ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดดวงใจแม่ทัพทมิฬ

    ลำดับตอนที่ #13 : หยุดพักค้างแรม

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 67


    หลี่เจิ้งที่เดินข้าง ๆ ซูเหม่ยหลินเองก็เริ่มดูอิดโรยเช่นกัน เขาเอ่ยถามเบา ๆ ด้วยเสียงที่เจือไปด้วยความเหนื่อยล้า “ข้าว่าข้าเดินไม่ไหวแล้ว... เจ้าเองเป็นอย่างไรบ้าง?”

    ซูเหม่ยหลินฝืนยิ้ม แม้ตัวนางเองก็รู้สึกอ่อนเพลียไม่ต่างกัน แต่พยายามไม่แสดงออก นางตอบเบา ๆ “ข้าก็ยังพอไหว...”

    หลี่เจิ้งหัวเราะเบา ๆ “...เหตุใดเจ้าจึงมีแรงมากขนาดนี้?”

    ซูเหม่ยหลินเพียงแต่หัวเราะพลางแสร้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก่อนที่หลี่เจิ้งจะได้ถามอะไรมากกว่านี้ เสียงนายทหารที่ควบคุมขบวนก็ดังขึ้นอีกครั้ง "หยุดแถว! วันนี้เราจะหยุดพักกันที่นี่!"

    ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อได้ยินว่าถึงเวลาพัก ซูเหม่ยหลินนั่งลงบนพื้นดินแห้ง ๆ ใกล้กับต้นไม้ใหญ่เพื่อหลบแสงแดดยามเย็น หลี่เจิ้งก็นั่งลงข้าง ๆ พลางมองไปรอบ ๆ เห็นเหล่าทหารหนุ่มหลายคนต่างล้มตัวลงนั่งและนอนพักกันเต็มพื้นที่

    ในช่วงเวลาที่ได้พัก ทุกคนต่างใช้โอกาสนี้ในการฟื้นฟูร่างกาย สังเกตเห็นหลี่เจิ้งที่นั่งข้าง ๆ กำลังถอนหายใจยาว เขามองไปที่ท้องฟ้าอย่างคิดอะไรบางอย่าง

    “นี่...พวกเจ้าคิดว่าเราจะไปถึงที่หมายเมื่อไหร่?” หลี่เจิ้งถามด้วยเสียงที่ยังคงมีความเหนื่อยล้าเจือปน

    ซูเหม่ยหลินตอบกลับเบา ๆ พลางมองไปรอบ ๆ เห็นเพื่อนร่วมทางกำลังผ่อนคลาย "ไม่น่าจะนานเกินไปหรอก ถึงแม้เราจะเดินทางเป็นระยะเวลานาน แต่ก็ไม่ไกลจากจุดพักที่เตรียมไว้"

    หลี่เจิ้งพยักหน้า เห็นด้วยกับคำตอบ แม้จะรู้ดีว่าเขาไม่ได้หมายถึงระยะทาง แต่คงเป็นความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่ทำให้เขาเริ่มมองทุกอย่างด้วยความหนักหน่วง

    ซูเหม่ยหลินหันไปมองทั้งสองที่เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มขบขันบนใบหน้า ท่าทางของเซียวเทียนและซุนฟางเต็มไปด้วยความสนุกสนานจากการแกล้งเพื่อนร่วมทาง ขณะที่เขาทั้งสองยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ยกมือขึ้นยิ้มแบบเยาะ ๆ

    “เจ้าดูสิเจ้าสิ เจ้ารูปร่างอย่างกับสตรี เหตุใดถึงไม่เหนื่อยเลยล่ะ ข้าเดินไปได้แค่ครึ่งทางก็หมดแรงแล้ว!” เซียวเทียนพูดด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ

    ซูเหม่ยหลินยิ้มบาง ๆ และหรี่ตาลงเล็กน้อย พลางตอบกลับไปด้วยท่าทางเรียบเฉย “เพราะข้ามีวิธีการประหยัดแรงไงล่ะ ถ้าพวกเจ้าหนักมือหนักเท้าอยู่แบบนี้ ก็ไม่นานหรอกก็จะหมดแรงกันหมด”

