คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13: ข้อตกลงการร่วมมือและภัยแล้ง
ภายในตำหนักที่เงียบสงบ ซูเฟยหรงนั่งอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้ง กำลังจดจ่ออยู่กับเมล็ดกาแฟสีน้ำตาลเข้มที่วางอยู่บนจานเบาๆ นางยกเมล็ดกาแฟขึ้นมาดมกลิ่นหอมกรุ่น ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
วันนี้ซูเฟยหรงรู้สึกอึดอัดใจเป็นพิเศษอยากจะทำสิ่งที่คิดให้ได้โดยเร็ว
"หยางเซียง วันนี้เราจะออกไปข้างนอกกัน" ซูเฟยหรงกระซิบเบาๆ ให้สาวใช้คนสนิทได้ยิน
"เพคะ แต่จะไปที่ใดกันเล่าเพคะ?" หยางเซียงถามด้วยความสงสัย
"เราจะไปพบกับเจ้าของร้านที่ข้าซื้อเมล็ดกาแฟมา" ซูเฟยหรงตอบพร้อมกับประกายตาที่เป็นประกาย
"เพคะ แต่พระนางก็เสี่ยงเกินไป" หยางเซียงตอบอย่างแสดงความกังวล
"ไม่เป็นไรหรอก เราจะระวังตัวเป็นพิเศษ ครั้งก่อนก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักหน่อย จริงไหม?" ซูเฟยหรงยืนยัน
'แต่เมื่อครั้งนั้นท่านก็โดนคุณชายซูจับได้ไม่ใช่รึ?' หยางเซียงได้แต่คิดในใจแต่ไม่กล้าเอ่ย
"ไปเถอะ!" ซูเฟยหรง
'ครั้งนี้ขอให้ผ่านไปด้วยดีเถอะ อย่าให้ใครจับได้เลย' หยางเซียงคิดโดยไม่รู้ว่าครั้งนี้ก็จะโดนจับได้เหมือนกันแถมครั้งนี้คนที่พวกนางเจอเป็นคนใหญ่คนโตอีกด้วย!
ซูเฟยหรงใช้จังหวะที่ทุกคนเผลอ แอบเล็ดลอดออกจากตำหนักไปพร้อมกับสาวใช้คนสนิท หยางเซียง ทั้งคู่ปลอมตัวเป็นสาวใช้โดยสวมชุดที่เตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อพรางตัว ก่อนจะย่องไปตามทางลับที่ทั้งสองรู้จักดี
เมื่อถึงกำแพงด้านหลัง ทั้งสองก็ใช้ความชำนาญในการปีนข้ามกำแพงออกมาได้อย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครทันสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของพวกนาง เป้าหมายของการออกมาครั้งนี้คือการไปพบกับเจ้าของร้านที่น่าสนใจ ซึ่งซูเฟยหรงได้ติดต่อไว้ก่อนหน้านี้
หลังจากผ่านการเดินทางที่ระมัดระวัง ในที่สุดเธอและหยางเซียงก็มาถึงร้านค้าแห่งนั้น ร้านที่นางพบเจอของแปลกตาจากต่างแดน คราวนี้นางมาพร้อมความตั้งใจใหม่ในการทำธุรกิจ แต่เมื่อเข้ามาในร้าน นางกลับพบว่าเจ้าของร้านดูตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นพวกเธอ
"ท่านมาแล้วรึ...?" เจ้าของร้านเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
"เมื่อวานข้ามีธุระเลยมาไม่ได้ แต่ข้าเห็นมั่นใจหากเราได้ร่วมมือกัน ท่านจะไม่ผิดหวัง"
เจ้าของร้านมองดูหญิงสาวผู้สูงศักดิ์คนนี้ด้วยความฉงน แต่ก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในคำพูดของนาง
"ได้สิ ข้าจะฟังข้อเสนอของท่าน... แต่ต้องให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครรู้ว่าท่านเป็นใคร" เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
เมื่อได้ยินชื่อ "ซูเฟยหรง" เจ้าของร้านถึงกับชะงัก ดวงตาของเขาแสดงอาการประหลาดใจและครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้
"ซูเฟยหรง... พระชายาขององค์ชายสามใช่หรือไม่?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เบาบางอย่างระมัดระวัง
ซูเฟยหรงยิ้มเล็กน้อย มองหน้าเจ้าของร้านด้วยสายตาที่มั่นใจ "ใช่ แต่ข้าหวังว่าท่านจะไม่ปฏิบัติต่อข้าเหมือนคนอื่นๆ ข้ามาที่นี่ในฐานะซูเฟยหรง ไม่ใช่ในฐานะพระชายา"
เจ้าของร้านหัวเราะเบาๆ พลางพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้น ข้าน้อยจะถือว่าท่านเป็นหุ้นส่วน ไม่ใช่พระชายา ส่วนข้าน้อยมีนามว่าหงเซียว" เขากล่าวอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความนอบน้อมเล็กน้อย
"เอาล่ะ ท่านลงทุนด้วยสิ่งของในร้านส่วนที่เหลือข้าจัดการเอง....." ซูเฟยหรงก็อธิบายแผนการของนางให้ฟัง
หลังคุยกันซูเฟยหรงนั่งตรงข้ามกับเจ้าของร้านพร้อมรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ "ท่านจะได้ สามสิบ ส่วน ข้าจะรับไป เจ็ดสิบส่วน" นางพูดพลางยิ้มอย่างมั่นใจ
