ตอนที่ 16 : ลึกซึ้ง
ตอนที่ 16
แสงแดดยามเช้าสาดส่องบอกเวลา อรุณเบิกฟ้าสดใสกว่าวันไหนๆ คนป่วยขยับกายที่นอนกอดร่างน้อยเบาๆ ดวงตาปรือลืมสู้แสง ภาพแรกที่เห็นทำให้ใบหน้าคมยิ้มกว้างด้วยความสุขใจ วงแขนกว้างกอดรัดร่างข้างๆ ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ศราวินจุมพิตที่ไหล่นวลเนียนแผ่วเบา จมูกคมถูไถแก้มนวลใสอย่างสิเน่หา
“อื้ม!”
เสียงครางหวิวๆ ดังมาจากร่างของอิชยา หญิงสาวบิดกายไปมายามคนข้างๆ มุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้หน้าอกกลมกลึงทั้งสองข้างอย่างหยอกเย้า ปากร้อนระดมจูบหน้าท้องนวลเนียน ร่างน้อยดิ้นหยุกหยิก เธอปวดเนื้อเมื่อยตัวจากบทรักครั้งแรกที่เขาเป็นผู้มอบให้
“อ้า! พี่บิ๊ก”
อิชยาครางโหยเมื่อนิ้วมือร้ายกาจช่วงชิงล่วงล้ำเข้าไปยังช่องทางรัก ปากอันร้อนผ่าวดูดดุนตุ่มไตราวหิวโหย เสียงจ๊วบจ๊าบดังลั่นห้อง คนโดนบุกรุกอ้าขาแยกออกตามธรรมชาติ เนื้ออ่อนด้านในสั่นระริก ศราวินรู้ดีว่าน้องนางคงจะเจ็บกับบทรักครั้งแรก
“ไม่ไหว!”
น้ำเสียงสั่นหวานบอกเขา นิ้วยาวชักเข้าชักออกแรงเร็วราวพายุโหม ฝ่ามือเรียวดึงผ้าห่มออกผงกหัวขึ้นมาดูเขา ฝ่ามืออีกข้างของศราวินบีบเคล้นสะโพกสาวอย่างวาบหวาม
“พะ...พี่บิ๊ก”
เมื่อใกล้ถึงฝั่งฝันคนถูกรุกรานถึงกับกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาปรือเยิ้มมองแผ่นหลังบึกบึนที่ก้มจัดการกับความเป็นหญิงของเธอ ความเสียวซ่านแล่นปราดเข้าทุกอณู มันนำพาความสุขชนิดพิเศษมาให้จนกู่ไม่กลับ
“อ้า!”
การเดินทางสิ้นสุดลงเมื่อเขาส่งเธอไปยังดินแดนแห่งความสุข ร่างโสภานอนหายใจหอบเหนื่อย หากศราวินไม่ต้องการหาความสุขใส่ตนเอง เขาเป็นห่วงเรื่องความเจ็บปวดของน้องนางจาการร่วมรักเมื่อคืน เมื่อผ้าห่มถูกเปิดออกทำให้อะไรๆ ก็ชัดเจนมากกว่าเก่า สายตาคมเพ่งมองความงามของหญิงสาวที่แดงสด มีคราบเลือดจางๆ เปรอะเปื้อนอยู่ตรงผ้าปูที่นอน คนมองยิ้มสุขใจก่อนจะจุมพิตเบาๆ ที่เนินเนื้อสาวอย่างแสนรัก
“มอร์นิ่งคิสนะที่รัก”
“คนบ้า”
น้ำเสียงแสนงอนทำให้พี่บิ๊กอดไม่ได้ที่จะขยับกายขึ้นไปหา หากเขาไม่ได้ไปแบบธรรมดา ปากของคนป่วยละลานโลมเลียตั้งแต่หน้าท้องขึ้นไปยังหน้าอกสวย ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกงามอีกหน โดยที่ปากร้อนไม่ลืมทำหน้าที่ดูดกลืนยอดอกสีสวยอย่างเมามัน