    ซุนฟางที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ยเสริมด้วยเสียงเยาะ “จริงเหรอ? งั้นเรามาดูซิว่าหากเจ้าลองเดินเร็วขึ้นจะเหนื่อยไหม” พูดจบเขาก็เดินเร็วขึ้นโดยหวังจะท้าทาย

    ซูเหม่ยหลินยังคงยิ้มบาง ๆ โดยไม่ได้สนใจ ทันใดนั้นก็ยกขาก้าวยาวไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบ แต่ในความเร็วของท่าทางนั้นกลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ ท่าทางที่เต็มไปด้วยพลังนี้ทำให้ทั้งเซียวเทียนและซุนฟางต้องหยุดมองไปที่นางอย่างตกใจ

    เซียวเทียนหรี่ตามองไปที่ซูเหม่ยหลินที่ยังคงเดินอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วหัวเราะเบา ๆ

    "เอาล่ะ ๆ ข้ายอมแพ้ เจ้าน่ะไม่ธรรมดาจริง ๆ" เซียวเทียนพูดด้วยเสียงแห้ง ๆ พร้อมหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นท่าทางที่มั่นคงของซูเหม่ยหลินที่ดูไม่เหนื่อยแม้แต่น้อย

    ซุนฟางก็อดที่จะขำไม่ได้และพูดขึ้น “เจ้าฝึกมาเยอะสินะ ถึงได้ทำแบบนี้ได้”

    "การเดินทางนี้ยังอีกยาวไกล นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น พวกเจ้าก็เตรียมตัวให้ดีล่ะ" ซูเหม่ยหลินหันมามองทั้งสองแล้วเอ่ยขึ้น

    หลี่เจิ้งยิ้มพลางหันไปมองซูเหม่ยอี้ "ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าเจ้าฝึกฝนตัวเองมาอย่างไร" 

    "นั่นสิ/ข้าก็อยากรู้" เซียวเทียนและซุนฟางเอ่ย

    ซูเหม่ยหลินหัวเราะเบาๆ กับคำถามของพวกเขา นางรู้สึกสนุกที่พวกสหานอยากรู้เคล็ดลับการฝึกฝนของนาง ทั้งที่ไม่อาจเปิดเผยทุกอย่างได้

    “ข้าแค่ฝึกฝนวิธีของข้าเอง” ซูเหม่ยหลินตอบอย่างเป็นกันเอง พยายามทำให้ดูไม่ซับซ้อนนัก “ทุกเช้าข้าจะออกกำลัง และก็ฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก”

    เซียวเทียนยิ้มและกระซิบล้อๆ "ข้าว่าไม่จริง เจ้ามีอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้แน่ๆ ดูสิว่าแข็งแรงกว่าพวกเราอีก!"

    ซุนฟางหัวเราะตามก่อนจะพยักหน้า “ใช่ ภ้าข้าลองทำตามที่เจ้าบอกสักครั้ง คงก็ล้มไม่เป็นท่าไปหลายวันเลย”

    ซูเหม่ยหลินหัวเราะเสียงใส นางรู้ว่าทั้งสองแค่ล้อเล่นและยังคงตั้งใจฝึกฝนอยู่เสมอ แม้จะไม่ใช่วิธีการฝึกเหมือนนาง แต่ทุกคนก็มุ่งมั่นในแบบของตน

    “พวกเจ้าก็อย่าเพิ่งยอมแพ้นะ” นางกล่าวพลางยิ้ม “แค่ค่อยๆ ฝึกไปตามวิธีของพวกเจ้าเอง และต้องไม่ลืมที่จะอดทนด้วย พวกเราจะได้แข็งแกร่งขึ้นไปด้วยกัน”

    หลี่เจิ้งพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ข้าจะลองฝึกตามที่เจ้าบอก ข้ารู้สึกได้เลยว่าเจ้ามีอะไรพิเศษจริงๆ ซูเหม่ยอี้ วันหนึ่งข้าจะตามเจ้าให้ทัน!”

