ตอนที่ 21 : เชื่อใจ
ตอนที่ 21
สามเดือนต่อมา... ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง เวทิศในชุดสูทสีดำเดินดุ่มๆ ไปตามทางเดินของชั้นสิบห้า ดวงตาคมแดงก่ำราวพญามัจจุราช ฝ่ามือใหญ่ข้างขวาถือแผ่นกระดาษอะไรบางอย่างไว้ ลมหายใจร่างหนาดังคละเคล้าเสียงคำรามด้วยไฟอารมณ์ที่ฝังแน่นอยู่เต็มอก เมื่อถึงห้องต้องประสงค์คนใจร้อนไม่รอช้า เขาเปิดประตูเข้าไปอย่างไร้มารยาท
“บิว...”
เสียงชายชราที่นั่งอยู่ตรงโซฟาเรียกผู้มาเยือน เวทิศมองท่านด้วยสายตาที่ว่างเปล่า หากไร้คำพูดใดๆ ออกมาจากริมฝีปากที่สั่นระริก ดวงตาคุณอำนาจมองแผ่นกระดาษในมือของเวทิศแล้วใจเต้นตุบๆ
“ค่อยๆ พูดกับน้องเถอะนะ”
ท่านพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าในมือของชายหนุ่มคืออะไร และสำคัญกับทุกคนยังไง เวทิศไม่ตอบรับหรือให้คำสัญญาอะไรกับท่าน เขาเดินเข้าไปยังส่วนของห้องพักฟื้นคนไข้ด้านใน
“พี่บิว”
เมื่อเห็นว่าใครมาหา คุณแม่มือใหม่รีบโปรยยิ้มหวานให้ทันที สายตาของผู้มาเยือนกราดมองคนเรียกอย่างไร้เยื่อไย นัยน์ตาคู่นี้มีแต่ความว่างเปล่า
“มาดูลูกสิคะ ลูกของเรา”
เธอบอกร่างสูงใหญ่ก่อนจะหันไปทางทารกแรกเกิดที่นอนอยู่บนรถเข็นข้างๆ เตียงคนไข้ เด็กหญิงวัยสองวันตัวแดงเห่อน่าทะนุถนอมดิ้นเบาๆ ในผ้าห่อสีชมพูสวย
“ลูกของเธอคนเดียวอลันวรา เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของฉัน”
หญิงสาวสะดุ้งผวายามกระดาษในมือเขาถูกปาใส่หน้าหล่อนเข้าเต็มๆ มือเรียวมือไม้สั่นยามหยิบของสำคัญขึ้นมาอ่าน น้ำตามากมายไหลรดแผ่นกระดาษตรงหน้ายามสายตาไล่อ่านมัน
“ฉันฆ่าเธอได้ใช่ไหม”
อลันวราร้องไห้โฮยามได้ยินคำพูดประหารชีวิต เธอฉีกกระดาษผลตรวจดีเอ็นเอในมืออย่างบ้าคลั่ง
“ฮือๆ ฮึก...เอาสิคะ ฆ่าแอลเถอะ ผลออกมาแล้วนี่ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของพี่”
“เด็กคนนี้เป็นลูกของใครอลันวรา เธอควรไปบอกพ่อของเด็กซะ”
“จะให้ไปบอกทำไมคะ ผู้ชายคนนั้นเขาทิ้งแอลไปอย่างไร้เยื่อไย เขาตัดสัมพันธ์แอลเพราะรักผู้หญิงอีกคน”
เธอร่ำไห้อย่างสุดจะกลั้นเมื่อนึกถึงภาพในวันนั้น ภาพของความเจ็บช้ำที่โดนชายคนรักย่ำยีศักดิ์ศรี และทำร้ายร่างกาย
“พี่บิวรู้มั้ยคะ ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นคนรักคนแรกของแอล แอลรักและคิดเสมอว่าถ้าขาดเขาไปต้องตายแน่ๆ แต่แล้ววันนี้ก็มาถึง...วันที่เขาทิ้งแอลไปกับคนอื่น หลายครั้งเหลือเกินที่แอลพยายามถามตัวเองว่า ฉันทำอะไรผิดเหรอ? ทำไมคนที่รักกันนักรักกันหนาถึงเปลี่ยนใจไปรักอีกคนได้ง่ายดายขนาดนั้น ทำไมชีวิตรักของฉันต้องพังลงด้วยน้ำมือคนที่รัก”
พอเห็นน้ำตาของอีกฝ่าย เวทิศกลับเมินหน้าหนีเจ้าหล่อนไปอีกทาง เขาไม่อยากทนเห็นน้ำตาของผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ดวงตาบวมช้ำของหญิงสาวมองร่างหนาด้วยความเจ็บปวด หากเธอยังคงจะพูดเรื่องราวทุกอย่างต่อไป...
