ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เนินเขาขับขาน ตำนานแห่งราพลังก้า

    ลำดับตอนที่ #4 : 3 - การแลกเปลี่ยน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 207
      1
      13 พ.ค. 52

    3 - การแลกเปลี่ยน

    คืนนั้น ราพลังก้ากลับหยิบเมล็ดพืชเมล็ดหนึ่งจากในถุงออกมาวางในไหเล็กๆ ที่นางกอบทรายใส่จนเต็ม แทนที่ถาดทรายที่ถูกทำลายไปพร้อมกับเมล็ดพืชของนาง นางไม่มีน้ำใดที่จะใช้รดมันได้นอกจากน้ำตา

    วันต่อมา...ราพลังก้ายังคงรดเมล็ดพืชของนางด้วยน้ำตา นางเป็นคนที่หลั่งน้ำตาได้ง่ายดายเพียงชั่วนึกถึงเรื่องโศกเศร้าและเดียวดาย เรื่องที่มีอยู่มากมายในชีวิตของเด็กกำพร้าไร้ที่มาในเรเลนทัสอย่างนาง ทว่าวันต่อมา ดวงตาของนางก็บวมแดงแห้งผากและน้ำตาแห้งเหือด นางเพิ่งตระหนักได้ว่าหากร่างกายไม่ได้รับน้ำเลย...แล้วนางจะสร้างน้ำตาต่อไปได้อย่างไรกัน

    ก่อนหน้านี้ยังมีเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน หรือพวกเด็กๆ ที่เอาใจช่วยนาง นำน้ำที่เหลือจากส่วนของพวกเขามาปันให้นางบ้าง แต่วันนี้ไม่มีใครมาหานางเลย พวกเขาคงถูกพ่อแม่ห้ามปราม มิเช่นนั้นก็กลัวจะถูกหัวหน้าหมู่บ้านลงโทษทัณฑ์ไปด้วยกระมัง

    ถึงจะเสียใจอยู่บ้าง แต่นางก็บอกว่าเป็นอย่างนี้คงดีกว่าปล่อยให้คนอื่นๆ ต้องถูกลงโทษเดือดร้อนไปด้วย

    ในวันนั้นเองที่นางตัดสินใจ...

    --------------------------------------------------------------------------

    “นี่เป็นของมีค่าทั้งหมดที่ข้ามี ได้โปรดให้ข้าแลกของพวกนี้กับน้ำด้วยเถอะ”

    เด็กสาวเลื่อนเหรียญเงินเก่าๆ และเครื่องประดับทำจากลูกปัดหินทั้งที่พอมีค่าและไม่ค่อยมีค่าให้กับพ่อค้าประจำหมู่บ้านในกระโจมของเขา นั่นเป็นของที่หญิงชราที่เคยเลี้ยงดูนางในตอนต้นชีวิตมอบให้ด้วยความเอ็นดู หรือมิเช่นนั้นก็เหลือจากสินจ้างที่นางได้จากการทำงานต่างๆ เช่นปะชุนเสื้อผ้าหรือเลี้ยงเด็ก

    “หัวหน้าหมู่บ้านห้ามไม่ให้ให้น้ำแก่เจ้า เจ้าไม่รู้หรือ” พ่อค้ากลับย้อนถาม

    “ข้ารู้...” ราพลังก้าได้แต่ตอบเบาๆ ทั้งๆ ที่ก้มหน้านิ่งอยู่ “แต่...แต่ข้าทำตามเงื่อนไขของเขาไม่ได้ ข้าได้แต่หวังว่าท่านจะเมตตา...ได้โปรดขายน้ำให้ข้าเถอะ”

    “น้ำเป็นสิ่งมีค่ามากของพวกเรา ลำพังของที่เจ้ามอบให้ยังไม่มีค่าพอจะได้สักถ้วยเลย”

    “แต่...นี่ก็เป็นของทั้งหมดที่ข้ามีแล้ว ข้าไม่มีสิ่งอื่นที่จะมาแลกเปลี่ยนได้จริงๆ” ราพลังก้าสั่นศีรษะ

    “เช่นนั้นข้าก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้ นอกจาก...”

