คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : -- ๑ – เด็กชายที่ไม่อาจเจ็บปวด กับเด็กหญิงผู้เป็นที่รักแห่งสุริยเทพ - "ผมจะไป!"
๑ – เด็กชายที่ไม่อาจเจ็บปวด กับเด็กหญิงผู้เป็นที่รักแห่งสุริยเทพ
นิกซ์เคยถูกเรียกว่า ‘ปีศาจ’ หลายครั้ง หลายวาระ ทั้งยังเคยถูกขว้างปาหินหรือเศษสิ่งสกปรกต่างๆ ใส่ในฐานะนั้น มีมากกว่าสองสามครั้งที่ถึงกับหัวร้างข้างแตก แต่เหตุการณ์ตรงหน้ายังทำให้เขาประหลาดใจมาก ทั้งรูปร่างหน้าตาของเด็กหญิงผมทองชุดขาว ซึ่งงดงามราวนางฟ้าจากสวรรค์ และ (ผิดกับ) ถ้อยคำที่เธอพูดต่อจากนั้น
“ปีศาจ! นี่ไงปีศาจ! มัวยืนเฉยอะไรอยู่! จับมันสิ!”
จับ? ใครจะมาจับเขา เด็กชายแน่ใจว่าถึงตนจะมีตาซ้ายและเขาเหมือนสัตว์...หรือแรงหน่อยคือเหมือนปีศาจอย่างที่เธอว่า เขาก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้ลักลอบเข้าเมืองคีรีเอ หัวหน้าคณะอาจตระหนี่ แต่เพื่อเลี่ยงปัญหากับเจ้าหน้าที่ ชายวัยกลางคนก็ตีตราทะเบียนนักแสดงทุกคนและสัตว์ทุกตัวเรียบร้อย ดูจากป้ายเหล็กระบุตัวตนที่ข้อมือขวาของเขาได้...ถึงนั่นจะเป็นชื่อของเด็กที่ตายไปแล้วสักคน ซึ่งถูกนำทะเบียนตัวตนมาสวมรอยขายในตลาดมืด และหัวหน้าคณะซื้อมาสร้างประวัติปลอมให้เขา
ทว่าขณะนิกซ์ตะลึงงันอยู่ เด็กหญิงก็หันกลับไปทางชายร่างสูงใหญ่สวมโค้ตยาวสองคน กับหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งรีบก้าวยาวๆ ตามเธอมา
“นี่ไง ศัตรูขององค์สุริยเทพ! ครูเซเดอร์อย่างพวกนายรีบจัดการสิ!”
ชายทั้งสองหันไปมองหน้ากัน ท่าทางจับต้นชนปลายไม่ถูกพอๆ กับนิกซ์ ก่อนที่พี่เอบจะปราดเข้ามาบังตัวเด็กชายจนมิด เห็นเพียงแผ่นหลังที่ปกคลุมด้วยเสื้อสีเทา และศีรษะกับแขนสองข้างที่มีขนสีน้ำตาลเข้มงอกยาว พี่มิดจ์ พี่เวอร์จิเนียกับพี่วาเนสซา แฝดหญิงนักกายกรรมตามมาในไม่ช้า ต่างคนก่อตัวเป็นกำแพงระหว่างเขากับเด็กหญิง
“พวกคุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า” พี่เอบพูดเสียงหนักๆ “เด็กนี่เป็นนักแสดงของเรา เขากับตาแกเป็นของเทียมทั้งนั้น จะมาร้องให้จับในฐานะปีศาจได้อย่างไร”
“เอ่อ...ขอโทษครับ พวกเราไม่จับเด็กคนนั้นไปหรอก” เสียงตอบมาจากชายคนหนึ่งในนั้น “คุณหนูคง...เชื่อเรื่องปีศาจมากไปหน่อย พวกเราขอตัวก่อนนะครับ”
“แต่มันเป็นปีศาจจริงๆ นะ!” เสียงของเด็กหญิงดังขึ้นอีกครั้ง “พวกแกไม่รู้อะไร! แต่ฉันรู้! มันมีความมืดอยู่ในตัว...พลังของเทพอนธการอยู่ในตัวมัน! ในฐานะครูเซเดอร์...พวกแกต้องจับมัน!”
