ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เปิดม่าน
อากาศของยามเลิกงานมันเป็นสุขเป็นพิเศษ สาวน้อยสาวใหญ่ในออฟฟิศทั้ง หลายพากันกรู ููออกจากที่ทำงานราวกับผึ้งแตกรัง แต่ก็ไม่ได้กลับรังแต่อย่างใด เพราะ ว่านี่เป็นวันศุกร์ ...วันที่มีวัน เสาร์และ วันอาทิตย์รองรับให้ได้คลายเครียดจากตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลายเดินขวักไขว่ ต่างก็มีกิจกรรมที่คิดจะทำกันและก็มีไม่น้อยที่เลือกจะไปเฮฮากันเพื่อน ผ่อนคลาย ด้วยการไปกิน ไปดื่ม หรือไปร้องเพลงก่อนกลับ บ้าน...
ที่หน้าร้าน ' Bloody Rose Club' มีหญิงสาวในชุดเดรสสีดำ มีเข็มกลัดรูปกุหลาบกลัดอยู่ที่ปก เสื้อ อันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสถานะ่ของผู้ที่ยืนอยู่ว่าเป็นบุคคลระดับ v.i.p. ของคลับนี้ กำลังรอยาม ที่แสงสุดท้ายลับขอบฟ้า ทันทีที่พระอาทิตย์ตกดิน หญิงสาวก็เดินไปไขกุญแจคลับ พร้อมกับแสง ไฟสีชาที่สว่าง พรึบ! ขึ้นมา เธอเดินไปนั่งรอที่ล็อบบี้มองผู้คนที่เดินผ่าน ไปมา ข้างนอกและผู้ที่เดินเข้ามาในคลับ เพื่อค้นหาบุคคลระดับ v.i.p. ของคลับที่เหลือ
"มาถึงเร็วจริงนะ...ดาเรียน่า"
เสียงทักทายทำให้คนที่ถูกเอ่ยชื่อหันไปยิ้มให้ ดาเรียน่า...หญิงสาวที่อายุน้อยพอ ๆ กับผู้ที่เดินเข้า มาทัก มีผิวสีขาวอมชมพูโดยไม่ต้องแต่งแต้ม มีดวงตาที่งดงาม นัยน์ตาอันสดใสแสดงถึงการเป็น คนอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจและมักจะมีร้อยยิ้มแต่งแต้มใบหน้าไว้เสมอ เช่นเดียวกันกับผู้ที่เดินเข้ามาทัก เกรซ... หญิงสาว ที่มีลักษณะละม้าย คล้ายกับดาเรียน่า ใส่ชุึดแบบเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่เธอ มีความสูงที่มากกว่าดาเรียน่าและในเรื่องของนิสัยที่แม่คุณ ' แสบ เฮี้ยว เปรี้ยวโหดมาก '
แต่ยังไม่ทันที่สองสาวจะทันพูดจาอะไร สาวร่างเพรียวสองคน ในชุดเดรสสีขาวแทบดำแบบ กระดุมผ่าหน้าและมีเข็มกลัดรูปกุหลาบกลัดอยู่ที่ปกเสื้อ ทั้งสองสาวเป็นฝาแฝด กันแทบจะแยกกัน ไม่ออกเลยว่าใครเป็นใครนอกจากสังเกตเอาจากสี ของดวงตา เพราะแฝดผู้พี่ซึ่งมีชื่อว่า คาริน นั้นมีนัยน์ตาสีสนิมเหล็ก ส่วนแฝดผู้น้องมีชื่อว่า ซาร่า ซึ่งมีนัยน์ตาสีผักตบ
คารินสอดส่ายสายตาไปทั่วแล้วหันมาถามกับสามสาวที่เหลือว่า
" ทำไม มารีอา มาช้าจัง "
" ก็นั่นนะสิวันนี้เรามีข่าวสำคัญสะด้วย " ดาเรียน่าตอบอย่างกระปอดกระแปด
" มันสำคัญขนาดไหนกันยะ " หญิงสาวคนสุดท้ายมาพร้อมกับคำพูดที่คนที่มาสายไม่ควรพูด เป็นอย่างยิ่ง สาวคนนี้มาในชุดเดรสเช่นเดียวกับสี่สาว มีเรือนผมสีดำที่หยักเป็นลอนในตอนปลาย
