คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 > > ไ อ ด อ ล ( แ ก๊ ง มั ง ก ร )
2
ไอดอล(แก๊งมังกร)
อะไรเนี่ย! ทำไมต้องมองขนาดนี้ด้วยว่ะ ฉันเป็นคนนะไม่ใช่ของแปลกจ้องอยู่ได้(เอ๊ะ...หรือว่าใช่) ไม่เคยเห็นคนเค้าจู๋จี๋กันหรือไงย่ะ เดี๋ยวแม่กระโดดงับหูเลยนิ!!! ขนาดฉันเดินจะมาถึงห้องเรียนอยู่แล้วนะยังไม่เลิกมองกันอีก ทำไมข่าวมันแพร่กระจายเร็วยิ่งกว่าไวรัสอีกว่ะ ตูล่ะงง...
“ไงแก ไปทำข่าวฉาวกับไอดอลฉันมาเหรอย่ะ?”
“ใครไอดอลแกไอ้รัน”
“ก็พี่เซไง ไอดอลอันดับหนึ่งของโรงเรียน”
“เหอๆ เพลย์บอยอย่างหมอนั่นน่ะเหรอมีคนชอบกะเค้าด้วย”
“แน่นอนสิยะ พี่เค้าออกจะหล่อเหลา มาดแมนแอนด์แฮนซั่ม”
เออ เรื่องนั้นฉันไม่เถียงเพราะมันคือความจริง คนอะไรหล่อไม่เกรงใจชาวบ้าน อย่างงี้น่าจะจับไปทำ...(ทิ้งไว้ให้คิดเอง 555+) แต่โรงเรียนเรามีการจัดอันดับไอดอลด้วยหรอ? ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ย O_O
“ทำหน้าอย่างนี้แสดงว่าแกไม่เคยรู้ว่าเค้ามีการจัดอันดับไอดอลใช่ป่ะ? ”
“งึกๆ “
“โหย~ยัยแว่นเฉิ่ม แกไปถอดแว่นออกไป๊ เผื่อว่าความทันสมัยจะแล่นเข้าสู่สมองแกบ้าง ไม่ร็ว่าแกอยู่โรงเรียนนี้ได้ยังไงเนี่ยชมรมไอดอลเค้าดังจะตาย”
“หรอ? “
“ก็เออสิย่ะ ชมรมไอดอลมีประธานสี่คน ทั้งสี่คนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันด้วยแถมยังตั้งแก๊งร่วมกันอีกชื่อว่าแก๊งมังกร ก็เลยมีฉายาขึ้นต้นด้วยคำว่า’มังกร’ ทั้งสี่คน พี่เซจิเป็นไอดอลอันดับหนึ่งมีฉายาว่า มังกรเพลิง เพราะพี่แกอารมณ์ร้อนเป็นที่หนึ่งเรื่องชกต่อยขอให้บอก...ลุยให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยล่ะ แต่ก็เป็นสุภาพบุรุษไม่เคยด่าผู้หญิงหรือว่าทำร้ายผู้หญิงมาก่อนเลย...ผลการสุ่มสำรวจจากพวกผู้หญิงทั้งโรงเรียน มีผู้หญิงที่เคยคบกับพี่เซมาแล้วถึงเก้าสิบแปดคนแต่ละคนสวยเสด็จ”
“ เพลย์บอย อันธพาล ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ”
“แกว่าอะไรนะไอซ์”
“ป่าว” บอกแกให้โง่ดิ ขืนฉันบอกไปมีหวัง...เละเป็นโจ๊กแน่ๆ ดูคุณเธอตลั่งไคล้ซะขนาดนั้น
“คนที่สองพี่เจได ไอดอลอันดับสอง มีฉายาว่า มังกรน้ำแข็ง คนนี้ก็หล่ออย่าบอกใคร(แล้วแกจะบอกฉันทำไม) ที่ได้ฉายานี้เพราะว่ามาดพี่แกเค้าเฉยชาซะยิ่งหว่าน้ำแข็งซะอีกดูนิ่งๆไม่มีพิษสง แต่ขึ้นชื่อว่ามังกรก็ย่อมมีความดุร้ายเป็นธรรมดา พี่คนนี้ชอบใช้คำพูดมากกว่าใช้กำลังถือเป็นสมองของแก๊งเลยก็ว่าได้แต่ก็ใช่ว่าจะชกต่อยไม่เป็นนะดีกรีเทควันโดสายแดงเชียว”
“ขี้เก๊ก เย็นชา หยิ่ง”
“...”
