ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อลิเซีย แวนเวิร์ธ กับ พันธสัญญาอาถรรพ์

    ลำดับตอนที่ #15 : งูยักษ์แห่งการ์เรียร์และพายุโลหิต

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 54


    เช้าวันถัดมาพวกเขาทุกคนก็ไปรายงานตัวที่ห้องพยาบาลเพื่อรับเสื้อเกราะกับหมวกเวทย์เพื่อสวมในการเข้าไปในสงครามจำลอง โดยเกราะใสๆทั้งสองชิ้นนี้จะทำหน้าที่คัดคนออกจากสนาม หากผู้สมัครคนใดโดนโจมตีที่จุดตายคือศีรษะและหัวใจจะถูกเวทย์ย้ายที่ของเกราะย้ายตัวกลับมาที่ห้องพยาบาลทันที

    ปีหนึ่งและปีห้าที่มาเจอกันที่ห้องพยาบาลดูแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด พวกปีห้าดูจะโกรธแค้นที่ปีหนึ่งเล่นไม่ซื่อมาตั้งแต่ต้นเกมส์ ส่วนพวกปีหนึ่งก็แบ่งเป็นสองลักษณะคือส่วนหนึ่งดูนิ่งผิดปกติเนื่องจากยังมีอาการเกร็งกับเกมส์สงครามที่ไม่เคยเข้าร่วมมาก่อนส่วนอีกกลุ่มหนึ่งหรือใช้คำว่าอีกคนหนึ่งดูจะร่าเริงมากกว่าปกติ

    ไลโอเนลเดินโบกพัดสีขาวที่เขียนตัวอักษรสีดำไว้เล็กน้อยไปมา วันนี้เขาอยู่ในชุดสีชมพูสดใส ซึ่งดูจะต่างกับคนอื่นๆ ในชั้นปีที่ครึ่งหนึ่งแต่งกายด้วยชุดสีเทาอีกครึ่งหนึ่งแต่งกายด้วยชุดสีเขียว

    ภูมิประเทศของทางปีห้าเป็นเทือกเขาซึ่งส่วนใหญ่เป็นเขาหินที่ถอดแบบมาจากเขาแห่งปัญญาในวาเลนเซีย การแต่งกายด้วยสีพรางตัวจะทำให้พวกนั้นเล็งเราได้ยากขึ้น ส่วนพื้นที่ของเราเป็นป่าดิบซึ่งถอดแบบมาจากป่าทมิฬของโอเรนเบิร์กเสียงของคริสอธิบาย

    ปีห้าทุกคนถืออาวุธครบมือที่ทางคิงของตัวเองมอบมาให้เมื่อเช้า บางชิ้นก็เป็นอาวุธเก่าที่ยังไม่พังเสียหายจากปีที่แล้ว บางชิ้นก็เป็นของใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ส่วนพวกขุนนางใช้อาวุธของตัวเองตามกฏที่ว่าคนที่อยู่ชนชั้นขุนนางขึ้นไปสามารถใช้อาวุธประจำตัวได้ อาวุธของบางคนจึงดูอลังการงานสร้างข่มขวัญได้อย่างดี

    อลิเซียเห็นภาพพี่ปีห้าบางคนแยกเขี้ยวใส่เธอ ทำให้มือของเธอกระชับดาบทลายมายาที่ไลโอเนลให้ไว้ด้วยแรงที่มากขึ้น ก่อนจะนึกถึงแผนสดๆร้อนๆ ที่คริสมอบให้คนเป็นประชาชนในตอนเช้า บางคนทำตาโตเพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้จะต้องเข้าร่วมสงคราม

    ใครที่ใช้พลังเวทไม่ได้บ้างเสียงของคริสถามคนที่มียศต่ำกว่าขุนนาง ก่อนจะแยกคนออกตามสายในการใช้พลังและให้พวกที่เป็นเวทย์สายน้ำที่มีจำนวนคนเยอะสุดไปขึ้นตรงต่ออลิเซีย คนที่มีเวทย์สายไฟไปขึ้นตรงกับริชาร์ด ส่วนสายลมไปอยู่กับราฟาเอล สายปฐพีไปอยู่กับเซเรส เพื่อทดสอบระดับความสามารถในการควบคุมเวทย์ ก่อนจะคัดอีกทีจนเหลือสายน้ำแค่สองคน สายไฟและสายลมอย่างละคน

