ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อลิเซีย แวนเวิร์ธ กับ พันธสัญญาอาถรรพ์

    ลำดับตอนที่ #12 : แจ้งเกิดที่งานเลี้ยงวันสถาปนา

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 54


    “ว่าไงนะ อยากขาวเหรอ อะไรเข้าสิงเธอเนี่ย ปกติเห็นโวยวายนู่นนี่นั่นตลอดเวลาฉันจะหวีผมให้”แอนเรียสถามขณะที่อลิเซียมานั่งเล่นที่ห้องส่วนตัวของเธอ เพราะช่วงนี้เธอโยนงานดูแลปศุสัตว์ที่ไม่ต้องใช้พระอาทิตย์จำลองให้กับพวกราฟาเอลเต็มที่

    “อีกสองวันจะถึงงานวันสถาปนาแล้วข้าเองก็ต้องเปิดฟลอร์เต้นรำกับคริส ข้าแค่ไม่อยากทำให้มันขายหน้าก็แค่นั้น”

    แอนเรียสขมวดคิ้วก่อนจะเผยรอยยิ้มที่น่ากลัวออกมา

    “มีความรักเหรอ”

    “เปล่า เธอจะบ้าเหรอ”

    “ใครกันนะที่มาเคาะประตูหัวใจควีนสาวโหดคนนี้หรือจะเป็นคิงโหดคนนั้น”

    “ไม่ใช่ ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไรนะ”

    “โอ๋ๆๆๆ ช่วยสิจ๊ะ แต่เธอต้องโดดงานยาวเลยนะ แล้วก็พอดีมีอีกคนที่เขาอยากจะสวยวันนั้นเหมือนกัน”

    แอนเรียสหันไปวุ่นวายโกยกระปุกต่างๆ หน้ากระจกของเธอใส่ถุงผ้าใบใหญ่ ก่อนที่ทั้งสองพากันมาที่ส่วนของท้องพระโรงที่ตอนนี้กลับมาเป็นห้องเย็นอีกครั้ง

    “ไรโอเนล เรนเนลทำอะไรอยู่”

    “ก็ทำงานน่ะสิถามได้”

    “ไรโอเนล ฉันได้ข่าวว่านายทำให้ห้องนี้เป็นน้ำแข็งตลอดเวลาได้แม้กระทั่งตอนนอนน่ะจริงเหรอ”แอนเรียสแกล้งถามไลโอเนล

    “แน่นอน ทำไม”

    “งั้นนายก็ทำบัญชีไปด้วยได้สินะ พอดีว่าฉันต้องให้เรนเนลไปช่วยอะไรบางอย่างสักสองวันน่ะ หวังว่านายจะช่วยทำแทนเรนเนลได้นะ ไปเรนเนลตามฉันมา”

    แอนเรียสไม่พูดเฉยๆ แต่ใช้กรงเล็บของเธอคว้าแขนของคนตัวเล็กและลากขึ้นบันไดไปทันทีทำให้อลิเซียที่ยืนแบกถุงสมบัติทำหน้าแหยๆให้กับไลโอเนลก่อนจะเดินตามแอนเรียสขึ้นไปยังห้องของเธอ

    “พอกนี่ไว้นะทั้งตัวเลยห้ามกระดุกกระดิกนะเพราะมันจะแตกต้องพอกใหม่เปลืองครีม นอนตรงนั้นแหละ”แอนเรียสออกคำสั่งสองสาวที่ตอนนี้ถูกพอกด้วยโคลนทั้งตัว

    “ฉันล่ะเสียดายห้องนี้จริงๆ น่าจะตกแต่งสักหน่อยนะ ไหนๆค่าตกแต่งที่นี่ก็ฟรีนี่นา ฉันบอกอัสเทลได้ทุกอย่างเลยใช่ไหม”

    หลังจากที่แอนเรียสมาฝังตัวอยู่ห้องของอลิเซียเพียงสี่ชั่วโมงห้องเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มุ้งผ้าม่านผ้าปูเตียงถูกเปลี่ยนทั้งหมด รวมทั้งชุดเครื่องเรือนยี่ห้อที่แอนเรียสบอกว่าดังมากถูนำมาวางตกแต่งในห้อง พรมผืนใหญ่ถูกนำมาปูและเตียงเสริมอีกเตียง

