คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : พลังที่ควบคุมไม่ได้
แอนเรียสปรากฎตัวด้วยชุดกระโปรงยาวสีน้ำทะเล เกล้าผมสูงและประดับด้วยมุกสีดำตัดกับผมสีบรอนซ์ทองตามแบบฉบับเจ้าหญิงทำให้ดวงหน้าดูน่ามองมากยิ่งขึ้น ดวงตาสีน้ำทะเลหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นสตรีอีกคนที่มาตามนัด
แอนเรียสมองคนตรงหน้าด้วยสายตาหยามเหยียดที่สุด ทำไมเจ้าหญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจและงดงามที่สุดอย่างเธอจะต้องมารบกับผู้หญิงขี้เหร่ที่แต่งตัวอย่างกับชายนี่ด้วยมันดูเหมือนรังแกคนไม่มีทางสู้ยังไงไม่รู้ แต่เธอก็ไม่ประมาท ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามบอกให้เธอประลองยังไงก็ได้ เธอจึงเสียเวลาเกือบค่อนคืนมาเตรียมพื้นของห้องประชุมให้เป็นสนามประลองชั้นดี
“นึกว่าท่านจะไม่มาซะแล้วควีนแห่งอาณาจักรปีหนึ่ง”
“อุตส่าห์รีบมาเลยนะเนี่ยนี่ข้าไม่ได้สายใช่ไหมแอนเรียส”
“ไม่นี่คะ ไปที่สนามประลองเลยมั้ย”
อลิเซียพยักหน้าก่อนจะเดินตามแอนเรียสเข้าไปในห้องประชุม อลิเซียก็ต้องตกใจนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าพื้นห้องประชุมถูกทำให้กลายเป็นทะเลสาบขนาดย่อม
“หวังว่าท่านคงจะว่ายน้ำเป็นนะคะ”
“ต้องลงน้ำด้วยเหรอข้าขี้เกียจกลับไปเปลี่ยนชุด”
“นั่นก็แล้วแต่ท่านว่าจะลงหรือไม่ กติกาคือชิงลูกบอลทองของอีกฝ่ายมาให้ได้เท่านั้นเองค่ะ”
อลิเซียเลิกคิ้วกับคำว่าเท่านั้นเองของเจ้าหญิงตรงหน้า
“แล้วมันเกี่ยวกับพลังเวทยังไง”
“แล้วท่านก็จะรู้เอง ท่าจะเลือกแดนซ้ายหรือขวาคะ”
“ขวาแล้วกัน”อลิเซียเดินไปยังด้านขวาของทะเลสาบและหยิบลูกบอลทองที่วางอยู่ขึ้นมาใส่กระเป๋ากางเกงไว้
คนดูที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างพากันยืนรอบๆห้องประชุมนั้นไว้ และพยายามแย่งพื้นที่ที่จะเห็นชัดที่สุดในศึกผู้หญิงตีกันนี้
“ข้าแทงข้างแอนเรียสหนึ่งร้อยฟอล”
“ข้าแทงข้างแอนเรียสห้าสิบฟอล”
เสียงลงพนันขันต่อดังขึ้นข้างสนามโดยมีไลโอเนลรับเป็นเจ้ามือและเดวิดเป็นคนจดโพย
“เฮ้ อลิเซีย อย่าทำให้ข้าต้องถังแตกนะไม่มีคนแทงข้างเจ้าเลยสักคน ถ้าเจ้าชนะนี่เรามีเงินก่อตั้งอาณาจักรใหม่เลยนะอลิเซีย เฮ้ย เจ้าน่ะ ข้าไม่รับเงินจากคนอาณาจักรเดียวกันไม่ให้แทง เดวิดอย่าจดนะ”
“เจ้าบ้า ถ้าข้าแพ้เงินเริ่มต้นของอาณาจักรก็หมดพอดีสิ”
“เราจะเริ่มกันได้หรือยังควีน หรือจะพูดให้ถูกว่าที่เสนาธิการปกครอง”แอนเรียสเรียกอลิเซีย
“ได้เริ่มเลย”เมื่อสิ้นเสียงทะเลสาบที่เคยนิ่งสงบก็เกิดคลื่นน้ำสูงท่วมหัวอย่างกับสึนามิถาโถมมาทางเธอ
