คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : เข้าตาแม่ทัพใหญ่/หรือว่าโดนจับได้?
“ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” นางตอบอย่างมั่นใจ พร้อมกับยืนตรงและตั้งใจฟังคำสั่งของนายกองเฝิ่ง
ที่หอคอยสังเกตการณ์ แม่ทัพใหญ่หลี่หยางเจี้ยนยืนอย่างสง่างาม มองลงมายังลานฝึกที่เต็มไปด้วยทหารใหม่ที่กำลังฝึกอย่างเข้มงวด แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉียบคมและความคาดหวัง เฝ้าดูการฝึกซ้อมอย่างละเอียด ทุกการเคลื่อนไหวของทหารอยู่ในสายตาเขา
เมื่อเห็นซูเหม่ยอี้เข้าประลองกับทหารและสามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว หลี่หยางเจี้ยนยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมด้วยความสนใจ แม้จะเป็นทหารใหม่ แต่ฝีมือของนางก็โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
“น่าสนใจ…” เขาพึมพำเบาๆ พลางมองตามการเคลื่อนไหวของซูเหม่ยอี้ จากนั้นจึงหันไปทางรองแม่ทัพมู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“รองแม่ทัพมู่ เจ้าสังเกตเห็นทหารคนนั้นหรือไม่?” หลี่หยางเจี้ยนถามพร้อมกับพยักหน้าไปยังลานฝึกที่ซูเหม่ยอี้ยืนอยู่
“ขอรับ ท่านแม่ทัพ เขามีฝีมือที่ไม่ธรรมดาสำหรับทหารใหม่ คงได้รับการฝึกฝนมาพอสมควร” รองแม่ทัพมู่ตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แต่แฝงด้วยความชื่นชม
หลี่หยางเจี้ยนพยักหน้าอีกครั้ง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้น “จับตาดูเขาไว้ หากฝีมือของเขาพัฒนาได้มากกว่านี้ เขาอาจเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าของกองทัพเรา”
รองแม่ทัพมู่ตอบรับคำสั่ง พลางจดจำใบหน้าและท่าทางของซูเหม่ยอี้ไว้อย่างตั้งใจ
หลี่หยางเจี้ยนหันกลับไปมองการฝึกต่อ แววตายังคงเฉียบคมดั่งเดิม เขารู้ดีว่าการเตรียมกำลังพลที่แข็งแกร่งนั้นสำคัญยิ่งนัก และในสถานการณ์สงครามที่ทวีความรุนแรงนี้ ทุกคนที่มีความสามารถจะมีบทบาทสำคัญในกองทัพ
เมื่อหลี่หยางเจี้ยนยังคงจับตามองการฝึกของทหารใหม่ด้วยสายตาที่มั่นคงและเฉียบแหลม เหล่าทหารก็ยังคงฝึกกันอย่างหนักภายใต้การดูแลของนายกองเฝิงและรองแม่ทัพมู่ เสียงไม้ทัพที่ถูกตี เสียงหายใจหอบของทหารที่ออกแรง และเสียงสั่งการอย่างเข้มงวดจากหัวหน้าเป็นเหมือนการเคลื่อนไหวที่ดังก้องไปทั่วพื้นที่ฝึกซ้อม
หลี่หยางเจี้ยนไม่เพียงแค่จับตามองซูเหม่ยอี้ที่น่าประทับใจ แต่ยังให้ความสนใจกับทหารใหม่คนอื่น ๆ ด้วย เขาเห็นถึงความพยายามและความเหนื่อยยากของทหารทุกคนที่ได้รวมตัวกันในกองทัพเพื่อเผชิญกับการรบในอนาคต ความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการฝึกซ้อมนี้จะต้องได้รับการบ่มเพาะให้เข้มแข็งพอที่จะเผชิญกับสงครามที่รออยู่
การฝึกในวันแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความเหนื่อยล้าเริ่มทวีคูณ แต่ความมุ่งมั่นของทหารก็ยังไม่ลดลง ซูเหม่ยอี้เองที่แม้จะเพิ่งเริ่มต้น แต่ก็สามารถทำให้ทหารเก่าหลายคนต้องประหลาดใจในฝีมือที่นางแสดงออกมา ท่ามกลางความท้าทายและการประลองที่ดุเดือด ซูเหม่ยอี้กลับสามารถตั้งรับและตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงเวลาที่การฝึกดุเดือดที่สุด ท่าทางของเธอก็ไม่ได้แสดงความหวาดหวั่นแม้แต่น้อย
ในช่วงเวลาพักสั้น ๆ ระหว่างการฝึก หลี่เจิ้งก็มาหานางที่นั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ๆ ทุกคนใช้เป็นที่หลบแดดอย่างรวดเร็ว เขานั่งลงข้าง ๆ และพูดขึ้นว่า
“ท่าทางของเจ้าคือคนที่เคยผ่านสนามรบมาก่อน... เจ้าฝึกมาจากไหน?” เสียงของเขามีความสงสัยปนเปกับการประหลาดใจ
