คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : แจ้งเกิดที่งานเลี้ยงวันสถาปนา
“ว่าไงนะ อยากขาวเหรอ อะไรเข้าสิงเธอเนี่ย ปกติเห็นโวยวายนู่นนี่นั่นตลอดเวลาฉันจะหวีผมให้”แอนเรียสถามขณะที่อลิเซียมานั่งเล่นที่ห้องส่วนตัวของเธอ เพราะช่วงนี้เธอโยนงานดูแลปศุสัตว์ที่ไม่ต้องใช้พระอาทิตย์จำลองให้กับพวกราฟาเอลเต็มที่
“อีกสองวันจะถึงงานวันสถาปนาแล้วข้าเองก็ต้องเปิดฟลอร์เต้นรำกับคริส ข้าแค่ไม่อยากทำให้มันขายหน้าก็แค่นั้น”
แอนเรียสขมวดคิ้วก่อนจะเผยรอยยิ้มที่น่ากลัวออกมา
“มีความรักเหรอ”
“เปล่า เธอจะบ้าเหรอ”
“ใครกันนะที่มาเคาะประตูหัวใจควีนสาวโหดคนนี้หรือจะเป็นคิงโหดคนนั้น”
“ไม่ใช่ ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไรนะ”
“โอ๋ๆๆๆ ช่วยสิจ๊ะ แต่เธอต้องโดดงานยาวเลยนะ แล้วก็พอดีมีอีกคนที่เขาอยากจะสวยวันนั้นเหมือนกัน”
แอนเรียสหันไปวุ่นวายโกยกระปุกต่างๆ หน้ากระจกของเธอใส่ถุงผ้าใบใหญ่ ก่อนที่ทั้งสองพากันมาที่ส่วนของท้องพระโรงที่ตอนนี้กลับมาเป็นห้องเย็นอีกครั้ง
“ไรโอเนล เรนเนลทำอะไรอยู่”
“ก็ทำงานน่ะสิถามได้”
“ไรโอเนล ฉันได้ข่าวว่านายทำให้ห้องนี้เป็นน้ำแข็งตลอดเวลาได้แม้กระทั่งตอนนอนน่ะจริงเหรอ”แอนเรียสแกล้งถามไลโอเนล
“แน่นอน ทำไม”
“งั้นนายก็ทำบัญชีไปด้วยได้สินะ พอดีว่าฉันต้องให้เรนเนลไปช่วยอะไรบางอย่างสักสองวันน่ะ หวังว่านายจะช่วยทำแทนเรนเนลได้นะ ไปเรนเนลตามฉันมา”
แอนเรียสไม่พูดเฉยๆ แต่ใช้กรงเล็บของเธอคว้าแขนของคนตัวเล็กและลากขึ้นบันไดไปทันทีทำให้อลิเซียที่ยืนแบกถุงสมบัติทำหน้าแหยๆให้กับไลโอเนลก่อนจะเดินตามแอนเรียสขึ้นไปยังห้องของเธอ
“พอกนี่ไว้นะทั้งตัวเลยห้ามกระดุกกระดิกนะเพราะมันจะแตกต้องพอกใหม่เปลืองครีม นอนตรงนั้นแหละ”แอนเรียสออกคำสั่งสองสาวที่ตอนนี้ถูกพอกด้วยโคลนทั้งตัว
“ฉันล่ะเสียดายห้องนี้จริงๆ น่าจะตกแต่งสักหน่อยนะ ไหนๆค่าตกแต่งที่นี่ก็ฟรีนี่นา ฉันบอกอัสเทลได้ทุกอย่างเลยใช่ไหม”
หลังจากที่แอนเรียสมาฝังตัวอยู่ห้องของอลิเซียเพียงสี่ชั่วโมงห้องเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มุ้งผ้าม่านผ้าปูเตียงถูกเปลี่ยนทั้งหมด รวมทั้งชุดเครื่องเรือนยี่ห้อที่แอนเรียสบอกว่าดังมากถูนำมาวางตกแต่งในห้อง พรมผืนใหญ่ถูกนำมาปูและเตียงเสริมอีกเตียง
อลิเซียและเรนเดลต้องเข้าคอร์สความงามมหาโหดของแอนเรียสตลอดสองวันถูกจำกัดเรื่องอาหารอีกต่างหาก
“แต่ฉันไม่ได้อ้วนนี่แอนเรียส”
