คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 เพื่อนใหม่
บทที่ 3
เพื่อนใหม่
เช้านี้เป็นอีกวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เป็นวันที่ปลอดโปล่งอีกวันหนึ่ง แดดอ่อนๆ ยามเช้า ช่วย กระตุ้นต่อมความสุขอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นดอกไม้หอมอบอวลทั่วบริเวณ อุทยานดอกไม้ในวัง ขึ้นชื่อว่าอยู่ในวัง อะไรๆ ก็ต้องมากกว่าชาวบ้านหลายเท่าเป็นธรรมดา สาวน้อยเดินเลื่อยเปื่อยไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนเมื่อรู้ตัวอีกทีก็พบว่าร่างตนเองอยู่ตรงหน้าประตูบานใหญ่ยักษ์ ประตูที่เหมือนขีดเส้นแบ่งแยกชนชั้นของกษัตริย์กับประชาชน หากพ้นประตูบานนี้...เธอจะระลึกตนเพียงแค่เป็นประชาชนธรรมดา เพราะเป็นกฎของราชวังหากรัชทายาทคนใครอายุยังไม่ครบ 18 ชันษา ก็ไม่อาจเปิดเผยฐานะได้ ปีนี้...ความจริงอีกแค่ไม่ถึง 2 อาทิตย์ องค์หญิง เฟวา กราเดรียน่า ก็จะเป็นที่รู้จักของชนชาว ฟารันเทีย แต่มันอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเธอก็เป็นได้หากนั่นจะยืดเวลาของความมีอิสรภาพและความเป็นตัวของตัวเองออกไปอีก อีกแค่หนึ่งนาทีก็ยังดี..
"เอญ่า...." สาวน้อยเรียกทูตตัวจ้อยประจำตัวออกมาจากถุงหนังใบใหญ่กว่าตัวเอญ่าเล็กน้อย
"เจ้าค่ะ....องค์หญิง" -'- เอญ่าขานรับเบื่อๆ
"ขอเงินหน่อยดิ" สาวน้อยแบมือแปร่ น้ำเสียงออดอ้อน ยิ้มแบบมีเลศนัย
--ก็ท่านพ่อนั่นแหละ ให้ยัยเอญ่ามาคอยดูแล เราก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่แม่คุณก็ตามคุมทุกกระเบียดนิ้ว แม้แต่เงินก็ไม่ให้พกซัก เบล่าร์ เดียว ยังดีที่ท่านพ่อยังทรงถ่ายทอดพลังเวทย์ให้ไม่งั้นฉันต้องบ้าตายแน่ๆ เลย-- เฟวา คิดอาฆาตในใจ
"คิดดูก่อน" เอญ่าทำท่าใคร่ครวญ ยิ่งรู้ว่า องค์หญิงจอมกวนเริ่มเดือดก็ยิ่งยั่วต่อไปอีก
"อยากได้ก็ตามมาแล้วกัน.." พูดจบเอญ่าจอมกวนก็บินหนีไปเบื้องหน้า
เฟวาอารมณ์ต่อไม่อยู่แล้ว วิ่งแหวกฝูกชนที่คลาคล่ำ ทั้งพ่อค้าแม่ค้าและนักท้องเที่ยว เฟวาเห็นร่างทูตน้อยอยู่ริบๆ ปากก็พลางตะโกนไล่เรียก วิ่งชนข้าวของผู้คน บ้างก็ล้มระเนระนาด --ไม่เอาแล้วงงเงินอะไรนั่น อย่างนี้ต้องลงโทษซะให้เข็ด วันนี้ขอฆ่ายัยทูตตัวแสบแค่นี้ก็พอแล้ว
