ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่เป็นลูกอนุในจวนแม่ทัพ

    ลำดับตอนที่ #4 : การกลับมาของอวี้เหวินฉาง

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 67


    หนึ่งวันก่อนการกลับมาของอวี้เหวินฉาง บรรยากาศในจวนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง ทุกคนในจวนต่างมารวมตัวกันที่หน้าเรือนใหญ่เพื่อต้อนรับการกลับมาของคุณชายใหญ่ของจวน อวี้เหมยนั่งอยู่เงียบๆ ในเรือนเล็กของตน ห่างจากจุดที่คนอื่นๆ กำลังชุลมุน นางรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับพี่ชายไม่เคยแน่นแฟ้น และการที่นางถูกมองว่าเป็นเพียงลูกอนุย่อมทำให้นางไม่ได้รับการต้อนรับเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากเห็นหน้าพี่ชายผู้นี้ที่กลับมาจากสนามรบ

    "พี่ชาย...ข้าจำไม่ได้แล้วว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร" หลี่ซือหนี่พึมพำเบาๆ พลางมองผ่านหน้าต่างไปยังกลุ่มคนที่กำลังรอคอย

    "คุณหนู ท่านจะไม่ไปที่หน้าเรือนใหญ่หรือเจ้าคะ?" เม่ยหลันถามอย่างระมัดระวังเมื่อเห็นคุณหนูของนางจ้องมองไปทางกลุ่มคนด้านนอก

    หลี่ซือหนี่ส่ายหน้าเบาๆ "ไม่ต้องหรอก ข้าไม่ใช่คนที่ควรไปต้อนรับอย่างเปิดเผย" แต่แล้วนางก็ตัดสินใจขึ้นมา "แต่...ข้าอยากเห็นหน้าเขาสักหน่อย เผื่อข้าจะจดจำได้ว่าพี่ชายของข้าเป็นอย่างไร"

    นางพาเม่ยหลันเดินลัดเลาะไปยังด้านข้างเรือนใหญ่ที่สามารถมองเห็นจุดที่ท่านแม่ทัพและขบวนทหารของเขากำลังเดินเข้ามาอย่างชัดเจน แต่ไม่ต้องให้ใครสังเกตเห็น นางมองจากระยะไกล ขณะที่ขบวนค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ นางก็สังเกตเห็นพี่ชายของนาง เดินเคียงข้างเขามีบุรุษอีกคนที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน

    "เม่ยหลัน คนที่อยู่ข้างๆ คุณชายใหญ่คือใคร?" หลี่ซือหนี่เอ่ยถามเสียงเบา

    เม่ยหลันเพ่งมองก่อนจะส่ายหน้าอย่างไม่มั่นใจ "ข้าไม่เคยเห็นเขามาก่อนเจ้าค่ะ น่าจะเป็นคนที่พึ่งมาพร้อมกับคุณชายใหญ่"

    ในขณะเดียวกัน ชายคนนั้นซึ่งอยู่ข้างอวี้เหวินฉางกลับดูเหมือนจะรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจับจ้อง เขาหันมามองทางด้านหลี่ซือหนี่อย่างรวดเร็ว ทำให้นางสะดุ้งตกใจ รีบหลบหลังเสาอย่างรวดเร็ว ใจเต้นแรง

    เม่ยหลันเห็นท่าทีของคุณหนูจึงถามอย่างสงสัย “คุณหนู เป็นอะไรไปเจ้าคะ?”

    “ไม่...ไม่มีอะไร ข้าแค่...” หลี่ซือหนี่ตอบอย่างลนลาน เมื่อนางหลบอยู่หลังเสา ความสงสัยก็เข้ามาแทนที่ความตื่นเต้น “ทำไมข้าต้องหลบด้วยล่ะ?” นางถามตัวเอง

    ชายคนนั้นแม้จะมองตามไป แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนสงสัย แต่ก็กลับมาพูดคุยกับอวี้เหวินฉางตามปกติ

    ส่วนหลี่ซือหนี่ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้สนใจต่อ ก็แอบถอนหายใจเบาๆ ขณะที่คิดในใจว่า “ ทำไมข้าต้องกลัวสายตาของใครด้วย?”

    ก่อนหน้านั้น ฮูหยินใหญ่และบรรดาลูกสาวต่างยืนรออยู่ที่หน้าเรือนอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ไป๋เหวินฉางเดินมาถึง นางยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิและก้าวเข้าไปหาบุตรชายคนโตด้วยความห่วงใย

    "เหวินฉาง เจ้ากลับมาแล้ว!" ฮูหยินใหญ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและอ่อนโยน สายตาของนางเต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อได้เห็นบุตรชายกลับมาอย่างปลอดภัยหลังจากเดินทางไกลและอยู่ในสนามรบมานาน นางสังเกตเห็นสีหน้าที่อิดโรยเล็กน้อยของอวี้เหวินฉาง

    "ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว" อวี้เหวินฉางตอบเรียบ ๆ ด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ แต่สายตาของเขาก็แฝงไปด้วยความนับถือต่อนางผู้เป็นมารดา