“อื้อ พะ...พอแล้วค่ะ”
“น้องไทม์สวยที่สุด”
คำหวานที่ได้ยินทำให้คนร้องห้ามหลอมละลายราวขี้ผึ้งที่ถูกไฟลน ฝ่ามือน้องไทม์ทั้งสองข้างจับแก้มของพี่บิ๊กเข้ามาหา ต่างคนต่างสบตาซึ่งกันและกันก่อนทั้งคู่จะส่งรอยยิ้มแห่งความสุขให้กับอีกฝ่าย
“ขอไทม์หอมพี่บิ๊กหน่อย”
“ร่างกายพี่เป็นของเธอ เธอจะทำอะไรกับมันก็ได้”
“จะจูบให้ปากแตกเลย”
จมูกได้รูปของอิชยาถูไถกับจมูกเป็นสันคมของศราวิน ริมฝีปากอิ่มจุมพิตหนักๆ ที่ริมฝีปากคนป่วย แขนเรียวทั้งสองข้างคล้องลำคอแกร่งไว้ก่อนจะส่งลิ้นน้อยเข้าไปทักทายพี่บิ๊ก น้องไทม์ดูดรัดลิ้นใหญ่อย่างน่ารัก
“อื้อ”
เสียงพี่บิ๊กครางด้วยความพอใจ ร่างสูงใหญ่พลิกตัวลงล่างพร้อมกับตวัดร่างน้องนางขึ้นสู่ข้างบน รสจูบของทั้งคู่ร้อนระอุทวีคูณ ผมสลวยของอิชยาตกลู่คลอเคลียปิดในหน้าคมสัน ความเป็นหญิงเบียดเสียดความเป็นชายให้แข็งชัน สองเต้าเต่งตึงทาบทับแผงอกกว้างอย่างตั้งใจ ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังสาวอย่างรัญจวน ก่อนลามลงไปยังก้นงามงอนอย่างรู้งาน บีบคลึงเคล้นหนักเบาสลับกันไปตามแรงจูบที่เธอส่งมา
“อ้ะ!”
คนข้างบนครางหวิวถอนจูบออก ความเสียวซ่านแล่นปราดไปทั่งร่างเมื่อจุดอ่อนไหวของเธอสัมผัสได้กับอะไรบางสิ่งที่แข็งร้อน
“พี่กำลังต้องการ”
ศราวินบอกความจริงกับแม่สาวดาวยั่ว อิชยาหน้าเสียเล็กน้อยเพราะเธอยังเจ็บใจกลางความเป็นหญิงอยู่มาก ร่างน้อยที่ทาบทับร่างเขาไว้ตัวแข็งทื่อ เธอไม่กล้าขยับไปมากกว่านี้ และเหมือนพี่บิ๊กจะอ่านความในใจน้องไทม์ออก เขาระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะใช้สองแขนไม้เลื้อยหนุนหัวตนเอง
“มองหน้าพี่สิอิชยา”
อิชยาหลบสายตาพี่บิ๊ก เธอทำให้เขาเสียอารมณ์หรือเปล่าหนอ เธอเคยได้ยินมาว่าถ้าผู้ชายไม่ได้ดั่งใจเรื่องร่วมเพศ เขาจะพาลโกรธทุกคนไปหมด คนข้างล่างคิ้วขมวดด้วยความสงสัย น้องไทม์ของเขาต้องกำลังคิดอะไรไปเองอยู่เป็นแน่ ศราวินจับผมยาวสลวยทัดหูทั้งสองข้างให้น้องนาง เขายิ้มให้เธอบางๆ ก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากมน
“พี่ต้องไปทำงานแล้ว”
“พี่บิ๊กโกรธไทม์หรือคะ”
“เปล่าสักหน่อย พี่รู้ว่าไทม์ไม่พร้อม”
“แต่เมื่อคืนเรา...”