ซูเหม่ยอี้ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะตอบไปว่า “ข้า... เคยมีการฝึกฝนมาก่อนก็เท่านั่น”
หลี่เจิ้งไม่สามารถเก็บความสงสัยไว้ได้ เขาจ้องมองเขา “ท่าทางของเจ้าผิดไปจากพวกเราไปมาก... บอกตามตรง ข้าไม่เคยเห็นใครที่สามารถรับมือกับการประลองได้ดีกว่าเจ้าในวันนี้” ซุนฟางและเซียวเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วย
หลังจากการฝึกหนักตลอดทั้งวัน เหล่าทหารใหม่ต่างก็รู้สึกเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนอย่างเข้มข้น รวมถึงซูเหม่ยหลินด้วย แม้ว่านางจะเคยเป็นทหารมาก่อน แต่การฝึกทักษะใหม่ๆ รวมถึงการคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของกองทัพก็ทำให้ร่างกายต้องปรับตัวพอสมควร
เมื่อได้ยินเสียงคำสั่งให้หยุดฝึกและเตรียมตัวไปทานอาหารเย็น ทุกคนก็เดินไปยังพื้นที่กินอาหารร่วมกัน พวกเขานั่งลงพร้อมกันกับทหารคนอื่นๆ ที่เพิ่งมาถึงใหม่ๆ บรรยากาศของมื้อเย็นเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะเล็กน้อยจากทหารหนุ่มๆ ที่ยังคงมีอารมณ์ขัน แม้จะเหนื่อยจากการฝึกก็ตาม
หลี่เจิ้ง ซุนฟาง และเซียวเทียนต่างก็พากันนั่งร่วมโต๊ะกับซูเหม่ยอี้ พวกเขาพูดคุยกันเรื่องการฝึกในวันนี้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยเฉพาะหลี่เจิ้งที่ยังไม่ลืมการประลองกับซูเหม่ยอี้ที่เอาชนะอย่างรวดเร็ว
“เจ้าทำได้ดีมาก” หลี่เจิ้งพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเก่งขนาดนี้”
ซูเหม่ยอี้หัวเราะเบาๆ “ข้าก็แค่โชคดีในวันนี้ ขอบใจ”
เมื่อทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็กลับไปที่กระโจมพัก ซูเหม่ยอี้นั่งลงบนเตียงในกระโจมพัก มองไปที่เพื่อนร่วมกระโจมที่ต่างก็มองหาที่นอนของตัวเองและเตรียมไปอาบน้ำ นางนอนด้านริมสุด หลี่เจิ้งนั่งข้างๆ นางและพูดขึ้น
หลี่เจิ้งหันไปมองซูเหม่ยอี้แล้วพูดขึ้นอย่างเป็นกันเอง "เหม่ยอี้ ไปอาบน้ำด้วยกันไหม? คงจะดีขึ้นมากหลังจากฝึกหนักแบบนี้ จะได้คลายเหนื่อยกันหน่อย" หลี่เจิ้งกล่าวเสียงเบา แววตาของเขายังเต็มไปด้วยความเป็นมิตรและความสนิทสนม
ซุนฟางและเซียวเทียนก็พยักหน้ารับด้วยความเห็นด้วย "ใช่ๆ พวกเราคงต้องการผ่อนคลายบ้างหลังจากที่ออกแรงมาเต็มที่"
ซูเหม่ยอี้หันไปมองพวกเขา ก่อนจะรีบตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ตัดสินใจทันที "พวกเจ้าไปกันก่อนเถอะ ข้ายังไม่อยากไปตอนนี้" นางพูดออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะนางยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นสตรี ซึ่งนั่นคือความลับที่นางต้องเก็บไว้
พวกหลี่เจิ้งมองนางด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่พวกเขาก็ไม่ได้ซักไซ้หรือถามต่อ เพราะรู้ดีว่าแต่ละคนมีความเป็นส่วนตัวที่ควรเคารพกัน หลี่เจิ้งพยักหน้าก่อนจะหันไปพูดกับคนอื่น ๆ
"งั้นพวกเราก็ไปก่อนนะ ถ้าเจ้าต้องการอะไรบอกพวกเรานะ"
ซูเหม่ยอี้ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบ "ขอบใจมาก พวกเจ้าไปเถอะ"
หลังจากนั้นพวกหลี่เจิ้ง ซุนฟาง และเซียวเทียนก็เดินออกไปที่บริเวณที่เตรียมไว้สำหรับอาบน้ำ ในขณะที่ซูเหม่ยอี้นั่งนิ่งอยู่ที่เดิม หัวใจของนางกำลังคิดถึงความลับที่ยังคงต้องเก็บไว้ และวิธีการที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครสงสัยเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของนาง
นางรู้ดีว่าหากความลับนี้ถูกเปิดเผย ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมกองทัพอาจจะเปลี่ยนไป ดังนั้น การรักษาความลับนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่นางต้องทำ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมายในอนาคตก็ตาม
