คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ออกเดินทางสู่สนามรบ
ซูเหม่ยหลินที่พยายามข่มตานอน แต่จิตใจยังว้าวุ่น จึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอน เดินออกไปสูดอากาศด้านนอกเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย เธอเดินผ่านทางเดินที่ทอดยาวในความเงียบสงบของยามค่ำคืน โดยมีแสงจันทร์บางเบาสาดส่องผ่านกระเบื้องหลังคาเป็นประกาย
เมื่อเดินออกไปถึงสวนหลังบ้าน จู่ๆ นางก็เห็นเงาร่างเล็กๆ ของใครบางคนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่ไกลจากตัวเรือนนัก ซูเหม่ยหลินเพ่งมองก่อนจะตระหนักได้ว่าเป็นน้องชายของตน ซูเหม่ยอี้ นางเดินเข้าไปใกล้อย่างแผ่วเบา พอจะเอ่ยทัก น้ำเสียงของเขาก็ดังขึ้นก่อน
"พี่สาว... ท่านก็นอนไม่หลับหรือ?" เขาหันมามองด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความกังวล ซูเหม่ยหลินยิ้มบางๆ เดินเข้าไปข้างๆ ยกมือแตะไหล่ของน้องชายเบาๆ
"ใช่ ข้านอนไม่หลับ เลยออกมาเดินเล่น แล้วเจ้าล่ะเหตุใดถึงออกมายืนที่นี่คนเดียว?"
ซูเหม่ยอี้เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างลึก "ข้า...ข้ากลัวเหลือเกินพี่สาว กลัวว่าเมื่อท่านจากไป ข้าจะไม่สามารถทำอะไรเพื่อครอบครัวได้"
ซูเหม่ยหลินมองน้องชายที่ยืนกำหมัดแน่น ดวงตาแฝงความวิตก นางจึงยื่นมือออกไปจับมือเขาไว้แน่น "เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเติบโตและเข้มแข็งได้ เมื่อเวลานั้นมาถึงเจ้าจะสามารถดูแลแม่และครอบครัวของเราได้"
ดวงตาของซูเหม่ยอี้เริ่มฉายแววมั่นใจเล็กน้อย แต่ยังคงแฝงความเศร้า "พี่ไม่ต้องทำทุกอย่างเพียงลำพัง ข้าอยากจะปกป้องท่านเหมือนกัน"
ซูเหม่ยหลินยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวน้องชายเบาๆ "พี่รู้ แต่ครั้งนี้... ขอให้ข้าทำเพื่อเจ้าและครอบครัวเถอะ แล้วสัญญาได้หรือไม่ว่าจะช่วยแม่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง?"
ซูเหม่ยอี้เงยหน้าขึ้นสบตากับพี่สาวด้วยความหนักแน่น แม้ภายในใจยังคงกังวลอยู่บ้าง แต่เขาก็พยักหน้าอย่างมุ่งมั่น "ข้าจะทำตามที่พี่ขอ ข้าสัญญา"
นางยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้า เฝ้ามองแสงดาวที่กระจายอยู่เต็มท้องฟ้า ราวกับกำลังมองเห็นเส้นทางอนาคตที่แม้จะมืดมิดแต่ก็เต็มไปด้วยความหวัง
วันเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว ซูเหม่ยหลินตื่นแต่เช้า ในใจเต็มไปด้วยความกังวลและตื่นเต้น นางทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่านางคือหญิงสาว จึงปลอมตัวเป็นชายด้วยการเกล้าผมขึ้นและสวมใส่ชุดที่มารดาเย็บให้ ซึ่งก็ช่วยซ่อนรูปทรงและลักษณะของนางได้เป็นอย่างดี
