คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #90 : -- ๑๐ – ความในใจของผู้กุมอำนาจแห่งแสงสว่าง - “คิดดีแล้วหรือ”
๑๐ – ความในใจของผู้กุมอำนาจแห่งแสงสว่าง
อมาเนเซราขอตัวกลับไปเข้านอนแล้ว ทว่าเอลิยาห์ ลูเชียส ยังนั่งอยู่ที่เก้าอี้นวมชุดใหญ่ ตรงข้ามกับชายชราร่างท้วมซึ่งมีตาสีฟ้าจางดุจเดียวกับตน
ชายหนุ่มจ้องมองแหวนทองคำสลักตราแห่งองค์สุริยเทพบนหนึ่งในนิ้วอวบอูมที่ประสานกัน...ด้วยหลายความรู้สึกที่ถูกเก็บซ่อนไว้
พระมหาสังฆราชาเอเซคิเอล ลูเชียส ปีนี้ล่วงวัยเจ็ดสิบ สมควรวางภาระทั้งมวลและปลดเกษียณได้แล้ว แต่ชายชราก็ยังไม่มีทีท่าจะสละตำแหน่งให้เขาสืบทอดต่อเลย
...อยากตายคาบัลลังก์ทั้งที่เป็นคนแก่เลอะเลือน... เอลิยาห์ค่อนขอด บัดนี้เป็นที่รู้กันทั่วว่าพระมหาสังฆราชาแก่ชราและมีปัญหาสุขภาพรุมเร้ามากแล้ว เขาเองเคยแนะนำให้ท่านพักผ่อนบำเพ็ญจิต จำอารามเตรียมพร้อมแก่มรณกรรมตามธรรมเนียมสังฆราชชราทั้งหลาย แต่เอเซคิเอลยังคงปฏิเสธ ยังคงพักอยู่ในมหาวิหาร และยังคงยืนกรานให้นำแผนการบริหารต่างๆ มาเสนอขอความเห็นชอบของท่านให้มากที่สุด
ทั้งๆ ที่เอลิยาห์เห็นว่าเรื่องบางเรื่องจะจัดการได้รวดเร็วกว่านี้มาก หากไม่จำเป็นต้องมีการลงนามพร้อมตราประทับของชายแก่ที่ทรุดโทรมทั้งร่างกายกับสมอง
ถึงอย่างนั้น ตราบใดที่ยังวางใจไม่ได้ว่าตำแหน่งมหาสังฆราชาองค์ต่อไปจะเป็นของตน พระราชาคณะผู้บุตรก็ต้อง ‘เอาใจคนแก่’ ต่อไป
“เซรางามมากใช่ไหมครับ” เขาตั้งคำถาม “ผมเชื่อว่าในพิธีมะรืนนี้ ไม่ว่าใครก็จะต้องชื่นชมเธอเป็นเสียงเดียว”
“งาม...เหมือนเอลิซาเบธ” เสียงแหบพร่าเอ่ยช้าๆ แล้วก็เงียบไปเท่านั้น ไม่ขยายความว่าเอลิซาเบธผู้เป็นแม่หรือผู้เป็นลูก
เอลิยาห์คงถามออกไป...หากไม่ติดว่านั่นจะยิ่งเร่งอารมณ์โกรธกรุ่นของตน หลายครั้งที่เขาอยากป่าวประกาศทั้งหัวเราะร่วน ...พระมหาสังฆราชาเอเซคิเอลคู่ควรเป็นผู้นำของเราอยู่หรือ...ภรรยาท้องแก่ของตนตกเป็นเหยื่อการก่อการร้าย แต่ก็ไม่ใช้โอกาสนั้นปลุกระดมชาวโซลาริส ทำสงครามกวาดล้างพวกอัสลานให้เด็ดขาด
พันเอกคลอสผู้เกือบได้เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของครูเซเดอร์ในตอนนั้นคัดค้านพร้อมคนอีกมากก็จริง แต่การปล่อยพวกนอกรีตนั้นไว้มีดีอะไร เอเซคิเอลยึดแต่หลักเมตตา ใช้แต่มาตรการขับไล่กดดันให้ชาวอัสลานยอมเปลี่ยนศาสนาหรือประกาศยอมจำนน แต่ก็ไม่เคยได้ผล กระทั่งอิสยาห์ซึ่งกลายเป็นเนฟิลิมไปแล้ว...คงเพราะความหลงในเทพเจ้าจอมปลอมกับกังขาในองค์สุริยเทพของมัน...ท่านก็ยังขอให้เอลิยาห์สัญญาว่าจะจับเป็นน้องชาย หรืออย่างน้อยก็รักษาชีวิตเขาไว้ให้ถึงที่สุด อย่านำเขาไปเข้าศูนย์วิจัยของหน่วยอัซราเอล...ซึ่งเนฟิลิมคนใดก็ตามในนั้นไม่เคยกลับออกมาโดยมีลมหายใจ
...ใจอ่อน...ใจอ่อนเกินไปจริงๆ ...
