ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าชายสุดร้าย สาวใช้สุดเวอร์

    ลำดับตอนที่ #2 : SSM

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 51


    1.

    ตาคู่โตปรือขึ้นหลังจากได้นอนจนเต็มอิ่ม ร่างบางบิดไปมาเล็กน้อยคลายความปวดเมื่อยที่เธอยังนึกไม่ออกว่ามาจากอะไร

     

    เมื่อยชะมัด มือข้างขวากระแทกเข้าที่บั้นเอวแรงๆ 2 ทีอย่างหวังจะคลายความปวดเมื่อย

     

    “Good afternoon, honey.”

     

    “Good after…กะ กรี๊ด อุ๊บ!!!” ก่อนจะทันได้ร้องเต็มเสียง ริมฝีปากคู่อิ่มก็ถูกปิดด้วยสัมผัสหยาบสาก

     

    ตาคู่โตเบิกกว้างขึ้นภายใต้แสงสลัวของพระอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องเข้ามากระทบร่างสูงที่นอนตะแคงอยู่ข้างกายเธอและดูท่าว่าจะใหญ่โตมากกว่ามาตรฐานคนทั่วไปสักหน่อย

     

    ในระยะเผาขนแบบนี้เธอเห็นหน้าเขาค่อนข้างชัด...ดวงหน้ายาวรูปไข่ ถูกประดับด้วยจมูกโด่งเป็นสัน และริมฝีปากรูปสวยอมชมพูอย่างคนตะวันตก ทว่า...กรอบดวงตาคมสีน้ำตาลเหลือบแดงกลับถูกล้อมไปด้วยแพขนตายาวหนาอย่างพวกแขกในหนังภารตะ...

     

    มือใหญ่หนานุ่มชุ่มเหงื่อเล็กน้อยปิดปากเธอแน่นสนิท กลิ่นหอมประหลาดจากร่างกำยำลอยมาต้องจมูกโด่งรั้นของเธอพร้อมๆ กับร่างใหญ่ที่ค่อยๆ เคลื่อนใกล้เข้ามา...

     

    ปล่อยฉันนะ!!!” เสียงหวีดร้องโวยวายดังขึ้นพร้อมๆ กับปลายขาที่ลอยไปกระแทกยันร่างสูงให้ถลาไปนอนคุดคู้อยู่ข้างเตียงขนาดคิงส์ไซด์...

     

    เตียงคิงไซด์เหรอ?

     

    เสียงหอบเหนื่อยดังขึ้นชัดในห้องที่เงียบกริบ เพชรนารีกวาดสายตามองรอบห้องด้วยความงุนงง...ห้องสี่เหลี่ยมกว้างขวาง และเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีมูลค่าสูง...

    ไม่ใช่ห้องของเธอ...ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน...

     

    เธอเหลือบมองร่างสูงที่กำลังลุกขึ้นมาอีกครั้งพลางทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา

    เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากที่เธอได้งานที่สถานทูตแล้ว...

     

    เฮ้ย! ไหงดันไปเป็นสาวใช้ได้ล่ะพี่เพชร เพ็ญแข...น้องสาวตัวดีที่เพิ่งโผล่หน้าออกมาจากห้องนอนยามสามโมงเย็นถามเธอด้วยท่าทีตื่นตระหนก

     

    เงินเดือนก็น้อย โบนัสก็ไม่มี แถมยังต้องไปอยู่บ้านเขาอีก

     

    นั่นเลยที่ต้องการน้องรัก!”

     

    คนเป็นน้องรักขนลุกเกรียวเมื่อถูกทักด้วยคำหวานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอมองพี่สาวที่กำลังเก็บกระเป๋าขะมักเขม้นอย่างใช้ความคิด...ไม่น่าเชื่อ ไม่มีทางที่อดีตคุณหนูอย่างเพชรนารี พลพฤทธ์ จะยอมไปเป็นสาวใช้ให้ใครเขาหรอก เพราะนิสัยที่เรียกได้ว่าเย่อหยิ่งและหลงตัวเองเป็นที่สุด ทำให้เพชรนารีไม่เคยยอมเชื่อฟังใครง่ายๆ แม้แต่พ่อแม่ของตัวเอง...ยิ่งขนาดต้องไปเป็นสาวใช้ด้วยแล้ว...