“เหม่ยหลิน เจ้าพร้อมหรือยัง?” เสียงของซูหรงเรียกนางกลับมาสู่ความจริง
“ข้าพร้อมแล้ว” ซูเหม่ยหลินตอบกลับไปเสียงหนักแน่น
เมื่อพวกเขาออกจากห้องไปที่โต๊ะอาหาร เช้าวันนี้เงียบสงบ แต่ในใจของทุกคนกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกผสมปนเปกันไป ซูหรงจัดเตรียมอาหารเช้าซึ่งมีข้าวสวยร้อน ๆ กับน้ำซุป
เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกจากกัน ซูเหม่ยหลินยืดอกขึ้นอย่างมั่นใจ “ข้าจะรีบกลับมา”
“จำไว้นะว่าแม่รักเจ้ามาก” ซูหรงกล่าวก่อนจะเข้ามากอดลูกสาวอย่างแน่นหนา
“ข้าจะดูแลท่านแม่ให้เอง” ซูเหม่ยอี้เสริมในขณะจ้องมองพี่สาวอย่างจริงจัง
ซูเหม่ยหลินรับรู้ถึงน้ำใจและความรักที่มากมายนี้แล้ว หัวใจของนางเต้นแรง เมื่อตระหนักว่านี่คือการเดินทางที่นางต้องก้าวไปข้างหน้า นางถอนหายใจออกมาอย่างหนักแน่นก่อนที่จะเตรียมตัวออกเดินทางไปยังอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า
"ท่านพี่ช่วยปกป้องลูกของพวกเราด้วย...." ซูหรงพึมพำขึ้นมองท้องฟ้า
เมื่อซูเหม่ยหลินในคราบของซูเหม่ยอี้เดินทางมาถึงจุดนัดหมายที่จัดเตรียมโดยทางการ ชาวบ้านจำนวนมากมารวมตัวกันเพื่อส่งบุตรชายและบุตรหลานของพวกเขาไปเข้าร่วมกับกองทัพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเครียดและความหวัง
ซูเหม่ยหลินมองไปรอบๆ เห็นผู้ชายหลายคนในชุดเกราะและยืนรายล้อมอยู่ที่บริเวณด้านหน้า เจ้าหน้าที่ดูยุ่งเหยิง แต่ก็มีความตั้งใจในการทำงานอย่างชัดเจน นาง
นางเดินไปข้างหน้าเพื่อเข้าร่วมกับผู้ที่มาลงทะเบียน นางค่อยๆ ผสมกลมกลืนกับชายหนุ่มที่มารออยู่ข้างๆ โดยพยายามให้ตัวเองดูเรียบง่าย ไม่โดดเด่น นางเข้าแถวเพื่อยืนยันชื่อ
“ชื่อของเจ้าคืออะไร?” เจ้าหน้าที่ถามขึ้นขณะยกหน้ากระดาษขึ้นมาจดบันทึก
“ซูเหม่ยอี้” นางตอบกลับ โดยพยายามควบคุมเสียงให้เป็นธรรมชาติที่สุด
เจ้าหน้าที่พยักหน้าและเริ่มจดชื่อของนางลงในทะเบียน ก่อนที่จะถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับอายุและภูมิลำเนาของนาง นางตอบคำถามอย่างเรียบง่ายและตรงไปตรงมา แม้ว่าหัวใจจะเต้นแรง แต่ซูเหม่ยหลินยังคงรักษาความสงบไว้ได้
หลังจากที่นางลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว นางหันไปมองรอบๆ พบว่าเพื่อนบ้านหลายคนมารวมตัวกันเพื่อส่งบุตรชายของพวกเขา บางคนดูเครียด บางคนก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เสียงพูดคุยและเสียงร่ำไห้ดังขึ้นระหว่างที่ชาวบ้านอำลา
ทหารที่มาคุมการเดินทางนั้นเป็นชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเคร่งขรึมและแววตาเฉียบคม เขาก้าวเข้ามาในหมู่ชาวบ้านที่เตรียมตัวเพื่อเดินทาง พลางมองทุกคนอย่างพิจารณา ก่อนจะยืนตรงและตะโกนสั่งด้วยเสียงดังฟังชัด
