คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ผู้มาเยือนในความฝัน
อลิเซียเอนหลังและเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา และภาพแห่งความฝันก็ปรากฏขึ้น สวนดอกไม้ที่มีแต่ดอกไม้สีขาวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ดอกไม้สีขาวส่งกลิ่นอบอวนแต่ปราศจากแมลงหรือผีเสื้อ ตรงกลางของสวนมีโต๊ะน้ำชาตั้งอยู่และใครบางคนก็กำลังนั่งรอเธออยู่ตรงนั้น
ใครบางคนที่สวมหมวกที่มีผ้าคลุมหน้าสีดำที่ทำหน้าที่ซ่อนใบหน้าแบบที่เธอจะต้องใส่เป็นประจำเวลาออกงานกำลังจ้องมองมาที่เธอ และเมื่ออลิเซียเดินเข้าไปใกล้ ใครคนนั้นก็หยิบกาน้ำชาขึ้นมาและรินชาร้อนๆใส่ถ้วยอีกใบที่ว่างอยู่
“ข้ารอเจ้ามานานแล้วอลิเซีย ข้าชื่ออิลิซาเบธ”
“ท่านเป็นใคร”
“ก็เป็นข้านี่หล่ะ ข้าถือกำเนิดอีกครั้งพร้อมกับเจ้า ขนมหน่อยมั้ย”
“แล้วทำไมท่านถึงมาพบข้า”อลิเซียรับจานขนมนั้นมาแต่ยังไม่แตะต้องเช่นเดียวกับน้ำชา
“ข้าคิดว่าเวลาใกล้จะมาถึงแล้วและข้าต้องเตรียมตัวเจ้าให้พร้อม”
“พร้อมสำหรับ”
“พร้อมสำหรับบททดสอบใหญ่หลวง สาวน้อยดูจะเป็นการมากเกินไปถ้าข้าจะขอร้องเจ้าตอนนี้ แต่ข้าจะขอร้องให้เจ้าไปช่วยใครบางคนให้ตื่นขึ้นจากฝันร้าย”อิลิซาเบธพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
อลิเซียพยายามมองลอดผ้าคลุมหน้านั้นแต่ก็ไม่สำเร็จ แขกลึกลับของเธอยังซ่อนใบหน้าของเธอได้อย่างมิดชิด
“แต่นั่นยังอีกนานกว่าจะมาถึงและเจ้าก็ยังไม่พร้อมสำหรับงานนั้น”
“แล้วข้าบอกหรือเปล่าว่าข้าจะทำ”
“เจ้าจะทำสาวน้อย เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าเชื่อว่าเจ้าจะทำ ข้าอยู่กับเจ้ามานานทำไมข้าจะไม่รู้นิสัยเจ้าเด็กน้อย เอาเป็นว่าข้าจะรออยู่ที่นี่เสมอหากต้องการความช่วยเหลือ จงเรียกหาข้าในห้วงคำนึงของเจ้า แล้วความช่วยเหลือจากข้าจะไปถึง”
เสียงระฆังอันไพเราะที่ดังมาจากที่แสนไกล ดึงภาพตรงหน้าออกไปจากหัวอลิเซีย ระฆังที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธอลืมตาขึ้น
“ห้าโมงแล้ว อาหารค่ำมื้อแรกตอนหกโมง แย่แล้ว ยังไม่ได้เตรียมตัวเลย ทำไงดี”
ระหว่างที่อลิเซียกำลังหันรีหันขวางอยู่นั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามาได้ โอ้ อัสเทล ข้ากำลังมีปัญหา นั่นเจ้าถืออะไรเข้ามา”
“ของนี้ถูกส่งมาให้ท่านหญิงค่ะ ไม่ระบุผู้ส่ง”
อลิเซียรับกล่องนั้นมา และเมื่อเปิดดูก็เห็นเสื้อผ้างดงามหลายต่อหลายชุด ดูจากสไตล์ของชุดแต่ละชุด ช่างคล้ายกับชุดของพี่สาวที่แสนรักทุกชุด
“โอ ขอบคุณมากค่ะพี่ฟรีเซีย ง่ะ มีแต่ชุดกระโปรง”