“ฉันให้เธอกินเพราะนี่ นี่ นี่ นี่แล้วก็นี่มันบำรุงผิว ผม หน้าของเธอกินเข้าไปซะ เธอบอกว่าเธอเย็บเสื้อผ้าเป็นใช่ไหม นี่ฉันสั่งผ้านี่มาจากข้างนอกให้ท่านแม่ส่งมาให้เลยนะ ตัดชุดตามแบบที่ฉันวาดนะ นี่ชุดเธอส่วนนี้ชุดเรนเนล”
และในที่สุดก็ถึงวันงานสถาปนาแอนเรียสก็ยังไม่ยอมให้ทั้งสองคนออกจากห้องอยู่ดี มีแต่คุณเธอคนเดียวเท่านั้นที่ออกไปทำนู่นทำนี่มากมาย
“อย่าบ่นน่า ฉันต้องทำงานส่วนของเธอด้วย แถมยังต้องไปตอบคำถามอีตาคิงโหดนั่นอีก รู้อะไรไหมฉันว่าไอ้ออร่าที่รู้สึกเหมือนจะตายให้ได้มันกลับมาอีกครั้งแล้ว ตอนนี้ไลโอเนลห้ามหมอนั่นเข้าไปโซนปศุสัตว์เด็ดขาดเลยล่ะ”
“แอนเรียสฉันล้างโคลนนี่ออกได้หรือยัง”
“ได้แล้ว รีบไปล้างซะทั้งคู่นั่นแหละเดี๋ยวต้องแต่งหน้าอีก คราวนี้นะ ฉันรับรองว่าคนทั้งโรงเรียนต้องอยู่แทบเท้าเธอแน่นอนยัยลูกเป็ดขี้เหร่”
“ฉันไม่มั่นใจ ให้ฉันดูกระจกไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้ อยากรู้ก็ถามเรนเนลสิ”
“คุณอลิเซียสวยขึ้นมากเลยค่ะ”
“เรนเนลเธอพูดอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“ก็คุณอลิเซียสวยขึ้นจริงๆนี่คะ สวยขึ้นมาเลยด้วย”
“แล้วเธอจะรู้เองคืนนี้แม่ลูกเป็ดขี้เหร่”
เย็นนั้นแอนเรียสสั่งให้พวกหนุ่มๆ ล่วงหน้าไปงานก่อนเพราะเธอยังเตรียมตัวไม่เสร็จแต่สั่งให้ไลโอเนลวนรถม้ากลับมารับ
เมื่อไลโอเนลที่วนรถม้ากลับมารับให้อัสเทลขึ้นไปตามสามสาว เขาก็ยิ่งบ่นใหญ่เมื่อเห็นแอนเรียสเดินลงมาพร้อมกับผู้หญิงที่ใส่หมวกที่มีผ้าคลุมหน้าสองคน
“พวกเธอทำสวยอะไรนักหนาชักช้าเสียเวลามันไม่สวยขะ ขะ ขะขึ้นหรอก”ไลโอเนลถึงกับพูดตะกุกตะกักเมื่อแอนเรียสเปิดผ้าคลุมหน้าของคนตัวเล็กออก
“พูดไม่ออกเลยเหรอ เปิดประตูรถม้าให้พวกฉันสิยะ”แอนเรียสออกคำสั่ง
“ครับ เชิญครับ”
อาการสุภาพของท่านชายจากแดนหิมะซึ่งไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยนักสำหรับคนที่รู้จักสนิทสนม
“นายพูดสุภาพแบบนี้ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เจอนายที่โรงเตี๊ยมเลยนะไลโอเนล”หญิงสาวที่ยังซ่อนตัวเองใต้ผ้าคลุมพูด
“สวยมั้ย”แอนเรียสแกล้งถามเบาๆ ก่อนจะก้าวขึ้นรถม้า
ไลโอเนลที่ยืนมองสาวน้อยตาสีม่วงตรงหน้าที่อยู่ในชุดราตรีสีขาวสั้นแค่หัวเข่า แขนเสื้อเป็นแบบตุ๊กตาตกแต่งด้วยดอกไม้เล็กๆสีชมพูดูเหมือนขนมเค้กชิ้นเล็กน่ารัก
“สวยสิ”
“ฉันไม่ได้ถามว่าฉันสวยไหม ฉันถามว่าเรนเนลสวยมั้ย ฉันนะสวยทุกวันอยู่แล้ว”
“สวย”คำตอบที่สั้นกว่าแต่เรียกรอยยิ้มที่มากกว่าได้