“เล่าต่อสิรัน หรืออีกตั้งสองคนไม่ใช่เหรอ ^-^”
“...คนที่สามพี่เคนโด้ ไอดอลดันดับสาม ฉายา มังกรหมอก ฉายานี้ได้มาเพราะพี่เคนเป็นคนดูภายนอกจะขี้เล่น อารมณ์ดี แต่ใครจะไปรู้ว่าดูจากข้างนอกเป็นอย่างนั้นข้างในต่างกันลิบลับดูได้จากตอนที่พวกไอ้แบงค์ห้องเรามันไปท้าต่อยกะพวกพี่เค้า แต่ตอนนั้นมีแต่พี่เคนอยู่คนเดียวพี่แกเลยลุยเดี่ยวยิ้มไปต่อยไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันละนับถือจริงๆคนเดียวสู้กับคนตั้งห้าคนยังเอาอยู่ตั้งแต่นั้นมาพวกไอ้แบงค์เลยกลายเป็นคนของแก๊งมังกรพี่เคนก็เลยได้ฉายาเปรียบเทียบมาว่าเหมือนมังกรที่หลบซ่อนอยู่ในสายหมอก พี่เค้าเป็นอีกคนที่หล่อระเบิดบาดจิตบาดใจเพราะนิสัยขี้เล่นบวกกับหน้าตาน่ารักๆเหมือนเด็กๆอ่ะ กรี๊ด~พูดแล้วฉันจะละลาย”
“ปัญญาอ่อน โรคจิต บ้าเลือด”
“แกว่าใครปัญญาอ่อนยะนังไอซ์”
“ป่าวๆ ฉันว่าไอ้แบงค์มันน่ะ ปัญญาอ่อนไปท้าพี่เค้า ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“เออใช่ฉันก็ว่าอย่างงั้นแหละต่อๆ ...คนสุดท้ายพี่เรย์กิพี่ชายของเดี๊ยนเองค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆฉายา มังกรสายลม พี่ฉันไม่ใช่พวกบ้ากำลัง...มั้ง แต่ก็ไม่ชอบใช้สมองเท่าไหร่ชอบทำอะไรเร็วๆ ทำอะไรแล้วก็ต้องให้ได้ทันใจ รวดเร็วปานสายลมที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเลยได้ฉายานี้มา พูดถึงพี่ตัวเองแล้วเขินๆแฮะ ตั้งแต่เกิดมาฉัรยังไม่เคยชมพี่ชายตัวเองเลยอ่ะ เอาเป็นว่าฉันไม่พูดแล้วเรื่งความหล่อเนี่ย แกก็เคยเห็นพี่ฉันแล้วไม่ใช่หรอ? ”
“มั้งนะ ไม่แน่ใจอาจจะเคยเจอ”
สุดท้ายก็พี่ยัยรันนี่เอง บ้าเลือด เอาแต่ใจ ฉลาดน้อย(แกแอบด่าพี่ฉันใจในว่าโง่หรอย่ะ!? ) ฉันค้นพบคุณสมบัติของพวกแก๊งลูกแมว(มังกรตะหากล่ะ)นี้แล้วคือ
1. เป็นผู้ชายที่มีชื่อขึ้นต้นด้วย เ- (ขนาดไอ้แบงค์ยังมี เ- เลย)
2. หน้าตาดีถึงดีมาก (ยกเว้นไอ้แบงค์ที่หน้าตาแค่พอดูได้)
3. ต้องปัญญาอ่อน โรคจิต และก็บ้าเลือด
4. เป็นเพลย์บอย เจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ ชอบการเอาชนะและชอบข่มขู่(ดูจากที่เจอกับนายเซจิเมื่อเช้า)
เฮ้อ~จะมีอย่างอื่นนอกจากนี้อีกมั้ยเนี่ย ผู้ชายอะไรว่ะหล่อบรมแล้วยังจะมีความสามารถมากอีกจะเก่งไปเพื่อใคร...
“อาจารย์มาแล้ว เรียนกันก่อนแล้วกัน”
“เออนี่ไอ้รัน ตอนกลางวัแกไปส่งฉันที่ห้องชมรมไอดอลหน่อยนะ”
“หา!!! แกจะไปทำไม? จะไปอ่อยพี่เซหรอย่ะไม่ได้นะคนนี้ของฉัน”
“ไอ้บ้า ฉันไม่ใช่พวกคุณชะนีหนึ่ง-สี่ นั่นซะหน่อย เอาเป็นว่าฉันไปเพื่อชีวิตของตัวเองละกัน”
“เออก็ได้”
“หุบปากแล้วตั้งใจเรียนได้แล้ว อริสา~ รินนิภา~ “
“ค่ะ อาจารย์!!”