อลิเซียนั่งหงอยเมื่อรื้อดูชุดประมาณสิบชุดในกล่องนั้น
“อัสเทล”
“คะ ท่านหญิง”อัสเทลรีบหันหลังกลับมาเมื่อถูกเรียก
“เจ้ามีอุปกรณ์ตัดเย็บให้ข้ายืมไหม”
“มีเจ้าค่ะ ท่านหญิง แต่ท่านไม่รีบเตรียมตัวไปทานมื้อค่ำนี้เหรอคะ เหลือเวลาอีกสี่สิบห้านาที”
“ก็กำลังจะเตรียมตัว เจ้ารีบเอาอุปกรณ์พวกนั้นมาให้ข้ายืมก่อนนะ แล้วจะคืนให้”เมื่ออัสเทลรับคำอลิเซียก็รีบเข้าไปอาบน้ำทันที
เวลาเกือบหกโมงเย็น รถม้าประจำตำแหน่งก็ถูกส่งมารอรับทั้งสี่คนที่หน้าปราสาท แต่ยังขาดสมาชิกอีกคนที่ยังไม่ลงมา
“ไม่คิดว่าแม่นี่จะห่วงสวยกับเขาด้วย”ไลโอเนลเปรยเบาๆ พลางเขี่ยผมสีบรอนซ์เงินของเขาเล่นวันนี้เขาอยู่ในชุดสีเขียวสดใสที่ตัดเย็บจากช่างเสื้อมีชื่อของเมืองมิเอลทาเนียร์
ไม่มีคำตอบรับการเริ่มหัวข้อสนทนานั้นจากสมาชิกอีกสองคนที่เหลือ
“นี่ พวกนายน่ะ เรายังต้องอยู่กันอีกสี่ห้าปี อย่างน้อยช่วยทำให้ข้าแน่ใจได้ไหมว่าจะไม่เป็นบ้าไปเพราะพลังเงียบของพวกเจ้าน่ะ”
ยังไม่มีเสียงตอบรับอีกเช่นเดิม ทำให้ไลโอเนลเปลี่ยนใจมาสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าตัวเองอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แต่จงใจให้อีกสองคนได้ยิน
“เฮ้อ ถ้ายัยอลิเซียเป็นพวกลัทธิเงียบแบบพวกนาย ข้ายอมแลกตำแหน่งข้ากับเดวิดเลย”
“แต่ข้าว่าเดวิดไม่แลกตำแหน่งกับท่านแน่นอน ไม่แน่นะตอนนี้หมอนั่นอาจจะเพิ่งฉลองลับๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้ เนื่องในโอกาสที่หลุดจากอเล็กไปได้”
คนที่มาสายแต่ไม่วายส่งเสียงแซวคนอื่น เดินยิ้มออกมาจากปราสาท
“ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะแม่คุณ”ไลโอเนลกัด
อลิเซียเอียงหัวเล็กน้อยอย่างสงสัย ไลโอเนลดูจะพูดเก่งมากขึ้นกว่าที่เจอกันครั้งแรก
“พวกนายอยากมาเร็วกันทำไมล่ะ นี่ไงหกโมงเป๊ะ ฉันไม่ได้สายย่ะ”
“แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้ล่ะ เห็นชักช้านึกว่าจะแต่งสวยอยู่”
อลิเซียที่ตอนนี้สวมเสื้อและกางเกงที่ตัดเย็บจากผ้าของชุดที่ได้รับเป็นของขวัญ หมุนตัวและกระโดดขึ้นรถม้า
“ก็ข้าชอบใส่กางเกงนี่นา แล้วฝีมือข้าก็ดูไม่ได้น่าเกลียดอะไร อีกอย่างข้าไม่ชอบใส่กระโปรงที่เหมือนเอาผ้าม่านมาพันตัวแบบนั้นอยู่แล้ว”
“เชิญท่านทั้งสามค่ะ”อัสเทลค้อมตัวก่อนจะเปิดประตูรถม้าและยกบันไดมาวางให้ท่านชายอีกสามคนเดินขึ้น
“ขอบคุณมากอัสเทล”ไลโอเนลกล่าวขอบคุณเช่นเดียวกับคนปากหนักอีกสองคน
“ดีนะที่มีเจ้าอยู่ด้วยไลโอเนล ไม่งั้นข้าต้องเป็นใบ้ตายแน่”