และความงามที่มาพร้อมกับรูปร่างอันเพอร์เฟค และห้อยตุ้มหูรูปกุหลาบ เธอคนนี้คือ มารีอา หรือ
แมรี่ ที่สี่สาวรอกัน
" แหม...มาก็ช้าแล้วยังจามาทำเสียงยังงั้นอีก " เกรซพูด
ส่งผลให้คนที่มาเป็นคนสุดท้ายหน้างอเป็นจวักและเตรียมที่จะโต้กลับเต็มที่ แต่สงครามขนาดย่อมยังไม่ทันเริ่ม
" พอเถอะนะ เราขึ้นห้องกันดีกว่าจะได้คุยเรื่องข่าววันนี้กัน" เป็นเสียงห้ามศึกจากดาเรียน่า
ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับความเอ็นดูมากเป็นพิเศษ
" ก้อด้าย เห็นแก่ดาเรียนะแมรี่จายอมหยุดก้อได้ " ทั้งห้าสาวจึงได้เดินขึ้นบันไดทางด้านข้าง ของล็อบบี้ไปยังห้องทำงาน ซึ่งก็คือ ห้องพักของบุคคลระดับ v.i.p. นั่งเอง
เมื่อเข้ามาถึงห้องแล้ว ทุกคนต่างกระจายกันไปนั่งยังที่ต่าง ๆ ของโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางห้อง ประชุม โดยมีมารีอานั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ซึ่งรอบ ๆ ห้องถูกตกแต่งด้วยด้วยกุหลาบแดง มีโคมไฟที่แขวนเพดานอยู่กลางห้องเพียงอันเดียวทำให้สีของโทนห้องเป็นสีชา ที่ดูอ่อนสบายตา
ซึ่่งภายในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าใช้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมาพักผ่อนหรือมาทำ งานก็ตาม
ทันที่มารีอานั่งลงจึงได้เอ่ยปากขึ้น
" เอาละ ดาเรียเจ้ามีข่าวอะไรจะมารายงานเรา ถึงได้เรียกประชุมก่อนกำหนดอย่างนี้"
" แมรี่เจ้าน่าจะสัมผัสถึงพลังของพวกไลเคนได้นี่ มันรุกล้ำอาณาเขตของเราเข้ามาเมื่อคืน
ซ้ำยังสังหารคนของเราตายไปคนนึง เราควรจะออกล่ามันได้แล้ว"
" แล้วยังมีข่าวอะไรอีก" มารีอายังคงพูดสงบนิ่ง
"มันทิ้งข้อความไว้ให้กับแมรี่น่ะ แต่มันยังไม่รู้ถึงตัวตนของพวกเรา มันแค่จ่าหน้าถึงหัวหน้า
ของเหล่าแวมไพร์เท่านั้น"
พูดจบดาเรียน่าก็ยื่นซองจดหมายให้กับมารีอา มารีอาเปิดอ่านเนื้อหาภายใน
' ถึง...ท่านหัวหน้าของเหล่าแวมไพร์ผู้แสนอ่อนแอ
ข้า อเล็กซ์ ผู้นำของเผ่าไลเคนมาแสดงให้เห็นแล้วว่าเผ่าพันธุ์เจ้ามิใช่จ้าวแห่งรัตติกาล
แต่คือพวกเรา ท่านหัวหน้า...ท่านกลัวแสงอาทิตย์มากขนาดนี้เชียวรึช่างอ่อนแอซะจริง ฮึ...ฮึ '
ิ่้่ พรึบ! ทันทีที่มารีอาอ่านข้อความสิ้นสุด กระดาษก็ลุกเป็นไฟในทันที เพล้ง ! เสียงแจกัน ที่ถูกจัดวางเอาไว้รอบห้องแตกทันทีที่ไฟลุก เช่นกันพร้อมกับใบหน้าของมารีอาที่เงยขึ้นพร้อมกับ
นัยน์ตาที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดงจิตคุกคามที่ปล่อยออกจนทำให้คนในห้องถึงกับเสียวสันหลัง
"ซาร่า เจ้าคุมเมฆในคืนนี้ให้บดบังพระจันทร์ซะ เตรียมตัวออกล่าได้"
