คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 16: เซียวหยางผู้หมกหมุ่น
ซูเฟยหรงพยักหน้าทันที ดวงตานางเปล่งประกาย “เพคะ หม่อมฉันยินดีรับผิดชอบทุกขั้นตอน”
องค์ชายใหญ่พยักหน้ารับเบา ๆ “ดี แต่ข้าต้องใช้เวลาศึกษาสิ่งนี้ดูก่อน คงใช้เวลาสักพัก แต่ว่าสิ่งนี้น้องสะใภ้สามเจ้าคิดเองรึ?”
"เพคะ หม่อมฉันแค่หวังว่ามันจะช่วยอะไรได้บ้าง"
หลังจากซูเฟยหรงกลับไปแล้ว องค์ชายใหญ่หลี่หยางเหอก็นั่งอยู่ในห้องของตนเอง นัยน์ตาของเขาจับจ้องไปที่กระดาษที่ซูเฟยหรงทิ้งไว้บนโต๊ะ มือหนาของเขาเกี่ยวนิ้วกับขอบกระดาษอย่างไม่รู้ตัว เหม่อมองภาพที่ซูเฟยหรงวาดไว้ ขณะเดียวกันในหัวกลับเต็มไปด้วยคำถามมากมายเกี่ยวกับแผนการที่นางเสนอมา เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ภาพที่เห็นนั้นดูเหมือนจะเป็นแนวคิดที่มีศักยภาพ แต่ก็ยังมีข้อสงสัยมากมายที่เขาต้องตรวจสอบ
ในขณะที่องค์ชายใหญ่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงก้าวเท้าของใครบางคนดังขึ้นจากทางเข้าห้อง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเปิดประตูเข้ามา เป็นคุณชายเซียวหยางจากตระกูลเซียว สหายขององค์ชายใหญ่ ที่มักจะมาหาเขาเสมอเมื่อมีเวลาว่างจากการจัดการธุระของบ้าน
“ได้ยินว่าเจ้ากำลังยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่าง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ” เซียวหยางกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร พลางเดินเข้าไปใกล้โต๊ะที่องค์ชายใหญ่กำลังนั่งอยู่
เมื่อเซียวหยางมองลงไปที่โต๊ะ เขาก็เห็นภาพที่องค์ชายใหญ่กำลังมองอยู่ เป็นภาพที่วาดอย่างละเอียด เป็นภาพของกังหันน้ำและท่อทางน้ำบางอย่าง ที่ดูเหมือนจะเชื่อมโยงกันอย่างมีระเบียบ
เซียวหยางที่ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูแบบกลไกที่อยู่ในมือขององค์ชายใหญ่ เขาไม่อาจปิดความตื่นเต้นออกมาได้ เขายิ้มออกมาอย่างคุมไม่อยู่ พลางคิดในใจว่า "นี่มันน่าสนใจมาก! ไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้างเครื่องกลเท่านั้น แต่ยังมีความซับซ้อนและละเอียดแฝงอยู่ในงานชิ้นนี้!"
องค์ชายใหญ่หันไปมองเขาด้วยท่าทางที่ยังคงครุ่นคิด “ใช่… นี่เป็นภาพที่น้องสะใภ้สามให้มา นางบอกว่าเป็นแนวคิดในการช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งทางตอนใต้ โดยการใช้กังหันน้ำเพื่อขุดน้ำจากแม่น้ำและส่งไปยังพื้นที่แห้งแล้ง”
เซียวหยางเริ่มเข้าใกล้โต๊ะอย่างระมัดระวัง พลางยืนมองภาพที่วาดอย่างพินิจพิเคราะห์ “น่าสนใจจริง ๆ ว่าแต่… เจ้าคิดว่ามันจะทำงานได้จริงหรือ?”
องค์ชายใหญ่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนตอบ “ก็ยังไม่แน่ใจ… นางเสนอแผนนี้มาหลังจากที่ได้ยินเรื่องภัยแล้งจากทิศใต้ แต่ด้วยความซับซ้อนของมัน ข้าจึงยังคงลังเลว่าจะลองดำเนินการดีไหม”
เซียวหยางพยักหน้าและพูดอย่างรอบคอบแต่สายตากลับเป็นประกาย “ถ้าอย่างนั้น เอาให้ข้าลองศึกษาดูดีไหม? ข้าเคยศึกษาเรื่องกลไกมาบ้าง?...”