“แล้วพอเราได้เจอกัน ภาพของผู้ชายคนนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไป พี่บิวเข้ามาแทนที่เขาจนหมดหัวใจ แอลรู้ค่ะว่าเวลาของเรามันสั้น แต่รู้ไหมคะว่าแอลขาดพี่บิวไม่ได้จริงๆ ฮือๆ ฮือๆ”
“แต่ฉันไม่ได้รักเธอ และไม่มีวันที่จะรักได้ เวลาแค่หนึ่งเดือนมันน้อยเกินไป ฉันไม่สามารถรักใครได้ในระยะเวลาสั้นๆ อย่างนี้”
อลันวราร้องไห้จนกายสาวสั่นเทิ้ม คำพูดของเขาเปรียบเสมือนอาวุธร้ายที่พร้อมจะฆ่าเธอได้ตลอดเวลา
“ฉันรู้ว่าการที่สั่งให้เธอไปเอาเด็กออกมันผิดแค่ไหน เรื่องนั้นฉันขอโทษและยอมรับผิดทุกประการ จบเรื่องของเราไว้เพียงเท่านี้เถอะนะ ระยะเวลาแปดเดือนของฉันที่ต้องเสียอะไรไปมากมายมันพอทดแทนกันได้ใช่ไหมกับสิ่งที่ฉันทำไว้กับเธอ...ลาก่อนอลันวราดูแลเขาให้ดีๆ ด้วย พี่รู้ว่าเธอจะเลี้ยงเขาได้”
“พี่บิว ตลอดระยะเวลาที่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ทำให้พี่บิว...รักแอลได้เลยเหรอคะ”
“ในหัวใจดวงนี้มีแค่ไทม์คนเดียวเท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นคือชีวิตและจิตวิญญาณของพี่”
ที่บ้านดิเรกอนันต์ อุรัสยากำลังวุ่นวายกับการจัดข้าวของเครื่องใช้มากมายใส่กระเป๋า ลูกสาวคนเล็กของบ้านเดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบจนสาวใช้ตาลายไปตามๆ กัน
“คุนเท็นจะไปอยู่นานเลยเหรอคะ”
“อืมม์...ก็นานนะจ๊ะ เท็นชอบงานที่นี่นะ ถ้าเขาไม่ไล่ออกซะก่อนก็คงอยู่ยาวไปเลย”
“ที่บ้านคงเหงาแย่เลยถ้าไม่มีคุณเท็น”
“อะไรละเตยอย่ามาบิ้วอารมณ์เท็นนะ ถ้าที่ทำงานอยู่ใกล้บ้านก็ดีสิ เท็นจะได้ไม่ต้องไปอยู่ที่อื่น”
อุรัสยาหน้ามุ่ยเมื่อคิดว่าจะต้องจากบ้านไปอยู่ที่อื่น หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยได้เพียงสองเดือนบุตรสาวคนเล็กของตระกูลก็ถูกเรียกตัวเข้าทำงานกับนิตยสารชื่อดังทันที เธอรับหน้าที่เขียนคอลัมน์ท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งผลงานของน้องใหม่ไฟแรงได้รับคำชมมากมายจากบรรณาธิการหนังสือ
“เสร็จกันหรือยังจ๊ะ รีบไปได้แล้วพี่อยากช่วยน้องจัดห้องจะแย่”
“พี่ทิพย์ไม่ไปทำงานเหรอคะ”
“ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าการเริ่มต้นใหม่ของน้องหรอกนะ”
คนฟังน้ำตารื้น อุรัสยาโผกอดพี่สาวคนโตด้วยความตื้นตันที่มันล้นออกมานอกอก แต่เล็กจนโตพี่ของเธอคนนี้ช่างเป็นผู้นำได้ดีเหลือเกิน พี่ทิพย์เปรียบเสมือนแม่คนที่สองของเธอ
“ดราม่ากันแต่เช้าเลยนะคะ”
น้ำเสียงหวานใสดังขัดคนรักกัน สองพี่น้องผละออกจากกันเร็วไวก่อนจะหันไปมองที่ประตูห้อง
“พี่ไทม์!”