    “นอกจาก...” เด็กสาวเหลือบมองชายผู้มากวัยกว่าตรงหน้าอย่างสงสัย

    “นอกจาก...เราจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน หรือเจ้าว่าอย่างไร”

    เธอกลืนน้ำลายฝืดๆ เมื่อเริ่มสังหรณ์ไม่ดี

    “ข้า...ข้าไม่เข้าใจ”

    “เมียข้าก็เพิ่งคลอดลูกตายเมื่อปีกลายนี่เอง ส่วนเจ้าก็โตเป็นสาวแล้ว ข้ายังไม่อยากเชื่อเลยว่าเมื่อวันก่อนเจ้ายังเป็นเด็กกะโปโลนั่งเล่นกลางทรายอยู่เท่านั้นเอง ถึงอย่างไร...อีกไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็ต้องกำหนดให้เจ้าแต่งงานกับใครสักคนในหมู่บ้านของเราอยู่แล้ว รับแต่งงานกับข้าจะเสียหายตรงไหน”

    “แต่ข้า...”

    “ข้ามีฐานะกว่าใครๆ หลายคนที่นี่นะ ราพลังก้า” นางฟังแล้วแทบไม่กล้ามองหน้าชายวัยกลางคนซึ่งมีหนวดเครารุงรัง และฟันเปื้อนคราบเหลืองด้วยยาสูบ “ถึงข้าจะดูแก่ไปสักหน่อยสำหรับเจ้า...แต่ข้าก็พอจะเลี้ยงดูเจ้าให้สุขสบายไปชั่วชีวิตได้ เจ้าเองก็เคยช่วยเลี้ยงลูกๆ ให้ข้าจนพวกแกติดเจ้าขนาดนั้น พวกแกยอมรับเจ้าเป็นแม่ได้ไม่ยากหรอก”

    “แต่ข้า...ข้าต้องการเพียงแค่น้ำ...”

    “ข้าไม่ถือหรอกถ้าเจ้าจะปลูกต้นไม้ตามความฝันของเจ้าต่อไป ข้ามีน้ำให้เจ้าเหลือเฟืออยู่แล้ว และมีสิ่งอื่นให้เจ้ามากกว่านั้นด้วย”

    ราพลังก้ากลับยิ่งสับสน ความฝันอันแรงกล้าของนางจะต้องแลกมาด้วยการแต่งงานที่นางไม่ปรารถนาหรือ นางยังคงมีความฝันอีกอย่างเช่นเดียวกับเด็กสาวทั่วๆ ไปว่าจะได้พบรักและแต่งงานกับคนที่รัก แม้นจะไม่มีชายใดหรือเด็กหนุ่มคนใดที่ทำให้ใจของนางหวั่นไหวเช่นนั้นได้เลยในเรเลนทัสแห่งนี้

    กระนั้น...

    “รีบๆ ตัดสินใจเถอะ แล้วข้าจะรีบให้เจ้าได้ดื่มน้ำ ดูเหมือนเจ้าจะอ่อนเพลียพอสมควรเลยนี่”

    คำพูดต่อมากลับจุดไฟโทสะของนางให้ลุกโชน เขานำเอาความกระหายน้ำของนางมาบีบบังคับ นี่ไม่ใช่คนที่นางปรารถนาหรือแม้แต่จะยินยอมแต่งงานด้วยแน่นอน

    “ข้าจะลืมเรื่องทุกอย่างที่ท่านพูดเมื่อครู่เสียให้หมด ขอตัวก่อน”

    นางตั้งท่าจะลุกขึ้นจากเบาะนั่ง แต่ก็พลันวิงเวียนวูบจนทรุดลง แต่ดูเหมือนใครบางคนจะรับร่างของนางไว้

    นางมาตั้งสติได้ว่าชายคนนั้นเป็นใครก็เมื่อสายตาที่หายพร่าเห็นใบหน้าของพ่อค้าอยู่ตรงหน้า ใจของนางเย็นวาบเมื่อบอกได้จากความเหี้ยมเกรียมของสีหน้า...ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะช่วยนางด้วยความปรารถนาดีแน่นอน

    “...อย่า!”