แน่นอนว่าถ้าคนธรรมดามาได้ยินการสนทนาของสาว ๆ ในห้องนี้คงถึงกับช็อก เพราะเป็นเรื่อง ที่มนุษย์เองไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงในโลก ที่จริงแล้วทั้งห้าสาวนี้เป็นแวมไพร์ระดับสูง โดยมีมารีอาเป็น
หัวหน้าและยังเป็นแวมไพร์ตนแรก แต่คนล้วนมีพลังพิเศษไม่กลัวไม่กางเขนหรือแม้แต่
แสงอาทิตย์ ผิดกับแวมไพร์ตนอื่น ๆ ที่มักจะกลัวแสงอาทิตย์และอาจทำให้ถึงตายได้
ณ บ้านหลังหนึ่งที่ดูใหญ่โตและหรูหรามาก มีกลุ่มชายหน้าตาดีห้าคนกำลังนั่งหัวเราะกันยก
ใหญ่ แน่นอนชายทั้งห้าคนนี้ไม่ใช่มนุษย์แต่คือ ไลเคนระดับสูง
" ข้าว่าป่านนี้ ทางหัวหน้าแวมไพร์คงจะได้รับข้อความแล้วล่ะ คงจะแทบคลั่งแน่ " เป็นเสียงของชายหนุ่มที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมีผมสีบรอนดวงหน้าคมเข้มและมีนัยน์ตาที่ส่อถึงความ เจ้าเล่ห์เอาไว้ และเขาก็คือ อเล็กซ์ ผู้นำของเผ่าไลเคน
"ใช่ ๆ เสียลูกน้อง แถมยังโดนหยามหน้าอีก" ชายอีกสี่คนที่เหลือพูดออกมาเหมือนกัน อย่าง สนุกครื้นเครง หนุ่มคนที่นั่งทางขวามีชื่อว่า ริช มีใบหน้าที่ดูอ่อนโยนและผมสีดำ ส่วนคนที่นั่งข้างกันนั้นคือ เอสเน่ ชายหนุ่มที่ใบอันแสนเข้มและเป็นบาดใจสาว ๆมาก ส่วนคนที่ นั่งอยู่ทางซ้ายสองคนอันเป็นฝาแฝดกัน คือ ไมเคิลกับแจ็ค
" เราคงจะต้องเตรียมพร้อมรับแขกซะหน่อยแล้วซิเนี่ย"
" ใช่ริช ถ้าแขกเรามาถึงเมื่อไรก็ฆ่าทิ้งซะ เพื่อความยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์เรา "
ทางด้านของมารีอา เมื่อสิ้นคำสั่งดวงตาของซาร่าเปลี่ยนเป็นสีขาว และดวงจันทร์ที่เจิดจรัสยาม
ค่ำคืนก็ต้องถูกบดบังจากกลุ่มเมฆที่มาจากอำนาจของแวมไพร์สาวนั่นเอง
" การล่าครั้งนี้ไม่มีปรานี พวกไลเคนเป็นเสี้ยนหนามพวกเรามานานคืนนี้เราจะ สังหารพวก ระดับสูงมันให้หมด เราจะใช้พลังจิตตามหาพวกมัน ฮึ พวกมันคงจะยังไม่รู้ถึงพลังของพวกเราหรอก
และจดหมายนี่ก็จะนำเราไปหาพวกมัน"
ห้าสาวเดินออกมาจากผับท่ามกลางสายตาของชายหนุ่มที่มองตามกัน เมื่อทุกคนเดินมาถึงสวนสาธารณะที่ไม่มีผู้คนแล้ว มารีอาก็หลับตาลงแล้วเริ่มเพ่งจิตตาม กลิ่นอายของผู้ส่งสารว่าอยู่แห่งใด จนกระทั่งมาหยุดลง ณ บ้านหลังหนึ่งที่มารีอาส่งจิตเข้าไปไม่ได้ เนื่องจากมีพลังป้องกัน
"ข้าพบแล้ว ตามมา" เมื่อพูดจบมารีอา ดาเรียน่า และเกรซก็มีปีกของค้างคาวกางสยายอยู่
ด้านหลัง ส่วนคารินและซาร่ามีปีกขนนกสีขาวกางขึ้น ทั้งห้าคนกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า
บินลับไปบนหมู่เมฆ
หลายเดินขวักไขว่ ต่างก็มีกิจกรรมที่คิดจะทำกันและก็มีไม่น้อยที่เลือกจะไปเฮฮากันเพื่อน ผ่อนคลาย ด้วยการไปกิน ไปดื่ม หรือไปร้องเพลงก่อนกลับ บ้าน...