อุรัสยาวิ่งเข้าไปกอดพี่สาวคนรองไว้แน่น อิชยากอดตอบน้องคนเล็กด้วยความรักจับจิตจับใจ
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ไหนบอกว่าจะมาพรุ่งนี้ไง”
“พี่ก็หลอกเธอไงละยายเท็น กะว่าจะมาเซอร์ไพรส์เลยนะเนี่ย”
“ของฝากน้องละคะ”
น้องสาวแบมือขออย่างทุกครั้ง อิชยากอดอกยิ้มย่องก่อนจะทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ตามสไตล์
“ของฝากน่ะเหรอ จัดเต็ม!”
อิชยาเดินทางไปเกาหลีเพื่อสำรวจแฟชั่นของเด็กในโซล การไปทำงานครั้งนี้ทำให้ดีไซน์เนอร์คนสวยมีไอเดียใหม่ๆ กลับมาทำงานประจำของตนอีกเพียบ สามใบเถาของบ้านเดินลงมายังชั้นล่าง อิชยาพาน้องสาวมาที่ห้องนั่งเล่น
“ไหนคะของฝากเท็น”
“นั่นไงของฝากเท็น”
อุรัสยาตาลุกวาวยามมองสิ่งของที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ชุดสวยๆ หลายสิบชุดแขวนเรียงรายอยู่บนราวผ้าขนาดกลาง สองเท้าก้าวไปใกล้อย่างสะกดอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“ชุดสวยๆ ต้องคู่กับคนสวยๆ ใส่ไปทำงานด้วยล่ะ”
“พี่ไทม์...”
“เรียกเสียงหงอยอีกแล้ว พี่ออกแบบเองตัดเย็บเองเลยนะจะบอกให้”
มือเรียวจับชุดสวยแหวกดูพอเป็นพิธี แต่ละตัวช่างสวยงามและดูดีตามสไตล์คนสวมยิ่งนัก อุรัสยายิ้มออกมาทั้งน้ำตา พี่สาวของเธอน่ารักเสมอ...
“พี่ไทม์...”
น้องสวมกอดพี่คนรองไว้แนบแน่น ก่อนจะร้องไห้ออกมาตามอุปนิสัยคนช่างอ่อนไหวของเจ้าหล่อน อิชยาลูบเรือนผมน้องแผ่วเบา ปลายจมูกเรียวหอมกระหม่อมน้องอย่างแสนรัก
“ตั้งใจทำงานนะเท็น น้องไม่เคยทำให้แม่และพี่ๆ ผิดหวังเลย รู้อะไรไหม...พี่น่ะภูมิใจในตัวน้องสาวคนนี้ที่สุด”
“ขอบคุณค่ะพี่ไทม์ ขอบคุณที่ทำให้เท็นมากมายขนาดนี้ เท็นรักพี่ไทม์นะคะ”
“พี่ก็รักเรานะ รักมากจริงๆ”
อุรัสยากอดอิชยาไว้แน่น ใบหน้าขาวซุกอยู่กับเสื้อของพี่คนรองจนเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา ความรักความอบอุ่นของสามใบเถาแห่งบ้านหลังนี้ช่างเป็นสิ่งที่วิเศษเหลือเกิน สายใยสัมพันธ์ของพี่น้องบ้านนี้แน่นแฟ้นไปด้วยความรัก ความอบอุ่น สิ่งดีๆ เหล่านี้หลอมรวมให้ทุกคนแข็งแกร่ง มันแข็งแรงเสียจนไม่สามารถมีอะไรเข้ามาทำลายความรักของพวกเธอได้