เจ้าของร้านยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย "? "
ซูเฟยหรงหัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ "ท่านคิดดู ถ้าลูกค้าเห็นของที่ใช้ในร้านของข้าแล้วชอบ ก็จะมาซื้อจากร้านของท่านเอง ท่านก็จะได้กำไรจากส่วนนี้ไปด้วย นอกจากนี้ ข้าจะช่วยทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักให้อีก นี่คือการร่วมมือที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์"
เจ้าของร้านมองนางด้วยแววตาประหลาดใจ "ก็จริงที่ข้าอาจจะไม่ต้องลงแรงทำอะไร แต่ถ้าผู้คนเห็นของจากร้านข้าแล้วก็อยากซื้อมันกลับไป มันก็น่าจะทำให้ข้าได้กำไรไม่น้อย"
"แน่นอน" ซูเฟยหรงพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ในเมื่อท่านกับข้าร่วมมือกัน ข้าก็จะทำให้ร้านท่านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ในไม่ช้า ร้านของท่านจะคึกคักขึ้นมาก"
เจ้าของร้านคิดอยู่สักครู่ก่อนที่จะยิ้มออกมา "ข้าชอบข้อตกลงนี้ ดีเลย ข้าจะให้ของบางส่วนจากร้านมาใช้ในร้านของท่าน แต่ข้าก็หวังว่าท่านจะไม่ทำให้ข้าเสียหาย"
ซูเฟยหรงพยักหน้าและยิ้มอย่างมั่นใจ "แน่นอน ท่านจะไม่เสียหายหรอก ข้าคือคนที่มีแผนการ และทุกอย่างจะไปได้สวย" นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตั้งใจและความมั่นใจ
เจ้าของร้านยิ้มตอบด้วยความพอใจ "ถ้าอย่างนั้นถ้าท่านต้องการอะไรข้าจะไปเตรียมให้ท่าน ข้าเชื่อว่าเราสองคนจะประสบความสำเร็จด้วยกัน"
ซูเฟยหรงลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวอย่างมั่นใจ "ขอบคุณท่านมาก แต่ข้าต้องใช้เวลาเตรียมร้านคงใช้เวลามากหน่อย"
"ขอรับ ข้าน้อยจะรอ" หงเซียว
ทั้งสองคนยิ้มให้กันอย่างเข้าใจก่อนที่ซูเฟยหรงจะเดินออกไปจากร้าน โดยมีแผนการใหญ่รออยู่ข้างหน้า นางมั่นใจว่าร้านกาแฟนี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของนาง
ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเดินกลับ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง
"น้องสะใภ้สาม! กำลังจะไปไหนหรือ?" เสียงทุ้มลึกขององค์ชายใหญ่หลี่หยางเหอดังขึ้น ทำให้ซูเฟยหรงและหยางเซียงชะงักกึก
ซูเฟยหรงหันกลับไปมององค์ชายใหญ่ด้วยความตกใจเล็กน้อย นางรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
เมื่อหยางเซียงเห็นองค์ชายใหญ่ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า นางก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง รีบลงก้มศีรษะคำนับอย่างรวดเร็ว "ถวายบังคมเพคะ" เสียงของนางสั่นเครือเล็กน้อยจากความกลัว
องค์ชายใหญ่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วก็หันมาถามซูเฟยหรงด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความสงสัยเล็กน้อย
"น้องสะใภ้สาม มาทำอะไรกับสาวใช้แค่สองคนแถวนี้รึ แถมยังไม่มีผู้คุ้มกันมาด้วย"
คำถามขององค์ชายใหญ่ทำให้ซูเฟยหรงรู้สึกใจหายวาบ นางรีบตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง
"ข้าเพียงแค่ออกมาเดินเล่นข้างนอกกับหยางเซียงเท่านั้นเพคะ"
องค์ชายใหญ่เดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะมองสำรวจการแต่งกายของซูเฟยหรงอย่างละเอียด ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
"ดูเหมือนว่าน้องสะใภ้สามจะแต่งตัวแตกต่างจากเดิมไปมากเลยนะ" องค์ชายใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแปลกๆ
ซูเฟยหรงรู้สึกใจหายวาบ นางพยายามจะหาข้ออ้าง แต่ก็คิดอะไรไม่ออก
"ข้าเพียงแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเพคะ" ซูเฟยหรงตอบไปอย่างอึกอัก
องค์ชายใหญ่ยังคงมองนางไม่วางตา ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่สายตาก็ยังคงจับจ้องไปที่ซูเฟยหรงราวกับต้องการจะอ่านใจของนาง
"เช่นนั้นก็ตามใจน้องสะใภ้สามเถอะ "
ซูเฟยหรงยืนมองหลี่หยางเหออย่างสงสัย ก่อนจะถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง "แล้วองค์ชายมาทำอะไรแถวนี้เพคะ?"