     

    ไม่พ้นอาทิตย์แน่ๆ พี่สาวเธอจะต้องหอบผ้าหอบผ่อนกลับมานอนอยู่บ้านเหมือนเดิม...เพ็ญแขแอบพนันเอาไว้ในใจ

     

    ต้องการเงินเดือนน้อยๆ เนี่ยนะ เด็กสาวทำตาโตไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...พี่เพชรในสายตาเธอเป็นคนฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินเป็นว่าเล่น ไม่เคยช่วยงานหรือธุรกิจของครอบครัวเลยสักครั้ง เอาแต่ใช้ชีวิตอิสระอยู่ที่เมืองนอก จนกระทั่งถูกเรียกตัวกลับเพราะสถานะเศรษฐกิจทางบ้านเริ่มมีปัญหานั่นล่ะ...เธอถึงได้เจอหน้าพี่เพชรหลังจากที่ไม่เคยเจอกันมาตลอด 10 ปี...

     

    อ๋อ...รู้แล้ว พี่เราต้องไปเจอหนุ่มรูปหล่อที่สถานทูตเข้าแน่ๆ เลยใช่ม้า ผู้เป็นน้องคาดเดาตามที่รู้มาจากผู้เป็นแม่ว่าพี่สาวคนนี้เป็นโรค แพ้คนหน้าตาดี

     

    จุ๊ๆ ยัยเพ็ญ... เพชรนารีแกว่งนิ้วไปมาลอยหน้าลอยตาต่อหน้าน้องสาว ยุคนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ คิดเรื่องหน้าตาอย่างเดียวได้ที่ไหนกัน

     

    นี่พี่เพชรหมายความว่า?!”

     

    ใช่แล้ว คราวนี้ต้องรวย!!!” เพชรนารีประกาศลั่นพลางยืดอกอย่างภาคภูมิ

     

    อย่าบอกนะว่าพี่เพชรจะไปเป็นเมียน้อยท่านทูต!” เพ็ญแขเบิกตาโตด้วยความตกใจ จนเพชรนารีต้องประเคนกำปั้นยันหัวน้องสาวทันที

     

    โอ้ย! เจ็บนะพี่เพชร!”

     

    ยัยเด็กบ้องตื้น เจ้าชายย่ะ เจ้าชาย ไม่ใช่ท่านทูต!”

     

    เจ้าชาย!!!” เพชรนารีฉีกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของน้องสาว

     

    ใช่แล้ว เจ้าชายจากเดคาดัชชาร์ ประเทศเล็กๆ ที่ร่ำรวยพอตัว เพราะมีแหล่งทรัพยากรสำคัญเป็นของตัวเอง และมีสินค้าส่งออกสำคัญคือ น้ำมันและอัญมณีพวกเพชรพลอย ทำให้จากเกาะเล็กๆ กลายเป็นประเทศได้ในเวลาไม่ถึง 2 ปี...ไงล่ะแค่นี้รวยพอมั้ย เธอหัวเราะร่าอย่างไม่อายฟ้าดิน ก่อนจะลงมือปิดกระเป๋าใบใหญ่แล้วลากมันออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว

     

    เดี๋ยวพี่...เพชร... ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อร่างบางระหงวิ่งลิ่วขึ้นรถแท็กซี่หน้าบ้านที่บึ่งออกไปทันทีเป็นที่เรียบร้อย เพ็ญแขยืนเกาหัวอยู่หน้าบ้านอย่างกระวนกระวาย

     

    แล้วนี่พี่เพชรจะรู้มั้ยว่า...เจ้าชายที่ว่านั่น... ดวงตาคู่โตมองท้ายรถแท็กซี่ที่ค่อยๆ เลือนลับไปกับตาด้วยความเป็นห่วง

     

     

    สถานเอกอัคราชทูตเดคาดัชชาร์ประจำประเทศไทย...

    สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นสาวใช้คนใหม่ชื่อเพชรค่ะ ท่าทางเบิกบานสุดๆ ของคนเป็นสาวใช้คนใหม่ ทำเอาพ่อบ้านใหญ่ประจำสถานทูตปั้นหน้าไม่ถูก โดยเฉพาะกับชุดหนังสั้นดันทรงสีดำนั่น...

     

    เอ่อ...คุณเพชรนารี แม้ทางเราจะไม่เคร่งครัดเรื่องการแต่งตัวแต่กรุณาแต่งกายให้สุภาพด้วย หากไม่สะดวกทางเราก็มีเครื่องแบบให้

     

    เรียกเพชรเฉยๆ ก็ได้ค่ะท่าน เธอพูดพร้อมกับโปรยยิ้มหวาน จนพ่อบ้านใหญ่อดยิ้มตอบไม่ได้ แต่แล้วก็มีเสียงทักท้วงดังขึ้นจากด้านหลัง

     

    อะแฮ่ม!”