    พวกที่ผ่านการคัดเลือกให้ใส่ชุดสีเทาเพราะจะได้อยู่แนวกลางคอยช่วยแนวหน้าซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วย ส่วนพวกที่ไม่ผ่านให้ใส่ชุดสีเขียวคอยป้องกันธง แนวหน้าแอนเรียสกับไลโอเนลจะเป็นผู้นำ แนวกลางเป็นริชาร์ด แนวป้องกันธงข้าจะรับหน้าที่เองมีการมองหน้ากันไปมาเมื่อคริสบอกว่าตัวเองจะอยู่แนวหลัง ในที่สุดคนช่างถามเจ้าประจำก็ยกขึ้น

    ข้าสงสัยว่าเจ้าซึ่งเก่งที่สุดทำไมไม่เป็นทัพหน้าไปบุกล่ะ

    แล้วถ้าเจ้ามาอยู่แนวหลังแล้วบังเอิญว่า มีคนหลุดมาขโมยธงได้ เจ้าจะรับผิดชอบยังไง

    แอนเรียสหน้าหุบลงเล็กน้อยก่อนจะถามกลับว่าคริสจะรับผิดชอบยังไง

    ถ้าข้าเสียธง ข้าจะสละตำแหน่งลงไปเป็นทาส เจ้ามีเดิมพันที่สูงกว่าข้ามั้ย เอาล่ะส่วนหน้าที่ชิงธงเป็นของอลิเซีย ห้ามคนอื่นก้าวก่ายเด็ดขาด ถ้านางถูกทำให้ออกจากเกมส์ก็ถือว่าเกมส์จบทันที ห้ามคนอื่นเข้าไปชิงธงแทน

    อลิเซียแอบกลืนน้ำลายอีกรอบกับเงื่อนไขที่อยู่ดีๆ ก็ได้รับ ดูเหมือนเธอเองก็จะโดนเล็งจากทางปีห้าราวกับมีป้ายเขียนห้อยคอว่า ถ้าเจอให้เก็บก่อนทันที

    เมื่อมาถึงห้องเตรียมพร้อมก่อนปล่อยสู่สนาม ทุกคนยังคงดูประสาทนิดๆ โดยเฉพาะอลิเซีย คริสลุกขึ้นและกล่าวอะไรเล็กน้อยก่อนสัญญาณเปิดศึกจะดัง

    “จำไว้ว่า เมื่อออกศึก จะต้องชนะขอให้ทุกคนเชื่อในกันและกัน และคืนนี้เราจะฉลองกันด้วยเงินจากคลังพวกปีห้า”

    เฮ้ เสียงเฮเรียกขวัญดังก้องห้องพร้อมกับกลองศึกที่เป็นสัญญาณการเริ่มสงครามแรกของปี ทุกคนกรูกันออกไปจากห้องเพื่อประจำที่ของตัวเอง แต่มีมือหนึ่งดึงมือเธอไว้

    “รอก่อน เจ้าออกคนสุดท้าย”

    “ทำไมล่ะคริส ข้าควรจะไปพร้อมกับแนวหน้าไม่ใช่เหรอ”

    “รู้ไหมว่าทำไม ข้าถึงให้เจ้าชิงธง”คริสถามพร้อมกับมองลึกไปในดวงตาของอลิเซีย

    “ก็เพราะว่าไม่มีใครต้องการมันมากไปกว่าข้าน่ะสิ”คำตอบที่เรียกรอยยิ้มเล็กๆ ที่ปรากฏเพียงแว๊บเดียวจากมุมปากของคนที่ไม่เคยยิ้มทำให้กำลังใจของเธอเพิ่มขึ้นเป็นกอง

    “รีบไปเถอะ ทำตามที่ท่านแม่เคยสอนเจ้า”อลิเซียรับคำก่อนจะรีบวิ่งออกไปยังสนามรบ

     

    จุดเริ่มต้นเป็นชัยภูมิของชั้นปีเธอที่เต็มไปด้วยป่า อลิเซียเดินไปตามทางที่คุ้นเคยจากแบบจำลองสามมิติในห้องสมุด ตามทางจะมีคนของเธอซุ่มอยู่เป็นระยะๆ อลิเซียเร่งความเร็วในการเดินมากขึ้น แม้การทำสงครามจะไม่จำกัดระยะเวลา แต่ก็ควรจะสิ้นสุดให้เร็วที่สุด ไม่นานอลิเซียก็มาถึงชายป่า ลานโล่งที่เชื่อมระหว่างสนามสองสนามซึ่งเป็นจุดที่อันตรายที่สุด เธอหันซ้ายหันขวาระวังภัยระหว่างที่รอแอนเรียสที่นี่ซึ่งตกลงกันไว้ว่าเป็นจุดนัดพบ