“นี่ค่อยไปหวานทีหลังได้ไหม ช่วยฉันขึ้นรถม้านี่หน่อยสิ”เสียงจากผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในชุดรัดรูปสีดำที่ผ่าข้างด้านขวายาวขึ้นมาเกือบถึงสะโพกเพื่อโชว์ต้นขาที่ยาวสวยได้รูป เสื้อที่เปลือยไหล่กลมมนเล็กน้อยแต่ปิดส่วนอื่นหมดทำให้ดูเซ็กซี่และสง่างาม แต่ติดที่ว่าคนตรงหน้ากำลังพยายามปีนรถม้าอยู่น่ะสิ
“ลงมาเลย รอบันไดก่อน”ไลโอเนลพูดอย่างเหนื่อยใจ
****************************************
เมื่อมาถึงหอประชุมใหญ่ที่พวกเขาเคยใช้สอบเข้าก็เลยเวลาเปิดงานไปแล้ว และเวลาเต้นรำก็มาถึงคู่คิงและควีนจากชั้นปีที่สองถึงห้ายืนรออยู่ที่กลางเวที และคริสเองก็ยืนอยู่ที่นั่นแล้ว วันนี้เขาใส่ชุดทักซิโดยาวสีดำและเซทผมเรียบทำให้ความหล่อของเขาข่มความน่ากลัวได้อยู่หมัดเลยทีเดียวในวันนี้ และคนหล่อคนนั้นก็กำลังมองหาควีนตัวดีที่ยังมาไม่ถึง
“ทำเจ้าหญิงหล่นหายที่ไหนล่ะน้องชาย”เอริคถามเสียงร่าเริงแต่ได้รังสีน่ากลัวแทนคำตอบซึ่งช่วงนี้ดูจะน่ากลัวกว่าปกติเมื่อคนบางคนหายไปหลายวัน แต่แล้วเจ้าหญิงที่ถูกทำหล่นหายก็ปรากฏตัวที่ประตูทางเข้าพร้อมกับเจ้าหญิงแอนเรียสที่ปกติก็สวยสง่าอยู่แล้วแต่วันนี้สวยมากกว่าปกติ รวมถึงสตรีร่างเล็กที่ดูน่ารักน่ากอดที่ยืนข้างๆไรโอเนลก็ดูสวยกว่าปกติเช่นกัน
อลิเซียปลดหมวกคลุมหน้าออกฝากไว้ที่แอนเรียสก่อนจะค่อยๆ ก้าวไปยังกลางฟลอร์เต้นรำ ความสูงและชุดสีดำที่ดูเรียบแต่สง่างามเข้ากันกับผมสีดำเงาที่ถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยเก๋ และผิวที่ขาวผ่องสะท้อนแสงเทียนทำให้เธอดูโดดเด่นจากผู้หญิงคนอื่นในงานที่แต่งตัวฟู่ฟ่าเต็มไปด้วยเครื่องประดับและกระโปรงพองฟูหลากสีสัน
ใบหน้าขาวใสที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อยเพื่อขับความสวยคมของเธอ เงยหน้ามองคู่เต้นรำของเธอที่ตอนนี้โดนมนตร์สะกดของดวงตาคู่สวยนี้เต็มๆ
อลิเซียมองเข้าไปในดวงตาที่ไม่เคยอ่านออกของคริส บาร์โธรี่ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง อลิเซียย่อกายเล็กน้อยตามมารยาทที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี
“และสุดท้ายเจ้าหญิงอลิเซีย แวนเวิร์ธเจ้าหญิงองค์เล็กจากอาณาจักรแวนเวิร์ธ ดำรงตำแหน่งราชินีแห่งอาณาจักรปีหนึ่ง”
คริสช้อนมือของเธอขึ้นมาวางบนมือของเขาและเริ่มเต้นรำ อลิเซียถึงกับยิ้มกว้างเมื่อเห็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นของคนตรงหน้า หลังจากที่เธอได้ยินเสียงพึมพำเบาๆว่า ขอเพียงแค่คืนนี้เท่านั้น
“นายยิ้มแล้วดูดีนะ”