“เมื่อคืนก็เมื่อคืน วันนี้ก็วันนี้ พี่ไม่บังคับเธอหรอก”
“น่ารักจังเลย”
ดวงหน้าหวานยิ้มแย้มก่อนจะซุกซบกับแผงอกกว้าง เขากอดร่างของเธอไว้แน่นด้วยความสุขที่ไม่คิดว่าจะได้พบเจอ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่ หากมียอดดวงใจที่แสนรักอยู่ข้างกายต่อให้อุปสรรคจะมากมายสักเพียงใดก็ไม่กลัว อิชยายิ้มสุขใจเนื้อแนบเนื้อจากตัวเธอที่สัมผัสที่ตัวของเขามันช่างอบอุ่นและปลอดภัย นี่คือการเริ่มต้นใหม่ที่ดีใช่หรือเปล่า สิ่งเลวร้ายที่ผ่านมามันจะผ่านไปอย่างไร้คุณค่า เธอจะลืมคนอย่างเวทิศให้ได้สนิทใจ และหันมาให้ใจกับผู้ชายคนนี้ในไม่ช้า
“ยายไทม์ไม่ได้กลับบ้านหรือคะ”
เสียงของอัยยาร้องถามป้าทองด้วยความตกใจ น้องสาวคนรองจะหายไปได้อย่างไร เมื่อคืนเธอยังยืนมองแผ่นหลังอีกฝ่ายเดินเข้าห้องไปจนลับสายตาอยู่เลย
“คุณหนูออกไปตอนกลางดึกค่ะ บอกป้าว่าจะไปเอางานที่ลืมไว้”
“ที่ไหนคะ บริษัทหรือเปล่า”
ป้าทองส่ายหน้าเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าคุณหนูไปเอางานที่ไหน อัยยาได้แต่ฉงนใจเพราะน้องของเธอยิ่งมีอาการแปลกๆ อยู่ ดีนะที่คุณแม่กับยายเท็นไปออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ถ้าอยู่บ้านละก็มีหวังเป็นเรื่องแน่นอน หลังจากมื้อเช้าเสร็จสิ้นพี่คนโตจึงรีบโทรฯ หาน้องสาวคนรองทันที ที่ห้องนอนของศราวินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังลั่น อิชยารีบกดรับทันทีเมื่อรู้ว่าพี่สาวโทรมา
“ค่ะพี่ทิพย์”
“ไทม์อยู่ไหน”
ในจังหวะเดียวกันศราวินแต่งตัวเตรียมพร้อมออกไปทำงาน เขามองหน้าของหญิงสาวที่คุยโทรศัพท์ด้วยความสงสัย น้องไทม์ยังไม่ตอบพี่ทิพย์ว่าตนเองอยู่ที่ไหน เพราะพี่บิ๊กมองหน้าและทำสัญญาณมือว่าเขาจะลงไปรอข้างล่าง
“ลงไปก่อนนะคะ เดี๋ยวไทม์ตามไป”
ศราวินพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องนอนใหญ่ อิชยาถอนหายใจและหันมาสนใจปลายสายของพี่สาว
“พี่ทิพย์คะไทม์อยู่ที่บ้านพี่บิ๊กค่ะ”
“อ้าว! แล้วน้องไปทำอะไรที่นั่น”
“คือว่าพี่บิ๊กไม่สบาย ไทม์เลยมาดูแล”
“ในฐานะอะไรละ น้องไปดูแลคุณบิ๊กในฐานะอะไรกัน”
“เรื่องมันยาวค่ะ สายๆ ไทม์จะเข้าไปหาพี่ทิพย์นะคะ”
อัยยาไม่คาดคั้นอะไรอีก แค่รู้ว่าน้องสาวปลอดภัยก็สบายใจแล้ว หากเรื่องที่ทำให้หนักใจกลับมีเพิ่ม คนอย่างเธอมองอะไรไว้ไม่เคยพลาด...น้องสาวคนนี้มีใจให้กับพี่ชายของคนรักจริงๆ อิชยาใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่ถึงสิบนาที หญิงสาวสวมชุดที่มาเมื่อคืนอย่างเร็วไวก่อนจะวิ่งออกจากห้องลงมายังชั้นล่าง เมื่อมาถึงห้องอาหารคนที่รีบแสนรีบกลับหยุดกะทันหัน เมื่อเห็นว่าพี่บิ๊กไม่ได้อยู่คนเดียวที่ห้องอาหาร