ที่หน้าร้าน ' Bloody Rose Club' มีหญิงสาวในชุดเดรสสีดำ มีเข็มกลัดรูปกุหลาบกลัดอยู่ที่ปก เสื้อ อันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสถานะ่ของผู้ที่ยืนอยู่ว่าเป็นบุคคลระดับ v.i.p. ของคลับนี้ กำลังรอยาม ที่แสงสุดท้ายลับขอบฟ้า ทันทีที่พระอาทิตย์ตกดิน หญิงสาวก็เดินไปไขกุญแจคลับ พร้อมกับแสง ไฟสีชาที่สว่าง พรึบ! ขึ้นมา เธอเดินไปนั่งรอที่ล็อบบี้มองผู้คนที่เดินผ่าน ไปมา ข้างนอกและผู้ที่เดินเข้ามาในคลับ เพื่อค้นหาบุคคลระดับ v.i.p. ของคลับที่เหลือ
"มาถึงเร็วจริงนะ...ดาเรียน่า"
เสียงทักทายทำให้คนที่ถูกเอ่ยชื่อหันไปยิ้มให้ ดาเรียน่า...หญิงสาวที่อายุน้อยพอ ๆ กับผู้ที่เดินเข้า มาทัก มีผิวสีขาวอมชมพูโดยไม่ต้องแต่งแต้ม มีดวงตาที่งดงาม นัยน์ตาอันสดใสแสดงถึงการเป็น คนอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจและมักจะมีร้อยยิ้มแต่งแต้มใบหน้าไว้เสมอ เช่นเดียวกันกับผู้ที่เดินเข้ามาทัก เกรซ... หญิงสาว ที่มีลักษณะละม้าย คล้ายกับดาเรียน่า ใส่ชุึดแบบเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่เธอ มีความสูงที่มากกว่าดาเรียน่าและในเรื่องของนิสัยที่แม่คุณ ' แสบ เฮี้ยว เปรี้ยวโหดมาก '
แต่ยังไม่ทันที่สองสาวจะทันพูดจาอะไร สาวร่างเพรียวสองคน ในชุดเดรสสีขาวแทบดำแบบ กระดุมผ่าหน้าและมีเข็มกลัดรูปกุหลาบกลัดอยู่ที่ปกเสื้อ ทั้งสองสาวเป็นฝาแฝด กันแทบจะแยกกัน ไม่ออกเลยว่าใครเป็นใครนอกจากสังเกตเอาจากสี ของดวงตา เพราะแฝดผู้พี่ซึ่งมีชื่อว่า คาริน นั้นมีนัยน์ตาสีสนิมเหล็ก ส่วนแฝดผู้น้องมีชื่อว่า ซาร่า ซึ่งมีนัยน์ตาสีผักตบ
คารินสอดส่ายสายตาไปทั่วแล้วหันมาถามกับสามสาวที่เหลือว่า
" ทำไม มารีอา มาช้าจัง "
" ก็นั่นนะสิวันนี้เรามีข่าวสำคัญสะด้วย " ดาเรียน่าตอบอย่างกระปอดกระแปด
" มันสำคัญขนาดไหนกันยะ " หญิงสาวคนสุดท้ายมาพร้อมกับคำพูดที่คนที่มาสายไม่ควรพูด เป็นอย่างยิ่ง สาวคนนี้มาในชุดเดรสเช่นเดียวกับสี่สาว มีเรือนผมสีดำที่หยักเป็นลอนในตอนปลาย
และความงามที่มาพร้อมกับรูปร่างอันเพอร์เฟค และห้อยตุ้มหูรูปกุหลาบ เธอคนนี้คือ มารีอา หรือ
แมรี่ ที่สี่สาวรอกัน
" แหม...มาก็ช้าแล้วยังจามาทำเสียงยังงั้นอีก " เกรซพูด
ส่งผลให้คนที่มาเป็นคนสุดท้ายหน้างอเป็นจวักและเตรียมที่จะโต้กลับเต็มที่ แต่สงครามขนาดย่อมยังไม่ทันเริ่ม