     

    อะ...เอ่อ ในช่วงทดลองงานเราจะมีพี่เลี้ยงคอยสอนงานให้คุณ เขาบอกพลางหันไปพยักเพยิดกับหญิงสูงวัยร่างผอมกระหร่องที่เพิ่งส่งเสียงเรียกร้องมาเมื่อสักครู่

     

    สาวใช้สูงวัยค่อยๆ เดินมาใกล้ก่อนเริ่มหน้าที่ของตนทันที

     

    ฉันชื่ออร ต่อไปนี้จะเป็นพี่เลี้ยงสอนงานให้เธอ ฉันจะพาเธอไปที่ห้องพักก่อนตามมาทางนี้ อรเดินเร็วนำทางเธอไปทางด้านหลังของบ้านท่านทูต

     

    ขณะเดินตามเพชรนารีพยายามส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานสูงวัยทุกครั้งที่เธอหันมามอง แต่ใบหน้ามีริ้วรอยกลับสะบัดไปอีกทางอย่างแรง...มองเมินกันงั้นเหรอ?

     

    ห้องขนาดเล็กที่มีกลิ่นสาปคลุ้งถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ก่อนจะเผยให้เห็นห้องโล่งที่มีเพียงเตียงเดี่ยวกับตู้เสื้อผ้า แสงแดดจากหน้าต่างด้านขวามือส่องเข้ามาตรงกลางจนสว่างทั่วทั้งห้อง...พูดง่ายๆ คือ ห้องนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ประหยัดไฟ ประหยัดพื้นที่ แถมยังประหยัดทรัพยากรภายในอีกต่างหาก...

     

    นี่ห้องฉันเหรอคะ?

     

    ใช่ แล้วนี่เครื่องแบบ เราจะเริ่มทำงานตอน 6 โมงเช้า แล้วเลิกงานตอน 6 โมงเย็น นอกนั้นแล้วแต่ท่านทูตจะเรียกใช้เป็นกรณีไป เธอจัดข้าวของให้เรียบร้อยไปก่อน เดี๋ยวฉันจะมาเรียกอีกที

     

    ค่า เพชรนารีตอบรับด้วยท่าทางซังกระตาย ก่อนจะลากกระเป๋าใบโตเข้าไป

     

    หลังจากย้ายสัมภาระเข้ามาในห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากห้องที่ดูโล่งจัดเมื่อครู่ก็กลายเป็นโกดังเก็บของในพริบตา

     

    ให้ตายเถอะ ห้องสาวใช้ไหงเล็กเท่ารูหนูแบบนี้ล่ะ เพชรนารีบ่นพึมพำอย่างขัดใจพลางชายตามองดูเครื่องแบบตัวใหม่ที่วางอยู่บนหัวเตียง

     

    อี๋ เครื่องแบบอะไรเชยชะมัด ปิดคอยังไม่พอ ดูสิกระโปรงยาวคลุมข้ออีกต่างหาก แล้วนี่อะไร? ผ้าคลุมผม! ตายละ นี่ใจคอจะไม่ให้เห็นอะไรนอกจากหน้าเลยใช่มั้ยเนี่ย เพชรนารีบ่นอุบอิบกับแฟชั่นที่ไม่เป็นอันถูกใจของเธอ ก่อนจะลงมือคว้ากรรไกรอันโตออกจากกระเป๋าแล้วตัดฉับเข้าที่ชุดฟอร์มทันที

     

     ไม่รู้จักเพชรนารีคนนี้ซะแล้ว ฮึ เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นแล้วรอยเหยียดยิ้มอย่างพึงใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปก็เผยออกมาบนใบหน้านวล

     

     

    ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...เสียงเคาะประตูแว่วมาพร้อมๆ กับเสียงของอรดังขึ้น

     

    เพชร เพชร

     

    อือ...คะ?

     

    คนจะหลับจะนอนมาเรียกทำไมอยู่ได้...เพชรนารีเกาหัวอย่างรำคาญก่อนมุดหน้ากลับไปในหมอนอีกรอบอย่างไม่นึกใส่ใจกับเสียงเคาะประตูที่ยังดังต่อเนื่อง

    เตรียมตัวเสร็จแล้ว ออกมาพบฉันนะ เดี๋ยวเราต้องไปเตรียมห้องให้เจ้าชายข้างบน

     

    อะไรนะ เจ้าชาย!!!...ร่างบางเด้งตัวออกจากที่นอนพุ่งตรงไปยังห้องน้ำแล้วจัดแจงแต่งตัวภายในเวลาไม่ถึงนาที ตาคู่สวยเหลือบมองกระจกบานเล็กที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ริมปากบางยกขึ้นส่งยิ้มให้สาวน้อยหน้าใสข้างในนั้น