“หนูไทม์”
คุณพิมพ์อรเรียกอิชยาด้วยความตกใจ หากท่านไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มให้หญิงสาวเหมือนที่ผ่านมา เจ้าของชื่อสูดลมหายใจเข้าปอดด้วยความตื่นเต้น เธอเหลือบมองศราวินที่นั่งยิ้มอยู่ด้วยความหมั่นไส้...ไม่คิดจะช่วยกันเลยหรือไง
“เอ่อ สวัสดีตอนเช้าค่ะ”
พี่บิ๊กหลุดหัวเราะเบาๆ อิชยาเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเห็นเขาขำใบหน้าหวานก็งอง้ำ พิมพ์อรไม่พูดอะไรท่านเรียกหญิงสาวมาร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน อิชยาเดินมาที่เก้าอี้ประจำของเธอ หากพิมพ์อรร้องเรียกไว้เสียก่อน
“หนูไทม์ ทำไมไม่มานั่งใกล้แม่ละจ๊ะ”
เพราะความเคยชินทำให้เธอหน้าเสีย อิชยาชินกับการนั่งเก้าอี้ตัวนี้มาสี่ปีเต็ม ที่บ้านวัชรประพันธ์พิมพ์อรจะนั่งหัวโต๊ะ ทางฝั่งซ้ายจะเป็นเวทิศ และอิชยา ส่วนฝั่งขวาจะเป็นลูกชายคนโตศราวิน
“มานั่งตรงที่บิวสิ”
น้ำเสียงของศราวินแฝงไปด้วยความเรียบเฉย หากอิชยาเฉยไม่ออกเธอไม่อยากนั่งทับที่ผู้ชายคนนี้ และเหมือนผู้ใหญ่จะเข้าใจ
“เอาเถอะลูก ถ้าไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไร”
ท่านไม่เร้าหรืออีกต่อไป อิชยานั่งลงที่เก้าอี้ประจำด้วยหัวใจที่เจ็บจี๊ด ภาพความทรงจำที่เคยมีเขามันแว้บเข้ามาในหัวอย่างห้ามไม่ได้ ความอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ของเวทิศที่เคยกอบกุมมือคู่นี้ตอนอยู่ด้วยกัน รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเขาที่เธอชอบหันไปมองตอนรับประทานอาหาร น้ำเสียงหยอกเย้าแกมทะลึ่งถูกผุดขึ้นมาให้คิดถึง
“ผมอิ่มแล้วครับขอตัวไปทำงานก่อน”
อิชยาหลุดจากภวังค์ของเวทิศเมื่อได้ยินเสียงของศราวินดังขึ้นมา เขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ
“บิ๊กจะรีบไปทำงานทำไมกัน เมื่อคืนนิ่มบอกว่าลูกตัวร้อนจัด”
“ผมหายแล้วครับ อีกอย่างมีงานเร่งเยอะแยะมากมาย บิ๊กหยุดทำไม่ได้”
“ถ้างั้นไปเถอะจ้ะ บุญรักษานะลูก”
แม่ให้พรลูกพร้อมรอยยิ้ม ศราวินไหว้มารดาก่อนจะเดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องอาหารทันที อิชยาลำคอตีบตัน ขอบตาร้อนผ่าว...นี่เขาเป็นอะไรไปอีก
“คุณแม่คะไทม์อิ่มแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
อิชยาเดินเร็วไวออกจากห้องอาหาร พิมพ์อรเห็นท่าทางของทั้งคู่แปลกๆ จึงนึกสงสัย ท่านเดินตามหญิงสาวไปอย่างเงียบๆ ศราวินเดินมาหยุดที่ลานจอดรถของบ้าน เขาเปิดประตูหลังรถโยนกระเป๋าทำงานและเอกสารมากมายเข้าไปในนั้น