" พอเถอะนะ เราขึ้นห้องกันดีกว่าจะได้คุยเรื่องข่าววันนี้กัน" เป็นเสียงห้ามศึกจากดาเรียน่า
ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับความเอ็นดูมากเป็นพิเศษ
" ก้อด้าย เห็นแก่ดาเรียนะแมรี่จายอมหยุดก้อได้ " ทั้งห้าสาวจึงได้เดินขึ้นบันไดทางด้านข้าง ของล็อบบี้ไปยังห้องทำงาน ซึ่งก็คือ ห้องพักของบุคคลระดับ v.i.p. นั่งเอง
เมื่อเข้ามาถึงห้องแล้ว ทุกคนต่างกระจายกันไปนั่งยังที่ต่าง ๆ ของโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางห้อง ประชุม โดยมีมารีอานั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ซึ่งรอบ ๆ ห้องถูกตกแต่งด้วยด้วยกุหลาบแดง มีโคมไฟที่แขวนเพดานอยู่กลางห้องเพียงอันเดียวทำให้สีของโทนห้องเป็นสีชา ที่ดูอ่อนสบายตา
ซึ่่งภายในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าใช้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมาพักผ่อนหรือมาทำ งานก็ตาม
ทันที่มารีอานั่งลงจึงได้เอ่ยปากขึ้น
" เอาละ ดาเรียเจ้ามีข่าวอะไรจะมารายงานเรา ถึงได้เรียกประชุมก่อนกำหนดอย่างนี้"
" แมรี่เจ้าน่าจะสัมผัสถึงพลังของพวกไลเคนได้นี่ มันรุกล้ำอาณาเขตของเราเข้ามาเมื่อคืน
ซ้ำยังสังหารคนของเราตายไปคนนึง เราควรจะออกล่ามันได้แล้ว"
" แล้วยังมีข่าวอะไรอีก" มารีอายังคงพูดสงบนิ่ง
"มันทิ้งข้อความไว้ให้กับแมรี่น่ะ แต่มันยังไม่รู้ถึงตัวตนของพวกเรา มันแค่จ่าหน้าถึงหัวหน้า
ของเหล่าแวมไพร์เท่านั้น"
พูดจบดาเรียน่าก็ยื่นซองจดหมายให้กับมารีอา มารีอาเปิดอ่านเนื้อหาภายใน
' ถึง...ท่านหัวหน้าของเหล่าแวมไพร์ผู้แสนอ่อนแอ
ข้า อเล็กซ์ ผู้นำของเผ่าไลเคนมาแสดงให้เห็นแล้วว่าเผ่าพันธุ์เจ้ามิใช่จ้าวแห่งรัตติกาล
แต่คือพวกเรา ท่านหัวหน้า...ท่านกลัวแสงอาทิตย์มากขนาดนี้เชียวรึช่างอ่อนแอซะจริง ฮึ...ฮึ '
ิ่้่ พรึบ! ทันทีที่มารีอาอ่านข้อความสิ้นสุด กระดาษก็ลุกเป็นไฟในทันที เพล้ง ! เสียงแจกัน ที่ถูกจัดวางเอาไว้รอบห้องแตกทันทีที่ไฟลุก เช่นกันพร้อมกับใบหน้าของมารีอาที่เงยขึ้นพร้อมกับ
นัยน์ตาที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดงจิตคุกคามที่ปล่อยออกจนทำให้คนในห้องถึงกับเสียวสันหลัง
"ซาร่า เจ้าคุมเมฆในคืนนี้ให้บดบังพระจันทร์ซะ เตรียมตัวออกล่าได้"
แน่นอนว่าถ้าคนธรรมดามาได้ยินการสนทนาของสาว ๆ ในห้องนี้คงถึงกับช็อก เพราะเป็นเรื่อง ที่มนุษย์เองไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงในโลก ที่จริงแล้วทั้งห้าสาวนี้เป็นแวมไพร์ระดับสูง โดยมีมารีอาเป็น