    อลิเซียและเรนเดลต้องเข้าคอร์สความงามมหาโหดของแอนเรียสตลอดสองวันถูกจำกัดเรื่องอาหารอีกต่างหาก

    “แต่ฉันไม่ได้อ้วนนี่แอนเรียส”

    “ฉันให้เธอกินเพราะนี่ นี่ นี่ นี่แล้วก็นี่มันบำรุงผิว ผม หน้าของเธอกินเข้าไปซะ เธอบอกว่าเธอเย็บเสื้อผ้าเป็นใช่ไหม นี่ฉันสั่งผ้านี่มาจากข้างนอกให้ท่านแม่ส่งมาให้เลยนะ ตัดชุดตามแบบที่ฉันวาดนะ นี่ชุดเธอส่วนนี้ชุดเรนเนล”

    และในที่สุดก็ถึงวันงานสถาปนาแอนเรียสก็ยังไม่ยอมให้ทั้งสองคนออกจากห้องอยู่ดี มีแต่คุณเธอคนเดียวเท่านั้นที่ออกไปทำนู่นทำนี่มากมาย

    “อย่าบ่นน่า ฉันต้องทำงานส่วนของเธอด้วย แถมยังต้องไปตอบคำถามอีตาคิงโหดนั่นอีก รู้อะไรไหมฉันว่าไอ้ออร่าที่รู้สึกเหมือนจะตายให้ได้มันกลับมาอีกครั้งแล้ว ตอนนี้ไลโอเนลห้ามหมอนั่นเข้าไปโซนปศุสัตว์เด็ดขาดเลยล่ะ”

    “แอนเรียสฉันล้างโคลนนี่ออกได้หรือยัง”

    “ได้แล้ว รีบไปล้างซะทั้งคู่นั่นแหละเดี๋ยวต้องแต่งหน้าอีก คราวนี้นะ ฉันรับรองว่าคนทั้งโรงเรียนต้องอยู่แทบเท้าเธอแน่นอนยัยลูกเป็ดขี้เหร่”

    “ฉันไม่มั่นใจ ให้ฉันดูกระจกไม่ได้เหรอ”

    “ไม่ได้ อยากรู้ก็ถามเรนเนลสิ”

    “คุณอลิเซียสวยขึ้นมากเลยค่ะ”

    “เรนเนลเธอพูดอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

    “ก็คุณอลิเซียสวยขึ้นจริงๆนี่คะ สวยขึ้นมาเลยด้วย”

    “แล้วเธอจะรู้เองคืนนี้แม่ลูกเป็ดขี้เหร่”

    เย็นนั้นแอนเรียสสั่งให้พวกหนุ่มๆ ล่วงหน้าไปงานก่อนเพราะเธอยังเตรียมตัวไม่เสร็จแต่สั่งให้ไลโอเนลวนรถม้ากลับมารับ

    เมื่อไลโอเนลที่วนรถม้ากลับมารับให้อัสเทลขึ้นไปตามสามสาว เขาก็ยิ่งบ่นใหญ่เมื่อเห็นแอนเรียสเดินลงมาพร้อมกับผู้หญิงที่ใส่หมวกที่มีผ้าคลุมหน้าสองคน

    “พวกเธอทำสวยอะไรนักหนาชักช้าเสียเวลามันไม่สวยขะ ขะ ขะขึ้นหรอก”ไลโอเนลถึงกับพูดตะกุกตะกักเมื่อแอนเรียสเปิดผ้าคลุมหน้าของคนตัวเล็กออก

    “พูดไม่ออกเลยเหรอ เปิดประตูรถม้าให้พวกฉันสิยะ”แอนเรียสออกคำสั่ง

    “ครับ เชิญครับ”

    อาการสุภาพของท่านชายจากแดนหิมะซึ่งไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนักสำหรับคนที่รู้จักสนิทสนม

    “นายพูดสุภาพแบบนี้ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เจอนายที่โรงเตี๊ยมเลยนะไลโอเนล”หญิงสาวที่ยังซ่อนตัวเองใต้ผ้าคลุมพูด