“เฮ๊ย”อลิเซียร้องก่อนจะรวบรวมสมาธิและสร้างพายุหมุนขนาดยักษ์พัดรอบตัวเธอไว้เพื่อกันคลื่นน้ำนั้น
และเมื่อคลื่นน้ำนั้นผ่านตัวเธอไปแอนเรียสก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจก่อนจะจุ่มมือลงไปในน้ำแล้วคลื่นน้ำอีกสี่ระลอกก็โถมเข้ามาที่ตัวอีก คราวนี้อลิเซียรู้สึกว่าเจ้าน้ำพวกนี้พยายามเล็ดรอดผ่านพายุหมุนเข้ามา เธอจึงสร้างเปลวเพลิงปะปนรวมกับพายุหมุนเพื่อให้น้ำที่เล็ดรอดเข้ามาระเหยเป็นไอไปซะ
“เธอยังยืนอยู่ได้ยังไง”แอนเรียสถามอลิเซียหลังจากที่คลื่นน้ำที่อลิเซียคิดว่ารุนแรงกว่าทุกคลื่นเพิ่งจะผ่านตัวเธอไปปะทะกับกำแพงด้านหลังจนเกิดรอยร้าวเล็กๆ
“ก็ ทำอย่างนี้ไง”อลิเซียพยายามสร้างพายุหมุนลูกเล็กในระยะไกล และเป้าหมายคือลูกบอลทองคำที่มือของแอนเรียส และไม่ง่ายอย่างที่คิดแอนเรียสขยับมือหลบพายุหมุนเล็กๆนั่น
แม้แอนเรียสจะมองไม่เห็นการหมุนวนของพายุหมุนแต่เธอก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา
อลิเซียเองก็ครุ่นคิดเช่นกัน เพราะเธอรู้ดีว่าลมของเธอไม่เพียงพอที่จะต้อนเจ้าหญิงแอนเรียสได้ หากจะใช้ไฟก็อันตรายเกินไปเพราะเธอยังควบคุมไฟระยะไกลได้ไม่ดีนัก
“ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะ”อลิเซียจุ่มมือของตัวเองลงไปในน้ำบ้างแต่สิ่งที่เธอทำนั้นทำให้แอนเรียสรีบถอนมือออกจากทะเลสาบนั้นทันที ทำให้คนที่ยืนมองอยู่ด้านนอกต่างพากันชะเง้อคอดูว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่เกินอึดใจการเปลี่ยนแปลงที่ชัดกว่าก็ปรากฏขึ้น
น้ำในทะเลสาบนั้นเริ่มเดือดพล่านและเกิดไอน้ำร้อนๆ หนาแน่นคละคลุ้งอยู่ภายในห้อง อลิเซียปล่อยกระแสลมจากอีกมือหนึ่งที่ว่างของเธอและบังคับให้ลมนั้นหมุนรอบห้อง กลุ่มไอน้ำที่หนาทำให้คนข้างนอกมองไม่เห็นเหตุการณ์ภายใน
เจ้าหญิงแอนเรียสที่ตอนนี้กำลังอยู่ในอารมณ์ตื่นตะหนกเต็มที่มองเหตุการณ์รอบๆ อย่างหวาดหวั่น
“เธอเป็นใครกันแน่”
“ท่านไม่รู้จริงน่ะเหรอ เราเคยเจอกันมาหลายครั้งแล้วนะ”
“ควีน ท่านชื่อจริงว่าอะไร”
“ว้า ไม่อยากบอกเลย ข้าชื่ออลิเซีย แวนเวิร์ธ”
“เจ้าหญิงองค์เล็ก”
“โธ่ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ ข้ารู้ตัวดีว่าข้าขี้เหร่ ผิดหวังล่ะสิ”
แอนเรียสพยักหน้า ทำให้อลิเซียถึงกับเซ็งนิดๆ แหมจะรักษาน้ำใจกันสักนิดก็ไม่ได้
“เท่าที่ข้ารู้คนจากตระกูลแวนเวิร์ธไม่มีพลังเวทนี่นา แล้วทำไมท่านถึงใช้ได้ถึงสองสายในคราวเดียว”
“ถามเหมือนเจ้าพวกนั้นอีกแล้ว เป็นความลับน่ะ แล้วก็ข้าชนะแล้วนะ”
เจ้าหญิงแอนเรียสเลิกคิ้วก่อนจะมองลูกบอลในมือเธอที่ตอนนี้ไม่ใช่บอลทองคำแต่เป็นก้อนน้ำกลมๆขนาดเดียวกัน
