ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานอาณาจักรมนตรา

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 1 - ความอาดูรของนักรบ - 6 - ฉลองชัย

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 63


    ไม่ใช่นางไม้แล้ว นั่นน่ะเทพธิดาชัดๆ

    ตรัสว่าอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ เนมอสหันหน้ากลับไปทางคนที่ตามหลังตนเข้ามาในคลังเก็บอาวุธ ละสายตาจากศาสตราวุธที่ตนกำลังตรวจตราอยู่

    เราบอกว่าที่เจ้าพามานั่นไม่ใช่นางไม้แล้ว แต่เป็นเทพธิดา...ไม่ก็เทพนารีแห่งการศึกแท้ๆ

    นางบอกกระหม่อมว่านางไม่มีความรู้เรื่องการศึกเลยนะพ่ะย่ะค่ะ ก็แค่ได้ยินเสียง ขุนพลหนุ่มตอบด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอย่างประหลาด

    เราว่านางถ่อมตนมากกว่า

    เนมอสไม่ตอบและหันไปทำงานของตนต่อตามเดิม

    แผนการที่นางบอกมา ท่าทางเหล่าเสนาธิการจะเห็นดีด้วยจริงๆ จึงสั่งให้รีบฝึกกองทหารสำหรับปีนเขาไว้ล่วงหน้าเสียแล้ว

    ถ้ายึดอาร์คบัตได้จริงๆ ก็ดีนี่พ่ะย่ะค่ะ ขุนพลหนุ่มตอบลอยๆ

    ใช่...ดีมาก ดอร์มินรับ ดีสำหรับเจ้าด้วยที่จะมีภรรยาอย่างสิมาริเมส นางคงช่วยให้เจ้าได้ขึ้นเป็นแม่ทัพเร็วกว่าที่เราตั้งใจไว้เสียอีก

    นักรบหนุ่มปิดปากเงียบแม้จะสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างประหลาด องค์เหนือหัวตบไหล่เขาเบาๆ แล้วทิ้งท้ายก่อนจะออกไป

    หากเราชนะศึกครั้งนี้ เราจะปูนบำเหน็จให้เจ้าอย่างงาม...แล้วก็ให้ว่าที่ภรรยาของเจ้าในฐานะต้นคิดแผนการด้วย

     

    ศึกครั้งนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อกำลังเสริมจากแคว้นของพระชนนีมาถึง ทัพของอาร์คบัตที่หมายมารุกรานก็ถูกตีให้ถอยร่นกลับไป และกองทัพของอาณาจักรก็เดินทัพข้ามทะเลทราย รุกไล่จนถึงหน้าประตูเมืองก่อนจะตีเข้าไปได้ด้วยแผนการที่นายทหารซึ่งอยู่ในที่ประชุมครั้งนั้นทราบกันดีว่ามาจากคำแนะนำของกุลสตรีธิดาท่านข้าหลวงจากนครแห่งบุปผาผู้เป็นคู่หมั้นของขุนพลคนหนึ่ง

    อาร์คบัตปราชัยก่อนสิ้นสุดฤดูร้อนปีนั้นเสียอีก

    เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังเซ็งแซ่ในเมืองแห่งบุปผา ขณะที่กองนักรบขี่ม้าไปตามถนนสายหลักของเมือง ดอกไม้ดารดาษในคิมหันต์ถูกโยนและโปรยทั่วถนนหิน บ้างก็ล่องลอยในคูน้ำใส

    ที่หน้าจวนท่านข้าหลวง ขุนพลเนมอสแลเห็นเด็กสาวในชุดสีสดใสยืนอยู่ ดวงหน้าฉายรอยยิ้มอย่างปีติกับความปลอดภัยและชัยชนะของชายผู้เป็นคู่หมั้น

    ฝ่าบาทดอร์มินพระราชทานรางวัลให้เนมอสตามคำตรัสด้วยการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นแม่ทัพ และเชิญสิมาริเมสมาในพระราชพิธีแต่งตั้งนายทหารต่างๆ ที่มีความชอบในศึกอาร์คบัต เพื่อรับพระราชทานรางวัลจากองค์กษัตริย์และพระชนนีซึ่งเสด็จมาเป็นเกียรติในพระราชพิธีครั้งนี้เป็นพิเศษ

     

    เด็กสาวคุกเข่าอยู่ข้างแม่ทัพหนุ่ม วันนี้เธออยู่ในอาภรณ์งดงามที่สุดที่เขาเคยเห็น เส้นผมดำขลับที่มักปล่อยสยายคลุมแผ่นหลังรวบทบเป็นมวยอย่างประณีต ประดับด้วยเครื่องเพชรพองามสมฐานะ