หัวหน้าและยังเป็นแวมไพร์ตนแรก แต่คนล้วนมีพลังพิเศษไม่กลัวไม่กางเขนหรือแม้แต่
แสงอาทิตย์ ผิดกับแวมไพร์ตนอื่น ๆ ที่มักจะกลัวแสงอาทิตย์และอาจทำให้ถึงตายได้
ณ บ้านหลังหนึ่งที่ดูใหญ่โตและหรูหรามาก มีกลุ่มชายหน้าตาดีห้าคนกำลังนั่งหัวเราะกันยก
ใหญ่ แน่นอนชายทั้งห้าคนนี้ไม่ใช่มนุษย์แต่คือ ไลเคนระดับสูง
" ข้าว่าป่านนี้ ทางหัวหน้าแวมไพร์คงจะได้รับข้อความแล้วล่ะ คงจะแทบคลั่งแน่ " เป็นเสียงของชายหนุ่มที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมีผมสีบรอนดวงหน้าคมเข้มและมีนัยน์ตาที่ส่อถึงความ เจ้าเล่ห์เอาไว้ และเขาก็คือ อเล็กซ์ ผู้นำของเผ่าไลเคน
"ใช่ ๆ เสียลูกน้อง แถมยังโดนหยามหน้าอีก" ชายอีกสี่คนที่เหลือพูดออกมาเหมือนกัน อย่าง สนุกครื้นเครง หนุ่มคนที่นั่งทางขวามีชื่อว่า ริช มีใบหน้าที่ดูอ่อนโยนและผมสีดำ ส่วนคนที่นั่งข้างกันนั้นคือ เอสเน่ ชายหนุ่มที่ใบอันแสนเข้มและเป็นบาดใจสาว ๆมาก ส่วนคนที่ นั่งอยู่ทางซ้ายสองคนอันเป็นฝาแฝดกัน คือ ไมเคิลกับแจ็ค
" เราคงจะต้องเตรียมพร้อมรับแขกซะหน่อยแล้วซิเนี่ย"
" ใช่ริช ถ้าแขกเรามาถึงเมื่อไรก็ฆ่าทิ้งซะ เพื่อความยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์เรา "
ทางด้านของมารีอา เมื่อสิ้นคำสั่งดวงตาของซาร่าเปลี่ยนเป็นสีขาว และดวงจันทร์ที่เจิดจรัสยาม
ค่ำคืนก็ต้องถูกบดบังจากกลุ่มเมฆที่มาจากอำนาจของแวมไพร์สาวนั่นเอง
" การล่าครั้งนี้ไม่มีปรานี พวกไลเคนเป็นเสี้ยนหนามพวกเรามานานคืนนี้เราจะ สังหารพวก ระดับสูงมันให้หมด เราจะใช้พลังจิตตามหาพวกมัน ฮึ พวกมันคงจะยังไม่รู้ถึงพลังของพวกเราหรอก
และจดหมายนี่ก็จะนำเราไปหาพวกมัน"
ห้าสาวเดินออกมาจากผับท่ามกลางสายตาของชายหนุ่มที่มองตามกัน เมื่อทุกคนเดินมาถึงสวนสาธารณะที่ไม่มีผู้คนแล้ว มารีอาก็หลับตาลงแล้วเริ่มเพ่งจิตตาม กลิ่นอายของผู้ส่งสารว่าอยู่แห่งใด จนกระทั่งมาหยุดลง ณ บ้านหลังหนึ่งที่มารีอาส่งจิตเข้าไปไม่ได้ เนื่องจากมีพลังป้องกัน
"ข้าพบแล้ว ตามมา" เมื่อพูดจบมารีอา ดาเรียน่า และเกรซก็มีปีกของค้างคาวกางสยายอยู่
ด้านหลัง ส่วนคารินและซาร่ามีปีกขนนกสีขาวกางขึ้น ทั้งห้าคนกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า
บินลับไปบนหมู่เมฆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น