“การเก็บปากเก็บคำเสียบ้างก็ไม่เคยทำให้ใครตาย”เสียงเหน็บเบาๆ ที่ดังมาจากอเล็กทำให้คนพูดเก่งทั้งสองคนหูผึ่ง
“เธอเก่งเหมือนกันนะเนี่ย ข้าไม่เคยทำให้อเล็กพูดได้เลยตลอดทั้งวันมาเนี่ย”
“ยังไม่สนิทมั้ง เขาอาจจะเป็นประเภทถ้าไม่สนิทไม่คุยหรือเปล่า อ่อ ไม่ๆวันนี้เดวิดบอกข้า เขาจะพูดกับคนที่น่าสนใจเท่านั้น ไม่รู้ว่าหมอนั่นทนอยู่กับคนแบบนี้ได้ยังไง”เสียงวิเคราะห์วิจารณ์ที่ดังขึ้นราวกับอเล็กไม่ได้อยู่ตรงนั้นทำให้คนที่ตั้งใจจะเก็บปากเก็บคำเริ่มอยากจะเถียงบ้าง
แต่ความคิดนั้นเป็นอันตกไปเมื่อตัวแสบหันไปสนใจกับคนที่อยู่ด้านนอกรถม้า เธอโบกไม้โบกมือให้กับเพื่อนสนิทของเขายังกับคนรู้จักกันมานาน
“เดวิด ดูชุดใหม่ฉันสิ ตัดเองเลยนะ นายว่าเขาจะให้ฉันเข้างานมั้ย”อลิเซียตะโกน
“น่าจะได้แหละ ระวังจะตกอย่าชะโงกหน้าออกมาแบบนั้นสิ”
“ไม่ตกหรอก ไว้เจอกันที่งานนะ”
อลิเซียโบกมืออีกครั้งอย่างรื่นเริง แต่การกระทำทั้งหมดนั้นกลับไปขัดสายตาของคนกลุ่มหนึ่ง
“ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าข้าจะสอบแพ้ผู้หญิงเช่นนั้น”เสียงพึมพำเบาๆ ดังมาจากปากของผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรโอเชนเซีย
“เจ้าก็อคติไป นางก็ร่าเริงดีนะ แต่อาจจะมากเกินไปนิด แต่ถ้าเป็นข้านะ ถ้านั่งข้างเจ้านั่นอย่าว่าแต่ร่าเริงเลย ข้าอาจจะไม่กล้าพูดด้วยซ้ำ เจ้าจำแรงกดดันตอนที่เราเดินเข้าไปในห้องรับรองไม่ได้เหรอ ยังกับว่าข้าจะตายตรงนั้นให้ได้”
ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ เจ้าหญิงแอนเรียส ผู้ซึ่งได้ตำแหน่งเสนาธิการฝ่ายกิจกรรมและการสงครามเอ่ยตอบ
“ข้าจำได้ ถ้าไม่เจอกับตัวเอง ข้าก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่มันก็หายไปแทบจะในทันทีหลังจากนั้นไม่ใช่เหรอ ราฟาเอล”ดวงตาสีน้ำทะเลหรี่ลงเล็กน้อยยามมองตามรถม้าที่นำหน้าไป
“ใช่ แต่นั่นแหละที่น่าสนใจมาก แล้วเจ้าล่ะยังคิดที่จะชิงตำแหน่งควีนอีกไหม แต่ถ้าได้เป็นต้องไปนั่งตรงนั้นนะ”
“ต้องชิงสิราฟาเอล ก็นั่นนะ มันควรจะเป็นตำแหน่งของข้านี่นา”
“ส่งคำท้าเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็คิดว่าน่าจะเป็นคืนนี้ล่ะ”เจ้าหญิงแอนเรียสเสนาธิการฝ่ายการปกครองเอ่ย ก่อนจะกระโดดขึ้นม้าประจำตำแหน่ง
“เร็วหน่อยริชาร์ด เซเรส ท่านหญิงกระโดดขึ้นม้าไปแล้วนะ”ราฟาเอลหันไปเร่งเพื่อนอีกสองคนที่เหลือก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้าเช่นกัน
*********************************************************************************
ความคิดเห็น