“ขอโทษครับ...ท่านหญิง แต่เราจับใครโดยไม่มีหมายเรียกจับไม่ได้ทั้งนั้นครับ”
“แต่ฉันเป็นธิดาของพระมหาสังฆราชา! ฉันมีอำนาจของสุริยเทพ! มีหน้าที่ช่วยเหลือท่านพ่อ!”
“ครับ...ครับ แต่ท่านหญิงไม่มีอำนาจควบคุมครูเซเดอร์นะครับ”
“เอะอะอะไร ตั้งเต็นท์ยังไม่เสร็จอีกเรอะ”
เป็นเสียงไม่สบอารมณ์ของหัวหน้าคณะ นิกซ์หันไปเห็นร่างอ้วนใหญ่เดินเข้ามาใกล้ พร้อมสีหน้าบูดบึ้งเป็นที่สุด ชายวัยกลางคนหันไปมองกลุ่มคนนอก แล้วก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“เด็กมีเขานั่นเป็นปีศาจ” เด็กหญิงพูดทันที “ตามบัญญัติของวิหารโซลาริส ครูเซเดอร์ต้องจับตัวมันไป”
“แล้วไหนล่ะครูเซเดอร์” หนวดโค้งเหนือปากของหัวหน้าคณะขยับเล็กน้อย ตามริมฝีปากหนาซึ่งแปรเป็นรอยยิ้ม “กับหมายจับ”
“สองคนนี้เป็นครูเซเดอร์ พวกเขาเป็นคนติดตามฉัน ส่วนฉันคืออมาเนเซรา ลูเชียส ธิดาคนสุดท้องของพระมหาสังฆราชา” เสียงของเด็กหญิงชุดขาวพลันเรียบขึ้น ต่างจากเสียงใส่อารมณ์เพียงครู่ก่อนหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ “กรณีนี้ถือเป็นความผิดซึ่งหน้า ไม่จำเป็นต้องมีหมายจับ แค่เห็นเด็กคนนี้ ใครๆ ก็รู้แล้วว่ามันเป็นลูกปีศาจ หรือคุณจะลอง ‘ถอดเขา’ มันต่อหน้าฉันล่ะ ถ้าทำได้ ก็ถือว่าฉันผิดเอง แต่ถ้าทำไม่ได้ หรือปฏิเสธจนฉันได้หมายจับมาจากท่านพ่อกับท่านพี่ คุณจะต้องโทษหนักแน่นอน ในฐานะคนนอกรีต”
นิกซ์เสี่ยงโผล่หัวออกไปมองนอกแขนพี่เอบที่ยังกั้นหน้าเขา เห็นเด็กหญิงเดินไปหาชายหนึ่งในสองคนที่ตามเธอ
เด็กชายเพิ่งได้มองให้ละเอียด พบว่าชายคนสูงกว่ามีผมสีดำ ส่วนคนเตี้ยกว่าผมสีทองจัดจนเป็นเหลือง เด็กหญิงผมทองเข้าใกล้ชายผมเหลือง สั่งให้ส่ง ‘ป้ายทะเบียน’ ประจำตัวครูเซเดอร์มา ชายคนนั้นก็ชักปืนพกที่เอว กดหรือไขกลไกบางอย่างที่ตัวด้าม แล้วดึงแผ่นเหล็กซึ่งเล็กพอๆ กับป้ายตัวตนที่ข้อมือของนิกซ์ ยื่นให้เด็กหญิง
ตรงตามที่เด็กชายเคยได้ยินว่าแผ่นระบุสถานะครูเซเดอร์ถูกทำเป็นกลไกฝังในปืนพกพิเศษประจำตัว ซึ่งหากถอดออกก็ไม่สามารถยิงปืนนั้นได้ เป็นสัญลักษณ์ระบุตัวตนเพื่อป้องกันการแอบอ้าง เด็กหญิงชุดขาวชูมันตรงหน้าหัวหน้าคณะซึ่งเริ่มขมวดคิ้ว
“ต้องการหลักฐานด้วยไหม ว่าฉันเป็นธิดาของพระมหาสังฆราชาจริงๆ”
“ไม่ต้องครับ” เสียงของชายวัยกลางคนแทบไร้อารมณ์ นิกซ์ฟังออกว่าหัวหน้าคณะกำลังรู้สึกไม่ดี และพยายามข่มมันไว้สุดกำลัง “หากท่านหญิงต้องการจับลูกปีศาจ ก็เชิญตามสบาย ผมเต็มใจให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว ขอแค่รางวัลนำจับเล็กๆ น้อยๆ เป็นสินน้ำใจก็พอ”
ว่าแล้ว เขาก็หันมาเรียกนิกซ์ให้เดินออกไป
เด็กชายกะพริบตาอย่างงุนงง เพิ่งรู้ความหมายของทุกสิ่งที่ชายร่างอ้วนพูดเมื่อพี่เวอร์จิเนียตะโกนสรุปให้ง่ายๆ
“หัวหน้าจะขายนิกซ์!”