ทั้งสองวิ่งไล่กันอย่างไม่ลดละ ฝ่ายบินก็ส่งคำยั่วมาไม่ขาดสาย ฝ่ายวิ่งตามก็แค้นจนไม่ยอมเหนื่อย " เอญ่า เธอจะหนีไปไหน หยุดเดี๋ยวนี้นะ" ไม่มีทาง ไม่มีประโยชน์ เอญ่า ยังคงบินว่อนไม่สนใจ
จนเส้นทางที่มีผู้คนคลาคล่ำก็เริ่มบางตาลง แรกๆ เฟวาก็ไม่ทันได้สังเกต จนพบว่าตัวเองวิ่งอยู่ในตรอกซอกสอย เฟวาเลี้ยวซ้ายบ้างแล้วเลี้ยวขวาบ้าง วกวน วนเวียน เห็นหลังเอญ่าอยู่ริบๆ เฟวาเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่เห็นใคร ซอยก็เล็กลงเรื่อยๆ ลึกขนาดไหนแล้วนะ แล้วยัยเอญ่าหายไปไหน เฟวาผ่อนความเร็วลง จากวิ่งเป็นเดิน จากเดินเป็นหยุด เสียงหอบถี่กระชั้น หน้าชักมืด จึงต้องก้มหน้าเอามือค้ำหัวเข่าไว้ --เหนื่อยจัง-- เสียงหอบยังดังแฮกๆ อยู่ เมื่อเริ่มคุมจังหวะการหายใจได้ระดับหนึ่งสายตาก็เริ่มสอดส่ายไปรอบๆ ตัว --ไม่ใช่ซอยแล้วแบบนี้ มันเรียกซอกแล้ว-- ข้อมูลถูกวิเคราะห์ออกมาเมื่อแรกเห็นสภาพรอบกาย
"ตึ๊ก...ตึ๊ก..ตึ๊ก" เสียงอะไร...เฟวา เอามือกุมหัวใจ สาวน้อยร่างบางผมสีเงิน เลื่อนลงมาปิดหน้า พลันก็ยืดกายขึ้นเงี่ยหูฟังเสียงที่ดังอยู่ไกลๆ เสียงเบายิ่งต้องเงียบฟัง สาวน้อยจึงเริ่มรู้สึกแล้วว่าเสียงปริศนานั่นเริ่มเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆ มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงหัวใจก็รัวดังระทึกยิ่งกว่าเสียงกลอง หัวใจแทบกระเดนออกมานอกร่างกาย เหงื่อเริ่มซึมชื้นไปทั่วร่าง แต่เธอกลับไม่มีเรี่ยวแรงจะกระดุกกระดิกตัวแม้แต่น้อย สายตาก็คอยจ้องตรงตำแหน่งที่คาดว่าร่างของเสียงนั้นจะปรากฏ
เสียงดังมาใกล้ขึ้น ดังขึ้น ชั่วอึดใจ ร่างสิงโตขนาดมหึมาก็ปรากฏ มันใหญ่จนไม่น่าเชื่อว่าเป็นเพียงสิงโต ตัวใหญ่ยาวเกือบ
เจ้าสิงโตตัวใหญ่ก้าวเข้ามาใกล้จนเกือบประชิดตัว หายใจฟืดๆ พ้นลมออกจมูกไปปะทะใบหน้าสาวน้อยจนผมข้างหน้ากระพือขึ้นสูง
มันยื่นหน้าเข้ามาสัมผัสลมหายใจของสาวน้อยเฟวาห่างไม่ถึงคืบ พลันสิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น........
