คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : -- ๑ – ครูเซเดอร์กับหญิงสาวลึกลับ - “คุณรับปากได้ไหม ว่าจะช่วยคนคนหนึ่งเพื่อฉัน”
๑ – ครูเซเดอร์กับหญิงสาวลึกลับ
แม็กนัสพบว่าแอนเธียเป็นผู้หญิงที่เหนือความเข้าใจของเขา
สารภาพตามตรง เขาใช่จะรู้จักผู้หญิงมากนัก ก็แค่แม่กับน้องสาว และพวกผู้หญิงกลางคืน ซึ่งตนเคยเที่ยวบ้างตามประสาผู้ชาย แต่เขาก็ยังคิดอยู่ดี ว่าแอนเธียมีบางสิ่งไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่ตนรู้จัก
อาจเป็นนัยน์ตาของเธอ...นัยน์ตาสีเขียวหยกอันเป็นลักษณะทั่วไปของชาวอัสลาน ทว่าไม่ใช่เพราะสีนัยน์ตานั้น เป็นวัยที่สะท้อนจากพวกมันต่างหาก
เขาแน่ใจว่าหญิงสาวอายุน้อยกว่าตน ไม่ก็พอๆ กัน แต่ดวงตาของเธอเหมือนคนแก่กว่านั้นมาก ราวกับเคยเห็นเคยผ่านสิ่งต่างๆ มากมาย เกินชั่วชีวิตซึ่งสั้นเพียงยี่สิบกว่าปี เผชิญทั้งเรื่องดีร้าย ทั้งเรื่องเบาบาง และหนักหนาสาหัสสากรรจ์ ครั้นนึกดูว่าเคยเห็นดวงตาแบบนี้ที่ใด แม็กนัสก็ระลึกถึงหญิงชราแถวบ้านตนในเก็ตโต ผู้เคยเห็นดวงตะวัน และมักเล่าถึงยุคสมัยที่เป็นเหมือนนิทานปรัมปราให้เด็กๆ ฟังอย่างโหยหา แล้วเขาก็สรุปเอาว่าอาจเป็นเพราะเธอทำดอกไม้ ซึ่งน่าจะผลิบานในสมัยที่ยังมีแสงตะวันสว่างกระมัง
บางที คงเพราะนัยน์ตาของเธอ แม็กนัสจึงยอมตกลงเมื่อหญิงสาวบอกว่ามีทางให้เขาได้ข้อมูลจากผู้ก่อการร้ายที่ถูกไฟคลอกหนัก นอนหมดสติรอความตาย เพื่อจะได้นำไปช่วยยายท่านหญิง และนำเพทราคืนมา เขาเชื่อ...ด้วยเหตุใดไม่รู้นอกจากตาคู่นั้น...ว่าเธอทำได้จริง
หลังบิวเรนซื้อเครื่องดื่มมาให้เธอ เขาก็หาเรื่องให้เพื่อนร่วมงานผละไป จากนั้นก็ช่วยดูต้นทางให้หญิงสาว เธอเดินเข้าห้องพักพยาบาล ผ่านไปครู่เดียวก็แต่งเครื่องแบบสีขาวออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ เค้าหน้าของเธอดูแปลกไปบ้างเมื่อไม่มีผ้าคาดผม และปล่อยผมหน้าม้าปรกหน้าผาก แต่แม็กนัสไม่เห็นรูปร่างหน้าตาเธอสำคัญกว่าความแปลกใจในทีแรก จึงไม่สนใจมากไปกว่านั้น
ความระแวงต่างหากที่ผุดขึ้นในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ว่าเธออาจมีจุดประสงค์แอบแฝง แต่ครั้นมาตั้งข้อสงสัยตอนนี้ หญิงสาวก็เพียงคลี่ยิ้ม พูดอย่างสงบว่าเขาจะค้นตัวเธอเลยก็ได้ จะได้แน่ใจว่าไม่มีอาวุธใดซุกซ่อนอยู่จริงๆ