“คิดดีแล้วหรือ” เสียงแหบแห้งถามเขาบ้าง
“เรื่องอะไรครับ”
“ประกาศตัวสตรีอาภรณ์แสงสุริยัน หากเซราเป็นอันตราย—“
“เราเตรียมการอย่างลับสุดยอดครับ” เอลิยาห์รับรองแข็งขัน “ไม่มีการติดต่อสื่อสารทางเครื่องมือสื่อสาร หรือทิ้งหลักฐานข้อเขียนใดๆ ทั้งนั้น และสตรีอาภรณ์แสงสุริยันของเราก็มีผลึกสุริยะคุ้มกันอยู่แล้วด้วย”
ยิ่งไม่นับว่าสตรีอาภรณ์แสงสุริยันไม่ได้มี ‘เพียงหนึ่ง’ ต่อให้เกิดอะไรขึ้นกับอมาเนเซรา ลูเชียส ก็ยังมีคนที่พร้อมจะมาแทนที่เธออยู่แล้ว ที่จริง ยิ่งพวกอิสยาห์หรือพวกอัสลานบุกมาในงานเทศกาลครั้งนี้อาจยิ่งดี สตรีอาภรณ์แสงสุริยันจะได้สำแดงฤทธานุภาพ กำราบมังกรดำให้ประจักษ์ต่อฝูงชนเสียคราวนี้
แต่ถึงไม่มา...ก็ไม่เป็นไร จุดประสงค์หลักคราวนี้ของพวกเขาคือข่มขวัญศัตรู ดูทีว่าพวกมันจะยอมจำนนหรือไม่ ครั้งนั้นอมาเนเซราพลาดไปที่ไม่ได้ใช้พลังแสงสังหารพวกมัน สร้างชื่อให้ตนเองในฐานะสตรีอาภรณ์แสงสุริยัน ทว่าบัดนี้พวกมันจะได้รู้ว่าเพทรา โซลาริส เป็นแค่เบี้ยที่หมดค่าแล้วจึงเดินทิ้ง ในเมื่อพวกเขาสามารถสร้างผลึกสุริยะสังเคราะห์ซึ่งขนส่งสะดวก และมีประสิทธิภาพมากกว่าของตามธรรมชาติเสียอีก
ศิลาแห่งเทพเจ้าของจริงเป็นเช่นนี้ต่างหาก
“พ่อไม่อยาก...” พระมหาสังฆราชาเอ่ยอีกครั้ง “ไม่อยากให้เซรา...เป็นอย่างเอลิซาเบธ”
“ผมทราบครับ” ชายหนุ่มรับ “และผมจะระวังไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนั้นแน่นอน”
เอเซคิเอลพยักหน้าเชื่องช้า และเอลิยาห์ก็ให้ปล่อยความคิดของตนล่องลอยไปตามแผนการต่อไป
นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์ว่าพวกนอกรีตทั้งหลายจะเลือกยอมจำนน หรือยังคงต่อต้านเทพเจ้าที่ถูกต้อง
อย่างน้อย...อีกไม่กี่ปีหลังจากนี้ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงในโซลาริส และหากมันผู้ใดเลือกเส้นทางตรงข้ามกับเขา ก็จะได้เห็นดีกันว่าอำนาจแห่งแสงสุริยะย่อมเผาผลาญมันได้อย่างไร
* * * * *
ความคิดเห็น