    เขาสบตากับเธอแล้วก็ก้มลงซ่อนรอยยิ้มขณะรับพระราชทานรางวัลจากพระหัตถ์ขององค์เหนือหัวบนบัลลังก์ในพระราชวังประจำแคว้นบุปผา ห่างออกไปข้างบัลลังก์สักระยะหนึ่งคือบัลลังก์ของพระชนนีซึ่งจะเป็นผู้พระราชทานรางวัลให้แก่สิมาริเมสแทนพระโอรส

    กล่องกำมะหยี่สีแดงขลิบทองถูกมอบให้ทั้งสองพร้อมคำอวยพร แล้วเขากับเธอจึงถวายบังคมลาและก้าวออกจากท้องพระโรงอย่างสำรวม ให้นายทหารคนต่อไปเข้ามารับพระราชทานรางวัลแทน

    ที่ระเบียงด้านนอก สิมาริเมสถอนหายใจยาว

    ข้ากลัวจะตื่นเต้นจนทำอะไรผิดไปหมดเสียแล้ว

    แต่ตอนเจ้าอยู่ในงานก็ดูใจเย็นดีนี่นา เนมอสเปรยยิ้มๆ ขณะมองคู่หมั้นสาวที่แต่งกายสวยงามอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนให้สมความคิดถึง

    ท่านเนมอสคงไม่ทราบหรอกค่ะ...ว่าเท้าข้าสั่นจนก้าวเซไปเซมาแทบพันกันหมดแล้ว ดีที่ชายกระโปรงคลุมอยู่ เด็กสาวออกตัวก่อนจะหันมาสนใจกล่องในมือ ว่าแต่นี่คืออะไรหรือคะ เปิดได้หรือเปล่า

    น่าจะเปิดได้แล้วกระมัง เขาตอบก่อนจะปลดสลักกล่องแบบเดียวกันในมือของตน ว่าแต่ทำไมกล่องของพวกเราถึงเหมือนกันนะ

    ยังไม่มีคำตอบเมื่อเขาเปิดกล่องออกมา พบกับภาพของแหวนทองคำสุกปลั่งวงเล็กนิด หัวแหวนประดับพลอยน้ำงามสีม่วงสลับเขียวใบไม้ เรียงรายรอบเรือนแหวนที่แกะเป็นเถาดอกไม้อ่อนช้อย

    ขุนพลหนุ่มขมวดคิ้วอย่างสงสัย เดี๋ยวก่อน นี่มันแหวนของผู้หญิงนี่นา...

    ท่านเนมอสคะ สิมาริเมสเรียกก่อนจะส่งกล่องของตนให้ดู ในนั้นคือแหวนวงใหญ่กว่าจนมองออกว่าเป็นแหวนของผู้ชาย หัวแหวนทำเป็นรูปใบไม้แบบเรียบๆ ฝังพลอยเม็ดใหญ่สีเขียวเข้ม

    ฝ่าบาทส่งให้เราสลับกันหรือ

    ข้าว่าพระองค์คงจะทรงตั้งพระทัยมากกว่าค่ะ ให้เรามาแลกกันทีหลัง เด็กสาวยิ้มน้อยๆ

    คงใช่กระมัง เนมอสยิ้มตอบก่อนจะหยิบแหวนรูปดอกไม้อันกระจิริดออกมา ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องสวมให้เจ้ากับมือสินะ

    เขาคว้ามือเล็กบางไว้โดยไม่รอคำตอบ ก่อนจะสวมให้ที่นิ้วนางซึ่งดูจะพอดีที่สุด

    เด็กสาวก้มหน้าอย่างขวยเขินจนเขาปล่อยมือ แล้วเธอจึงหยิบแหวนที่ตนได้รับออกมาบ้างก่อนจะสวมให้มือที่ใหญ่กว่า ความประหม่าทำให้สิมาริเมสเลือกนิ้วไม่ถูกอยู่เป็นนาน ซ้ำมือน้อยยังสั่นจนแทบทำแหวนหล่น แต่เมื่อแหวนหัวใบไม้นั้นมาอยู่บนนิ้วของชายหนุ่ม ทั้งสองก็หัวเราะให้กันเบาๆ อย่างร่าเริง

    เมื่อนั้นเองที่มีเสียงเรียกจากด้านหลัง

    ท่านแม่ทัพเนมอสกับคู่หมั้นใช่ไหมเจ้าคะ หญิงสาวที่แต่งกายเรียบๆ แต่ดูมีฐานะสูงคนหนึ่งถามอย่างสำรวม