องค์ชายใหญ่หันมามองเซียวหยางอย่างพิจารณา ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “ถ้าเจ้าอยากช่วย ข้าก็ยินดีให้เจ้าไปศึกษาต่อ ถ้ามันสามารถทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี”
เซียวหยางยิ้มและยักไหล่ “ข้าจะลองดูอย่างละเอียด แต่ต้องบอกก่อนว่า มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย ถึงแม้จะเป็นกลไกที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่กับละเอียดมาก”
องค์ชายใหญ่พยักหน้าอีกครั้งแล้วส่งกระดาษทั้งหมดที่ได้มาจากน้องสะใภ้สามให้ไป
เซียวหยางรับกระดาษจากมือขององค์ชายใหญ่แล้วพยักหน้าพูดกับองค์ชายใหญ่ด้วยเสียงที่มีความมุ่งมั่น “ ข้าจะไม่รอช้า จะรับลับไปศึกษาสิ่งนี้ให้ละเอียดทันที”
“ขอบใจเจ้ามาก เซียวหยาง” องค์ชายใหญ่กล่าว
เซียวหยางยิ้มและรับคำด้วยความตั้งใจ “ข้าจะทำให้ดีที่สุด” แล้วจากไปทันที
"แล้วเรื่องที่ข้า.....เฮ้อ!...จริงๆเลย" หลี่หยางเหอกำลังจะถามถึงเรื่องที่ให้ไปตรวจสอบแต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็ไม่เห็นเงาของอีกฝ่ายแล้ว
ตระกูลเซียว เซียวหยางกลับไปที่จวนตระกูลเซียวอย่างเร่งรีบ เมื่อถึงบ้าน เขาก็เข้าไปในห้องที่มีเครื่องมือและเอกสารเกี่ยวกับกลไกต่าง ๆ และตั้งใจที่จะทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการศึกษารายละเอียดของแบบกลไกที่ได้รับมา
นั่งลงที่โต๊ะ เขาคลี่กระดาษออก และเริ่มศึกษาทุกเส้นทุกสายที่วาดขึ้นบนกระดาษอย่างลึกซึ้ง ความคิดของเขาหมุนไปกับการพัฒนาเครื่องมือที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเขาเริ่มต้นจดบันทึกขั้นตอน
แต่เขาก็รู้ดีว่า นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะทำให้กลไกนี้ทำงานได้จริงๆ เขาต้องใช้เวลาหลายวันในการตรวจสอบ
“ต้องรู้ให้ได้” เขาคิดในใจ ขณะตัดสินใจเริ่มต้นการศึกษาแบบกลไกในภาพอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ความคิดที่ยังคลุมเครือก็เริ่มกระจ่างขึ้นทีละนิด ขณะที่เขาลงมือทำงานหนักอยู่ตลอดทั้งวันและทั้งคืน จนไม่รู้เวลาผ่านไปอย่างไร เขาไม่เคยรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน
สามวันที่ผ่านไป เขาได้ศึกษารูปแบบกลไกที่องค์ชายใหญ่ให้มาอย่างเต็มที่ แต่ถึงแม้จะเข้าใจหลักการบางอย่างแล้ว ก็ยังมีบางจุดที่เขายังไม่สามารถเชื่อมโยงมันได้ ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันในใจ ทำให้เขานอนไม่หลับตลอดหลายคืนที่ผ่านมา
เซียวหยางนั่งนิ่งอยู่ในห้องของตัวเอง ท่ามกลางกระดาษและเครื่องมือที่กระจัดกระจายรอบตัว เหมือนกับทุกสิ่งในห้องกำลังบีบคั้นเขาให้มองเห็นคำตอบที่ยังคงหลบอยู่ในเงามืดของความสงสัย แม้ว่าเขาจะคิดหนักมาหลายวัน เขาก็ยังไม่สามารถหาคำตอบที่ต้องการไม่ได้ เขารู้ดีว่าอะไรบางอย่างมันขาดหายไป แต่มันคืออะไรล่ะ?
เขารู้สึกเหมือนความเหนื่อยล้าและความเครียดได้เกาะกุมเขาจนหมดแรง เขาเงยหน้าขึ้นมองจากกระดาษที่เขายังวาดอยู่ สายตาของเขาเริ่มมองเห็นเพียงแต่ภาพมัวๆ ที่ไม่ชัดเจน ซึ่งมันยิ่งทำให้เขารู้สึกเครียดยิ่งกว่าเดิม ความสงสัยที่หมุนวนในหัวเริ่มทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้อง และในที่สุดเขาก็ทนไม่ได้
"ข้าต้องหาคำตอบ... แล้วจะหาคำตอบได้ยังไง?" เขาพึมพำกับตัวเอง
"พระชายาสาม..." เขาพึมพำเสียงต่ำในใจ
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวของเขา พระชายาสามเป็นคนวาดมันขึ้นมา ถ้าเป็นเช่นนี้ เขาคงต้องขอคำปรึกษาจากพระชายาสามเอง
บ่าวรับใช้ที่เห็นคุณชายในสภาพเช่นนี้ ก็อดที่จะกังวลไม่ได้ เขามองดูคุณชายของตนที่ดูซูบซีดและอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด มุมปากที่เคยคมคายและดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความมั่นใจตอนนี้กลับดูหมองหม่นและไม่มีประกายแห่งความสดใสเหมือนเคย
"คุณชาย... ท่านไม่สบายหรือขอรับ?" บ่าวรับใช้ถามด้วยความกังวล
เซียวหยางลูบหน้าตัวเองแล้วถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยเสียงที่แหบแห้ง "ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่... ข้ากำลังคิดเรื่องบางอย่างอยู่"
บ่าวรับใช้ยังคงไม่อาจจะซ่อนความห่วงใยไว้ได้ เขาเดินไปหาคุณชายและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความกังวล "ท่านคิดเรื่องใดถึงได้เป็นเช่นนี้ขอรับ? ท่านยังไม่ได้นอนมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว..."