    “อลิเซียพร้อมนะ”เสียงของแอนเรียสดังขึ้นข้างหลัง

    “อื้ม นับสามนะ”แอนเรียสพยักหน้าก่อนจะจุ่มมือลงไปในทางน้ำเล็กๆ ที่เห็นได้ชัดว่าเพิ่งทำขึ้นมา ทางน้ำนี้ยาวลอดไปยังชายป่าซ้ายขวาซึ่งเป็นจุดของผู้ควบคุมน้ำอีกสองคนประจำอยู่

    “หนึ่ง สอง สาม” ซูม กำแพงน้ำขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นจากทางน้ำเล็กๆ ด้วยพลังของแอนเรียสที่เพิ่มปริมาณน้ำมหาศาล จนเกิดคลื่นยักษ์ที่ใหญ่กว่าที่เธอเคยเจอตอนการประลอง และคลื่นยักษ์ก็โถมใส่ผู้เขา เพื่อเป็นการกำบังตัวอลิเซียที่วิ่งฝ่าลานกว้าง แต่เมื่อคลื่นน้ำไปถึงแดนของอีกฝ่าย กำแพงอากาศที่มองไม่เห็นก็กั้นไม่ให้คลื่นน้ำรุกล้ำเข้ามาอาณาเขตของภูเขาหิน ฉับพลันคลื่นน้ำที่เกือบจะถล่มลงมาใส่อลิเซียก็กลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้เธอรอดหวุดหวิดอยู่ใต้เพดานน้ำแข็ง

    เหนือเพดานน้ำแข็ง พวกปีห้าที่น่าจะเป็นแนวหน้าได้ปล่อยเวทย์แห่งไฟออกมาเป็นฝนลูกบอลไฟไปทางป่าตรงจุดที่แอนเรียสอยู่ แต่บอลไฟก็ไม่สามารถผ่านม่านน้ำไปได้

    “อย่าเพิ่งตกใจ มันป้องกันเราได้ แต่ก็บุกเราไม่ได้อยู่แล้ว ถนอมพลังเวทย์ไว้”เสียงของพี่เอริคดังอยู่ใกล้ๆ เธอ อลิเซียพยายามมองผ่านเพดานน้ำแข็งออกไปเพื่อหาว่าจุดไหนบ้างที่เธอพอจะแอบเข้าไปได้ เธอตัดสินใจเดินไปซ้ายสุดก่อนจะสร้างไฟลูกเล็กๆ เพื่อเจาะทางออกจากเกราะน้ำแข็ง ขณะที่ตรงกลางกำลังโรมรันกันด้วยพลังเวทย์ และแอนเรียสซึ่งได้รับสัญญาณจากอลิเซียก็แกล้งพลาดท่า ถอยทัพเข้าป่าไปตามแผน พวกปีห้าได้ใจลุกฮือกันข้ามสะพานน้ำแข็งหวังจะตีซ้ำโดยไม่ฟังเสียงห้ามของเอริค

    ฉับพลันสะพานน้ำแข็งก็กลายเป็นน้ำด้วยไฟของอลิเซียและริชาร์ด ทำให้ปีห้ากว่ายี่สิบคนต้องจมน้ำที่อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นน้ำแข็งในฉับพลัน

    “ปีห้าออกจากสงคราม 25 คน”เสียงประกาศดังก้องสนามและคนที่ถูกแช่แข็งในธารน้ำแข็งก็หายตัวไปในทันที

    อลิเซียอาศัยจังหวะที่คนประจำจุดของเธอเผลอตัวกับผลประกาศ เล่นงานที่เกราะคลุมศีรษะ

    “ปีห้าออกจากสงคราม 2 คน”

    อลิเซียรีบออกจากตรงนั้นทันที ก่อนจะเดินลัดเลาะไปตามทางที่เธอจำมาจากแบบจำลอง ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะใกล้จุดประจำการมากแล้ว และเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลังเธอทำให้ใจเธอหล่นไปที่ตาตุ่มกำแพงลมรอบตัวเธอถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการโจมตี

    “อลิเซีย”เอริคเรียกเธออีกครั้ง

    “ไม่ควรจะเจอกันนะคะ”

    “เพื่อนเธอนี่เก่งกันจริงๆ นะ แป๊บเดียวก็จัดการประชาชนพี่ได้หมดเลยแต่พี่คงจะปล่อยเธอให้ไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้วแหละ เพราะเธอเองก็รู้ดีว่าพี่ต้องการเวลาหนึ่งเดือนนั้นมากแค่ไหน อย่าขวางพี่เลย”

    อลิเซียเม้มปากก่อนจะบีบน้ำที่ติดอยู่ตามเสื้อก่อนจะพยายามเพิ่มปริมาณพลางชวนคุยเพื่อยืดระยะเวลา

    “แล้วถ้าหนูจะบอกว่าหนูเองก็อยากจะไปช่วยอาณาจักรของหนูมากเช่นกัน และคริสก็ช่วยหนูได้แน่ๆ”

    “เธอยังจะเชื่อมันอีกเหรออลิเซีย ทั้งๆที่มันน่าจะเป็นคนทำทั้งหมดนั่นด้วยซ้ำ”

    “ขอโทษนะคะ แต่หนูเชื่อคริส”อลิเซียเพิ่มขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางพายุอย่างรวดเร็วทำให้คนที่ยืนอยู่ใกล้ต้องกระเด็น แต่ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่าจึงไม่ถึงกับล้มลง เอริคสร้างกำแพงดินขนาดใหญ่ขึ้นมาขวางกั้นลมของเธอเอาไว้ทำให้อลิเซียซึ่งเป็นศูนย์กลางของพายุนั้นเซเล็กน้อย

    น้ำที่ตอนนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มนองทั่วบริเวณ ซึ่งน้ำนี้จะทำให้คนที่ตามเธอมาช่วยเธอได้ แอนเรียสกับไลโอเนลตามมาแล้ว อลิเซียจึงถอยจากเอริคแล้วรีบเดินทางต่อโดยลดขนาดของพายุลง แต่ไม่ได้สลายไปเพราะต้องป้องกันการโจมตีจากภายนอก อลิเซียไม่แม้แต่จะหันหลังไปมองเอริคที่ตอนนี้เปลี่ยนคู่ต่อสู้เป็นแอนเรียสกับไลโอเนลแล้ว

    เสียงประกาศของคนที่ต้องออกจากสนามเริ่มดังที่ขึ้น สมาชิกของปีหนึ่งถูกออกจากเกมส์ไปเกือบยี่สิบคนแล้วเมื่อเธอมาถึงส่วนที่เป็นที่เก็บธง หญิงสาวผมสั้นสีแดงนั่งห้อยขาอยู่บนหีบนั้นพลางมองเธอด้วยสายตาท้าทาย

    “มาคนเดียวเหรอจ๊ะสาวน้อย”

    อลิเซียไม่ตอบคำทักทายนั้น ตาที่แต่งแต้มด้วยอายส์ไลน์เนอร์ของผู้หญิงคนนั้นทำให้เธอรู้สึกกลัวที่จะมองตา

    “เอาน่า คุยกันหน่อยสิ ยังไม่รู้จักกันเลยนะ หยิ่งซะด้วยแฮะ”

    “ฉันชื่ออลิเซีย แวนเวิร์ธ พี่ชื่ออะไรคะ”การตอบโต้ที่เห่ยที่สุดทำให้อลิเซียอยากจะเคาะหัวตัวเอง

    “ชั้นชื่อการ์เรียร์ แมกดาเลน ราชินีของปีห้ายินดีที่ได้รู้จัก แต่เราคงจะคุยได้แค่นี้ล่ะนะ เด็กๆ ของฉันอยากจะเล่นแล้วล่ะ”เมื่อการ์เรียร์พูดจบเธอก็ตบมือหนึ่งครั้ง อสรพิษประมาณเกือบสามสิบตัวก็เลื้อยออกมาจากซอกหินต่างๆ ยังไม่รวมถึงผึ้งและแมลงมีพิษที่บินออกมาจากด้านหลังของเธอ

    “กลัวงูมั้ยคะน้องอลิเซีย”การ์เรียร์ถามเสียงหวาน ก่อนจะลูบหัวงูเห่าสีดำตัวใหญ่ที่ชูคออยู่ข้างๆ เธอ