    “สวยมั้ย”แอนเรียสแกล้งถามเบาๆ ก่อนจะก้าวขึ้นรถม้า

    ไลโอเนลที่ยืนมองสาวน้อยตาสีม่วงตรงหน้าที่อยู่ในชุดราตรีสีขาวสั้นแค่หัวเข่า แขนเสื้อเป็นแบบตุ๊กตาตกแต่งด้วยดอกไม้เล็กๆสีชมพูดูเหมือนขนมเค้กชิ้นเล็กน่ารัก

    “สวยสิ”

    “ฉันไม่ได้ถามว่าฉันสวยไหม ฉันถามว่าเรนเนลสวยมั้ย ฉันนะสวยทุกวันอยู่แล้ว”

    “สวย”คำตอบที่สั้นกว่าแต่เรียกรอยยิ้มที่มากกว่าได้

    “นี่ค่อยไปหวานทีหลังได้ไหม ช่วยฉันขึ้นรถม้านี่หน่อยสิ”เสียงจากผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในชุดรัดรูปสีดำที่ผ่าข้างด้านขวายาวขึ้นมาเกือบถึงสะโพกเพื่อโชว์ต้นขาที่ยาวสวยได้รูป เสื้อที่เปลือยไหล่กลมมนเล็กน้อยแต่ปิดส่วนอื่นหมดทำให้ดูเซ็กซี่และสง่างาม แต่ติดที่ว่าคนตรงหน้ากำลังพยายามปีนรถม้าอยู่น่ะสิ

    “ลงมาเลย รอบันไดก่อน”ไลโอเนลพูดอย่างเหนื่อยใจ

    ****************************************

    เมื่อมาถึงหอประชุมใหญ่ที่พวกเขาเคยใช้สอบเข้าก็เลยเวลาเปิดงานไปแล้ว และเวลาเต้นรำก็มาถึงคู่คิงและควีนจากชั้นปีที่สองถึงห้ายืนรออยู่ที่กลางเวที และคริสเองก็ยืนอยู่ที่นั่นแล้ว วันนี้เขาใส่ชุดทักซิโดยาวสีดำและเซทผมเรียบทำให้ความหล่อของเขาข่มความน่ากลัวได้อยู่หมัดเลยทีเดียวในวันนี้ และคนหล่อคนนั้นก็กำลังมองหาควีนตัวดีที่ยังมาไม่ถึง

    “ทำเจ้าหญิงหล่นหายที่ไหนล่ะน้องชาย”เอริคถามเสียงร่าเริงแต่ได้รังสีน่ากลัวแทนคำตอบซึ่งช่วงนี้ดูจะน่ากลัวกว่าปกติเมื่อคนบางคนหายไปหลายวัน แต่แล้วเจ้าหญิงที่ถูกทำหล่นหายก็ปรากฏตัวที่ประตูทางเข้าพร้อมกับเจ้าหญิงแอนเรียสที่ปกติก็สวยสง่าอยู่แล้วแต่วันนี้สวยมากกว่าปกติ รวมถึงสตรีร่างเล็กที่ดูน่ารักน่ากอดที่ยืนข้างๆไรโอเนลก็ดูสวยกว่าปกติเช่นกัน

    อลิเซียปลดหมวกคลุมหน้าออกฝากไว้ที่แอนเรียสก่อนจะค่อยๆ ก้าวไปยังกลางฟลอร์เต้นรำ ความสูงและชุดสีดำที่ดูเรียบแต่สง่างามเข้ากันกับผมสีดำเงาที่ถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยเก๋ และผิวที่ขาวผ่องสะท้อนแสงเทียนทำให้เธอดูโดดเด่นจากผู้หญิงคนอื่นในงานที่แต่งตัวฟู่ฟ่าเต็มไปด้วยเครื่องประดับและกระโปรงพองฟูหลากสีสัน

    ใบหน้าขาวใสที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อยเพื่อขับความสวยคมของเธอ เงยหน้ามองคู่เต้นรำของเธอที่ตอนนี้โดนมนตร์สะกดของดวงตาคู่สวยนี้เต็มๆ

    อลิเซียมองเข้าไปในดวงตาที่ไม่เคยอ่านออกของคริส บาร์โธรี่ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง อลิเซียย่อกายเล็กน้อยตามมารยาทที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี

    “และสุดท้ายเจ้าหญิงอลิเซีย แวนเวิร์ธเจ้าหญิงองค์เล็กจากอาณาจักรแวนเวิร์ธ ดำรงตำแหน่งราชินีแห่งอาณาจักรปีหนึ่ง”

    คริสช้อนมือของเธอขึ้นมาวางบนมือของเขาและเริ่มเต้นรำ อลิเซียถึงกับยิ้มกว้างเมื่อเห็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นของคนตรงหน้า หลังจากที่เธอได้ยินเสียงพึมพำเบาๆว่า ขอเพียงแค่คืนนี้เท่านั้น

    “นายยิ้มแล้วดูดีนะ”

    “ขอบคุณ วันนี้เธอสวยนะ”

    “ขอบคุณ”

    หลังจากเพลงแรกผ่านพ้นไปคนอื่นๆ ก็เริ่มเข้ามาในฟลอร์เต้นรำ อลิเซียจูงคริสออกมาจากฟลอร์ทันที

    “หิวมั้ยฉันไปตักอะไรให้กิน”

    “ไม่ได้ แอนเรียสสั่งห้ามฉันกินอะไรจนกว่างานจะเลิก”อลิเซียบ่น แต่ก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของอีกคนที่ถือจานอาหารมา

    “ก็แอบหนีไปข้างนอกที่แอนเรียสไม่เห็นก็หมดเรื่อง วันนี้หน้าที่ของเราก็หมดแล้วกลับไปกินที่ปราสาทกันมั้ย”

    “ไปสิ”

    เมื่อมาถึงที่รถม้าแทนที่จะหยิบบันไดมาวางคริสกลับอุ้มเธอขึ้นรถม้าแทน

    “ตัวเธอเบาลงนะจากวันนั้น”

    “แหงล่ะ ฉันแทบจะได้กินแต่ผักกับน้ำเท่านั้น ไม่เบาลงก็คงแปลก”

    “นึกยังไงถึงอยากสวยขึ้นมา”

    “นายไม่ชอบเหรอ”เมื่อถามออกไปก็แทบอยากจะเขกหัวตัวเอง

    “ไม่ชอบ ไม่ชอบให้คนพวกนั้นมอง”

    คำตอบที่คนได้ยินแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง

    “นี่ฉันสวยขึ้นจนทำให้นายพูดอะไรอย่างนี้เชียวเหรอ”

    “ก็คงจะแค่คืนนี้เท่านั้นที่ฉันพูดแบบนี้ พรุ่งนี้ฉันก็คงต้องกลับไปเป็นอย่างที่เป็น”

    “หมายความว่ายังไงเป็นอย่างที่นายเป็น”

    “เธอไม่อยากรู้หรอก”ดวงตาของคนตรงหน้าบ่งบอกอารมณ์เศร้าสร้อย แม้จะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นอารมณ์จากตาคู่นี้แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากเห็นความเศร้านี้เลย

    “นายอย่ามารู้ดีน่าว่าฉันอยากรู้หรือไม่อยากรู้อะไร”

    “ไปวนรอบโรงเรียนกันสักรอบมั้ย”

    “ได้สิ แล้วแต่นายเลย ฉันเองก็ยังไม่ค่อยอยากกลับปราสาทไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”

    หลังจากที่ขับรถม้าวนเวียนไปมาหลายรอบ อลิเซียก็ตัดสินใจกลับปราสาท

    ก่อนที่เธอจะเข้าห้องคริสก็ดึงมือเธอไว้ อลิเซียรู้สึกได้ถึงแรงสั่นน้อยๆ จากมือที่กุมมือเธออยู่

    “เป็นอะไร”

    “ข้าขอจับมือเจ้าไว้อย่างนี้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสที่จะได้ทำอีกหลังจากผ่านคืนนี้ไป”

    “เกิดอะไรขึ้น เจ้ามีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกข้าใช่ไหม”

    คริสพยักหน้าดวงตาของเขาช่างเศร้าเหลือเกินในความคิดของเธอ เขาจูงเธอมานั่งที่เก้าอี้นวมตัวโปรดของเธอก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าเธอ อลิเซียพยายามยิ้มเพื่อให้กำลังใจ

