ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Rockman ZXA] The Promised

    ลำดับตอนที่ #3 : -Part 3-

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 51


    นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย!?”

    วานที่จู่ๆความซวยก็หล่นใส่ถึงกับร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษา ซึ่งก็เป็นปฏิกิริยาที่คนคาดเอาไว้แล้ว

    ก็อยู่ๆต้องมานั่งแท่นผู้บัญชาการการ์เดี้ยนที่เป็นเหมือนหัวใจของกองกำลัง แถมนี่ยังเป็นงานที่ต้องอาศัยความฉลาดปราดเปรื่องและความสุขุมรอบคอบอย่างมาก เพราะขืนสั่งการพลาดมีหวังได้เกิดโศกนาตกรรมขึ้นแน่...

    ...แล้วจะไม่ตกใจได้ยังไง...

    แพรีเขาขอลาหยุดน่ะสิ

    คุณโอเปอเรเตอร์ผู้แสนดีก็ตอบผิดประเด็นแบบจงใจแกล้งกันซะงั้น

    แน่นอนว่าเจ้าคนดวงซวยก็โวยขึ้นทันที

    ไม่ใช่เรื่องนั้น! แต่เป็นเรื่องที่ทำไมผมต้องมาเป็นหัวหน้าต่างหาก!?”

    ก็เพราะเธอเหมาะสมที่สุดน่ะสิ

    ...เห็นด้วย...

    เสียงสนับสนุนจากด้านหลังทำเอาวานที่กำลังจะอ้าปากเถียงหันขวับไปมองเรปลิรอยด์สาวผมเขียวที่สวมชุดของเขา...

    เธอคือแพนโดร่า อดีตศัตรูที่เคยฆ่าซิลเว...รุ่นพี่ของเขากับเอล แต่หลังจากที่เขาช่วยเธอเอาไว้ แม่มดสาวก็หันมาทำงานร่วมกับกลุ่มการ์เดี้ยน แถมยังเกาะติดเขายิ่งกว่าตุ๊กแก...

    แพนโดร่า...เธอจะไม่พูดก็ได้นะ...

    แต่ยังไงก็ต้องเป็นอยู่ดีนี่ ไม่เห็นต่างกันเลย...

    เธอพูดขวานผ่าซากทำเอาวานสำลักอากาศ พวกโอเปอเรเตอร์ยกนิ้วโป้งให้  ส่วนแม่สาวห้าวหัวเราะก๊ากเพราะคุณเธอพูดได้ถูกใจเหลือเกิน

    แต่แน่นอนว่าแพนโดร่าไม่เข้าใจความหมายของมัน

    หลังจากทำใจอยู่พักใหญ่ๆ วานก็เริ่มรับสภาพได้ และลงมือปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ทันที

    ว่าแต่แพรีเขาไปที่ไหนเหรอ?

    พวกโอเปอเรเตอร์มองหน้ากันแล้วหัวเราะคิก ก่อนจะแกล้งฮัมเพลงขึ้นพร้อมกัน

    วีรบุรุษในใจฉัน~ ในใจฉัน~ จากวันนั้น~ จนวันนี้~ จนวันนี้~ทั้งจากนี้~ ตลอดไป~”

    ???

    ***********************************************************************

    ฮัดชิ้ว...

    เด็กสาวร่างเล็กจามออกมาขณะย่ำเท้าไปบนผืนทรายอันร้อนระอุ โดยมีเพียงผ้าคลุมบังแดดกับถังพลังงาน น้ำหนึ่งกระติก และปืนอีกกระบอกเท่านั้น

    สงสัยพวกพี่ๆกำลังนินทาให้วานฟังอยู่แน่ๆ...

    ต้องชมว่าเธอคาดการณ์ได้แม่นยำมากจนน่ากลัว

    เปลวแดดแผดเผาผืนทรายทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส ซึ่งค่อนข้างเป็นปัญหาพอๆกับพื้นทรายที่คอยจะดูดให้เท้าจมลงไป ขนาดคนตัวสูงๆยังลำบาก พวกตัวเล็กๆอย่างเธอยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

    ...ก้าวไม่ออก...

    แหงแซะ ก็จมไปตั้งครึ่งตัวแล้วจะเอาขาที่ไหนไปก้าวล่ะนั่น

    ...ขยับไม่ได้...

    ...ก้าวไม่ออกแล้วจะขยับได้ไงเล่า...

    ...จะทำไงดี...

    ...คงต้องรอให้คนมาช่วยแหละ...

    ...รอให้มีคนผ่านมาละกัน...

    แต่...ชีวิตจริงมันไม่ได้สุขสมหวังง่ายๆแบบนางเอกในนิยายหรอกนะ

    ...ร้อนจัง...