“ฉันแค่ส่งตัวคนร้ายให้ทางการ”
“แต่นิกซ์ไม่ใช่คนร้าย! เขาไม่ได้ทำอะไรผิด! หัวหน้าก็รู้!” พี่วาเนสซาแฝดน้องพูดขึ้นบ้าง
“ลูกปีศาจเกิดจากความผิดบาป ถึงได้มีเขา พิกลพิการ อัปลักษณ์ผิดคนอื่นไม่ใช่รึไง” เด็กหญิงชุดขาวแย้ง “คนที่ปกป้องมันก็บาปเหมือนกัน องค์สุริยเทพจะลงโทษให้ตกนรกหมกไหม้ชั่วนิรันดร์ ถ้ายังมีศรัทธาในแสงสว่างอยู่ ก็อย่าขัดขวางพวกเรา”
“คนอย่างเธอ...ท่านหญิงอย่างเธอไม่รู้อะไรหรอก!” พี่วาเนสซาพูดต่อ “นิกซ์มีเขากับตาปีศาจ...แล้วยังไง! เขาเป็นคนดี...ช่วยพวกเราเท่าที่ทำได้...ไม่เคยรังแกใคร...ไม่เหมือนพวกที่ถือว่าตัวเองสูงส่งเต็มประดา แล้วมาเหยียบย่ำคนอื่นที่โชคร้ายกว่าเลยสักนิด!”
“ใครใช้ให้แกพูด วาเนสซา!” หัวหน้าคณะตวาด “อยากถูกลงโทษ...หรืออยากโดนเผาทั้งเป็นยกกลุ่มใช่ไหม ใครอยู่ข้างเด็กนี่ ฉันจะไม่เอาไว้เหมือนกัน”
นิกซ์มองรอบด้านอย่างสับสน พยายามจับต้นชนปลายเรื่องที่เกิดขึ้น พวกครูเซเดอร์จะมาเอาตัวเขาไป...แน่นอนว่าเด็กชายไม่อยากไปกับพวกนั้น
ตั้งแต่ตอนที่เขาบนศีรษะเริ่มงอกเมื่อสองปีก่อน พ่อแม่กำชับเด็ดขาดว่าอย่าให้ใครรู้ โซลาริสถือว่ามนุษย์ที่มีเขาเป็นลูกหลานของปีศาจ แต่พ่อกับแม่ยืนยันว่าเขาไม่ใช่ปีศาจ เขาแค่ไม่สบาย มีเรื่องผิดปกติในร่างกาย เหมือนการไร้ความรู้สึกเจ็บปวดร้อนหนาวที่เป็นมาแต่เกิด พวกท่านรีบพาเขามาคีรีเอ หาหมอรักษา แต่ก็ปะพวกโจรระหว่างทาง พ่อตายเพื่อปกป้องเขา แม่ยอมเจ็บปวดเพื่อปกป้องเขา จากนั้น...