คาบเรียนตอนเช้าช่างผ่านไปด้วยความรวดเร็วและน่าเบื่อมากๆ ไม่อยากยอมรับเลยว่าฉันคิดออกแต่หน้าของนายเซจิเมื่อเช้า แถมคำพูดของหมอนั่นยังวนเวียนเข้ามาในหัวฉันตลอดเวลาเลยอ่ะ นี่ฉันเป็นบ้าไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย ต้องรีบไปสมัครเป็นสมาชิกแก๊งลูกแมวด่วน(บอกว่าแก๊งเค้าชื่อมังกรไม่ใช่ลูกแมว!) เพราะคุณสมบัติฉันมีครบทุกอย่างโดยเฉพาะข้อสอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ยกเว้นอยู่ข้อเดียวคือข้อแรก ก็ชื่อฉันไม่ได้ขึ้นต้นด้วย เ- น่ะสิไม่เป็นไรๆเปลี่ยนเอาก็ได้...เอ๊ะแล้วนี่ฉันเป็นอะไรไปอีกล่ะเนี่ย กรี๊ด~เพราะนายคนเดียวเลยนายเซจิ!!!
ออด~ เยส! เสียงสวรรค์ออกแล้วทีนี้ฉันก้จะได้ไปหาไอ้ตัวการที่ทำให้ฉันไม่เป็นอันเรียนแล้ว แต่ต้องเรียกยัยรันก่อน ก็ยัยนี่เล่นหลับตั้งแต่คาบแรกยัยพักเนี่ยมันยังไม่ตื่นเลย สงสัยจะเฝ้าพระอินทร์เพลินไปหน่อย
“รัน...ไอ้รัน”
“ฮื้อ~คนจะนอนอย่ายุ่ง”
“ไอ้รัน!!!”
“บอกว่าจะนอนไม่ได้ยินเหรอ”
“เออแกจะนอนก็ได้ งั้นฉันไปหาพี่เซจิคนเดียวก็ได้ ดีเหมือนกันจะได้ไม่มีใครเป็นมารขัดขวางความสุขของฉัน”
“ฉันตื่นแล้ว! ป่ะไปหาเทพบุตรสุดสวาทขาดใจของฉันกัน”
ไม่ค่อยเท่าไหร่เลยเพื่อนฉัน เห็นผู้ชายไม่ได้ต้องรีบกระโดดเข้าใส่ ที่จริงฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละที่ฉันต้องลากยัยรันไปเนี่ยเพราะฉันไม่รู้ว่าไอ้ชมรมห่วยแตกนั่นอยู่ที่ไหนต่างหาก และแล้วยัยรันน้อยก็พาฉันมาส่งถึงหน้าห้องชมรมที่มีแต่ฝูงสัตว์สงวน(สิบเอ็ดรอดอ)มุงประตูห้องเต็มไปหมด ใครเนี่ยช่างสร้างจริงมีประตูบานเดียวที่เป็นกระจก มิน่าสัตว์สงวนพวกนี้ถึงได้ออกันอยู่ที่ประตูกันหมด
ปึ๊ก! แกร๊บ~! โอ๊ย~กระทิงป่าตัวไหนมาชนฉันเนี่ย กรี๊ด~แว่นตาฉันถูกเหยียบจนเละซะแล้วอ่ะ สวรรค์แล้วฉันจะบดบังหน้าตาอันสวยงามปานเทพธิดาของฉันได้ยังไงกัน รันแกอยู่ไหนเนี่ยพาฉันออกไปจากฝูงสัตว์สงวนพวกนี้ที
ด้านของรัน
“ไอซ์ ไอซ์แกอยู่ไหนเนี่ย”
“
”
“เอ๊ะทำไมไม่ตอบเนี่ย หรือว่าเข้าไปแล้ว ฉันไปก่อนนะเพื่อนหิวข้าวว่ะโชคดี”
ฉันจะตายอยู่แล้ว~ แกหายไปไหนเนี่ยไอ้รัน ไอ้เพื่อนบ้า เอาว่ะเข้าไปเองก็ได้สัตว์สงวนก็สัตว์สงวนเหอะ สาวน้อยผู้หน้ารักจะจัดการแกเอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ แล้วฉันจะเอาอะไรไปจัดการกะมันเนี่ย มุดเข้าไปก็ได้ แล้วฉันก็จัดการพาร่างกายอันบอบบางของตัวเองแทรกเข้าไปในฝูงชนมุงอะไรกันนักหนาเนี่ยคนจะเข้าไปทำธุระนิดเดียวก็ไม่ได้ เหมือนพระเจ้าจะเห็นใจฉันทำให้ฉันยัดตัวเองมาอยู่หน้าประตูได้ แล้วเปิดประตูเข้าไปแล้วล็อคทันที
“เฮ้ย!?”