“ทุกคน! ตั้งแถวให้เรียบร้อย!” เสียงนั้นดังก้องสะท้อน ทุกคนรีบขยับเข้าแถวอย่างลนลาน พยายามตั้งตัวให้อยู่ในระเบียบ ซึ่งชื่อของเขาคือจงซาน เป็นรองแม่ทัพที่รับผิดชอบการเดินทางในครั้งนี้
ทหารผู้คุมมองไปรอบๆ อย่างเข้มงวด ก่อนจะก้าวเดินตรวจแถว พิจารณาทุกคนที่มาเข้าร่วม เขาหยุดอยู่ตรงหน้าซูเหม่ยหลิน พินิจเธอด้วยสายตาเย็นชา แต่ไม่เอ่ยอะไร เพียงแค่กวาดตามองขึ้นลงแล้วก็ขยับไปยังคนต่อไป
เมื่อทหารตรวจแถวเสร็จ เขาก็ตะโกนสั่งเสียงดังอีกครั้ง “ออกเดินทาง!” เสียงคำสั่งนั้นทำให้ทุกคนในแถวต่างเริ่มขยับเคลื่อนตามกันไปข้างหน้า ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่สาดส่อง ซูเหม่ยหลินเดินอย่างมั่นคง แม้จะไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่นางรู้ว่าทุกก้าวที่นางเดินล้วนมีความหมาย
ระหว่างที่ขบวนเดินไปเรื่อย ๆ ภายใต้แสงแดดร้อนแรง ผู้คนเริ่มมีเสียงพูดคุยพึมพำกันเป็นระยะ ๆ ชายหนุ่มที่เดินข้าง ๆ ซูเหม่ยหลิน ซึ่งเป็นหนุ่มร่างผอมแต่ดูจริงจัง ท่าทางเป็นมิตร เขาหันมามองนางอย่างสนใจ ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ข้าชื่อ หลี่เจิ้ง เจ้าล่ะ? ดูเหมือนข้าไม่คุ้นหน้าเจ้าเลย เจ้ามาจากหมู่บ้านใกล้ๆ นี่ใช่ไหม?” เขาเอ่ยถามพลางยิ้ม
ซูเหม่ยหลินสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ นางพยักหน้าช้า ๆ หยุดคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอย่างผู้ชาย “ข้าชื่อ ซูเหม่ยอี้ เอ่อ… ข้ามาจากหมู่บ้านต้าซาน”
หลี่เจิ้งฟังแล้วยิ้มอย่างสบายใจ พลางพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ยินดีที่ได้รู้จักนะ ซูเหม่ยอี้ ข้าเพิ่งมาร่วมขบวนทหารเป็นครั้งแรกเช่นกัน ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ข้าหวังว่าเราจะรอดกลับไปได้อย่างปลอดภัย”
คำพูดของหลี่เจิ้งทำให้ซูเหม่ยหลินนึกถึงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ นางมองหลี่เจิ้งอย่างเงียบ ๆ แล้วพูดปลอบใจเล็กน้อย “ใช่ พวกเราต้องรอดกลับไปให้ได้ ข้าก็หวังเช่นนั้น”
หลี่เจิ้งยิ้มพลางหันไปทางกลุ่มเพื่อนที่เดินอยู่ไม่ไกลกันนัก แล้วตะโกนเรียกพวกเขา “เฮ้ พวกเจ้า มานี่สิ! ข้ามีเพื่อนใหม่ให้พวกเจ้ารู้จัก”
กลุ่มชายหนุ่มที่ดูแข็งแรงและมีท่าทางกล้าหาญสามสี่คนเดินเข้ามาหา พวกเขามองสำรวจซูเหม่ยอี้อย่างเป็นมิตร ก่อนที่หลี่เจิ้งจะแนะนำทีละคน “นี่ เซียวเทียน หมอนี่ฝีมือยิงธนูไม่เลวเลยล่ะ ส่วนคนนั้น ซุนฟาง ชอบพูดน้อยแต่เก่งต่อสู้มือเปล่า ไว้ใจได้”
ซุนฟางและเซียวเทียนพยักหน้าทักทาย “ยินดีที่ได้รู้จัก ซูเหม่ยอี้ ข้าหวังว่าเราจะได้ช่วยกันระหว่างทางนี้” เซียวเทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ
“ใช่ หากเจ้าต้องการอะไร ไม่ต้องเกรงใจ” ซุนฟางเสริมขึ้นด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
ซูเหม่ยหลินพยักหน้าเล็กน้อย รู้สึกซาบซึ้งใจที่ได้รับความอบอุ่นจากพวกเขา “ข้าก็ดีใจที่ได้รู้จักกับพวกเจ้า ข้าจะพยายามเต็มที่และจะช่วยกันดูแลพวกเจ้าเหมือนกัน”
ระหว่างที่พวกเขาเดินต่อไป หลี่เจิ้งก็เริ่มเล่าเรื่องสนุก ๆ เกี่ยวกับการเติบโตที่หมู่บ้านของพวกเขา ทุกคนต่างหัวเราะกันสนุกสนานทำให้บรรยากาศการเดินทางที่เครียดคลายลงมาก
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังก้องขึ้นจากด้านหน้า “พวกเจ้า! คุยอะไรกันนักหนา ทำไมไม่เดินตามแถวให้เรียบร้อย!” เสียงของนายทหารควบคุมขบวนดุเข้ม ส่งสายตาดุดันมายังกลุ่มของซูเหม่ยหลินและหลี่เจิ้ง
ทุกคนรีบหุบปากและกลับเข้ามาเดินในแถวอย่างเรียบร้อย แต่ทว่า หลี่เจิ้งยังคงหัวเราะเบา ๆ ขณะเดินตามแถวไป เขาแอบกระซิบกับซูเหม่ยหลินเบา ๆ ว่า “ก็แค่แอบคุยนิดหน่อยเอง ไม่เห็นต้องดุถึงขนาดนั้นเลย”
ซูเหม่ยหลินส่ายหน้าขำ ๆ เล็กน้อย แต่พยายามรักษาท่าทางไม่ให้ผิดระเบียบเหมือนคนอื่น ๆ
นายทหารคนนั้นยังคงมองพวกเขาอย่างเคร่งขรึม และเอ่ยขึ้นเสียงดังเพื่อเตือนทุกคนในขบวน “การเดินทางนี้ไม่ใช่การเที่ยวเล่น พวกเจ้าทุกคนกำลังจะไปเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย จงรักษาระเบียบวินัยให้ดี!”
บรรยากาศในขบวนกลับมาเงียบสงบ ทุกคนเริ่มตระหนักถึงความจริงที่นายทหารกล่าวไว้ ความหวาดหวั่นลอยเข้ามาในหัวใจของใครหลายคน ความตึงเครียดก่อตัวขึ้นในอากาศ ซูเหม่ยหลินแอบถอนหายใจเบา ๆ พลางพึมพำในใจว่า "นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องฝ่าฟัน"
ขบวนเดินทางต่อไปข้างหน้าอย่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงฝีเท้าที่ดังกึกก้องไปตามทาง
ระหว่างทางเดินที่ยาวนานนั้น ทุกคนต่างรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล แม้เส้นทางจะค่อนข้างเรียบ แต่การเดินเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็ทำให้ร่างกายเริ่มล้า หลายคนถอนหายใจเงียบ ๆ บ้างก็นวดขา
หลี่เจิ้งที่เดินข้าง ๆ ซูเหม่ยหลินเองก็เริ่มดูอิดโรยเช่นกัน เขาเอ่ยถามเบา ๆ ด้วยเสียงที่เจือไปด้วยความเหนื่อยล้า “ข้าว่าข้าเดินไม่ไหวแล้ว... เจ้าเองเป็นอย่างไรบ้าง?”
-----------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้จนถึงตอนนี้นะคะ! ถ้าชอบตอนนี้และอยากเป็นกำลังใจให้นักเขียน สามารถส่งของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ได้เลยนะคะ ขอบคุณทุกการสนับสนุนมาก ๆ เลยค่ะ ^-^
ความคิดเห็น