“ข้ายอมรับท่านแล้วในฐานะควีน เจ้าหญิงอลิเซีย”
แอนเรียสย่อกายเพื่อทำความเคารพเธอ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น
“หยุดอะไรพวกนี้เถอะ ข้าร้อนจนจะเป็นลมแล้ว”
“นั่นแหละปัญหา ข้าหยุดมันไม่ได้”
“ท่านสร้างมันขึ้นมาทำไมถึงหยุดมันไม่ได้ล่ะ”แอนเรียสพูดพร้อมกับมองไปยังไอน้ำที่หมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“ข้าก็ไม่รู้ ข้าขยับตัวไม่ได้”
ทันใดนั้นอลิเซียก็รู้สึกถึงพลังบางอย่างที่ไหลมาจากด้านนอก เส้นสายสีทองที่ดูเป็นรูปธรรมค่อยๆหลอมรวมกับกำแพงไอน้ำที่หมุนเร็วจี๋ ส่วนแอนเรียสเองก็ทรุดนั่งกับพื้นเนื่องจากอากาศที่เหลือน้อยและอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ
อลิเซียเองก็รู้สึกว่าเส้นสีทองนั้นพยายามต่อต้านและชะลอความเร็วของกำแพงไอน้ำ ทันใดนั้นร่างของชายชุดดำก็แทรกตัวผ่านกำแพงไอน้ำนั้นเข้ามา
“คริส ช่วยแอนเรียสก่อน”
ไม่ต้องรอให้พูดซ้ำคริสรีบวิ่งไปทางแอนเรียสที่ตอนนี้เป็นลมไปแล้วเขารีบอุ้มแอนเรียสและพาเธอฝ่ากำแพงไอน้ำออกไปทันที ส่วนอลิเซียเองที่เริ่มจะอ่อนแรงจากอากาศที่เหลือน้อยก็เริ่มพยุงตัวเองไม่ได้แล้วเช่นกัน
เมื่อคริสกลับเข้ามาอีกครั้ง เขาเอามือข้างหนึ่งแตะมือที่จุ่มอยู่ในน้ำและมืออีกข้างแตะมือที่ปล่อยอากาศ อลิเซียขืนตัวเล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าอยู่ในอ้อมแขนของอีกคน
“อยู่นิ่งๆ ก่อน”
อลิเซียรู้สึกถึงพลังแบบเดียวกับที่อิลิซาเบธถ่ายทอดให้เธอเมื่อคืนกำลังไหลผ่านมือของเธอ ความร้อนของน้ำและความเร็วลมก็เริ่มลดลง อลิเซียซึ่งตอนนี้เริ่มรู้สึกเหมือนสติจะหลุด
“อย่าเพิ่งเป็นลมนะ อดทนอีกนิดเดียว”เสียงของคริสกระซิบเบาๆ ทำให้อลิเซียแข็งใจลืมตาขึ้นและพบว่าไอน้ำนั้นหายไปเกือบหมดแล้วและลมก็ลดความเร็วลงมากแล้ว
“ข้าไม่ไหวแล้ว”
“ถ้าเจ้าหยุดกำแพงนั่นจะระเบิด คนที่อยู่รอบๆจะบาดเจ็บ ทนอีกสักนิด อย่างน้อยให้ระเบิดนั่นเบาลงอีกก็ยังดี”
“ข้าไม่”สติที่เหลือเพียงน้อยนิดก็เริ่มจางหายไป อลิเซียกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อเรียกสติ
อลิเซียใช้ความพยายามอย่างมากที่จะคงสติไว้ จนสายลมเหลือเพียงลมเบาๆ และคนข้างตัวพูดว่า
“พอแล้วล่ะ ระเบิดระดับนี้ไม่เป็นอันตรายแล้ว”
อลิเซียไม่ได้รับรู้ว่าระเบิดระดับที่ไม่เป็นอันตรายแต่ทำให้คนที่ยืนมุงอยู่ถึงกับถอยไปสองสามก้าว แต่ที่เธอรู้สึกอย่างเดียวคือมีคนสร้างเกราะบางๆ เพื่อกันแรงกระแทกเหล่านั้น
*******************************************************************************************************
ความคิดเห็น