เซียวหยางรู้ดีว่าในสายตาของบ่าวรับใช้ เขาคงไม่สามารถปิดบังสภาพตัวเองได้ง่ายๆ แต่เขาก็ไม่อยากให้คนอื่นมาวุ่นวายเรื่องนี้มากนัก เขาจึงพยักหน้าเล็กน้อย "ไม่ต้องห่วง ข้าแค่มีเรื่องที่ต้องขบคิดและมันยากที่จะหาคำตอบ" เขาหยุดพูดครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ "เจ้าช่วยเตรียมรถม้าให้ข้า ที ข้าจะไปที่จวนขององค์ชายสาม"
บ่าวรับใช้มองเขาอย่างลังเล แต่ในที่สุดก็พยักหน้ารับอย่างไม่คัดค้าน "ขอรับคุณชาย บ่าวจะไปเตรียมรถม้าให้ทันทีขอรับ"
เซียวหยางขยับตัวและเดินไปยังโต๊ะทำงานของเขา ก่อนจะหยิบชุดคลุมและกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา โดยที่ยังคงรู้สึกหนักใจเกี่ยวกับเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจของเขา
ไม่นานหลังจากนั้น บ่าวรับใช้ก็กลับมาพร้อมกับรถม้าที่เตรียมพร้อมแล้ว เซียวหยางจึงเดินออกไป และก้าวขึ้นรถม้าโดยไม่กล่าวคำใดๆ เมื่อรถม้าเริ่มเคลื่อนตัวไปตามถนนในเมือง เซียวหยางก็นั่งมองออกไปข้างนอกอย่างเหม่อลอย ท่ามกลางความคิดที่ยังไม่คลี่คลาย
เมื่อถึงจวนขององค์ชายสาม บ่าวรับใช้ที่ขับรถม้ามาก็หยุดรถตรงหน้าประตู เซียวหยางลงจากรถม้าแล้วเดินตรงเข้าไปในจวน เขากำลังจะไปขอคำแนะนำจากพระชายาสาม เกี่ยวกับแบบแปลนกลไกที่เขายังคงไม่สามารถเข้าใจได้
พ่อบ้านเงยหน้าขึ้นมองเขาและยิ้มเล็กน้อย "คุณชายเซียว มีธุระอะไรหรือขอรับ?"
"ข้ามาขอพบพระชายาจะได้หรือไม่?" เซียวหยางเอ่ยขออย่างสุภาพกับพ่อบ้าน
"เชิญขอรับ ข้าน้อยจะพาท่านไป" พ่อบ้านของจวนพยักหน้าและนำทางไปยังยังตำหนักของพระชายา
ซูเฟยหรงนั่งดื่มกาแฟในสวนหลังตำหนักอย่างเงียบสงบ ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายของยามเช้า บนโต๊ะไม้ข้างๆ มีถ้วยกาแฟเก่าๆ สักใบวางอยู่ พร้อมกับรอยหยดน้ำจากกาแฟที่ยังคงพรมอยู่ที่ขอบถ้วย นางจิบกาแฟด้วยท่าทางผ่อนคลาย มือของนางถือถ้วยกาแฟอย่างเบามือ ดื่มมันไปอย่างไม่รีบร้อน ปล่อยให้ร่างกายและใจได้พักผ่อนจากความคิดและความวุ่นวาย
บรรยากาศรอบๆ เงียบสงบ ไม่มีเสียงดังรบกวน มีเพียงเสียงของนกที่ร้องเจื้อยแจ้วจากต้นไม้สูงในสวน และเสียงของใบไม้ที่ปลิวไปตามสายลมที่พัดเบาๆ
ซูเฟยหรงรู้สึกได้ถึงความสงบในยามเช้า แต่ในใจกลับหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยไปได้ ความคิดเกี่ยวกับการเปิดร้านกาแฟ ความท้าทายในการทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้นางต้องคิดหนัก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิต
นางรู้ดีว่าทุกสิ่งที่กำลังจะทำจะมีผลต่ออนาคตของตนเองและคนรอบข้าง แต่สิ่งหนึ่งที่นางรู้สึกอย่างชัดเจนก็คือ นางไม่สามารถหันหลังให้กับสิ่งที่นางเชื่อได้แล้ว ความรู้สึกที่ว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
ในขณะที่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านนั้น "พระชายา" เซียวหยางกล่าวทักทายเสียงต่ำ
"คุณชายเซียว?" นางเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่เขาด้วยท่าทางที่ตกใจและสงสัย
เขาจึงก้มลงคำนับนางเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า "พระชายา ข้ามีคำถามบางประการที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากท่าน"
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น