“พี่บิ๊กคะ”
อิชยาตะโกนร้องเรียกเขา เธอวิ่งมาหาคนเย็นชาด้วยความกังวลใจ ศราวินมองน้องนางแล้วปวดใจ ปฏิกิริยาในห้องอาหารของเธอมันฟ้องว่าเขาไม่ได้อยู่ในใจของเธอเลยแม้แต่น้อย
“หืมม์” เขาขานรับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“พี่บิ๊กเป็นอะไรคะ”
“พี่ก็เป็นผู้ชายที่รักเธอยังไงล่ะ”
“พี่บิ๊ก...”
อิชยารู้สึกผิดเต็มๆ พี่บิ๊กเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะสวมกอดร่างระหงไว้แน่น ฝ่ามือใหญ่ลูบเรือนผมงามด้วยความรักล้นใจ เธอกอดตอบเขาไว้ด้วยความเสียใจไม่แพ้กัน
“พี่จะกอดเธอทุกเช้ายามตื่นนอน แก้มนุ่มๆ ของเธอพี่จะหอมมันทุกเช้าก่อนไปทำงาน”
ศราวินถอนกอดออกจากน้องนาง เขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หมายจะทำตามวาจาที่ลั่นไว้ จมูกคมหอมแก้มสาวเต็มฟอดด้วยความรัก คนถูกหอมหลับตาพริ้มซึมซับความอบอุ่น
“ไทม์ขอโทษค่ะ”
“เรื่องอะไร เธอไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ที่โต๊ะอาหารเมื่อกี้ ที่ไทม์เผลอนึกถึงพี่บิว”
“ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ และเธอก็ไม่ผิดที่จะนึกถึงบิว พี่ต่างหากที่ทนเห็นเธอกำลังจะร้องไห้ไม่ได้เลยเดินออกมาจะดีกว่า”
“ร้องไห้เหรอคะ”
อิชยาร้องถามด้วยความตกใจ นี่เธอจะร้องไห้เพราะนึกถึงเวทิศจริงๆ อย่างนั้นน่ะหรือ ทำไมไม่เห็นจะรู้ตัวเลยสักนิด
“อะไรที่พี่ทนไม่ได้พี่ก็มักจะเป็นแบบนี้เสมอ เดินออกมาจากมัน ไม่ทนเห็นไม่ขอรับรู้”
“พี่บิ๊กอย่าทำอย่างนี้กับไทม์ได้ไหม มีอะไรก็บอกไทม์สิคะ อย่าหนีไปจากกันแบบเมื่อกี้”
น้ำตาเอ่อคลอดวงตาคู่สวย น้ำเสียงอิชยาสั่นเครืออย่างห้ามไม่ได้ เธอเสียใจที่ทำเขาเสียใจ หัวใจรวดร้าวระบมช้ำเพราะเขาช่างดีแสนดี
“อย่าร้องไห้เลยนะ พี่ไม่ชอบเห็นน้ำตาเธอ”
“ไทม์ไม่ได้ร้องเพราะพี่บิว ไทม์ร้องเพราะพี่บิ๊ก”
“จะร้องเพราะใครก็ไม่ได้ พี่ไม่ชอบเห็นเมียตัวเองร้องไห้ขี้แง”
คำว่าเมียทำให้คนฟังแก้มแดงปลั่ง อิชยาตีแขนเขาด้วยความหมั่นไส้ ศราวินจำนนต่อดาวยั่วประจำใจ เขาให้น้องนางทำตามความต้องการของตนเอง
“ไปทำงานได้แล้วค่ะ อย่าลืมทานยาที่ไทม์ใส่ไว้ในกระเป๋านะคะ”
“อื้อ พี่ไปก่อนนะแล้วจะโทรหา”
อิชยาพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงใหญ่ เธอหอมแก้มเขาเต็มฟอดทั้งสองข้างก่อนจะจุมพิตที่ปากร้อนเบาๆ
“อย่าลืมนะคะ ห้ามเฉยชาใส่ไทม์อีก”
“สัญญาได้เลยว่าถ้าต่อไปอยู่กับเธอพี่จะไม่เฉยชา พี่จะกวนเธอทั้งวันทั้งคืน”
“บ้า!”