หลี่หยางเหอขยับยืนตรงและตอบอย่างตรงไปตรงมา "ข้ามาสำรวจเรื่องพืชผลทางการเกษตรในแถบนี้ เมื่อภัยแล้งมาเยือนในตอนใต้ ราคาของธัญพืชเริ่มสูงขึ้น ข้าจึงต้องมาดูให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง"
ซูเฟยหรงพยักหน้าเข้าใจ ทว่าก็ยังคงสงสัย "แต่นี่มันก็เป็นหน้าฝนแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเกิดภัยแล้งได้"
องค์ชายใหญ่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะตอบอย่างรอบคอบ "ใช่...ตอนนี้เป็นหน้าฝน แต่แถวๆ นั้นไม่มีแหล่งน้ำเลย ถึงจะมี ก็ห่างไกลมาก ไม่สามารถใช้ในการเกษตรได้ ทำให้การเพาะปลูกไม่สามารถดำเนินการได้ตามปกติ"
ซูเฟยหรงขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย แต่ก็มิได้กล่าวอะไรต่อไป "มันคงลำบากมากสำหรับชาวบ้านแถวนั้น"
หลี่หยางเหอมองไปที่ท้องฟ้า สีหน้าของเขากลับมาเคร่งขรึม "ใช่ เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก การขาดแคลนน้ำจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก นอกจากจะมีการจัดการที่ดีแล้ว ทุกอย่างจะล้มเหลว"
ซูเฟยหรงพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ว่านางจะไม่ค่อยสนใจเรื่องเกษตรกรรมเท่าไรนัก แต่เห็นแค่สีหน้าขององค์ชายใหญ่ก็พอจะรู้ว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่โตไม่น้อย "ข้าเข้าใจแล้วเพคะ"
ในใจของซูเฟยหรงกลับมีแผนการที่นางคิดออกทันที เมื่อได้ยินเรื่องภัยแล้งจากหลี่หยางเหอ การทำกังหันวิดน้ำเป็นวิธีที่นางรู้ดีว่าจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ นี่คือสิ่งที่นางเคยเห็นและศึกษามาจากอดีต หลายๆ พื้นที่ในก็ใช้กังหันวิดน้ำเพื่อดึงน้ำจากแม่น้ำหรือแหล่งน้ำมาใช้ในการเกษตร แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นแนวคิดง่ายๆ แต่หากทำได้อย่างถูกต้อง ก็สามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำได้ในระยะยาว
ซูเฟยหรงหยุดคิดสักครู่ ก่อนจะหันไปมองหลี่หยางเหอที่ยืนอยู่ห่างออกไป
"ว่าแต่น้องสะใภ้สามจะไปไหนต่อรึ?" องค์ชายใหญ่หลี่หยางเหอเอ่ยถาม
"หม่อมฉันว่าจะกลับแล้วเพคะ" นางเอ่ยตอบอย่างไว
"เช่นนั้นข้าจะไปส่ง" องค์ชายใหญ่เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มบางๆ ซูเฟยหรงรู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะกับคำพูดขององค์ชายใหญ่ นางลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบตกลงไป
"เพคะ" ซูเฟยหรงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย
"ไปเถอะ" หลี่หยางเหอ
ขณะนั้นก็มีชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งเดินออกมาจากเงามืด คุณชายเซียว สหายสนิทขององค์ชายใหญ่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
"องค์ชายมาแล้วรึ...แล้วนี่?" คุณชายเซียวเอ่ยทักทายหันไปมองผู้ที่อยู่ข้างๆองค์ชายใหญ่หลี่หยางเหอ
"นี่คือซูเฟยหรง น้องสะใภ้สามของข้า" องค์ชายใหญ่ตอบพลางหันไปทางซูเฟยหรง
คุณชายเซียวยิ้มให้ซูเฟยหรง "ข้าน้อยเซียวหยาง ขอคารวะพระชายาสามพ่ะย่ะค่ะ"
"คุณชายเซียว ยินดีที่ได้พบเช่นกัน"
องค์ชายใหญ่หันมาหาซูเฟยหรง "เซียวหยางเป็นสหายสนิทของข้า เจ้าอย่าเกรงใจ"
ซูเฟยหรงพยักหน้ารับคำ
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น