เจ้าสิงโตหันหลังกลับไปอย่างคาดไม่ถึง มันเดินเหยียดย่ามเชื่องช้า ห่างไปไกลกว่าเขตอันตรายแล้ว สาวน้อยถอดหายใจเบาๆ คลายร่างที่เกรงติดผนังลง แต่ก็ยังไม่กล้าขยับร่าง
....."กรี๊ด...." เมื่อร่างเจ้าสิงโตที่ควรเลี้ยวหลบมุมลับไป กลับหันขวับรวดเร็ว กระโจนร่างแวกอากาศพุ่งวูบเข้าหมายปะตบร่างสาวน้อยอย่างรวดเร็ว เร็วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ภาพสุดท้ายที่เห็นคือเจ้าสิงโตกำลังแยกเขี้ยวพร้อมตะคุบตัวสาวน้อยตามสัญชาตญาณขอมัน ใบหน้าโหดเหี่ยวปรากฏอยู่เต็มตา ก่อนที่จะหลับตาปี๋ ไม่รับรู้ความเป็นไปต่อจากนี้
"กรี๊ด!!!!!" เสียงกรีดร้องหวีดหวาดน่ากลัว กลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ร่างใหญ่ยักษ์ดิ้นทุรนทุรานก็กระตุกร่างใหญ่สองสามครั้งแล้วสงบแน่นิ่ง แล้วซากศพเหม็นสาบคาว
ก็สลายกลายเป็นเพียงกองฝุ่นผงปลิวว่อนไปตามสายลม
เจ้าหญิงผู้รอดชีวิตลืมตามาทันเห็นเจ้าสิงโตยักษ์ดิ้นพล่าน ทั้งสงสาร ทั้งกลัว น่ากลัวที่สุด แขนขาชาไปหมด ร่างกายสั่นเทิ้มก่อนที่หยดน้ำตาจะไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"คุณเเป็นยังไงบ้าง" ชายหนุ่มผู้พิชิตสิงโตร้ายด้วยดาบเวทย์ เพียงดาบเดียวที่ปลิดชีพอสูรกายยักษ์
ชายหนุ่มชันเข่าลงข้างตัวหญิงสาวผู้สะอื้นไห้ และเป็นอีกครั้งที่หญิงสาวผู้นี้โผเข้ากอดเขา และเป็นอีกครั้งที่เห็นหยาดน้ำตาของเธอ
"นายช่วยฉันไว้" ตัวสั่นเทิ้ม เสียงหญิงสาวสะอึกสะอื้นไม่ค่อยเป็นภาษา แต่ยังพอจับใจความได้
"มันเป็นเวทย์มนต์" ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรเพื่อเป็นการปลอบใจ ทั้งร่างที่กอดรัดยึดเหนี่ยวก็ไม่ยอมคลายลง
"ฉันกลัว...มันน่ากลัวเหลือเกิน" น้ำเสียงสั่นเครือสาวน้อยยังไม่หายกลัว อ้อมกอดอันแสนอบอุ่น ไหล่กว้างที่ปกป้องเธอไว้ความรู้สึกที่ไม่อยากปล่อยให้ผ่านไป
"ไม่มีอะไรแล้วครับ" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
"ขอบคุณนายจริงๆ" สาวน้อยคลายตัวออกจากอ้อมแขน ยกมือขึ้นปาดน้ำตา
คราแรกที่เห็นดวงหน้าคมสัน จมูกโด่งงองุ้มเล็กน้อย ตาคมเหมือนเหยี่ยว ทั้งคิ้วเรียวดำเข้มเท่าๆกับผมสีดำขลับกับผิวขาวดังหิมะ ดวงหน้าแลดูสงบ แผ่มาถึงคนมองเห็นให้ใจสบายขึ้นมาก หากแต่ดวงหน้าคมเข้มนั้นกลับดูคุ้นๆ พิกล อกหนาแน่นนั้นก็เหมือนเคยได้สัมผัสจากไหนซักแห่ง
"นี่นาย...นายคนนั้นใช่มั๊ย" เฟวานึกได้ถึงวันที่เธอถูกลวนลาม
"คุณ.." เอลล์ก็อึ้งไปเช่นกัน
"คือวันนั้นผมไม่ได้.." ยังไม่ทันจบสาวน้อยก็พูดสวนขึ้นมา
"คราวนี้...นายช่วยฉันไว้ ฉันจะลืมเรื่องวันนั้นแล้วถือว่าวันนี้นายได้ถ่ายโทษแล้ว จากนี้ไปเราไม่มีอะไรตกค้าง ฉันไม่อยากฟังเหตุผลจากนาย" หญิงสาวพูดด้วยท่าทีสงบ ลุกขึ้นแล้วก็เดินจากไปเฉยๆ
"คุณ..คุณ.." เอลล์วิ่งวิ่งตามสาวน้อยผู้ที่สติยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"คุณจะไปไหน" ทันทีที่มาถึงตัว เกือบเอามือไปจับที่ต้นแขนหญิงสาว หากเขายังยั้ยมือไว้ทัน
"ฉันจะกลับวั..ง..เอ่อ..บ้าน" เกือบไปแล้ว หญิงสาวลอบถอนหายใจ
"ให้ผมไปส่งมั๊ยครับ" ชายหนุ่มเสนอตัวอย่างสุภาพ
"ไม่ต้อง!"