    ใช่ นักรบหนุ่มตอบ มีอะไรหรือ

    พระชนนีมีรับสั่งให้ท่านทั้งสองเข้าเฝ้าหลังเสร็จพระราชพิธีเจ้าค่ะ นางอธิบายก่อนจะกลับหลังหัน เชิญพวกท่านรอในห้องรับรองก่อนเจ้าค่ะ

    เนมอสหันกลับไปมองสิมาริเมสที่ไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินตามหญิงผู้นั้นไปด้วยกันทั้งสองคน

    ไม่นานทั้งสองก็ถูกพามายังห้องรับรองอันหรูหรา หญิงที่เขาเข้าใจว่าเป็นนางกำนัลของพระชนนีนำน้ำดื่มมารับรองก่อนจะผละจากไป ทิ้งทั้งสองไว้เพียงลำพัง

    ทำไมพระชนนีถึงทรงอยากพบพวกเราล่ะคะ เด็กสาวถามแผ่วเบา

    ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เนมอสตอบด้วยความรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างประหลาด

    อย่างไรก็ดี ทั้งสองได้แต่นั่งเงียบจนกระทั่งนางกำนัลคนเดิมมาบอกว่าถึงเวลาเข้าเฝ้าแล้ว และพาทั้งสองไปยังห้องที่พระชนนีประทับรออยู่

     

    ในพระราชพิธีนั้น เนมอสไม่ได้เห็นพระชนนีชัดนัก เมื่อมีโอกาสสังเกตในคราวนี้ก็พบว่าพระนางเป็นสตรีที่ดูเหมือนเพิ่งเข้าวัยกลางคนไม่นาน แม้ฉลองพระองค์สีทึมทึบตามแบบของหญิงม่ายจะทำให้ดูมีอายุยิ่งกว่าเดิม

    เค้าหน้าของฝ่าบาทดอร์มินเรียกได้ว่าล้วนมาจากพระนางทั้งสิ้น ทั้งสองมีดวงหน้าเรียว นัยน์ตาคม สันจมูกกับรอยหยักของริมฝีปากบางเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว

    แม่ทัพหนุ่มกับคู่หมั้นถวายบังคมอย่างนอบน้อม ก่อนที่พระชนนีจะแย้มรอยยิ้มบางๆ

    ตามสบายเถอะ ท่านแม่ทัพเนมอสกับคุณหญิงสิมาริเมส น้ำเสียงของพระชนนีไม่ถึงกับทุ้มต่ำ ยังเจือความหวานเหมือนเสียงสตรีวัยสาวและกังวานมีสง่า เมื่อเช้ามืด ดาวประกายพรึกส่องแสงสว่างใกล้ดาวปาริชาตเป็นลางดี เรานึกแล้วว่าต้องได้พบสิ่งที่อยากพบเจอมานาน...ซึ่งก็คือท่านนั่นเอง

    พระนางกวาดมองทั้งสอง หยุดอยู่ที่สิมาริเมสสักครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาทางเนมอสอีกครั้ง

    ท่านแม่ทัพ ฝ่าบาทเคยบอกเราว่าท่านมีความสามารถมาก ซ้ำยังเคยช่วยพระองค์ไว้หลายครั้งทีเดียว

    นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างสูงพ่ะย่ะค่ะ ที่ฝ่าบาทตรัสเช่นนั้น เนมอสตอบตามธรรมเนียม

    คุณหญิงสิมาริเมส

    พะ...เพคะ เด็กสาวตอบอย่างประหม่า

    ท่านเองก็สมกับที่ฝ่าบาทเคยบอกเราทั้งรูปโฉมและกิริยา ชายใดที่ได้ท่านเป็นคู่ครองก็เหมือนได้เพชรน้ำงามไม่ผิดเลย

    หม่อมฉัน...ไม่ได้ดียิ่งถึงขนาดนั้นหรอกเพคะเธอออกตัวเบาๆ

    พระชนนียังคงยิ้มอย่างอารี

    เราอยากพบท่านทั้งสองมานานแล้ว ครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสดีนัก พระนางยกสองมือขึ้น ปลดสร้อยประดับจี้ไพลินล้อมเพชรแพรวพราวที่สวมอยู่ออกมา โปรดรับของขวัญแสดงความยินดีของเราในครั้งนี้เถิดนะ

    เนมอสนิ่งเงียบ ด้วยรู้ว่าพระชนนีตั้งใจจะมอบสร้อยนั้นให้สิมาริเมส

    ปะ...เป็นพระกรุณาธิคุณอย่างสูงเพคะ พระชนนี แต่หม่อมฉันเกรงว่าเกียรตินี้สูงค่าเกินหม่อมฉันจะอาจเอื้อมเพคะ

