อยเลยนะ!"
“เฮ้ย! เจ้าอย่าหัวเราะสิ…” หลี่เจิ้งเริ่มหน้าหมอง ขณะที่เดินไปหยิบดาบขึ้นมาจากพื้น “ข้าแค่โชคไม่ดี”
“โชคไม่ดี? เจ้าแพ้เพราะโชคเหรอ?” เซียวเทียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยล้อ ขณะที่พยายามกลั้นขำ "เอาเถอะ ข้าก็เห็นว่าเขาก็แค่โชว์ท่าทางดี ๆ เหล่านั้นไปแค่รอบเดียวเอง"
หลี่เจิ้งยิ้มขืนๆ พยายามหันเก็บความอาย แต่ก็ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ ได้ “งั้นพวกเจ้าล่ะ... อยากลองเปลี่ยนกับข้าบ้างไหม?”
“ฮ่ะๆๆ! ไม่มีทางซะหรอก!” เซียวเทียนยิ้ม
นายกองเฝิงเดินมาใกล้และมองดูท่าทางการฝึกของทุกคนอย่างละเอียดลออ ก่อนที่จะเรียกกลุ่มทหารใหม่มารวมตัวกันอีกครั้ง “วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก ข้าจะเพิ่มการฝึกในวันพรุ่งนี้ และจะมีการทดสอบเพิ่มเติม ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้ดี”
ทหารทุกคนฟังอย่างตั้งใจ บางคนรู้สึกกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเองในแต่ละวัน บางคนก็เริ่มเหนื่อยล้า แต่ทุกคนก็ยังคงตั้งใจฝึกฝนต่อไป
การฝึกที่ยาวนานและหนักหน่วงทำให้พวกเขาเริ่มรู้จักกันและกันมากขึ้น ซูเหม่ยอี้ก็สนิทกับเพื่อนร่วมฝึกมากขึ้น ทุกคนเริ่มรู้ว่าแม้ซูเหม่ยอี้จะมีรูปร่างเล็ก แต่ความสามารถไม่เป็นรองใคร
ในขณะที่พวกเขากำลังพักผ่อนหลังจากการฝึก นายกองเฝิงเดินมาหยุดตรงหน้าซูเหม่ยอี้ เขามองท่าทางของนางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าเมื่อก่อน “ข้าจะจัดการให้เจ้าฝึกในระดับที่สูงขึ้นไปอีก เจ้าทำให้ข้าตกใจมาก”
ซูเหม่ยอี้หันไปยิ้มให้เขาอย่างสุภาพ “ขอบคุณท่านนายกอง”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่แม่ทัพใหญ่หลี่หยางเจี้ยนมองการประลองของเหล่าทหารใหม่จากหอสังเกตการณ์ เขาก็ได้หันไปพูดกับรองแม่ทัพมู่ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะมีฝีมือไม่ธรรมดา ให้เสี่ยวต้าไปทดสอบดู”
รองแม่ทัพมู่พยักหน้าเบาๆ พร้อมกล่าวอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ทัพต้องการให้ทดสอบหรือขอรับ? เสี่ยวต้าเป็นนักสู้ที่มีฝีมือในระดับหนึ่ง ถ้าเขาลงมือจริงๆ ซูเหม่ยอี้อาจจะยากที่จะเอาชนะได้”
หลี่หยางเจี้ยนพยักหน้าโดยไม่แสดงท่าทางตกใจ “ถ้าเขาสามารถเอาชนะเสี่ยวต้าได้ ข้าก็จะให้โอกาสเขาเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่ก็ให้เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ จะได้พัฒนาตัวเอง”
รองแม่ทัพมู่ขยับไปทางด้านข้างพร้อมกับยิ้มบางๆ แล้วเดินไปหาทหารผู้ใต้บังคับบัญชา “ไปเรียกเสี่ยวต้าให้มา ประลองกับทหารใหม่คนหนึ่งที่แม่ทัพสนใจ”
ไม่นานเสี่ยวต้า ทหารหนุ่มร่างใหญ่ที่มีใบหน้าหยาบกร้านและท่าทางแข็งแกร่ง ก็เดินมาที่ลานฝึก เขาก้าวมาข้างหน้าอย่างมั่นใจ ใบหน้าที่เรียบเฉยแต่แววตาแฝงไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง
“เสี่ยวต้า ข้าต้องการให้เจ้าทดสอบฝีมือกับทหารใหม่คนนี้” หลี่หยางเจี้ยนกล่าวเสียงเข้ม
เสี่ยวต้าเอ่ยตอบพร้อมพยักหน้า “รับทราบ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”
เมื่อถึงเวลาฝึก ซูเหม่ยอี้ยังคงยืนอยู่ในลานฝึกพร้อมกับทหารใหม่คนอื่นๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงสั่งการและการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด ทุกคนกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกหนักในวันนี้
ท่ามกลางความวุ่นวาย นายกองเฝิงเดินเข้ามาหาซูเหม่ยอี้ และกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ซูเหม่ยอี้! ออกมาประลอง”
เสียงของนายกองเฝิงดังขึ้นทำให้ทหารใหม่หลายคนหันมามองด้วยความสนใจ ขณะที่ซูเหม่ยอี้ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวเดินออกไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ร่างกายของนางยังคงสงบนิ่ง แม้จะรู้ดีว่าการประลองครั้งนี้จะเป็นการทดสอบฝีมือที่จริงจังมากกว่าที่เคย
พวกหลี่เจิ้ง ซุนฟาง และเซียวเทียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างก็พูดคุยกันด้วยความสงสัยว่าเกิออะไรขึ้น
หลี่เจิ้งที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดหันไปมองเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมต้องให้ซูเหม่ยอี้มาประลองด้วย? พวกเรายังเป็นทหารใหม่อยู่แท้ๆ”
ซุนฟางที่ยืนข้างๆ ยักไหล่แล้วตอบ “คงเป็นเพราะนายกองเฝิงอยากเห็นทักษะการต่อสู้ของเขาล่ะมั้ง”
เซียวเทียนพยักหน้าเห็นด้วย “ก็จริง ระวังตัวด้วย!” เขาไม่ลืมตะโกนบอกซูเหม่ยอี้
เมื่อซูเหม่ยอี้ได้ยินชื่อตนเองจากนายกองเฝิงที่เรียกให้เธอออกไปประลอง นางก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ อาการนี้ทำให้ทหารที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หันมามองไปที่นาง แต่ไม่มีใครพูดอะไร นางก้าวออกไปจากแถวอย่างไม่รีบร้อน ฝ่าฝูงชนของทหารใหม่ที่ยืนอยู่และมายืนตรงกลางลานฝึก
“ประลองกับใคร?” ซูเหม่ยอี้ถามอย่างสงสัย พลางมองไปที่นายกองเฝิงที่ยืนอยู่ด้านหน้า
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น