    คำพูดของเขาทำให้ทุกคนหัวเราะครึกครื้น ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางผ่านเสียงหัวเราะ ทั้งหมดตัดสินใจพยายามฝึกฝนต่อไป พลางตั้งความหวังว่าจะเข้มแข็งมากพอเพื่อปกป้องผู้คนและบ้านเมือง

    การพูดคุยของพวกเขายังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ แม้จะมีความตึงเครียดในการเดินทาง แต่การแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ก็ทำให้บรรยากาศในกลุ่มทหารคลายความเครียดลงไปมาก

    ในขณะที่พวกเขานั่งกินข้าวและคุยกัน ซูเหม่ยหลินก็รู้สึกถึงความเป็นมิตรและความรู้สึกของการเป็นเพื่อนร่วมทางที่เริ่มจะคุ้นเคยกันมากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่เปิดเผยทุกเรื่องราวของตัวเองให้รู้ แต่ก็เริ่มรู้สึกว่าเส้นทางที่ยาวไกลนี้ อาจจะไม่เหงาอย่างที่คิด

    เมื่อเสียงหัวเราะจางลง พวกเขาก็เอนกายลงกับพื้นดินเย็น ๆ ท่ามกลางความเงียบสงบของยามค่ำคืน หลี่เจิ้งพลิกตัวนอนมองท้องฟ้า ท่าทางครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

    "ซูเหม่ยอี้" เขาเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาในความมืด "เจ้าคิดบ้างไหมว่า...พรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร?"

    ซูเหม่ยหลินยืนมองท้องฟ้าพลางถอนหายใจเล็กน้อย นางเข้าใจดีว่าทุกคนต่างก็มีความกังวลในใจ แม้จะฝึกฝนมาอย่างหนัก แต่ในสนามรบของจริงนั้นแตกต่างออกไป "ข้าไม่รู้หรอก แต่ข้ารู้ว่า...เราต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น"

    เซียวเทียนและซุนฟางที่นอนอยู่ใกล้ ๆ ต่างพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย แม้ว่าในใจจะมีความกลัว แต่ความมุ่งมั่นก็เต็มเปี่ยม

    "ก็แค่ต้องทำให้เต็มที่" เซียวเทียนพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า "เพื่อครอบครัว เพื่อหมู่บ้านของเรา"

    ซุนฟางถอนหายใจยาว "ใช่ ข้าก็คิดแบบนั้น เรามาไกลถึงขนาดนี้แล้ว…ถอยไม่ได้แล้วล่ะ"

    เสียงลมพัดเบา ๆ ผ่านต้นไม้รอบข้าง เสียงหายใจเงียบ ๆ ของทุกคนผสานไปกับเสียงลม ราวกับว่าแต่ละคนได้แบ่งปันความรู้สึกและความกลัวที่เก็บไว้ในใจให้กับเพื่อนๆ คนข้าง ๆ ฟัง เสริมกำลังใจกันและกันในค่ำคืนที่เงียบสงัดนี้

    “ข้าดีใจนะที่ได้รู้จักพวกเจ้า” หลี่เจิ้งเอ่ยขึ้นอย่างจริงใจ “ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะสู้ไปด้วยกัน”

    ทุกคนต่างพยักหน้า แม้ไม่มีใครเอ่ยอะไรเพิ่มเติม แล้วเซียวเทียและซุนฟางหลับไป ส่วนนางยังยืนพิงต้นไม้อยู่

    หลี่เจิ้งเห็นท่าทางของนางก็รู้สึกแปลกๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร จึงเอื้อมมือไปคล้องคออีกฝ่ายด้วยท่าทางเป็นมิตร "ไปพักเถอะ เดี๋ยวต้องเดินทางแต่เช้า พรุ่งนี้ยังมีทางยาวรออยู่" เขาพูดเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความห่วงใย

    ซูเหม่ยหลิน ไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับการคล้องคอแบบนี้ เพราะรู้ว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร แม้เพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่ทุกคนในกลุ่มก็เริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น และนางก็คุ้นเคยอะไรแบบนี้อยู่แล้ว