    “อย่าเล่นตัวนักเลย เด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเจ้าจะเอาตัวรอดอย่างไรได้ นี่ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่แท้ๆ นะ”

    ราพลังก้าพยายามดิ้นรน ทว่านางก็ตระหนักได้ว่าตนอ่อนเพลียไร้แรงเพราะความขาดน้ำ จะมีหนทางหลบรอดได้อย่างไรกัน กระทั่งเสียงจะร้องตะโกนก็ยังแห้งผากเหือดหายในลำคอ

    พ่อค้าหัวเราะร่วนเมื่อนางปิดตาแน่นด้วยความรังเกียจ

    “ดี...เป็นเด็กดีอย่างนี้ล่ะ พรุ่งนี้ข้าจะไปขอให้นักบวชทำพิธีให้ จะให้เจ้าแต่งตัวเป็นเจ้าสาวที่สวยจนใครๆ ต้องอิจฉาทีเดียว”

    เจ้าสาวที่สวยจนใครๆ ต้องอิจฉาน่ะหรือ...ข้าไม่ได้อยากเป็นเลยแม้แต่นิดเดียว! เด็กสาวร่ำร้องทั้งๆ ที่ไม่เหลือน้ำตาให้หลั่ง แต่นางก็มองไม่เห็นหนทางอื่น นอกเสียจากใครสักคนจะช่วยนาง...ช่วยนางไปให้พ้นจากชายคนนี้ที

    ฉับพลันประตูกระโจมกลับสะบัดพรึบขึ้นราวกับตอบสนองคำอ้อนวอน ราพลังก้าลืมตาขึ้นเห็นชายคนหนึ่งอยู่เบื้องหน้าแสงแดดเจิดจ้า

    แม้นภาพในคลองจักษุจะกลับหัวจากมุมที่นางนอนแหงนมอง และแสงแดดจะย้อนเข้ามาจนเขาดูราวกับเป็นเงาเงื้อมไร้ตัวตน นางกลับเห็นเขาชัดเจนเสียจนไม่น่าเชื่อ เขาสวมผ้าคลุมหนังที่มีชายขาดลุ่ยเหมือนนักเดินทางไกล คาดดาบไว้ที่เอว มีผมสีดำยาวปรกบ่า และนัยน์ตาสีน้ำตาลประกายแดงดุจโกเมน นัยน์ตาคู่นั้นจ้องมองนางกับชายอีกคนเบื้องหน้าไม่กะพริบอย่างประหลาดใจ และดูเหมือนจะกระอักกระอ่วน

    “อ...เอ้อ...” พ่อค้าเป็นคนตั้งสติเอ่ยก่อน “ข้าขออภัย ตอนนี้ปิดร้านอยู่ เดี๋ยวท่านค่อยมาทีหลังเถอะนะ”

    ชายผู้นั้นไม่พูดอะไร แต่พยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยน

    ราพลังก้ารู้ว่าวินาทีต่อมา...เขาจะสะบัดกายหันกลับไป และนางก็จะต้องถูกทิ้งให้รับชะตากรรมที่ไม่อาจหนีพ้นในที่สุด นางพยายามรวบรวมความกล้าและกำลังเพื่อที่จะเปล่งเสียง แม้นจะได้ผลเพียงแหบแห้งแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ

    “ช...ช่วยข้าด้วย...”

    --------------------------------------------------------------------------

    เรื่องนี้แต่ละตอนค่อนข้างสั้น ดังนั้นผมจะทะยอยลงแบบสองสัปดาห์ครั้ง หรือถ้าสัปดาห์ละครั้งจะรวบเป็นสองถึงสามตอนนะครับ

    คอมเมนต์ได้เสมอนะครับ :)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×