บริเวณริมสระว่ายน้ำสวยใส ศราวินนั่งออกแบบงานชิ้นใหญ่ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ฝ่ามือใหญ่ตวัดดินสอลงบนกระดาษอย่างชำนิชำนาญ ดวงตาคมหรี่มองชิ้นงานแล้วยิ้มพึงพอใจ งานที่เขาอดตาหลับขับตานอนทำมาสามวันเต็มๆ เสร็จสิ้นลงอย่างสวยงาม ร่างสูงใหญ่ลุกจากเก้าอี้ เดินตรงไปยืดเส้นยืดสายริมสระสวย มองผืนน้ำสดใสตรงหน้ามันทำให้เขาคิดถึงใครบางคน
“ยายตัวดี เมื่อไหร่จะกลับมานะ”
พี่บิ๊กยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงยายตัวดีที่ใจใฝ่หา นี่ก็เข้าวันที่สี่แล้วที่น้องนาง
“เธอกำลังทำให้พี่เป็นบ้านะอิชยา”
พี่บิ๊กพูดกับตัวเองก่อนจะยิ้มคนเดียวราวคนบ้า ครั้นนึกถึงดวงหน้าหวานทีไรใจหนุ่มมันสั่นไหววาบหวามไปเสียทุกที ป่านนี้น้องคนดีจะทำอะไรอยู่หนอ จะคิดถึงกันเหมือนที่ตัวเขาเป็นอยู่หรือเปล่า...เสียงโทรศัพท์ดังแว่วเข้าหู คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ เดินกลับไปยังโต๊ะทำงานริมสระ ก่อนจะกดรับเบอร์แปลก
“ครับ”
“พี่บิ๊กผมเอง”
คำตอบปลายสายทำให้คนฟังแน่นหน้าอกฉับพลัน นี่มันน้องชายเขา... ใช่สิ นี่ครบกำหนดแปดเดือนแล้วสินะ
“แกเป็นยังไงบ้าง”
“ผมเป็นอิสระแล้วพี่บิ๊ก เด็กในท้องแอลไม่ใช่ลูกของผม ตอนนี้ผมพักอยู่ที่คอนโดแถวๆ กระทรวง”
“แล้วทำไมยังไม่กลับบ้าน”
“ผมขอทำธุระทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน ตอนนี้ที่ทำงานไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เหลือก็แต่ปัญหาหัวใจนี่แหละ...เออ! คุณแม่อยู่บ้านไหม ผมอยากไปกราบท่าน”
“คุณแม่ไม่อยู่ ท่านไปต่างจังหวัดกับเพื่อน”
“เอาเป็นว่าถ้าท่านกลับมาเมื่อไหร่พี่บิ๊กบอกผมด้วยละกัน แล้วตอนนี้พี่อยู่ไหน”
“ฉันอยู่บ้าน แต่กำลังจะไประยอง บิวฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
“ผมก็มีเรื่องจะคุยกับพี่ มีหลายอย่างอยากจะปรึกษา พี่บิ๊กรู้อะไรไหม ตลอดระยะเวลาแปดเดือนที่ผ่านมามันทำให้ผมรู้แน่ชัดแล้วว่าหัวใจของผมดวงนี้อยู่ที่ใคร”
ศราวินชะงักนิ่ง ปากของเขาขยับไม่ได้ฉับพลัน ยามเวทิศเอ่ยถึงเรื่องนี้หัวใจคนฟังอยู่ไม่สุข หากปลายสายช่างแตกต่างนัก น้องของเขาดูมีความสุขเมื่อได้พูดถึงอิชยา
“เดี๋ยวผมจะโทรไปหาไทม์ และบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
“มาคุยกับพี่ก่อนได้หรือเปล่า เรื่องที่พี่จะบอกแกก็สำคัญไม่แพ้กัน”
“เอาไว้ก่อนได้หรือเปล่าฮะ ผมตั้งใจจะคุยกับไทม์หลังจากวางสายพี่บิ๊ก ขอให้เรื่องนี้ผ่านไปก่อนได้ไหม”
“แต่ว่า...”