    อาจเอื้อมอะไรกัน พระนางหัวเราะเบาๆ เราอยากมอบให้เจ้าด้วยความเอ็นดู เจ้ารับไว้เถิด

    ...ขอบพระทัยเพคะ เด็กสาวตอบในที่สุด

    ขอให้เราได้สวมให้เจ้ากับมือเถอะนะ พระชนนีเอ่ย สิมาริเมสจึงเดินเข่าไปข้างหน้าสองสามก้าว ให้พระนางโน้มกายลงคล้องสายสร้อยให้ เราไม่มีลูกสาวเลย หากมีหญิงเช่นเจ้าเป็นธิดาก็คงจะดีไม่น้อย

    หลังจากสวมสร้อยให้เสร็จ พระชนนีก็ตัดบทว่าพระนางไม่ควรรั้งทั้งสองให้อยู่นาน และอนุญาตให้ถวายบังคมลากลับไปหลังจากกำชับ

    ขอให้ท่านทั้งสองรับใช้ฝ่าบาทอย่างเต็มที่ ตามหน้าที่ที่ควรกระทำเถอะนะ

    ในตอนนั้น เนมอสไม่ได้เฉลียวคิดสักนิดว่าคำพูดของพระชนนีมีความหมายใดแฝงอยู่

     

    ขณะเดินไปตามทางเดินเพื่อออกจากพระราชวัง เด็กสาวยังคงแตะจี้ไพลินเม็ดโตอย่างประหลาดใจ และดูจะไม่ค่อยสบายใจนัก

    ข้าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพระชนนีถึงมอบของสูงค่าอย่างนี้ให้กับข้า ทั้งๆ ที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ

    พระนางมีรับสั่งว่าทรงเอ็นดูเจ้านี่นาเนมอสพยายามให้เหตุผล แม้ตนจะประหลาดใจอยู่เช่นกัน

    ค่ะ...แต่...ข้าก็ยังรู้สึกว่าไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย เด็กสาวพูดอย่างกังวล ถอดสร้อยก่อนได้ไหมคะ...ข้ารู้สึกอายอย่างไรก็ไม่รู้

    ข้าว่าพระชนนีคงไม่ว่าอะไรหรอก ก็ประทานให้เจ้าแล้วนี่ ชายหนุ่มตอบ ครั้นเห็นอีกฝ่ายยกมือขึ้นหาตะขอเกี่ยวสร้อยไม่พบจึงอาสา ให้ข้าช่วยไหม

    ค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ

    เนมอสปลดตะขอสร้อยจากด้านหลังอย่างง่ายดาย แต่แล้วก็ชะงักนิ่งไปเมื่อเห็นรอยสีดำบนต้นคอของเด็กสาวรอยที่ดูเหมือนเส้นสายก่อตัวเป็นตราสัญลักษณ์จางๆ ใต้แนวผม

    มีอะไรหรือคะ เขาเพิ่งได้สติเมื่อเธอเรียก

    มะ...ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่ข้าเพิ่งเห็นว่าที่หลังคอของเจ้ามีอะไรบางอย่าง

    อ๋อ...รู้สึกจะเป็นปานดำน่ะค่ะ สิมาริเมสตอบ ท่านแม่บอกว่ามีมาตั้งแต่เกิดแล้ว ข้าเองเคยส่องกระจกดู แต่ก็ไม่เห็นถนัดนัก ดูแย่มากเลยหรือคะ

    ไม่หรอก มันจางมาก เนมอสปฏิเสธ แม้จะอดคิดไม่ได้ว่าลักษณะของมันคล้ายกับรอยสักหรือรอยตีตราบางอย่างมากกว่า ข้าแค่แปลกใจเพราะไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้นเอง

    คงเป็นเพราะข้าไม่เคยรวบผมให้ท่านเห็นเลยกระมังคะ

    นั่นสินะเขารับลอยๆ

    ว่าแต่จากนี้ไปท่านเนมอสก็คงจะว่างไปอีกสักพักใช่ไหมคะ เด็กสาวเปลี่ยนเรื่องถาม

    ว่างจนกว่าฝ่าบาทจะมีพระบัญชาให้ไปรบหรือประจำที่อื่นนั่นละชายหนุ่มเริ่มยิ้มออกได้อีกครั้ง ช่วงนี้เราจะได้พบกันบ่อยๆ เหมือนแต่ก่อน

    แล้ว...จะว่างในวันครีษมายันไหมคะ

    ว่างสิ ทำไมหรือ

    สิมาริเมสส่งยิ้มสดใสให้เขา

    เราสองคนจะได้ไปงานเทศกาลคิมหันต์ด้วยกันน่ะค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×