เมื่อพวกหลี่เจิ้งกลับมาจากการอาบน้ำ พวกเขาก็เดินมาหานางที่ยังคงนั่งอยู่บนที่เดิม และหลี่เจิ้งก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ
"เจ้าไม่ไปอาบน้ำรึ? ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนแล้วนะ" เขามองไปที่ซูเหม่ยอี้ที่ยังคงนั่งอยู่ในชุดทหารที่ดูสะอาดสะอ้าน
ซูเหม่ยอี้ยิ้มบาง ๆ และตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่รีบร้อน "ยังดีกว่า ข้าชอบนั่งพักอยู่ที่นี่มากกว่า" นางหลบสายตาของพวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติ และทำเป็นไม่สนใจสถานการณ์รอบตัว
พวกหลี่เจิ้งมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ พวกเขาคงรู้ดีว่าแต่ละคนก็มีวิธีการพักผ่อนที่แตกต่างกันไป และไม่ได้อยากกดดันนางให้ทำอะไรที่ไม่สะดวกใจ
นางเห็นตอนนี้ไม่มีใครอยู่บริเวณที่อาบน้ำแล้ว และตอนนี้สถานที่ก็เริ่มเงียบสงบ คนในกระโจมต่างกลับกันไปหมดแล้ว นางจึงตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปที่ห้องอาบน้ำ
ทว่าพอดีกับที่หลี่เจิ้งหันมาอีกครั้ง เขามองเห็นซูเหม่ยอี้กำลังจะเดินไปยังที่อาบน้ำ เขาพลางยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใย
"จะไปอาบน้ำหรือ? ให้ข้าไปเป็นเพื่อนรึไม่?" เขาพูดไปพร้อมกับมองไปที่ซูเหม่ยอี้ที่กำลังเดินไปอย่างเงียบ ๆ
ซูเหม่ยอี้หันมามองเขาแล้วหยุดเดินเล็กน้อย สบตากับเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างหนักแน่นแต่ก็ไม่เต็มเสียง
"ไม่เป็นไร ข้าจะไปเอง" นางกล่าวเสียงเรียบ ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความตั้งใจว่าไม่ต้องการให้หลี่เจิ้งรู้เรื่องที่นางเป็นสตรี
หลี่เจิ้งยิ้มให้แล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ก็ยังพูดด้วยความเป็นห่วง "ไม่ต้องให้ข้าไปเพืาอนจริงๆรึ ข้างนอกเริ่มมืดแล้วน่ะ"
ซูเหม่ยอี้รู้ดีว่าคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการตอบคำถามนี้ได้ จึงตอบออกไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
"ขอบคุณ แต่ข้าคิดว่าไปคนเดียวจะสะดวกกว่า"
หลังจากนั้นหลี่เจิ้งก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ เขาก็แค่ยิ้มให้ ซูเหม่ยอี้เดินไปที่ห้องอาบน้ำด้วยตัวเอง ท่ามกลางความเงียบสงบในค่ายทหาร
ซูเหม่ยอี้รู้สึกว่าหัวใจยังคงเต้นแรงจากเหตุการณ์เมื่อครู่
ซูเหม่ยอี้เดินไปที่ห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็ว สอดส่องมองไปรอบๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ หลังจากที่มองเห็นว่าบริเวณรอบๆ ไม่ค่อยมีใครเลย นางก็รีบเข้าไปในห้องอาบน้ำทันที โดยไม่ต้องเสียเวลามองไปที่ไหนอีก
อากาศร้อน ๆ ในตอนกลางวันทำให้การได้อาบน้ำเย็นๆ รู้สึกดีขึ้นอย่างมาก ซูเหม่ยอี้ผ่อนคลายร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการฝึกหนักของวันนี้ นางปล่อยให้สายน้ำเย็นไหลผ่านตัวไปจนทั่ว ขณะเดียวกันก็พยายามไม่คิดถึงสิ่งใดมากเกินไปเพื่อให้จิตใจสงบ
ทว่าในขณะที่นางกำลังทำความสะอาดตัวเองนั้นเอง กลับได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้บริเวณห้องอาบน้ำ ความเงียบสงบที่เคยมีอยู่ก็ถูกทำลายลง ซูเหม่ยอี้สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหยุดขยับตัวไปในทันที
“ใคร?” นางถามเบาๆ ด้วยความระมัดระวัง
เสียงฝีเท้าหยุดลงชั่วครู่ ก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้นตอบกลับมา “ข้าเอง...” เป็นเสียงของหลี่เจิ้ง
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น