นิกซ์รู้แต่ว่าไม่อยากให้ใครตายหรือเจ็บปวดเพื่อตนอีกต่อไป ขณะที่การทุ่มเถียงรอบด้านดำเนิน พี่ๆ ซึ่งถูกขายมาเหมือนกันล้อมวงเขาไว้ต่างโล่มนุษย์ หัวหน้าคณะแผดร้องไม่พอใจ เสียงแส้ฟาดพื้นดังเปรี๊ยะๆ
แส้นั้นเคยหวดลงบนร่างของทุกคน สร้างเสียงร้องโหยหวนที่เด็กชายไม่อยากได้ยิน เขาเคยวิ่งเข้าไปรับมันแทนเป้าหมายเดิม เด็กชายไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่ว่าชายวัยกลางคนฟาดแรงแค่ไหน นิกซ์ก็รับรู้แต่แรงกระทบ รู้ความเปียกของเลือดและผิวเนื้อที่ปริแตก แต่เขาไม่เจ็บปวดอยู่นั่นเอง การไม่รู้เจ็บปวดของเขาทำให้พ่อแม่เป็นกังวล แต่คนอื่นๆ บอกว่ามันเป็นพร
เด็กชายเองก็คิดว่าเพราะเขาไม่เจ็บปวด...จึงควรรับความเจ็บปวดที่ตนไม่เคยรู้สึกแทนคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นแส้เฆี่ยน ต่อยเตะ หรือแม้แต่สิ่งที่หัวหน้าคณะทำกับพี่เวอร์จิเนียกับพี่วาเนสซา ผู้หญิงเพียงสองคนในกลุ่ม เขาตระหนักได้ว่าพวกโจรทำเช่นนี้กับแม่เหมือนกัน แต่แม่ก็ยอมทำดีกับพวกมันเพื่อให้เขารอด นิกซ์รู้สึกเช่นนั้น
เด็กชายไม่อยากไปกับพวกครูเซเดอร์ เขากลัวถูกฆ่าตาย กลัวไม่ได้ตามหาแม่ ไม่ได้พบกันอีก แต่ครั้นจะให้ทุกคนเจ็บปวดและตายไปด้วย เขาก็ไม่ต้องการเช่นกัน การตายเป็นเรื่องน่าเศร้า นิกซ์รู้ซึ้งดีกับตัว ตั้งแต่ตอนหมาจรจัดที่เขาเคยให้อาหารแถวบ้านถูกกลุ่มนักเลงรุมตีตายเมื่อหลายปีก่อน
ตอนนั้นเด็กชายอยู่ที่บ้าน ได้ยินเสียงมันร้องโหยหวนแหวกความเงียบยามเย็น เขาสะดุ้งสุดตัว อยากออกไปดูมันแต่แม่ห้ามไว้ ตอนหลังถึงเห็นซากไร้วิญญาณของมัน แหลกเหลวกลางกองเลือดแดงฉาน
เมื่อพ่อกลับบ้านมารู้เข้า พ่อก็ปลอบเขา พูดพร้อมลูบศีรษะเด็กชายที่สะอึกสะอื้นอย่างอ่อนโยน
...ร่างกายของลูกเจ็บปวดไม่ได้ แต่ใจก็ยังรู้สึก...ใช่ไหม เมื่อรู้สึกแล้วก็ขอให้นึกถึงคนอื่นๆ ที่เจ็บปวดได้มากกว่า อย่าทำให้ใครต้องรู้สึกอย่างนั้น อย่ามองข้ามหรือละเลยความเจ็บปวดของคนหรือสัตว์อื่นเลยนะ...
...พ่ออยากให้ลูกคิดถึงความเจ็บปวดของผู้อื่น มากกว่าคนที่สามารถเจ็บปวดทางกาย แต่ก็ยังทำร้ายคนอื่นแบบนั้น...
พ่อพูดอย่างนั้น แต่พ่อก็ถูกพวกโจรเอาท่อเหล็กฟาดจนตายเสียเอง ไม่ต่างจากหมาตัวนั้น ทั้งสองครั้งนั้น เขาได้ยินเสียงร้องยืนยันว่าทั้งสองเจ็บปวด และเสียใจที่ทั้งสองจากไป ไม่ต่างกัน ไม่ต่างกันเลย
เขาจึงไม่อยากให้ใครตายอีกแล้ว ทั้งพี่เวอร์จิเนียกับพี่วาเนสซา พี่เอบ พี่มิดจ์...
“ผมจะไป!” นิกซ์ตะโกนขัดเสียงทั้งมวล “ผมจะไปกับพวกเขา! หยุดเถอะ!”
ต่อให้ไม่มีใครฟังเพราะเสียงอึงอลรอบด้าน เด็กชายก็ก้มศีรษะ ใช้ปลายเขานำ วิ่งฝ่าช่องว่างระหว่างแขนของใครสักคนออกมาสำเร็จ
“ผมจะไป!” เด็กชายเปล่งเสียงให้ดังที่สุด ต่อเด็กหญิงชุดขาว ต่อหัวหน้าคณะ และต่อชายทั้งสอง “อย่าทำร้ายใคร...แล้วผมจะยอมไปด้วย! จะพาผมไปที่ไหนก็ได้!”
* * * * *
ความคิดเห็น