คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ข่าวร้าย
ร่างของหญิงสาวที่เป็นศูนย์กลางของพายุหมุนเริ่มสั่นสะท้าน พลังที่อยู่ๆ ก็เพิ่มขึ้นมาสร้างความเจ็บปวดให้กับเธอจนเธอลืมความทรมานจากพิษงูไปได้เลย ราวกับเส้นประสาททุกเส้นถูกทำให้ระเบิด กล้ามเนื้อทุกมัดกำลังโอครวญเมื่อต้องเจอกับพลังมหาศาลเกินกว่าจะรับไหว อลิเซียกรีดร้องออกไปอย่างสุดเสียง เมื่อความเจ็บปวดเริ่มทวีมากขึ้น ก่อนสติของเธอจะค่อยๆ หลุดลอยไป แต่ร่างของเธอยังตั้งตรงเพราะแรงจากศูนย์กลางพายุรุนแรงที่ยึดเธอเป็นแกนกลางไว้
ตอนนี้ภาพที่ปรากฏในห้วงสำนึกของเธอไม่ใช่สวนดอกไม้อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นปราสาทดำทมึนหลังใหญ่ ท้องฟ้าสีแดงเลือด รอบๆ ตัวเงียบสงัดจนน่ากลัว กลิ่นสาบสางที่ลอยมากับสายลมหนาวเหน็บทำให้อลิเซียต้องกอดตัวเองเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ที่นี่ที่ไหนกัน เธอค่อยๆ นั่งลงหลับตาและจมอยู่กับความเงียบนั้น เธอไม่อยากเดินไปไหน ไม่อยากออกไปไหนแล้ว อยากนั่งอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆ
“อลิเซีย”เสียงเรียกเบาๆ จากที่อันแสนไกลทำให้เธอลืมตาขึ้น แต่เธอมองไม่เห็นคนที่เป็นต้นเสียง และก่อนที่เธอจะหลับตาลงอีกครั้ง เสียงเดิมก็ดังขึ้นอีก
“อลิเซีย”เสียงนั้นเรียกอีกครั้ง และดังขึ้นกว่าคราวที่แล้วเล็กน้อย หลังจากนั้นก็มีเสียงเรียกดังขึ้นอีกหลายครั้งและแต่ละครั้งก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
เธอตัดสินใจลุกขึ้น และมองหาเสียงนั้นอย่างจริงจัง เสียงนั้นดังมาจากบ่อน้ำบ่อหนึ่งที่อยู่ใกล้กับปราสาท เธอมองบ่อน้ำเก่าๆ นั้นอย่างไม่ไว้ใจ รอบปากบ่อมีวัชพืชขึ้นเต็มไปหมด ถังน้ำเก่าๆ ผุๆ ถังหนึ่งวางอยู่ข้างๆ บ่อน้ำนั้น
อลิเซียชะโงกหัวลงไปในบ่อน้ำนั้น คริสอยู่ตรงนั้น เขาจ้องมองเธอจากก้นของบ่อ ตัวเขาจมอยู่ในน้ำครึ่งตัว และกำลังร้องเรียกเธอ
ทันใดนั้นก็มีแรงมหาศาลพุ่งออกมาจากบ่อน้ำนั้น แรงนั้นกระแทกเธอจนเธอหงายหลังมาก้นกระแทกพื้น ทันใดนั้นมือสีขาวซีดก็โผล่จากพื้นดินมายึดแขนขวาของเธอไว้ อลิเซียพยายามสะบัดให้หลุดจากแขนนั้น ในหัวของเธอคิดว่าทางเดียวที่เธอจะรอดคือต้องไปที่บ่อน้ำ
แต่ฉับพลัน สิ่งแวดล้อมรอบตัวที่เคยนิ่งเงียบก็เริ่มหมุนวน เมื่อภาพรอบตัวเริ่มบิดเบี้ยว ความเจ็บปวดก็กลับมาอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าแขนขวาของเธอเลือดไหล และข้อมือซ้ายของเธอก็ปรากฏรอยงูฉก และมือขาวซีดนั่นหายไปแล้ว อลิเซียรีบลุกขึ้นและวิ่งไปที่บ่อน้ำทันที แต่เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น คราวนี้ไม่ได้มาจากบ่อน้ำแต่มาจากท้องฟ้า
“อย่าเข้าไปใกล้บ่อน้ำ ถอยออกมา”เสียงของอิลิซาเบธดังกังวานขึ้นในหัวของเธอ
“แล้วจะต้องไปที่ไหนล่ะคะ”อลิเซียร้องถามในขณะที่ภาพรอบตัวหมุนรวมกันจนดูไม่รู้เรื่อง มีเพียงบ่อน้ำกับเธอเท่านั้นที่อยู่ตรงกลางของการหมุนนั้นที่ยังไม่ถูกบิดจนผิดเพี้ยน
อยู่ดีๆ ความเจ็บปวดที่แขนขวาของเธอก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งและคราวนี้เธอก็เห็นตัวการ มีดสั้นสีเงินปักที่แขนเธอจนมิดด้าม และเมื่อเธอจับที่มีดนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในมีด
เมื่อเธอลืมตาขึ้นเธอก็พบว่าอยู่ท่ามกลางพายุหมุนที่เต็มไปด้วยเลือดที่ส่งกลิ่นคาวคลุ้ง เสียงของคริสกับไลโอเนลตะโกนดังมาจากด้านนอก ตอนนี้เธอรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรงมาก ที่ยังยืนหยัดอยู่ได้เพราะลมจากพายุเท่านั้น คริสตะโกนอีกชื่อเธอดังซ้ำอีกหลายครั้ง กว่าที่เธอจะรวบรวมแรงและตอบได้เพียงเบาๆ ว่า
“ช่วยฉันด้วย”แต่โชคดีที่เสียงนั้นดังไปถึง
“เธอตั้งสตินะ แล้วลดความเร็วของพายุลง ทำได้ไหม”
“ฉันจะพยายาม”แม้จะพูดไปอย่างนั้นแต่อลิเซียก็รู้ถึงขีดจำกัดของร่างกายตัวเองแล้ว
มีเพียงความเจ็บปวดจากมีดเงินเท่านั้นที่ช่วยให้เธอยังครองสติไว้ได้ อลิเซียพยายามกัดฟันเพื่อชะลอความเร็วของพายุแต่มันก็ไม่เป็นผล ทันใดน้ำ พายุหมุนสีดำลูกใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นรอบพายุของเธอ พายุนั้นดูรุนแรงและสูงกว่าของเธอหลายเท่านั้น ทั้งยังมีสายฟ้าเล็กๆ จากพายุนั้นที่คอยตอดพายุของเธอโดยรอบ แล้วร่างๆ หนึ่งก็กระโดดลงมาจากยอดของพายุสีดำ
คริสรีบเข้ามาพยุงร่างที่เริ่มจะล้มลงเพราะลมพายุอ่อนแรงลงแล้ว พายุลูกใหญ่หยุดการหมุนของพายุโลหิตที่แม้จะรุนแรงแล้วแต่ยังด้อยกว่าพายุสีดำ
อลิเซียหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน
“เธอนี่มันไม่ประมาณตนเองเลยนะ ควบคุมพลังไม่ได้แล้วยังชอบปล่อยออกมาแบบไม่บันยะบันยังอีก”
“แล้วนายไม่เฝ้าธงเหรอไง”
สีหน้าของคริสนิ่งลงเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“ฉันผิดเองแหละที่รีบร้อนทำสงคราม”
“นายหมายความว่ายังไง”
“ต้องรออีกสักพักกว่าที่พายุอัสนีจะสงบ อลิเซีย อลิเซีย อลิเซีย”คริสตะโกนพร้อมเขย่าร่างของคนตรงหน้า ก่อนจะหันไปเห็นรอยงูกัดที่มีสีเขียวจนม่วงที่ข้อมือของอลิเซีย เขารีบถอนมีดจากแขนของเธอแล้วปักใส่ชุดเกราะของเธอทันที
******************************************************************************
แสงของตะวันที่ใกล้จะลับขอบฟ้าเป็นภาพแรกที่เธอเห็นผ่านหน้าต่างของห้องสีขาวที่ไม่คุ้นเคย อลิเซียที่เพิ่งจะได้สติ พินิจมองภาพนั้นอยู่สักพัก แผลที่แขนและแผลจากพิษงูได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว แต่ความเหนื่อยล้าจากการเสียเลือดทำให้เธอยังคงนอนอยู่ที่เดิม
จนฟ้ามืดลงแอนเรียสก็ปรากฏตัวที่ประตูพร้อมกับไลโอเนล ใบหน้าของเพื่อนสาวดูเศร้าหมองเช่นเดียวกับไลโอเนลที่ปกติจะทำตัวร่าเริงจนหน้าหมั่นไส้ กลับดูเงียบเรียบร้อยจนผิดปกติ
“เธอรู้สึกดีขึ้นมั้ย อาจารย์ห้องพยาบาลให้ยาแก้พิษเธอแล้ว พี่การ์เรียร์เขาฝากเซรุ่มไว้น่ะ”
“แอนเรียส ตกลงเราชนะหรือแพ้ ฉันไม่ได้หยิบธง”
แอนเรียสก้มหน้านิ่งก่อนที่จะเสมองออกไปนอกหน้าต่างแทนคำตอบ
“เราไม่ได้แพ้ใช่มั้ย”
ไลโอเนลนั่งลงที่เตียงข้างๆ อลิเซีย และจับข้อมือของเธอมาดู
“ไม่เหลือรอยแผลเลยสักนิด อาจารย์ที่นี่เก่งชะมัดเลย”
“ไลโอเนล”อลิเซียเน้นคำ
“เฮ้อ ทำไมต้องเป็นข้าเล่าด้วยเนี่ย ก็ได้เราแพ้ เจ้าโง่นั่นทิ้งธงทันทีที่เห็นพายุบ้าๆนั่น เขามาถึงหลังจากที่ฉันเก็บพี่การ์เรียร์ไปแป๊บเดียว และพี่เอริคก็ไปถึงธงของเราได้หลังจากฉันเห็นหน้ามันแป๊บเดียว แต่เวลานั้นเราไม่ได้สนใจเรื่องธงแล้ว เธอเอาแต่กรีดร้องจากกลางพายุนั่น บอกตามตรงฉันไม่โทษมันเลยที่มันทิ้งหน้าที่มา ถ้ามันช้ากว่านั้นนิดเดียว เธอตายแน่ พิษงูของพี่การ์เรียร์น่ะ ไม่ได้ทำให้เสื้อเกราะทำงานเพราะไม่ใช่การโจมตีโดนหัวหรือหัวใจมันจะฆ่าเธอจากข้างใน”
“หมายความว่าเราแพ้เพราะฉัน”
แอนเรียสซึ่งมานั่งอีกข้างของเตียงเธอหยิบมืออีกข้างของเธอมากุมไว้
ความคิดเห็น