     

    “Super Sexy Maid ยินดีให้บริการเพคะเจ้าชาย จ๊วบ เธอส่งจูบทำปากจู๋ขยับไหล่ในท่ายั่วยวนเพื่อเสริมความมั่นใจ

     

     

    เพชรนารีเดินตามสาวใช้สูงวัยไปตามทางที่ปูด้วยพรมหนานุ่มเท้า ราวบันไดสีทองมันวาวสะท้อนแสงแปรบปราบเข้าตาคู่โต ทุกอณูทั่วบริเวณในบ้านหลังนี้ไม่เหลือแม้กระทั่งไรฝุ่นให้เธอได้มองเห็น

     

    สะอาดจังเลยนะคะ

     

    ทุกคนที่นี่ทำงานคุ้มเงินเดือน ไม่มีใครขี้เกียจหรืออู้งานกันหรอกนะ คำพูดนั้นเน้นชัดเหมือนจงใจจะพูดให้เธอฟังโดยเฉพาะ

     

    เพชรจะพยายามทำงานให้ดีที่สุดนะคะ เธอพูดประจบ ยังไงซะแม่บ้านคนนี้ก็ดูจะมีอำนาจเหนือสาวใช้คนอื่นๆ เพราะฉะนั้นผูกมิตรเอาไว้ดีที่สุด

     

    สายตาไม่ไว้วางใจถูกส่งไปให้ทางหางตา อรสำรวจชุดเครื่องแบบที่ถูกดัดแปลงจนไม่เห็นเค้าของความเรียบร้อยของเพชรนารีด้วยความหงุดหงิด...คอเชิ้ตของเสื้อตัวบนถูกปลดกระดุมออกกว้างจนเห็นคอเรียวระหง เช่นเดียวกับกระโปรงที่เคยยาวคลุมข้อถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นกระโปรงบานสั้นแค่เข่าเผยปลีน่องขาว...

     

    ส่วนใหญ่ทุกคนที่นี่จะใส่เครื่องแบบ

     

    ค่ะ แต่เพชรไม่ค่อยถนัดกับกระโปรงยาวๆ แล้วก็รู้สึกเกะกะกับผ้าคลุมผม แล้วที่นี่ก็ไม่ได้มีกฎเรื่องการแต่งตัวไม่ใช่เหรอคะ?

     

    แค่แต่งตัวเรียบร้อยเธอยังทำไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการทำงาน...

     

    แต่เพชรไม่เห็นว่าการที่เพชรแต่งตัวแบบนี้มันจะโป๊ตรงไหนนี่คะ แล้วการแต่งตัวกับการทำงานมันก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย มันก็แค่...รสนิยม

     

    มีแต่พวกเห็นแก่ตัวทั้งนั้นแหละที่เอาเวลาทำงานไปแต่งตัวเสียหมด อย่าเพิ่งดีใจไปว่าเธอจะได้งาน ตอนนี้เธอแค่อยู่ในช่วงทดลอง แล้วฉันก็ขอเตือนไว้เลยนะ พวกที่วันๆ เอาแต่ขยันแต่งตัวทิ้งงานท่วมหัวถูกท่านทูตไล่ออกไปนักต่อนักแล้ว

     

    การที่เพชรขยันแต่งตัวก็ไม่ใช่ว่าเพชรจะไม่ขยันทำงานนี่คะ

     

    เอ๊ะ! เถียงคำไม่ตกฟากจริง แม่เด็กคนนี้ คำต่อว่าที่ทำเอาเพชรนารีต้องหุบปากลงสนิท แล้วบอกกับตัวเองว่า อย่าเพิ่งสร้างศัตรูในที่ทำงาน

     

    ขอโทษค่ะ เพชรจะพยายามทำงานให้ดีที่สุด เธอส่งยิ้มประจบ แต่อรกลับสะบัดหน้าไปอีกทางตามเคย...นี่เธอไปทำอะไรให้ป้าแกเขม่นเอาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ทำไมต้องจ้องหาเรื่องกันนักก็ไม่รู้!