    “ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า ความจริงแล้ว ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของท่านพ่อ ท่านพ่อให้ข้ามารับตัวท่านไปเพื่อเข้าพิธีอภิเษกสมรสเพื่อที่ท่านจะได้เป็นราชินีแห่งอาณาจักรบาร์โธรี่โดยสมบูรณ์ตามพันธสัญญาที่ท่านพ่อของท่านได้ให้ไว้กับท่านพ่อของข้า”

    “นี่มันเรื่องอะไรกัน”

    “นานมาแล้วท่านพ่อของท่านได้ขอร้องให้พ่อของข้าช่วยเหลือเนื่องจากไม่มีบุตรสืบสกุล โดยให้สัญญาว่าจะยกลูกสาวคนที่เจ็ดให้กับท่านพ่อของข้าเป็นเครื่องตอบแทน แต่ท่านพ่อของท่านได้บิดพลิ้วและพยายามให้ท่านแต่งงานกับผู้อื่น ข้าจึงถูกส่งมาเพื่อรับตัวท่าน เนื่องจากท่านพ่อไม่สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ และที่อาณาจักรของท่านกำลังเกิดภัยพิบัตินี้ข้าคิดว่าน่าจะมาจากข้อผูกพันธ์ของพันธสัญญานั่น ตอนนี้ข้าเร่งที่จะทำสงครามเพื่อให้ท่านได้เดินทางออกจากที่นี่โดยไว”

    “ข้าไม่ใช่ของตอบแทน”ดวงตาที่ถูกแต่งแต้มอย่างงดงามบัดนี้มีแววตาที่สั่นระริกด้วยแรงอารมณ์

    “ขอให้ท่านให้อภัยกับทุกๆ เรื่องที่ข้าเผลอทำไปในคืนนี้ ข้าทำสิ่งที่ไม่ควรกับคนที่จะมาเป็นพระมารดาของอาณาจักร คนที่จะมาเป็นแม่เลี้ยงของข้า”

    “เรื่องโกหกอะไร แม่เลี้ยงอะไรกัน”

    “ขออภัยที่บอกเรื่องเหล่านี้กับ. .ท่านแม่ช้าเกินไป”คริสเว้นระยะเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคำที่เธอไม่อยากฟังออกมา

    ทั้งคู่เงียบงันกันไปพักใหญ่ อลิเซียลุกขึ้นจากเก้าอี้นวมและเดินไปที่ประตูห้องตัวเอง

    “ไปบอกพ่อของเจ้าว่าข้าจะไม่แต่งงานกับเขา ไม่มีวัน”อลิเซียพูดขึ้นเสียงเย็นโดยไม่หันกลับมามอง

    “ท่านแม่ การแต่งงานจะเป็นการหยุดภัยพิบัติที่เกิดกับบ้านเมืองท่านได้ มันเป็นวิธีเดียว”

    อลิเซียหันหน้ามามองคนที่ยังคุกเข่าอยู่ที่เดิมก่อนจะถามว่า

    “วันนั้นที่ข้าควบคุมพลังไม่ได้ ตอนที่เจ้าเข้าไปช่วยข้าหยุดพลังนั้น เจ้าเข้าไปเพื่อช่วยข้าเพราะหน้าที่นี้เช่นกันใช่หรือไม่”

    ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคนที่ยังคุกเข่าอยู่ อลิเซียจึงเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ก่อนจะทรุดนั่งที่เตียง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมาโดยปราศจากเสียง

     “อลิซ”เสียงเรียกที่คุ้นเคยของอิลิซาเบธดังขึ้น

    “ขอโทษท่านด้วย แต่ขอร้องข้าไม่อยากที่จะคุยกับใครในตอนนี้ และคืนนี้ขอความฝันข้าคืนสักคืนนะ”

    ไม่มีเสียงตอบจากอิลิซาเบธ อลิเซียล้างเครื่องสำอางทั้งหมดออกและล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน

                    “เด็กน้อยของข้าทั้งสองคน อย่าเศร้าเสียใจเพราะสิ่งที่ข้าเป็นต้นเหตุอีกเลย”

    **************************************************************************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×