ตอนที่ 41 : บทที่ 8.4 เพราะรักจึงปล่อยไป II
ทุกครั้งที่มีความสัมพันธ์กันธเนศจะไม่สวมถุงยางอนามัย แต่เขาเลือกที่จะหลั่งข้างนอกแทน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ผิดปกติกระทั่งหลายเดือนต่อมา เป็นช่วงที่สีดาใกล้จะจบการศึกษาชั้นมัธยม 6 และกำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในคณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการของมหาวิทยาลัยชื่อดัง
สร้างความภาคภูมิใจให้คนในครอบครัว รวมไปถึงเขาด้วย ธเนศอารมณ์ดีตลอดทั้งวันเมื่อรู้ว่าหญิงสาวสอบเอนทรานซ์ได้ เขารุดไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ให้เธอนั่นก็คือกล้องถ่ายรูปที่เหมาะกับสีดา
หลังจากเขาถ่ายทอดวิชาการถ่ายภาพให้ หญิงสาวก็งอแงอยากให้เขาพาออกมาหาโลเคชันใหม่ๆ ทุกอาทิตย์ซึ่งธเนศก็ตามอกตามใจไม่มีบ่น เขาชอบเห็นรอยยิ้มของเธอ ในขณะที่เธอจ่ายค่าตอบแทนเป็นเซ็กซ์และความรักความห่วงใย
“พี่แดน แม่ให้เอาข้าวมาให้”
สีดาพร้อมเจ้าทาโร่ยืนรอธเนศอยู่นอกรั้ว เพราะมันล็อกด้วยแม่กุญแจจากด้านใน กระทั่งมีร่างสตรีสูงวัยท่านหนึ่งเดินออกมา รายนั้นมองเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“หนูจาใช่ไหม” สีดาค่อนข้างตกใจที่อีกฝ่ายรู้จักเธอ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทเธอจึงยกมือไหว้ท่าน กระทั่งธเนศเดินตามออกมา
“จา นี่แม่พี่เอง”
สีดายิ้มกว้างยามรู้ว่าท่านเป็นแม่ของเขา อันที่จริงเธอเคยพบท่านสมัยงานแต่งงานของเขากับเลอชิตา แต่ก็เป็นแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น ส่วนพี่เดี่ยวมีโอกาสได้เจอบ่อยกว่าเธอ เรียกได้ว่ารายนั้นตีสนิทเพื่อหวังกินกับข้าวฝีมือท่าน...
“มาส่งข้าวเหรอ เดี๋ยวพี่จะออกไปส่งแม่ที่บ้าน” เขาเดินมาไขรั้วให้พลางมองกล่องอาหารในมือสีดา เธอพยักหน้ายิ้มเจื่อนด้วยทำตัวไม่ถูก
“ไปด้วยกันไหม” เขาชวน หากสีดารีบสั่นหน้าปฏิเสธ เธอมองผ่านเขาไปยังมารดาที่ยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง เกิดอาการเกร็งฉับพลัน...ท่านจะรู้ไหมนะ?