อิชยาหน้าแดงร้อนเพราะพิษคำพูดที่แฝงไปด้วยความทะลึ่งเต็มพิกัด ศราวินหัวเราะชอบใจก่อนจะขึ้นรถและขับออกจากบ้านหลังใหญ่ไปด้วยความสุขมหาศาล ทุกการกระทำของหนุ่มสาวมีสายตาอันหนักใจของพิมพ์อรมองดูอยู่ ท่านจับอกจะเป็นลมเมื่อลูกชายคนโตกับหนูไทม์คนรักของลูกชายคนรองมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน
“ตาบิ๊กลูก...ถ้าน้องกลับมาจะทำยังไง”
คนเป็นแม่ได้แต่คิดในใจด้วยความกลัดกลุ้ม เพราะอิชยารักเวทิศมากท่านจึงกลัวว่าถ้าลูกชายคนรองกลับมาทั้งคู่จะกลับมาคบกันอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นศราวินคงกลายเป็นคนเก็บตัวมากกว่าเก่า หรือไม่ก็อาจจะคิดสั้นฆ่าตัวตายก็ได้ และถ้าหากทั้งคู่ไม่กลับมาคบจริงๆ เวทิศล่ะจะเป็นอย่างไร รายนั้นคงอาละวาดบ้านแตกเป็นแน่ที่รู้ว่าพี่ชายในสายเลือดแย่งคนรักไปอย่างนี้
“ไทม์คบกับพี่บิ๊กค่ะ”
อัยยาที่เขียนเอกสารอยู่ถึงกับปากการ่วง ใบหน้าสวยเงยขึ้นมามองคนพูดด้วยแววตาที่ตกใจ อิชยายิ้มหวานก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับพี่สาว
“พี่ทิพย์ตกใจใช่ไหมล่า ไทม์ก็ตกใจเหมือนกัน”
“ไทม์แก้แค้นคุณบิ๊กอยู่ใช่ไหม”
“เปล่าแก้แค้นค่ะ”
“แล้วยังไง...รักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือคะ ไม่รู้เหมือนกัน...มารู้ตัวอีกทีก็คิดถึงกันเสียแล้ว”
“แต่เขาเป็นพี่ของนายบิว”
“แล้วยังไงคะ ต่อให้พี่บิวกลับมาไทม์ก็ไม่สน ผู้ชายดีๆ ที่ไหนเขาทิ้งคนรักไปในวันแต่งงานกัน...ฮึ! ยิ่งนึกถึงพี่บิวไทม์ยิ่งแค้นใจ”
“แล้วสิ่งที่คุณบิ๊กปิดไทม์ล่ะ เรื่องของบิว”
“ช่างเขาเถอะค่ะ อย่างที่พี่ทิพย์บอกนั่นแหละ เขาเป็นพี่น้องกัน ถ้าจะช่วยกันโกหกก็เป็นสิทธิ์ของเขา”
“ตามใจเราแล้วกัน แต่พี่ขอเตือนอะไรไว้อย่างจะได้ไหม”
“ว่ามาเลยค่ะ หลายอย่างก็ยังได้”
“ไทม์ได้เลือกทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง เลือกรักด้วยตัวเอง และเลือกคุณบิ๊กด้วยตัวของน้องเอง เพราะฉะนั้นเวลาผิดหวังหรือไม่ได้ดั่งใจอย่าทำนิสัยเหมือนที่ผ่านมาอีก อย่าทำให้ทุกคนที่รักไทม์ เป็นห่วงไทม์ต้องพลอยเสียใจไปด้วย”
