คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : -- ๔ – องครักษ์ผู้เบื่อหน่าย - “ห้ามสูบเว้ย เดี๋ยวท่านหญิงบ่นเหม็น”
๔ – องครักษ์ผู้เบื่อหน่าย
“ไร้สาระเป็นบ้า” แม็กนัสมีสีหน้าเบื่อหน่ายสุดชีวิต ขณะมองคนในความอารักขาทั้งสอง ซึ่งคนตัวเล็กสุดในนั้นจ้ำพรวดๆ นำหน้าไปไกลราวกับจะไม่รั้งรอ “รวยล้นฟ้าขนาดนั้น อยากได้ของดีแค่ไหนจะสั่งทำเมื่อไรก็ได้ ทำไมต้องมาเดินดูของแบกะดินด้วยวะ”
“ก็ ‘ท่านหญิงน้อย’ อยากมาเดินงานเทศกาลครั้งแรก ‘ท่านพ่อ’ ผู้ยิ่งใหญ่เลยตามใจลูกสาวคนเล็กสักหน่อย แปลกตรงไหน” บิวเรน เพื่อนร่วมงานตอบเสียงเบากว่า แล้วก็ปรามเมื่อชายหนุ่มล้วงหาของในกระเป๋าเสื้อโค้ต “ห้ามสูบเว้ย เดี๋ยวท่านหญิงบ่นเหม็น”
องครักษ์จำเป็นกลั้นความอยากบุหรี่มวนแรกของวัน กับความรำคาญอื่นไว้อย่างยากเย็น
ตอนรู้ข่าวว่าเบื้องบนสั่งให้มาประจำการในงานเทศกาลที่คีรีเอ เตรียมป้องกันการก่อการร้าย ชายหนุ่มหลงดีใจ นึกว่าจะได้พิสูจน์ฝีมือของตนให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อเลื่อนขั้นในไม่ช้า ...แต่ไม่นึกว่าจะถูกส่งมาทำงานกิ๊กก๊อกนอกเครื่องแบบ...กะแค่เป็นองครักษ์คุ้มกันเด็กผู้หญิงคนเดียว
ใช่...เด็กหญิงนั้นไม่ธรรมดา เธอคือท่านหญิงอมาเนเซรา ลูเชียส ธิดาคนสุดท้องของพระมหาสังฆราชาเอเซคิเอล ลูเชียส มีพี่ชายเป็นพระราชาคณะเอลิยาห์ ลูเชียส บุคคลที่ทรงอำนาจที่สุดสองคนในศาสนจักรโซลาริส
ดังนั้น จะพูดว่าเป็นเด็กหญิงที่มีอำนาจที่สุดในศาสนจักรเช่นกัน ก็ไม่ผิดนัก
ถึงอย่างนั้น แม็กนัสไม่เคยได้ยินชื่อเธอ และไม่เข้าใจว่าหากท่านหญิงผู้ไม่เคยปรากฏตัวทางสื่อใดๆ ปลอมตัวเป็นลูกชาวบ้านมาเดินงานเทศกาลจะมีอันตรายอย่างไร...ถึงเขาจะไม่แน่ใจเสียแล้ว ว่าเธอตั้งใจปลอมตัวเป็นลูกชาวบ้านจริงๆ
เด็กหญิงสวมชุดกระโปรงสีขาวขลิบปลายขนสัตว์ฟูฟ่อง และรองเท้าหนังแท้สีขาวเข้าชุดกัน ผมสีทองสว่างดัดเป็นลอนสลวย ผูกริบบิ้นลูกไม้สีเดียวกับชุด ปล่อยยาวลงปรกหลังไหล่ ผิวของเธอไม่ขาวซีดเหมือนคนทั่วไปที่ไม่ได้สัมผัสแสงตะวัน แต่มีสีเลือดฝาดระเรื่อ
ก็แน่ล่ะ เป็นถึงลูกของชายที่มีอำนาจสูงสุดในโลก คงได้อาบแสงจากผลึกสุริยะมากตามต้องการ แค่สีผิวก็ทำให้เธอแตกต่างจาก ‘สามัญชน’ รอบข้างมากแล้ว ไม่นับเสื้อผ้าหน้าผมที่ดูเหมือนตุ๊กตานั่นอีก