โอ้พระเจ้าผู้ชายสามคนนี้เป็นใครกัน ทำไมถึงหล่อได้ใจขนาดนี้นะ ขนาดทำหน้าเอ๋อยังหล่อได้อีก
“เธอเข้ามาทำไมเนี่ย” ผู้ชายคนหนึ่งถามฉัน
“ฉันมาหาเซจิน่ะ เค้าบอกให้ฉันมาหาที่นี่ตอนพักเที่ยง”
“ทำไมมันไม่เห็นบอกพวกเราเลย”
“แล้วตอนนี้นายนั่นอยู่ไหน ฉันขอคุยธุระแป๊บเดียวแล้วจะรีบไปทันที”
“มันทำธุระอยู่ เดี่ยวพวกเราเรียกให้”
“อื้ม...ก็ได้ เร็วๆด้วย”
“ทำเป็นใจร้อนไปได้ ไอ้เซนี่มันเลือกผู้หญิงแต่ละคนอื้อหือ~ทั้งนั้นเลยนะเนี่ เธอรอที่นี่ก่อนละกัน”
แล้วนายหน้าหล่อทั้งสามคนก็เดินเข้าไปที่ห้องอีกห้องหนึ่งที่อยู่ข้างในห้องขมรมนี้ ซึ่งมีฉันเดินตามไปห่างๆ ธุระอะไรนักหนาทำไมต้องทำในห้องลับขนาดนี้ด้วยนะ พวกผู้ชายนี่ชอบทำอะไรลับๆอยู่เรื่อยเลยนะ
“ไอ้เซมีคนมาหาเว้ย!”
“...”
“ไอ้เซ! เค้าบอกว่ามีธุระจะคุยกับแกแป๊บเดียวออกมาหน่อยสิวะ แล้วค่อยต่อก็ได้”
“ใครว่ะ บอกให้กลับไปก่อนดิ แล้วค่อยมาวันหลัง”
หา!!! มาวันหลังเนี่ยนะ ฉันจะกินข้าวเที่ยงวันนี้นะอีตาบ้าไม่ได้กินชาติหน้าจะได้มาวันหลัง แล้วทำไมพวกนี้ถึงไม่ให้ฉันเข้าไปคุยกับนายเซจิน่ะ แค่นิดหน่อยเองนะทำเป็นมีลับลมคมในไปได้
“เฮ้ย~เธอมาอยู่นี่ได้ไงฉันบอกให้เธอรออยู่ข้างนอกไม่ใช่หรอ”
“ฉันขอคุยแป๊บเดียว ให้ฉันเข้าไปเถอะนะ”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวฉันเรียกให้อีกทีละกัน”
มันจะอะไรกันนักกันหนาว่ะ แค่ขอคุยด้วยนิดเดียวก็ไม่ได้ ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้ ยิ่งพวกนายปิดกันแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้จังว่าข้างในมันมีอะไรอยู่กันแน่...
“ไอ้เซ เค้าบอกว่าขอคุยด้วยนิดเดียว ออกๆมาก่อนก็ได้นี่หว่า”
“โธ่เว้ย!~บอกว่าไม่ว่าก็ไม่ว่างซิว่ะ ไล่กลับไปเลยฉันไม่อยากคุยกับใครตอนนี้!!!”
“เธอได้ยินแล้วใช่มั้ย กลับไปก่อนเถอะ ถ้ามันอารมณ์เสียแล้วจะยุ่ง”
“ธุระอะไรนักหนา ฉันไปก็ได้...งั้นก่อนไปขอดูหน่อยละกันว่ามันธุระอะไร
”
“เฮ้ย!!! อย่านะ...”
แอ๊ด~O_O
ความคิดเห็น