    หลังจากตากแดดมากว่าสามชั่วโมงก็ยังไม่มีใครผ่านมาเลยแม้แต่คนเดียว

    ...ถ้ามีคนผ่านมาสิถึงจะแปลก เพราะที่นี่เป็นเขตหวงห้ามที่ติดอันดับความอันตรายอยู่ในอันดับต้นๆ นอกจากจะมีอิเรกุล่าอยู่เยอะแล้ว ยังมีสิ่งตกค้างจากเหตุการณ์ในวันนั้น...จึงไม่มีคนสติดีคนไหนคิดจะเข้ามาที่นี่เลยแม้แต่คนเดียว

    ...เธอก็คงสติไม่ดีเหมือนกัน ที่ดันทุรังมาถึงนี่เพียงเพราะความฝันเก่าๆ ทั้งๆที่มีที่อื่นให้ไปตั้งเยอะตั้งแยะ...

    เธอคงบ้าที่ยังเชื่อมั่นในคำสัญญานั้น...

    ...ทั้งๆที่เวลาผ่านมาแล้วตั้งร้อยปี...

    ฉันสัญญาว่าจะกลับมา

    คนโกหก...

    เธอพึมพำด้วยดวงตาเศร้าหมอง ม่านน้ำบดบังทัศนียภาพ ก่อนจะไหลอาบสองแก้ม แล้วกลายเป็นหยาดน้ำตาหยดลงบนผืนทราย

    ขยับไม่ได้ยังจะมาทำซึ้งอีกแน่ะ

    เสียงอะไรน่ารำคาญตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว...? ช่วยเงียบหน่อยได้ไหม?

    ก็ได้...งั้นคำถามสุดท้าย

    ......

    คนที่คุยกับคุณตั้งแต่เมื่อครู่นี้เป็นใคร?

    แพรีชะงักกึกพอได้ยินคำถาม สมองรีบประมวลผลอย่างรวดเร็ว พอหันซ้ายแลขวาไม่เห็นใคร ใบหน้าอ่อนเยาว์ซีดจนกลายเป็นสีขาว

    ยะ...อย่าบอกนะว่า...เธอเอ่ยเสียงสั่นๆ แล้วพูดคำที่ไม่อยากจะพูด ผะ...ผะ...ผี...

    ถูกต้องนะคร้าบ!!!

    พอได้ยินคำตอบปุ๊บ หัวหน้ากลุ่มการ์เดี้ยนก็ปล่อยกรี๊ดออกมาแล้วก็สลบไปในทันที

    ***********************************************************************

    นี่มันหัวหน้าหรือเบ๊เนี่ย!?

    วานแทบจะตะโกนออกมาหลังจากทำงานมาได้ครึ่งวัน

    ตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้า(ชั่วคราว) ของการ์เดี้ยน งานและรายงานมากมายจากทั่วทุกสารทิศสารพัดแผนกก็แห่เข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน ตั้งแต่หน่วยรบแนวหน้ายันคนขัดส้วม แถมยังต้องมาควบคุมดูแลการปฏิบัติภารกิจสำคัญๆ ต้องมาฟังรายงาน จับตาดูการปฏิบัติภารกิจตลอดเวลา แถมต้องคอยคิดวางแผนตอบคำถามเจ้าพวกแนวหน้าท้าตายโดยรอบคอบเพื่อให้เกินการสูญเสียน้อยที่สุด...

    แล้วตัวเขาที่เคยแต่ลุยจะไปทำได้ไงฟะ!?

    ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครใส่ใจเลยสักคน เนื่องจากทุกคนให้เครดิตเขาไว้สูงมาก ต่างก็คิดว่าถ้าเป็นเขาซะอย่างต้องทำได้สบายอยู่แล้ว ไม่มีใครคิดเผื่อกรณีที่ผิดพลาดเลยสักคน...

    ...ซึ่งไอ้ความเชื่อมั่นนั่นก็หนักอึ้งจนแทบจะทับเขาตายคาเก้าอี้อยู่แล้ว...

    ยิ่งเวลาผ่านไปแรงกดดันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความเครียดก็ค่อยๆพอกพูน จนชายหนุ่มที่มมักจะอารมณ์ดีอยู่เสมอกลับกลายเป็นคนขี้หงุดหงิด ผมที่ไว้ยาวถูกขยี้กระเซิงจนดูไม่ได้

    ระหว่างที่กำลังเครียดอยู่นั้นแก้วน้ำที่บรรจุของเหลวสีส้มๆเย็นๆก็ยื่นมาตรงหน้าเขา โดยหญิงสาวที่มีฉายาว่าแม่มด

     ...น้ำส้ม...

    ขอบใจนะ...

    ...แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่มีแพนโดร่าคอยช่วยอยู่ข้างๆ...

    วานรับมาดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนจะกระดกรวดเดียวหมดแก้ว แล้วพ่นลมออกมา

    ฮ้า~ ค่อยสดชื่นหน่อย

    เหนื่อยไหม?