    "ขอบใจ" ซูเหม่ยหลินกล่าวพร้อมยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปยังที่พักที่เตรียมไว้สำหรับทุกคน

    เมื่อทั้งสองเดินไปถึงที่นอน ซูเหม่ยหลินก็มองรอบๆ อย่างหาที่จะนอน แต่ก็พบว่าไม่มีที่นอนส่วนตัว ทุกคนต่างก็ต้องนอนรวมกันในพื้นที่เปิดโล่ง

    หลี่เจิ้งพยักหน้าให้กับนาง "ไม่ต้องห่วง มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะนอนรวมกันแบบนี้" 

    ซูเหม่ยหลินไม่ได้พูดอะไร แค่พยักหน้ารับ ก่อนจะนั่งลงบนผ้าที่เตรียมไว้และหลับตาลง พยายามจะสงบจิตใจและเตรียมตัวสำหรับการเดินทางที่ยาวไกลในวันรุ่งขึ้น

    เสียงของทหารที่ยังคงพูดคุยกันเบาๆ เสียงลมหวิวๆ ที่พัดผ่านและเสียงของสัตว์ป่ากลางคืนค่อยๆ ทำให้บรรยากาศรอบๆ ค่อยๆ ทวีความเงียบสงบขึ้น นางหลับตาลง ปล่อยให้ร่างกายพักผ่อน และในใจรู้สึกถึงความสงบหลังจากการเดินทางอันยาวนานและเหน็ดเหนื่อย

    ซูเหม่ยหลินหันมองท้องฟ้าที่มีแสงจันทร์สว่างไสวและฝูงดาวกระจายไปทั่ว 

    "เจ้านอนไม่หลับรึ?" หลี่เจิ้งเอ่ยถามเสียงเบา พลางเลื่อนมือไปจัดเสื้อคลุมที่ห่มอยู่ให้แน่นขึ้น

    ซูเหม่ยหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง เงยหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง พูดเบาๆ ว่า "ก็ไม่ใช่ไม่หลับหรอก... ข้าแค่คิดถึงบางอย่าง"

     หลี่เจิ้งยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้าเข้าใจ "คิดถึงเรื่องอะไรหรือ?" เขาหันมามองหน้านางอีกครั้ง สายตาอบอุ่น แต่ยังแฝงไปด้วยความสงสัย

    ซูเหม่ยหลินไม่ได้ตอบทันที แต่เงียบไปอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ "ข้าแค่คิดถึงบ้าน... คิดถึงครอบครัว และ... คิดถึงสิ่งที่ข้าเคยทิ้งไว้"

    หลี่เจิ้งนิ่งไปสักพัก ก่อนจะยิ้มบางๆ "ทุกคนคิดถึงบ้านกันทั้งนั้น เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา ข้าเองก็เคยคิดถึงบ้านเหมือนกัน แต่ทุกการเดินทางก็ต้องมีจุดหมายใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าเราจะมาจากไหน สิ่งสำคัญคือเราจะไปที่ไหนกันต่อ"

    ซูเหม่ยหลินมองหลี่เจิ้งด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ เขาคิดบวกเสมอ และการมองโลกในแง่ดีของเขาก็ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นบ้าง แม้จะเป็นแค่เพียงวินาทีเดียว แต่บางครั้งคำพูดเล็กๆ ก็มีพลังมากกว่าที่คิด

    "ขอบคุณ..." นางพูดเบาๆ ขอบคุณเขาในใจ แม้คำตอบนั้นจะดูเรียบง่าย แต่จริงๆ แล้วมันกลับช่วยให้นางรู้สึกว่าไม่ต้องแบกรับทุกอย่างเพียงลำพัง

    หลี่เจิ้งพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ เขายิ้มบางๆ ให้กับนาง ก่อนที่จะหลับตาลงในที่สุด ปล่อยให้ความเงียบและความเย็นจากคืนที่สงบทำให้ทุกคนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

    ซูเหม่ยหลินหลับตาลงบ้าง แต่ในใจยังคงวนเวียนคิดถึงทุกสิ่งที่ต้องเผชิญในวันข้างหน้า


    -----------------------------------------------------------

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×