พี่บิ๊กพูดอะไรไม่ออก ดวงตาคมมีน้ำเอ่อคลออยู่ที่หน่วยตาทั้งสอง มือไม้ชายหนุ่มขยับเขยื้อนไม่ได้ เขาไม่พูดอะไรอีกจนสายของน้องชายตัดไป
“คิดถึงจังเลย”
ณ เวลานี้เหมือนโลกหยุดหมุนกะทันหัน ร่างสูงใหญ่ยืนนิ่งตัวแข็งทื่ออีกหนเมื่อถูกสวมกอดด้วยใครบางคนจากทางด้านหลัง น้ำเสียงหวานใสทำให้คนถูกกอดกลืนน้ำลายไม่ลงคอ อิชยาถูไถใบหน้าสวยกับเสื้อเชิ้ตสีฟ้าของพี่บิ๊ก จมูกเรียวสูดดมแผ่นหลังอบอุ่นผ่านเสื้อตัวบางด้วยความคิดถึง
“อ้าว! เงียบไปเลย”
อิชยาแปลกใจที่พี่บิ๊กเงียบ สงสัยคงตกใจที่เธอมาเซอร์ไพรส์ถึงที่กระมัง น้องนางคลายอ้อมกอด ร่างระหงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“พี่บิ๊ก! เป็นอะไรไปคะ”
น้ำใสๆ ที่เอ่อคลอดวงตาของเขาทำให้คนมองตกใจ ฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างจับใบหน้าคมด้วยความเป็นห่วง หากตอนนี้ศราวินพูดอะไรไม่ออก เขาไม่เคยรู้สึกอึดอัดที่สุดในชีวิตเท่าวันนี้มาก่อน
“อิชยา...”
พูดได้แค่นั้นร่างหนาก็สวมกอดร่างน้อยไว้แนบแน่น หยดน้ำตาเม็ดใสไหลลงมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ กลัว...เขากลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้ จมูกคมจรดลงบนเรือนผมหอมอย่างแสนรัก
“พอแล้วนะอิชยา พี่จะไม่มีวันปล่อยเธอไปอีกแล้ว”
คนฟังงุนงงสงสัยยิ่งนัก ไปทำงานต่างประเทศไม่กี่วันพี่บิ๊กมีอาการคิดถึงเธอได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ คนคิดอะไรในใจยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตอนอยู่ที่เกาหลีเธอเองก็คิดถึงเขาเจียนจะบ้าตายเช่นกัน
“อิชยาไม่ไปไหนค่ะ จะไม่ทิ้งศราวินไปไหนอีกแล้ว...ไหนๆ มาหอมหน่อยเร็ว”
ใบหน้าของพี่บิ๊กทำคนมองตกใจคิ้วขมวด ดวงตาของเขาแดงก่ำราวคนอดหลับอดนอน นัยน์ตาคู่นี้ดูเว้าวอนตัวเธอเสียเหลือเกิน อิชยาใจไม่ดี ร่างน้อยเขย่งกอดคอพี่บิ๊กไว้แน่นก่อนจะหอมแก้มทั้งสองข้างด้วยความคิดถึงที่มันเอ่อล้น
“พี่บิ๊กเป็นอะไรคะ ไหนบอกไทม์ซิ”
“น้องรักพี่หรือเปล่า ตอบให้พี่ชื่นใจหน่อยได้ไหมว่าเรารักกัน”
“น้องรักพี่บิ๊กค่ะ รักมาก มาก มาก”
คนตอบหัวเราะออกมาด้วยความสุขใจ สิ่งที่บอกออกไปนั้นจริงใจที่สุดแล้ว ในตอนนี้หัวใจของอิชยามีแต่ศราวินเท่านั้น
“พี่ก็...”