ชายหนุ่มสั่นศีรษะทั้งหน้าร้อนผ่าว แน่นอนว่าไม่กล้าทำเช่นนั้น และได้แต่พยายามบอกตนเองว่าแอนเธียไม่มีทางตั้งใจฆ่าชายอัสลานปิดปาก หรือพามันหนีไป ในเมื่อมันบาดเจ็บหนักใกล้ตายอยู่แล้ว
ไม่ช้า ครูเซเดอร์หนุ่มก็พาเธอถือถาดใส่เข็มฉีดยาไปที่ห้องคนเจ็บ บอกครูเซเดอร์อีกสองนายที่เฝ้าอยู่หน้าห้องว่านางพยาบาลมาฉีดยาคนไข้ตามเวลา แล้วก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้วยกันอย่างง่ายดาย
ร่างของคนเจ็บนอนสงบบนเตียง ห่อหุ้มด้วยผ้าพันแผลหนาจนไม่เห็นเค้าหน้า คลุมผ้าห่มถึงอก เสียบสายน้ำเกลือกับเลือดที่แขน และใช้เครื่องช่วยหายใจ
แอนเธียวางถาดเข็มฉีดยาลงบนโต๊ะ บอกให้เขายืนอยู่เฉยๆ ตรงนี้ ห้ามเข้ามาใกล้หรือพูดอะไร ไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นก็ขอให้นิ่งเฉยไว้ จนกว่าเธอจะพูดกับเขาเอง
แม็กนัสรับคำ ครั้นแล้ว หญิงสาวก็เดินตรงไปข้างเตียงคนไข้ โน้มศีรษะลง ใช้หน้าผากแตะหน้าผากคนเจ็บหนักเพียงแผ่วเบา
นานเท่าไร...ชายหนุ่มไม่รู้เหมือนกัน ต่างคนเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องช่วยหายใจและตรวจวัดสัญญาณชีพที่ดังเป็นระยะสม่ำเสมอ
เขามองแอนเธีย แต่ไม่อาจเห็นสีหน้าของเธอ ผ่านม่านผมซึ่งปรกข้างแก้ม มีช่วงหนึ่งเห็นมือที่เธอใช้ยันเตียงไว้สั่นรุนแรง แต่ครั้นจะปราดเข้าไปถามว่าเป็นอะไร ก็ระลึกได้ถึงคำกำชับของเธอ และนิ่งเฉยอยู่
สุดท้าย หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้น และถอนใจเฮือกใหญ่ เมื่อเธอหันกลับมา แม็กนัสก็เห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเผือด มีหยาดน้ำพราวราวกับเพิ่งเผชิญอากาศร้อนจัด ทั้งๆ ที่อุณหภูมิในห้องเย็นทีเดียว
“ซากเมืองร้างใกล้เก็ตโตยี่สิบเอ็ด พวกที่พาตัวท่านหญิงกับเพทราไปนัดกับพวกอัสลานคนอื่นๆ ที่นั่น จากนั้น พวกเขาจะเดินทางกลับฐานที่มั่น” แอนเธียพูดพลางใช้หลังมือปาดเหงื่อ “พวกเขาจะขับรถไปตามทางลัด ตัดผ่านเขตอันตรายในเวสต์แลนด์ คุณมีแผนที่ไหม ฉันจะชี้เส้นทางให้”
แม็กนัสคิดว่าตนควรถาม ว่าเธอรู้ได้อย่างไร ทว่าเขาไม่ปริปาก เพียงตอบสั้นง่ายว่ามี แอนเธียพยักหน้ารับ ครั้นแล้วจึงพูดต่อ
“และ...เพื่อตอบแทนที่ฉันช่วยคุณ” เธอเอ่ยช้าๆ “คุณรับปากได้ไหม ว่าจะช่วยคนคนหนึ่งเพื่อฉันเหมือนกัน ฉันขอเพียงเท่านี้”
ชายหนุ่มกะพริบตาปริบๆ อีกครั้ง และคำว่า “ได้” ก็หลุดลอดริมฝีปากแสนแผ่วเบา
* * * * *
ความคิดเห็น