แต่ต่อให้รู้จักเธอ พวกผู้ก่อการร้ายอัสลานคงไม่คิดเล่นงานหรอก ฆ่าหรือจับเด็กผู้หญิงเล็กๆ คนหนึ่งเป็นตัวประกันมีแต่จะทำให้พวกมันยิ่งถูกประณาม และผู้คนต่อต้านมากขึ้น พวกที่มองเธอตาเป็นมันคงเป็นโจรลักพาตัวเด็กหน้าตาดีไปขายตามซ่องระดับสูงหรือบ้านเศรษฐีมากกว่า
แต่ขี้คร้านรู้ว่าเด็กนี่เป็นใคร พวกมันจะหน้าซีดตัวสั่น รีบพาเธอมาคืนครูเซเดอร์คนแรกที่พบแล้วโกยอ้าวแทบไม่ทัน ทำไมต้องให้พวกเขามาตามอารักขาให้ลำบากมากกว่าก็ไม่รู้
ไม่สิ แม็กนัสเห็นความสำคัญของการอารักขาบุตรหลานคนใหญ่โต แต่ไม่เข้าใจมากกว่าว่าทำไมหน้าที่นี้จึงเป็นของตน เขาเพียรทำผลงานที่แนวหน้าประชิดเวสต์แลนด์อยู่เป็นนาน กราดกระสุนใส่กองกำลังของพวกก่อการร้ายอย่างไม่หวั่นเกรง หวังว่าไม่ช้าจะได้เลื่อนขั้นเป็นนายกองหน่วยรบ แต่เมื่อมีงานเทศกาล เขากับบิวเรน สองมือเอกประจำกองกลับถูกเรียกตัวเข้ามาทำเรื่องขี้ปะติ๋ว
“เร็วหน่อยสิ” เสียงแจ๋วๆ เรียกเขาจากห้วงภวังค์ ชายหนุ่มเลื่อนสายตามายังร่างเล็กในชุดขาว ซึ่งเท้าสะเอวยืนมองทั้งสามด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “ช้าจริง เดี๋ยวบอกท่านพี่ไล่ออกให้หมด”
“ท่าน...เอ่อ...คุณหนูอย่าใจร้อนสิคะ งานออกร้านมีตั้งเจ็ดวัน” พี่เลี้ยงรีบเอาใจแล้วเดินตาม ทิ้งองครักษ์ทั้งสองให้สบตากันชั่วอึดใจ ก่อนบิวเรนจะโคลงศีรษะ และซอยเท้าเร็วขึ้นบ้าง แต่ยังต้องระวังไม่ให้ล้ำหน้า ‘คุณหนู’ ผู้บอกไว้ตั้งแต่ต้นไม่ให้องครักษ์คนใดเดินนำเธอ
ให้ตาย...แม็กนัสคิดในใจ เขาเริ่มเสียใจจริงๆ ที่ถูกส่งมาเป็นขี้ข้ายายเด็กเจ้าอารมณ์นี่ กระนั้นก็แอบนึกดีใจครามครัน ที่น้องสาวซึ่งอายุห่างกับตนร่วมสิบปีไม่เป็นเด็กนิสัยเสียอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นแม่เขาคงเอาขี้เถ้ายัดปากตายไปนานแล้ว
ว่าไป มิแรนดาคงอายุพอๆ กับเด็กนี่ได้กระมัง ไม่ก็โตกว่านิดหน่อย ถึงจะไม่เคยมาคีรีเอ วันนี้แกกับแม่คงเตรียมจุดโคมตอนเที่ยงเหมือนกัน ส่วนเขาอยู่ในหน้าที่ ไม่รู้จะมีโอกาสได้จุดหรือไม่ แต่ไม่เป็นไร แค่ได้เข้ามาอธิษฐานในเมืองพร้อมเสียงระฆังก็คงพอ
แม็กนัสต้องทำผลงานให้ดีที่สุด เอาให้ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้กองในปีหน้า แล้วจะทำเรื่องขอสิทธิ์ให้แม่กับน้องย้ายจากเก็ตโตเข้ามาอยู่ในแซงค์ชัวรี
องค์สุริยเทพย่อมไม่มองข้ามความปรารถนาเล็กน้อย ของนักรบที่สู้เพื่อพระองค์มาตลอดเป็นแน่
* * * * *
ความคิดเห็น