“ไทม์ขอโทษค่ะพี่ทิพย์ มันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก”
“พี่ไม่ใช่คนที่ไทม์จะเอ่ยคำนี้ด้วย คุณป้าพิมพ์อรต่างหากที่ควรฟังคำนี้จากปากของน้อง”
อิชยาคิดตามและได้แต่เสียใจกับเรื่องราวที่ผ่านมา แม่ของเขาดีกับเธอมาเสมอ ตลอดระยะเวลาสี่ปีแสดงให้เห็นแล้วว่าท่านรักและห่วงใยเธอแค่ไหน แต่เธอสิที่เอาแต่ใจไร้เหตุผลไปเอง อิชยาเดินทางกลับมาที่บ้านวัชรประพันธ์อีกหน...เธออยากขอโทษท่านในสิ่งที่เกิดขึ้น
“ทำอะไรอยู่คะคุณแม่”
“อ้าวหนูไทม์”
พิมพ์อรยิ้มให้หญิงสาวก่อนจะหยุดเช็ดจานกระเบื้องโบราณที่นำออกมาจากตู้ไม้สัก อิชยาเดินเข้าไปใกล้ท่านก่อนจะหยิบผ้าอีกผืนมาช่วยเช็ดจานที่เหลือ
“ของเก่าของแก่ของคุณพ่อเขาน่ะลูก แม่เอาออกมาทำความสะอาดปีละสองหน”
“คุณแม่คงรักคุณพ่อมาก”
“ไม่มีวันไหนที่แม่ลืมเขาได้หรอกจ้ะ คุณพ่อน่ารักและแสนดีจนแม่แพ้ใจเขา”
แววตาท่านเต็มไปด้วยความสุขเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต อิชยาพลอยสุขตามไปด้วยยามได้ฟังเรื่องราวความรักที่แสนซึ้งของท่านทั้งสอง
“ตาบิ๊กนิสัยเหมือนพ่อเขาจ้ะ สุภาพ เยือกเย็นและพูดน้อย”
พิมพ์อรมองอิชยาและพูดต่อ หญิงสาวยิ้มรอฟังอย่างตั้งใจ
“เวลาแม่ทะเลาะกับพ่อทีไร ฝ่ายนั้นก็จะเดินหนีไปสงบสติอารมณ์สักพัก”
“คุณแม่อารมณ์ร้อนหรือคะ”
“มากๆ เลยล่ะจ้ะ แม่น่ะไม่แพ้หนูหรอกนะลูก”
นางหัวเราะออกมาเมื่อนึกถึงความใจร้อนที่เหมือนกับอิชยาไม่มีผิด หญิงสาวก็เช่นกัน เธอได้แต่ยิ้มบางๆ กับสิ่งที่ได้ยิน
“เอ่อ...คุณแม่คะ”
ท่านมองสบตาหญิงสาว ก่อนจะยิ้มให้ด้วยความโอบอ้อมอารีที่มีต่อเธอไม่เคยเปลี่ยน
“ไทม์ขอโทษค่ะ ขอโทษสำหรับเรื่องราวที่ผ่านมา ที่ไทม์ก้าวร้าวใส่คุณแม่ และทำตัวไม่ดีตลอดระยะเวลาหลังวันแต่งงาน คุณแม่ต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะไทม์ ฮือๆ ๆ”
พูดได้แค่นั้นคนสารภาพผิดก็ร้องไห้ราวทำนบแตก เมื่อนึกถึงวันงานแต่งทีไรสภาพจิตใจของอิชยาก็ย่ำแย่ถดถอยลงทุกที ในวันนั้นไม่มีเรื่องดีๆ ให้เธอได้จดจำเลยสักนิด พิมพ์อรยิ้มทั้งน้ำตาท่านดึงหญิงสาวเข้ามากอดด้วยความรัก