"ถ้างั้นก็แล้วแต่คุณ" ชายหนุ่มหยุดเดิน เฟวายังเดินจ้ำอ้าวต่อไป
"ถ้าคุณมั่นใจว่า...คุณจะออกไปโดยไม่หลงทางอีก" ชายหนุ่มขยับรอยยิ้ม ยามที่ร่างสาวน้อยชงัก มองซ้ายมองขวา ยังไงๆ ก็ไม่คุ้นตา ถอนใจแล้วก็จำใจพูด
"ก็ได้ถ้านายไม่คิดเป็นบุญคุณ" สาวน้อยยังวางท่าเช่นเคย หากท่าที่ตั้งไว้กลับหมดไปนานแล้ว
เอลล์เดินขึ้นมาตีคู่ เยื้องๆ ไปข้างหน้าเล็กน้อย อย่างไม่สนใจท่าทางฮึดฮัดของแม่สาวจอมกวนนั่น
ไม่นานชายหนุ่มก็นำทางมาจนถึงถนนหลักของเมือง ด้านเฟวา ก็ถอนอกโล่งใจที่ในที่สุดก็หลุดพ้นไปจากผู้ชายคนนี้
"ขอบใจ...ไม่ยักเคยเห็นนาย จะรู้ไว้ว่านายอยู่แถวนี้ วันหน้าจะได้ไม่ผ่านมาอีก"
"ครับ ผมเอลล์นะครับ...แล้วคณ......"
"ใครถาม" สาวน้อยสวนทันควัน
"กลับไปซะ" เฟวาไม่รีรอ รีบเดินจ้ำอ้าวออกห่างมาทันที สักพักจึงหันกลับไปดูว่าชายนามว่า เอลล์ หายไปจากที่ตรงนั้นหรือยัง
"นายตามฉันมาทำไม" เฟวาสะดุ้งเล็กน้อย ก็ใครจะไปรู้ว่าเขาจะเดินตามมา
"เปล่า" เอลล์ตอบซื่อๆ
"จะบ้าหรือไง ก็นายเดินตามฉันมาเห็นๆ" หญิงสาวปั้นหน้างอใส่
"ก็ผมกำลังจะกลับบ้านผมหนิ" เอลล์ยังทำหน้าซื่อ
"ถ้างั้นนายไปก่อนแล้วกัน" เฟวากอดอก ออกคำสั่งน้ำเสียงหงุดหงิด
"ลาก่อนนะครับ" เอลล์ค่อมหัวเล็กน้อยก่อนสาวเท้าห่างออกไปอย่างนิ่งสงบ
"ลาขาดยะ" เฟวา ตะโกนไล่หลังชายหนุ่มไป หากนั่นกลับทำให้เอลล์ได้แต่กลั้นหัวเราะแทบไม่ไหว คงเป็นเพราะเขาโล่งใจที่ได้เห็นสีหน้าโมโหของหญิงผู้นั้น อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้มีอะไรในใจมากมายอย่างที่เขาคิดไว้
ความคิดเห็น