    อลิเซียกัดฟันแน่นก่อนจะเพิ่มความหนาของชั้นพายุหมุนแล้วกระแทกไปยังสัตว์เหล่านั้นแต่เพียงการ์เรียร์โบกมือลมพายุเล็กที่พัดย้อนทิศก็เกิดขึ้นและหักล้างพายุของเธอไปจนหมด ก่อนที่อลิเซียจะสร้างพายุขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วและก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดายเช่นกัน ฉับพลันงูตัวหนึ่งก็เข้าถึงตัวเธอและฉกที่ข้อมือของเธอจมเขี้ยว อลิเซียสะบัดอย่างแรงจนงูหลุดจากมือ ก่อนจะสร้างลูกไฟขนาดใหญ่ที่ดูร้อนแรงตามอารมณ์ของเธอ

    การ์เรียร์เบิกตากว้างเมื่อเห็นงูตัวที่กัดเธอถูกเผาด้วยไฟ

    “น้องรุนแรงกับเด็กๆ ของพี่ขนาดนี้ พี่คงไม่นั่งเฉยๆแล้วนะคะ”การ์เรียร์พูดด้วยเสียงเรียบเหมือนชวนคุยแต่แฝงไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว

    พิษงูเมื่อกี้ส่งผลให้เธอรู้สึกสะลึมสะลือเล็กน้อยผิดกับจังหวะหัวใจที่เต้นแรงขึ้น การ์เรียร์เองก็เริ่มวาดวงเวทย์ที่พื้นก่อนจะกัดปลายนิ้วของตัวเองและหยดเลือดลงไปกลางวงเวทย์ ฉับพลันงูยักษ์สีดำตัวใหญ่ประมาณสองคนโอบก็พุ่งออกมาจากวงเวทย์นั้น มันขดรอบกล่องใส่ธงและใช้สายตาที่วาววับเหมือนลูกปัดมองมาที่อลิเซีย

    อลิเซียตอนนี้เริ่มจะยืนเซๆ เล็กน้อยกำลังพยายามคิดหาหนทางที่จะขโมยธงจากท้องงูนั่น มือของเธอขยับไปยังมืออีกข้างที่โดนงูกัด ก่อนจะแตะเลือดที่ไหลรินออกจากแผล มาแตะที่ปากของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ฉับพลันกำลังที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็เริ่มเพิ่มขึ้น อลิเซียเพิ่มจำนวนเลือดที่ไหลออกมาจากแผลเหมือนเพิ่มจำนวนน้ำ

    เธอสร้างพายุอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่พายุลมแต่เป็นพายุโลหิต เลือดที่ปนเปื้อนพิษงูเคลื่อนที่เป็นวงกลมและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว การ์เรียร์เองก็ตกใจกับภาพเบื้องหน้า แต่ไม่ได้ถอยหนี

    “น้องปีนี้นี่น่าสนใจอย่างที่เอริคบอกจริงๆ ด้วย แต่แค่พายุกิ๊กก๊อกแค่นี้ทำอะไรชั้นไม่ได้หรอกนะ”การ์เรียร์พูดและสร้างพายุอีกครั้งเพื่อสลายพายุตรงหน้าแต่คราวนี้พายุโลหิตไม่หายไป ซ้ำยังดูกลืนพายุของเธอไปอีก

    งูยักษ์ที่การ์เรียร์เรียกมาไม่พอใจกับภาพตรงหน้า มันพุ่งตัวฝ่าเข้าไปในพายุนั้นทันที

    “อย่ามอเรียร์”การ์เรียร์ตะโกนสุดเสียงเมื่อเห็นงูยักษ์พุ่งเข้าไปในพายุนั้น และชั่วอึดใจมันถูกแรงลมผลักกระเด็นไปอีกทางหนึ่ง

    ระหว่างที่การ์เรียร์มองตามงูยักษ์นั้น ธนูน้ำแข็งก็พุ่งมาที่หมวกของเธอก่อนที่เธอจะรู้ตัว

    “ควีนปีห้าออกจากสงคราม”เมื่อสิ้นเสียงบรรดางูและแมลงก็พากันหายไปด้วยเช่นกัน

    “เกิดอะไรขึ้น อลิเซีย”และไลโอเนลก็หน้าซีดลงเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง

    กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    *********************************************************************
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×