     

     

    ห้องใหญ่ที่สุดในสถานทูตถูกเปิดเพื่อรับรององค์ชายจากประเทศเดคาดัชชาร์ สภาพภายในก็เรียบร้อยสะอาดสะอ้านดีจนเธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องเข้ามาทำอะไรในห้องนี้บ้าง แต่สาวใช้ที่ชำนาญการอย่างอรกลับรู้หน้าที่ เธอตรงเข้าไปดึงผ้าคลุมออกจากโซฟาเรือนแสนที่ถูกจัดไว้ตรงมุมห้องใกล้กับบานหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ถูกกั้นแสงเอาไว้ด้วยม่านผ้าไหมเนื้อดีลายวิจิตร และพร้อมกันนั้นผ้าคลุมอีกหลายสิบผืนก็ถูกดึงให้พ้นจากเฟอร์นิเจอร์...ทั้งตู้หนังสือ โต๊ะตัวเล็กๆ หรือแม้กระทั่งเครื่องเสียงและโทรทัศน์ รวมถึงเตียงขนาดซุปเปอร์คิงไซด์กลางห้องนั่นด้วย

     

    เพชรนารีมองตามอรที่ปล่อยผ้าเหล่านั้นกองระเกะระกะไปทั่วพื้นพรมนุ่มเท้าสีเทาอ่อนอย่างยังไม่ทันคิดอะไรนิ้วเหี่ยวๆ ชี้สั่งการทันที

     

    เธอพับผ้าพวกนี้แล้วปัดฝุ่นให้เรียบร้อย ให้เสร็จก่อนเจ้าชายจะเสด็จมาถึง ส่วนฉันจะไปทำธุระเสียหน่อย ว่าจบร่างผอมแห้งก็เดินลิ่วปลิวลมออกจากห้องไปในทันที ทิ้งเธอที่ยังไม่ทันตั้งตัวให้อึ้งเหวออยู่อย่างนั้น

     

    โธ่! ป้าแก่ ไหนว่าไม่มีการอู้ไง...นี่มันกินแรงกันชัดๆสาวใช้คนใหม่บ่นอุบ ก่อนลงมือทำหน้าที่อย่างค่อยเป็นค่อยไป

     

     แม้เธอจะเป็นสาวมั่นทันสมัยขนาดไหน แต่เรื่องงานบ้านงานเรือนแบบสาวโบราณเธอก็ไม่เคยน้อยหน้าใคร ก็อย่างว่าเธอไปอยู่เมืองนอกตัวคนเดียวเป็นสิบปี งานบ้านทุกอย่างเลยต้องทำด้วยตัวเอง อย่าว่าแต่แค่งานบ้านเลย เสน่ห์ปลายจวักเธอก็ใช่ย่อยจนถูกขอไปเป็นลูกสะใภ้อยู่หลายหน แต่ไม่รู้ผีสางเทวดาตนไหนแกล้งดลใจให้คู่ตุนาหงันปันใจให้สาวอื่นอยู่เรื่อยเชียว...

     

    เมื่อผ้าคลุมสีขาวบริสุทธิ์ผืนสุดท้ายถูกพับทบกันเรียบร้อย กองผ้าทั้งหมดก็ถูกเคลื่อนย้ายไปวางในรถเข็นสำหรับขนย้ายมันไปทำความสะอาดต่อไป เพชรนารีลงมือปัดฝุ่นภายในห้องไปทุกซอกทุกมุมด้วยไม้ดักฝุ่นที่ได้รับการกำชับมาจากพี่เลี้ยงสาวใช้ว่า ต้องใช้เพราะเจ้าชายจากเดคาดัชชาร์หรือที่คนไทยส่วนใหญ่ชอบเรียกกันสั้นๆ ว่าประเทศดัชชาร์นั้น เป็นภูมิแพ้อย่างรุนแรง

     

    เฮ้อ! เสร็จซะที เพชรนารีเอี้ยวตัวไปมาขับไล่ความปวดเมื่อย ก่อนที่สายตาจะไปปะทะเข้ากับเตียงขนาดซุปเปอร์คิงไซด์ที่ไม่เคยมีวางขายมาก่อน คงต้องสั่งทำเท่านั้น...สภาพของมันดูนุ่มนิ่มน่านอนเสียจนคนที่เหนื่อยล้ากับการตรากตรำทำงานและการเดินทางมาทั้งวันนึกปรารถนา...

     

    และนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่จำได้...

     

    เพชรนารีนิ่งค้างไปนานนับนาทีจนลืมสนใจคนที่กำลังประชิดเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว

     

    ใบหน้าคมยิ้มพราย ดวงตาสีเข้มเป็นประกายยามจ้องมองเธอ หนุ่มร่างใหญ่ในชุดวันเกิดรึเปล่าไม่อาจทราบได้เพราะเธอไม่ได้ล้วงสายตาลงลึกไปถึงช่วงล่าง เท้าคางมองเธอนิ่ง

     

    “You’re very sexy, honey.”

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×