    อวี้หลันฮวาลูกสาวของฮูหยินใหญ่ต่างก้าวเข้ามาต้อนรับพี่ชายของพวกนางอย่างเรียบร้อย นางมองลูก ๆ ด้วยความภาคภูมิใจ และขณะที่นางหันไปมองบุตรชายคนโตอีกครั้ง นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เจ้าเดินทางมาไกลและคงเหนื่อยล้า พักก่อนเถอะ ข้าจะให้พ่อบ้านจัดการเรื่องห้องพักให้เจ้า"

    ฮูหยินใหญ่หันไปทางพ่อบ้านที่ยืนรออยู่ข้าง ๆ "ไป๋หลี่ พาคุณชายใหญ่ไปยังเรือนพัก" นางสั่งการอย่างนุ่มนวล แต่ยังคงแฝงไปด้วยความเด็ดขาด

    พ่อบ้านไป๋หลี่โค้งศีรษะอย่างนอบน้อม "ขอรับ ฮูหยินใหญ่" จากนั้นเขาก็เดินนำทางคุณชายใหญ่และบุรุษที่มากับเขาไปยังเรือนพักที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะ

    ระหว่างเดินไปที่เรือนพัก ฮูหยินใหญ่ยังมองตามบุตรชายของนางด้วยความกังวล แม้ว่าบุตรชายของนางจะเป็นรองแม่ทัพผู้กล้าหาญ แต่ในสายตาของนาง เขายังคงเป็นเด็กที่นางเลี้ยงดูมา นางรู้สึกได้ว่าภารกิจที่เขาเผชิญอยู่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและอันตราย และนางหวังเพียงให้เขาได้พักผ่อนบ้างหลังจากเผชิญความเหนื่อยล้ามากมาย

    หลังจากที่อวี้เหวินฉางเดินตามพ่อบ้านไป ฮูหยินใหญ่ก็หันกลับมาทางลูกสาวของนาง ซึ่งกำลังยืนคอยอย่างสงบเรียบร้อย นางยิ้มอ่อน ๆ ให้กับพวกนาง "ทุกคนไปพักผ่อนกันเถอะ วันนี้ไม่มีเรื่องใดต้องกังวลแล้ว"

    พวกเขาพยักหน้ารับคำ ก่อนที่ทั้งหมดจะทยอยกันกลับไปยังเรือนของตน

    อีกด้านหนึ่ง อวี้เหวินฉางพาบุรุษคนนั้นเดินผ่านฝูงชนที่มาต้อนรับไปยังเรือนส่วนตัวของเขาโดยไม่สนใจเสียงเรียกทักทายจากคนอื่น ๆ ดูเหมือนว่าเขามีเรื่องที่ต้องจัดการด่วน จึงไม่สนใจการต้อนรับมากนัก เมื่อมาถึงหน้าประตูเรือนของเขา อวี้เหวินฉางหันไปพูดกับบุรุษข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงเบาแต่เฉียบขาด

    "พักผ่อนก่อนเถอะ ข้าจะให้คนไปเตรียมน้ำเอาไว้เจ้าก็ไปล้างเนื้อล้างตัวจะได้สบายตัว" เขากล่าวพลางเปิดประตูเชิญบุรุษคนนั้นเข้าไปในเรือน

    บุรุษคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แต่ข้าคงพักได้ไม่นาน มีเรื่องบางอย่างที่ต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว" น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความจริงจัง

    อวี้เหวินฉางยิ้มเล็กน้อย แม้ใบหน้าของเขาจะดูเย็นชา แต่มีแววอบอุ่นบางอย่างซ่อนอยู่ในแววตา "ข้าเข้าใจ เจ้าทำงานของเจ้าเถอะ แต่ระวังตัวด้วย"

    เมื่อบุรุษคนนั้นก้าวเข้าไปในเรือน เขาก็หยุดอยู่กลางห้องแล้วมองไปรอบ ๆ ราวกับสำรวจทุกอย่างอย่างละเอียด แม้จะเป็นเพียงเรือนธรรมดา แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของการรบ กลิ่นเหล็ก กลิ่นควันไฟ เหมือนกับเรือนที่ถูกใช้เป็นที่พักของทหาร

    “ท่านแม่ทัพ” ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น "ข้าไม่คิดว่าจะต้องมารบกวนท่านถึงจวนเช่นนี้ แต่เรื่องนี้สำคัญเกินกว่าจะรอได้ ข้ามีข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของศัตรูที่อาจกระทบกับการรบครั้งต่อไป"

    อวี้เหวินฉางพยักหน้า สีหน้าของเขากลับมาจริงจังอีกครั้ง "ข้าจะฟังเจ้าตอนนี้ ข้ารู้ว่าเรื่องนี้สำคัญ"

    ทั้งสองนั่งลงในห้องทำงานของไป๋เหวินฉาง บุรุษคนนั้นเริ่มเล่าอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของศัตรู ความเสี่ยงและความลับบางอย่างที่พวกเขาได้รวบรวมมา ดูเหมือนว่านี่จะเป็นแผนการที่ใหญ่และอันตรายกว่าที่ใครคิดไว้

    ในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอย่างลับๆ ข้างนอก เม่ยหลันยังคงอยู่กับหลี่ซือหนี่ที่กำลังมองเรือนของพี่ชายอยู่ห่าง ๆ

    “คนที่มาพร้อมกับท่านแม่ทัพ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ทหารธรรมดา...” หลี่ซือหนี่พูดออกมาด้วยความสงสัย

    "ปกติคุณชายใหญ่ไม่เคยพาให้กลับมาเช่นนี้เลยเจ้าคะ ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่" เม่ยหลันเสริมด้วยน้ำเสียงที่เบาแผ่ว พลางมองตามสายตาของคุณหนู

    หลี่ซือหนี่นิ่งเงียบ คำถามมากมายผุดขึ้นในใจ นางรู้ดีว่าพี่ชายของตนเป็นคนระมัดระวังตัวเสมอ เขาจะไม่พาใครเข้ามาในจวนง่ายๆ ถ้าคนนั้นไม่มีความสำคัญ หรือไม่มีความเกี่ยวข้องกับบางอย่างที่ใหญ่กว่า

    "ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร..." หลี่ซือหนี่พึมพำกับตัวเอง

    หลี่ซือหนี่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหันไปหาม่ยหลันด้วยสีหน้าจริงจัง

    "เม่ยหลัน ข้าอยากรู้ว่าบุรุษที่มากับพี่ชายเป็นใคร เจ้าช่วยไปหาข่าวให้ข้าที" นางสั่งการเสียงเบา แม้ว่าคำพูดจะฟังดูอ่อนโยน แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเด็ดขาด

    เม่ยหลันมองไปยังคุณหนูของตน นางรู้ดีว่าหากคุณหนูต้องการรู้อะไรแล้ว ย่อมไม่มีใครห้ามได้ นางจึงพยักหน้ารับคำ "เจ้าค่ะคุณหนู ข้าจะไปถามจากพวกสาวใช้ในเรือนใหญ่ เผื่อว่าจะมีใครรู้อะไรบ้าง"

    "ระวังตัวด้วยล่ะ อย่าให้ใครสงสัย" หลี่ซือหนี่กำชับ

    เม่ยหลันโค้งศีรษะรับ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป นางรีบมุ่งหน้าไปยังเรือนใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่ยังคงจับกลุ่มพูดคุยกันเรื่องการกลับมาของท่านแม่ทัพ

    ขณะที่เม่ยหลันกำลังหาทางสืบข่าว หลี่ซือหนี่ก็ยังคงยืนมองจากที่ไกลๆ นางรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติที่เกิดขึ้นภายในจวน การมาของบุรุษปริศนานั้นชวนให้นางสงสัยอย่างมาก และยิ่งพี่ชายของนางที่ปกติแล้วจะไม่ค่อยพาคนแปลกหน้ามาที่จวน กลับพาบุรุษคนนี้มาอยู่ใกล้ชิดแบบนี้ ยิ่งทำให้นางคิดว่าอาจมีบางอย่างที่สำคัญมากกว่าที่เห็น

    “ข้าต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไร...” นางพึมพำกับตัวเองเบาๆ ใบหน้าสงบเสงี่ยมตามแบบของลูกอนุซึ่งถูกกดไว้เสมอ เริ่มแฝงไปด้วยแววตาที่แน่วแน่

    ---

    อีกด้านหนึ่ง เม่ยหลันเดินลัดเลาะไปยังเรือนใหญ่พลางเหลือบมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง นางพบกับสาวใช้กลุ่มหนึ่งที่กำลังจับกลุ่มพูดคุย นางก้าวเข้าไปใกล้พลางทำทีเป็นสนทนาปะปนกับพวกนางเพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกต

    “ข้าสงสัยเหลือเกินว่าใครกันที่มาพร้อมกับคุณชายใหญ่” หนึ่งในสาวใช้คนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ข้าไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย”

    “ดูเหมือนว่าจะเป็นคนสำคัญนะ คุณชายใหญ่ถึงพามาไปพักในเรือนของท่านโดยตรง” อีกคนหนึ่งเสริม

    เม่ยหลันได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งสนใจ นางจึงแกล้งถามต่อ "ใช่ ข้าก็เห็นอยู่ไกลๆ เหมือนเป็นทหารจากที่อื่นหรือเปล่า?"

    หนึ่งในสาวใช้ส่ายหน้า “ไม่น่าจะใช่ทหารนะ ดูเหมือนเป็นคนจากในวังมากกว่า ข้าเห็นชุดของเขา ไม่เหมือนพวกนายทหารทั่วไปเลย”

    เม่ยหลันเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ในใจ แต่ยังไม่แสดงท่าทีใดออกมา นางฟังพวกสาวใช้สนทนากันต่อ จนคิดว่าได้ข้อมูลมากพอ จึงหาทางหลบออกมาเพื่อนำเรื่องนี้กลับไปบอกคุณหนูของนาง

     

    -----------------------------------------------------------

    สวัสดีค่ะทุกคนมาลุ้นกันว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร ติดตามได้ในตอนต่อไป....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×