“ขอบคุณ วันนี้เธอสวยนะ”
“ขอบคุณ”
หลังจากเพลงแรกผ่านพ้นไปคนอื่นๆ ก็เริ่มเข้ามาในฟลอร์เต้นรำ อลิเซียจูงคริสออกมาจากฟลอร์ทันที
“หิวมั้ยฉันไปตักอะไรให้กิน”
“ไม่ได้ แอนเรียสสั่งห้ามฉันกินอะไรจนกว่างานจะเลิก”อลิเซียบ่น แต่ก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของอีกคนที่ถือจานอาหารมา
“ก็แอบหนีไปข้างนอกที่แอนเรียสไม่เห็นก็หมดเรื่อง วันนี้หน้าที่ของเราก็หมดแล้วกลับไปกินที่ปราสาทกันมั้ย”
“ไปสิ”
เมื่อมาถึงที่รถม้าแทนที่จะหยิบบันไดมาวางคริสกลับอุ้มเธอขึ้นรถม้าแทน
“ตัวเธอเบาลงนะจากวันนั้น”
“แหงล่ะ ฉันแทบจะได้กินแต่ผักกับน้ำเท่านั้น ไม่เบาลงก็คงแปลก”
“นึกยังไงถึงอยากสวยขึ้นมา”
“นายไม่ชอบเหรอ”เมื่อถามออกไปก็แทบอยากจะเขกหัวตัวเอง
“ไม่ชอบ ไม่ชอบให้คนพวกนั้นมอง”
คำตอบที่คนได้ยินแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง
“นี่ฉันสวยขึ้นจนทำให้นายพูดอะไรอย่างนี้เชียวเหรอ”
“ก็คงจะแค่คืนนี้เท่านั้นที่ฉันพูดแบบนี้ พรุ่งนี้ฉันก็คงต้องกลับไปเป็นอย่างที่เป็น”
“หมายความว่ายังไงเป็นอย่างที่นายเป็น”
“เธอไม่อยากรู้หรอก”ดวงตาของคนตรงหน้าบ่งบอกอารมณ์เศร้าสร้อย แม้จะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นอารมณ์จากตาคู่นี้แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากเห็นความเศร้านี้เลย
“นายอย่ามารู้ดีน่าว่าฉันอยากรู้หรือไม่อยากรู้อะไร”
“ไปวนรอบโรงเรียนกันสักรอบมั้ย”
“ได้สิ แล้วแต่นายเลย ฉันเองก็ยังไม่ค่อยอยากกลับปราสาทไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
หลังจากที่ขับรถม้าวนเวียนไปมาหลายรอบ อลิเซียก็ตัดสินใจกลับปราสาท
ก่อนที่เธอจะเข้าห้องคริสก็ดึงมือเธอไว้ อลิเซียรู้สึกได้ถึงแรงสั่นน้อยๆ จากมือที่กุมมือเธออยู่
“เป็นอะไร”
“ข้าขอจับมือเจ้าไว้อย่างนี้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสที่จะได้ทำอีกหลังจากผ่านคืนนี้ไป”
“เกิดอะไรขึ้น เจ้ามีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกข้าใช่ไหม”
คริสพยักหน้าดวงตาของเขาช่างเศร้าเหลือเกินในความคิดของเธอ เขาจูงเธอมานั่งที่เก้าอี้นวมตัวโปรดของเธอก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าเธอ อลิเซียพยายามยิ้มเพื่อให้กำลังใจ
“ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า ความจริงแล้ว ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของท่านพ่อ ท่านพ่อให้ข้ามารับตัวท่านไปเพื่อเข้าพิธีอภิเษกสมรสเพื่อที่ท่านจะได้เป็นราชินีแห่งอาณาจักรบาร์โธรี่โดยสมบูรณ์ตามพันธสัญญาที่ท่านพ่อของท่านได้ให้ไว้กับท่านพ่อของข้า”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“นานมาแล้วท่านพ่อของท่านได้ขอร้องให้พ่อของข้าช่วยเหลือเนื่องจากไม่มีบุตรสืบสกุล โดยให้สัญญาว่าจะยกลูกสาวคนที่เจ็ดให้กับท่านพ่อของข้าเป็นเครื่องตอบแทน แต่ท่านพ่อของท่านได้บิดพลิ้วและพยายามให้ท่านแต่งงานกับผู้อื่น ข้าจึงถูกส่งมาเพื่อรับตัวท่าน เนื่องจากท่านพ่อไม่สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ และที่อาณาจักรของท่านกำลังเกิดภัยพิบัตินี้ข้าคิดว่าน่าจะมาจากข้อผูกพันธ์ของพันธสัญญานั่น ตอนนี้ข้าเร่งที่จะทำสงครามเพื่อให้ท่านได้เดินทางออกจากที่นี่โดยไว”
“ข้าไม่ใช่ของตอบแทน”ดวงตาที่ถูกแต่งแต้มอย่างงดงามบัดนี้มีแววตาที่สั่นระริกด้วยแรงอารมณ์
“ขอให้ท่านให้อภัยกับทุกๆ เรื่องที่ข้าเผลอทำไปในคืนนี้ ข้าทำสิ่งที่ไม่ควรกับคนที่จะมาเป็นพระมารดาของอาณาจักร คนที่จะมาเป็นแม่เลี้ยงของข้า”
“เรื่องโกหกอะไร แม่เลี้ยงอะไรกัน”
“ขออภัยที่บอกเรื่องเหล่านี้กับ. .ท่านแม่ช้าเกินไป”คริสเว้นระยะเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคำที่เธอไม่อยากฟังออกมา
ทั้งคู่เงียบงันกันไปพักใหญ่ อลิเซียลุกขึ้นจากเก้าอี้นวมและเดินไปที่ประตูห้องตัวเอง
“ไปบอกพ่อของเจ้าว่าข้าจะไม่แต่งงานกับเขา ไม่มีวัน”อลิเซียพูดขึ้นเสียงเย็นโดยไม่หันกลับมามอง
“ท่านแม่ การแต่งงานจะเป็นการหยุดภัยพิบัติที่เกิดกับบ้านเมืองท่านได้ มันเป็นวิธีเดียว”
อลิเซียหันหน้ามามองคนที่ยังคุกเข่าอยู่ที่เดิมก่อนจะถามว่า
“วันนั้นที่ข้าควบคุมพลังไม่ได้ ตอนที่เจ้าเข้าไปช่วยข้าหยุดพลังนั้น เจ้าเข้าไปเพื่อช่วยข้าเพราะหน้าที่นี้เช่นกันใช่หรือไม่”
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคนที่ยังคุกเข่าอยู่ อลิเซียจึงเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ก่อนจะทรุดนั่งที่เตียง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมาโดยปราศจากเสียง
“อลิซ”เสียงเรียกที่คุ้นเคยของอิลิซาเบธดังขึ้น
“ขอโทษท่านด้วย แต่ขอร้องข้าไม่อยากที่จะคุยกับใครในตอนนี้ และคืนนี้ขอความฝันข้าคืนสักคืนนะ”
ไม่มีเสียงตอบจากอิลิซาเบธ อลิเซียล้างเครื่องสำอางทั้งหมดออกและล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน
**************************************************************************************************
ความคิดเห็น