    แพนโดร่าถามด้วยความเป็นห่วง เธอนั่งลงข้างๆกุมมือซ้ายของวาน

    เหนื่อยสิ...เหนื่อยยิ่งกว่าตอนออกไปสู้อีก... วานบ่นอุบแล้วปัดผมที่แยงตาออก ตอนนี้ฉันเข้าใจหัวอกแพรีแล้วล่ะ... เขาหันมายิ้มให้หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ แต่ยังดีที่เธอคอยช่วย...ขอบใจนะ...

    วาน...

    แพนโดร่ายิ้มบางๆ ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้

    ชายหนุ่มถึงกับผงะ กลิ่นเหล้าที่โชยมาให้หึ่งทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาแล้ว...

    เอ่อ...เดี๋ยวก่อนแพนโดร่า...

    ...และเขาก็ไม่อยากให้มันเกิดซ้ำสอง เพราะครั้งก่อนเอลไม่ยอมคุยกับเขาเป็นอาทิตย์ทั้งๆที่เขาเป็นผู้เสียหาย...

    ฉันว่าเรื่องแบบนี้มัน...

    เขาเอามือจับไหล่ของเธอเอาไว้ พยายามออกแรงต้านไว้ แต่เธอก็ยังพยายามเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ ครั้นจะออกแรงมากกว่านี้ก็กลัวจะได้รับบาดเจ็บ

    ...อีกอย่างหนึ่งเขาก็ยังไม่เคยคิดเรื่องรักๆใคร่ๆเลยสักครั้ง...

    ได้โปรด อย่า...

    แต่ดูเหมือนคำขอร้องจะถูกปัดตกไปตั้งแต่ก่อนจะเสนอ

    วานหลับตาปี๋พยายามยันเอาไว้สุดความสามารถ...

    พวกโอเปอเรเตอร์นั่งอมยิ้ม ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นทั้งที่เหลือบมองอยู่ตลอด

    ปิ๊บ!

    (รุ่นพี่เอล ติดต่อได้แล้วครับ)

    ตอนนั้นเองที่เอลกับเกรย์ติดต่อมา...

    (สวัสดีวาน! ได้ข่าวว่าเป็นหัวหน้าชั่วคราวนี่เป็นเรื่องจริงสินะ!)

    เอลเบียดเกรย์ออกไป แล้วทักทายด้วยน้ำเสียงเริงร่า โดยไม่ทันได้มองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    ...บรรลัยแล้ว...!!!

    (เป็นไงบ้างล่ะ!? คงจะเหนื่อยแย่เลยสินะ ทางนี้เองก็...)

    แต่พอเธอเบิ่งตามองชัดๆคำพูดก็ถูกกลืนลงคอ ตาสีมรกตเบิกกว้างมองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น วินาทีต่อมาใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ ตาสีมรกตฉายแววกร้าว กัดฟันกรอด้วยความโกรธที่พุ่งสูงปรี๊ดจนแทบทะลุเพดานห้อง

    ในที่สุดวานก็ใช้แรงทั้งหมดดันตัวแพนโดร่าออกไปได้เป็นผลสำเร็จ แล้วรีบหันอธิบายอย่างลนลาน

    เอลฟังก่อนนะ! คือมันเป็น...!”

    แต่ก็ไม่มีประโยชน์เพราะคุณเธอสับสวิตต์ระเบิดเป็นที่เรียบร้อย

    (อีตาบ้าวาน! ฉันอุตส่าห์เป็นห่วง! แต่นายกลับ...!)

    เดี๋ยวสิเอล! ฟังก่อนสิ! ฟังฉันอธิบาย...

    อย่าไปฟังนะเอล! ฉันเห็นเต็มสองตาเลยว่าเจ้าหมอนี่มันจะจูบแพนโดร่า!”

    วานทำหน้าตื่นหันไปมองอาเช่ที่ลอบยิ้มสะใจที่ได้แก้แค้น

    (มีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม!? ถ้าไม่มีก็แค่นี้แหละ!)

    เอล! เดี๋ยวสิเอล!”

    ปิ๊บ!!!

    สัญญาณติดต่อขาดหายไปแล้ว...

    [รู้สึกช่วงนี้นายจะมีเคราะห์ทางนี้นะ]

    โมเดลแซดวิเคราะห์ แต่วานไม่สนใจฟัง เพราะเขากำลังหันไปจ้องแม่ตัวแสบด้วยสายตาอาฆาตราวกับเป็นคู่แค้นกันมาสิบชาติ

    อาเช่!!!”

    หวาย!”

    แล้วเจ้าหนุ่มผู้แสนดีแต่ดวงซวยก็ละทิ้งหน้าที่ วิ่งกวดแม่สาวแสบที่วิ่งหนีตั้งแต่เขาเริ่มออกวิ่งแล้ว จากนั้นแพนโดร่าก็วิ่งตามวานออกไปอีกคน ทำให้มีเพียงเหล่าโอเปอเรเตอร์เท่านั้นที่อยู่ภายในห้อง

    ......

    พวกเธอมองหน้ากันแล้วยิ้ม

    ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!”

    ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น หลังจากกลั้นมานาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×