เสียงห้าวหยุดพูดกะทันหันเมื่อเสียงโทรศัพท์ของอีกฝ่ายดังเข้ามาขัดจังหวะ อิชยาถือมันไว้ในมือก่อนจะหันมาทางพี่บิ๊ก
“ไทม์ขอรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”
“อย่ารับ พี่ขอร้องละ อย่ารับจะได้ไหม”
แม้ว่าอยากจะพูดประโยคนี้ออกไปดังๆ หากในความเป็นจริงเขาทำได้แค่เงียบ ศราวินไม่พูดอะไรนอกจากกอดน้องไว้แน่นก่อนจะจุมพิตที่ริมฝีปากอิ่มเบาๆ
“รับเถอะ พี่รักน้องนะ รักมากเหลือเกิน”
คนถูกบอกรักอิ่มเอมใจจนความสุขกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ ทว่าอีกฝ่ายนั้นต่างกันเหลือเกิน ศราวินหัวใจขาดวิ่นยามอิชยากดรับสายที่โทรเข้ามา
“สวัสดีค่ะ อิชยาค่ะ”
น้ำเสียงสดใสของปลายสายทำให้เวทิศยิ้มทั้งน้ำตา เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน
“ไทม์...นี่พี่นะ”
คำตอบของคนโทรเข้ามาทำให้อิชยามองศราวินตาค้าง และเหมือนพี่บิ๊กจะรู้ว่าตัวเองควรทำเช่นไร เขาเดินเลี่ยงไปเหมือนคนรักษามารยาท เจ็บ...บอกได้คำเดียวว่ามันเจ็บเหลือเกิน ถ้าไม่รู้ว่ามาก่อนว่าสายที่โทรเข้ามานั้นเป็นใครก็คงจะดี อย่างน้อยเขาก็คงไม่เจ็บหนักอย่างที่เป็น นาทีนี้คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าสิ่งที่อิชยากำลังจะเลือก
“ค่ะ”
“พี่กลับมาแล้ว ไทม์มาหาพี่ได้หรือเปล่า มีเรื่องมากมายที่พี่อยากจะบอกเธอ”
น้ำเสียงของเวทิศทำให้อิชยาน้ำตารื้น เขากลับมาแล้ว...คนที่ทิ้งเธอไปอย่างเลือดเย็นกลับมาแล้ว มือที่กำโทรศัพท์ไว้สั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำราวคนโดนพิษไข้เล่นงาน
“ได้ค่ะ ที่ไหนคะ”
เวทิศนัดหมายอิชยาอย่างเร็วไว หลังจากพูดคุยกันอีกสองสามคำสายก็ถูกวางไป หญิงสาวรวบรวมสติอย่างตั้งใจก่อนจะหันไปหาคนรอที่อยู่ข้างหลัง เมื่อหันมาสิ่งที่เห็นทำให้อิชยาหดหู่ใจ ศราวินนั่งรอเธออยู่ที่โต๊ะริมสระว่ายน้ำ เขานั่งนิ่งราวกับคิดอะไรในใจตลอดเวลา
“พี่บิ๊กคะ ไทม์ต้องไปแล้ว”
“ถ้าพี่ขอให้เธอไม่ไปละ ขอให้อยู่ตรงนี้...อยู่ด้วยกัน”
พี่บิ๊กเว้าวอนน้องนาง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาหนักแน่น นัยน์ตาคมที่มองมายังเธอดูจริงจัง ฝ่ามือใหญ่กุมมือเรียวไว้แน่น ไออุ่นของเขาทำให้อิชยาตัดสินใจอะไรได้ง่ายขึ้น เธอยิ้มให้พี่บิ๊กก่อนจะพูดว่า
“ไทม์ต้องไปค่ะ มีงานรออยู่ที่ร้านจริงๆ เอาเป็นว่าถ้าเสร็จธุระเมื่อไหร่ไทม์จะกลับมาหาพี่บิ๊กนะคะ”
“ต้องไปงั้นสินะ”
“พี่บิ๊ก...”
“ให้พี่ไปส่งไหม ไทม์กลับมาเหนื่อยๆ พี่ไม่อยากให้ขับรถ”
“เอ่อ...คือ ไม่เป็นไรค่ะ ไทม์ไปเองดีกว่า ใกล้ๆ แค่นี้ไทม์ขับได้สบายมาก”
“อ่อ”
“ไทม์ไปนะคะ เย็นนี้เราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันดีกว่า”
อิชยาจูบแก้มศราวินอีกหนก่อนจะเดินดุ่มๆ จากไปราวคนรีบร้อน คนอยู่ทางนี้มองแผ่นหลังบางของน้องนางที่เดินจากไปจนไกลลับตา อิชยากำลังโกหกเขาเพื่อไปหาเวทิศคนรักเก่า
“พี่เคารพการตัดสินใจของเธอเสมอ กลับมานะอิชยา กลับมาหาพี่”
สนใจดาวน์โหลดนิยายได้ที่ https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMzYxMTg5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMTMxMjUiO30
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

20 ความคิดเห็น
-
#8 Baekhyunparkchan (จากตอนที่ 21)วันที่ 11 มกราคม 2560 / 18:15สงสารพี่บิ๊กเนาะ เจอรักสามเศร้าเข้าไปทำใจยากเลย#80