“อย่าร้องไห้เลยลูกจ๋า แม่รักหนูเหมือนลูกสาวของแม่แท้ๆ สิ่งที่หนูทำลงไปแม่เข้าใจคนที่ผิดคือตาบิวไม่ใช่หนู”
“บอกตรงๆ นะคะ ไทม์เกลียดเขา แค้นเขา และอยากจะฆ่าเขา”
“แม่รู้จ้ะ ถ้าเป็นสมัยสาวๆ แม่ก็ต้องทำแบบหนู”
“แต่ตอนนี้ไทม์ยอมแล้วค่ะ มันเหนื่อยกับการตามหาอะไรสักอย่างที่ไม่มีวันมองเห็น”
“หนูไทม์ แม่ต้องขอโทษแทนพี่เขาด้วยนะลูก”
“ไม่ค่ะเรื่องนี้คุณแม่ไม่ผิด แม่ชีเคยสอนไทม์ว่าในเรื่องไม่ดีมักจะมีเรื่องดีๆ แฝงอยู่ด้วยเสมอ เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ไทม์เจอสิ่งดีๆ”
“ตาบิ๊กใช่หรือเปล่าจ๊ะ”
“คุณแม่ทราบ...”
“มองแววตาพวกหนูแม่ก็พอจะเข้าใจจ้ะ หนูไทม์...คิดดีแล้วใช่ไหมลูก”
“ค่ะ ไทม์อยากเริ่มต้นใหม่กับคนที่เขารักไทม์”
“แล้วหนูรักพี่เขาหรือเปล่า”
คำถามของท่านเล่นเอาอิชยาตัวแข็งทื่อ จะบอกว่ารักในตอนนี้ก็คงไม่ได้ หากขาดเขาไปก็คงไม่ได้เหมือนกัน
“ไม่เป็นไรจ้ะ ยังไม่ต้องตอบแม่หรอกลูก เรื่องของตาบิวอาจจะทำหนูสับสน คบกันมานานย่อมผูกพันกันเป็นธรรมดา”
“ไทม์จะพยายามค่ะ อีกไม่นานไทม์จะรักพี่บิ๊กคนเดียว”
“ต่อให้หนูจะรักใครแม่ก็เคารพการตัดสินใจของหนูเสมอจ้ะ ลูกชายคนโตของแม่เป็นคนดี พี่เขาจะดูแลหนูจนผู้หญิงคนอื่นต้องอิจฉา”
“ไทม์ก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ”
อิชยายิ้มหวานก่อนจะหัวร่อต่อกระซิกกับมารดาของศราวิน ถามว่าลืมเวทิศได้หรือยัง...คำตอบในตอนนี้ก็คือไม่ หากผู้ชายคนนี้ค่อยๆ เลือนรางหายไปจากหัวใจดวงนี้ทีละนิดๆ ต่างกับอีกคนยิ่งนัก เขาค่อยๆ เข้ามาเติมเต็มหัวใจของเธอราวกับว่าไม่เคยรู้สึกขาดมาก่อน อิชยากับศราวินศึกษาดูใจกันตามประสาคนรัก ทั้งคู่เข้าตามตรอกออกตามประตู และอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
สนใจดาวน์โหลดนิยายได้ที่ https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiMzYxMTg5IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMTMxMjUiO30
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