“งั้นจาไปก่อนนะ สวัสดีค่ะ” ประโยคหลังเธอพูดกับแม่ของเขา ก่อนยกมือไหว้แล้วพาเจ้าทาโร่กลับบ้าน ธเนศมองแผ่นหลังบางนัยน์ตาหวานซึ้ง
“ไปเถอะแดน แม่รีบ”
ระหว่างอยู่บนรถดาวยังคงคุยกับลูกชายถึงเรื่องเรียนต่อ ซึ่งธเนศก็หัวเสียมากพยายามบ่ายเบี่ยงตลอดเวลา ยอมลาออกดีกว่าต้องถูกบังคับให้ไปไหนไกลๆ ตอนนี้เขาคงไม่มีกะจิตกะใจจะไปไหนเพราะห่วงสีดามาเป็นอันดับแรก
“พ่อเขาเลยดูถูกเราไง” ท่านเอ่ยถึงสามีที่แสนเข้มงวด
“ก็ปล่อยพ่อไปสิแม่ ทีพี่ดินไม่เห็นบังคับกัน” ธเนศเอ่ยถึงธนาพี่ชายฝาแฝด
“ก็เจ้าดินทำไว้ดีแล้ว เหลือแต่แกนี่แหละ จะมีใครจ้างอาจารย์ที่จบปริญญาตรีมาสอนเด็กปริญญาตรีล่ะ มันจะตายหรือไงฮะลูก แค่เรียนต่ออีกปีสองปี”
และหลังจากนั้นท่านก็บ่นยาวเป็นหางว่าว หากธเนศไม่เถียงหรือต่อกรอีกแล้ว ปล่อยให้ท่านพูดในสิ่งที่ต้องการมาตลอดทางจนถึงที่หมาย
“ลงไปก่อนไหม กินข้าวเย็นกับแม่”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเลย ไว้พรุ่งนี้มาหาใหม่”
ที่บ้านสมานันท์ สีดายังคงนึกถึงใบหน้ามารดาของธเนศ ท่านยิ้มสวยและดูใจดีเหมือนกับเขาไม่มีผิด อา...เขาหน้าเหมือนแม่นี่เอง
“ไอ้จา เหม่อลอยแปลกๆ เป็นอะไรฮะ” สีดาสะดุ้งเมื่อพี่ชายท้วงขึ้นมา พานให้บุพการีมองตาม พจน์สมทบว่า
“อีก 4 ปีก็เรียนจบแล้ว เดี๋ยวค่อยมีนะลูกแฟนน่ะ”
“โอ๊ย! จาไม่มีหรอก ไม่ได้คิดเลยค่ะ”
สีดาโกหกคำโต เรียกรอยยิ้มจากคนหวงลูกสาว หากเดือนไม่ได้คิดเช่นนั้น นางมองออกว่าลูกกำลังมีความรัก แต่เลือกที่จะเงียบไม่ยอมพูดกับใคร
“เออพี่เดี่ยว เมื่อกี้จาไปบ้านพี่แดนมาเจอแม่เขาด้วย” สีดาเปลี่ยนเรื่อง
“อ้าว! ป้าดาวมาเหรอ” เดี่ยวถามพลางตักข้าวใส่ปาก
“อือ ใช่ พี่แดนหน้าเหมือนแม่เนอะ”
“ก็หน้าเหมือนแม่ทั้งพี่ดินทั้งพี่แดนนั่นแหละ” รามฤทธิ์ว่าอย่างนั้น
“แล้วพี่เดี่ยวเคยเจอพี่ชายพี่แดนเหรอ”
ปกติสีดาไม่อยากรู้เรื่องส่วนตัวของธเนศ และทุกครั้งที่ครอบครัวคุยกันเธอก็จะเป็นฝ่ายฟังอยู่เงียบๆ หรือไม่ก็แสดงอาการเบื่อหน่ายด้วยการลุกหนีไป แต่คราวนี้เกิดเรื่องน่าสงสัย ทำไมน้องสาวถึงอยากรู้ประวัติพี่แดน?
“ไอ้จา แกนี่ทำตัวแปลกๆ” รามฤทธิ์ไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะพูดจี้
“แปลกอะไร” สีดาค้อนใส่ แสดงความไม่พอใจเล็กน้อย
“ปกติไม่เคยอยากรู้เรื่องพี่แดนมาก่อน แต่พักหลังมาแกถามไม่หยุดเลย แถมยังชอบไปบ้านพี่แดนบ่อยๆ วันหนึ่งมากกว่าสองสามรอบ” สีดาเหงื่อแตก ใบหน้าซีดเหลืองอย่างเห็นได้ชัด
รีอัปลมหวนทวงรัก เพื่อเป็นตัวอย่างในการตัดสินใจซื้อนิยายจ้า อัปให้อ่าน 70% ของเนื้อหาทั้งหมดค่ะ สนใจกดซื้อนิยายผ่านเมบได้ที่ลิงก์ด้านล่างค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
