ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Mandrake Hero(ine) - ผู้กล้าพืชป่วน ยกก๊วนปราบมังกร

    ลำดับตอนที่ #31 : 26 - ศึกสอง...สามด้าน - ...เป็นห่วงบ้าบออะไร...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 273
      0
      11 เม.ย. 54

    บทที่ 26

    ศึกสอง...สามด้าน

     

    อา! นี่ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม! ท่านจอมมารโยเวียส! จอมมารลำดับที่หกร้อยหกสิบห้าแห่งอิลลูเซียอยู่ตรงหน้านี้แล้ว! ช่างเป็นบุญตา...เอ๊ย! ข้าจะขอสัมภาษณ์ท่านได้ไหม!”

    ท่านโยฮันน์! ข้าไม่คิดว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมนะ!” มาเทียสตะโกนตอบขณะที่ยืนบังอยู่หน้าน้องสาว เห็นผู้กล้าเฮลิออสวิ่งเข้าไปหาม้าเปกาซัสของตน และเหวี่ยงตัวขึ้นบนหลังของมัน อาเน่กระโดดขึ้นหลังเจ้าห่าน ขณะที่เอริเธียซึ่งสวมชุดงดงามสำหรับประกวดเทพีฤดูใบไม้ผลิเรียกไม้กวาดออกมา และขี่มันขึ้นสู่ฟ้าเช่นกัน

    ฮะๆ ข้าจะให้สัมภาษณ์ก็ได้ แต่ต้องหลังจากฆ่านี้ดฮ็อก และทำให้โลกตกอยู่ในความสิ้นหวังได้แล้วละนะชายบนหลังแมนติคอร์หัวเราะตอบอย่างชื่นมื่น แม้ในขณะที่สัตว์พาหนะบินหลบหลีกดาบของอัศวินหนุ่มบนหลังเปกาซัส

    โอ! ขอบคุณมากขอรับ! เช่นนั้นข้าจะรอ—”

    นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ! ช่างตีเหล็กปราดเข้าไปคว้าไหล่ของอาจารย์โรงเรียนผู้กล้า หมุนตัวเขากลับมาเผชิญหน้ากัน ถ้านี้ดฮ็อกถูกฆ่า...อิกดราซิลก็จะตาย! โลกจะล่มสลายไม่ใช่หรือ!

    แล้วอย่างไรโยฮันน์เพียงแต่ถามเรียบเฉย พร้อมกับขยับแว่น อิกดราซิลกับโลกควรจะอยู่ต่อไปนานกว่านี้ เพียงเพื่อทุกข์ทรมานจากการกระทำของมนุษย์งั้นหรือ

    มาเทียสชะงักไป

    ทว่าสถานการณ์ทำให้เขาไม่อาจชะงักได้นาน เสียงของการต่อสู้ระหว่างจอมมารโยเวียส กับผู้กล้าเฮลิออส อาเน่ และแม่มดเอริเธียดังแว่วมา ขณะที่นี้ดฮ็อกซึ่งกลายเป็นสีขาวปนเหลืองไปแล้วยังคงบ่นเกรี้ยวกราดต่อไป ทำนองว่า เป็นเพราะจอมมารๆ พร้อมกับฟาดทำลายสิ่งใดก็ตามใกล้อ่างเก็บน้ำ

    ต้องมีใครทำอะไรสักอย่าง ลำพังเฮลิออสกับเอริเธียไม่อาจต้านโยเวียสไปพร้อมกับป้องกันนี้ดฮ็อกได้...ไม่ว่าจะป้องกันไม่ให้มังกรถูกจอมมารสังหาร หรือป้องกันมังกรไม่ให้สังหารใคร ตลอดจนถล่มเมืองเสียหายก็ตาม

    มันอาจแค่ถึงเวลาแล้วก็ได้ อาจารย์โรงเรียนผู้กล้าพูดพร้อมกับขยับแว่นอีกครา ท่าทางนิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน มนุษย์ทำกรรมต่อสิ่งมีชีวิตอื่นและโลกนี้ไว้มาก เมื่อถึงเวลาก็ต้องชดใช้ ที่พวกไวเวิร์นไปรุกรานพรีม่า ก็คือกรรมที่ชาวเมืองต้องชดใช้จากการล่าปลาใหญ่กับคราเคนมากินได้หน้าตาเฉย หรือเคยทำสงครามฆ่าชาวเมืองอื่นเป็นผักปลา มิหนำซ้ำยังฉ้อฉล เห็นการฆ่าฟันเลือดสาดเป็นเกมกีฬา เป็นเรื่องสนุก และการตายของนี้ดฮ็อก ซึ่งทนทรมานเพราะความชั่วร้ายที่มนุษย์ปล่อยออกมาไม่มียั้ง ก็อาจจะเป็นกรรมที่ชาวอิลลูเซียทั้งหมด ...ไม่สิ คนทั้งโลกต้องชดใช้ก็เป็นได้

    ช่างตีเหล็กนิ่งงัน เขาก็เคยคิดเช่นนั้นไม่ใช่หรือ ...คิดเอาไว้แต่ไม่พูดออกมา

    คนเมืองพรีม่าทำตัวน่าชิงชัง แต่หากในการโจมตีของไวเวิร์นครั้งนั้นมีคนตายไปสักคน...คนที่อาจจะไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร คนที่อาจเป็นเพียงเด็กไร้เดียงสา เป็นคนที่มีคนที่รักและอยากปกป้องเขา เหมือนกับเมลิสของมาเทียส เขายังจะพูดหรือทนฟังเรื่องบาดหูอย่างนี้ได้อีกหรือ

    มนุษย์ไม่ใช่เทพเจ้า อย่าได้สำคัญตนไปเลยว่ารู้เรื่องบาปกรรมของผู้อื่นถ่องแท้ จนกระทั่งชี้หน้าบอกได้ว่าที่คนหมู่มากซึ่งตนไม่รู้จักเกี่ยวข้องด้วยต้องล้มตายจากเภทภัย เป็นเพราะความชั่วร้ายที่พวกเขาต้องชดใช้

    นั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรพูด ในเวลานี้ สุดท้าย มาเทียสก็เอ่ยเสียงแข็ง ข้ารู้ว่ามนุษย์ไม่ได้ดีไปทุกอย่าง แต่การปล่อยให้ใครตาย หรือบอกว่าคนที่ไหนสมควรตายก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ ข้าไม่อยากตาย ไม่อยากให้น้องข้า หรือใครตายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ข้ารู้จักหรือไม่รู้จัก

    เฉพาะคนงั้นรึ ชายผมฟูไม่วายย้อนถาม ที่ท่านอยากปกป้องนี้ดฮ็อก ก็เพราะมันเป็นประโยชน์กับมนุษย์ ไม่เหมือนไวเวิร์นพวกนั้นน่ะสิ

    แล้วมันผิดงั้นรึ!” ช่างตีเหล็กตั้งคำถาม ถ้าท่านรู้วิธีช่วยอัลบัสออกมาจากนี้ดฮ็อก...ก็รีบบอกมา! แค่นี้พวกผู้กล้าก็ตึงมืออยู่แล้ว! จะคาดหวังให้รับมือได้ทั้งจอมมารกับมังกรไม่ได้หรอก!”

    อะไรกัน เมื่อครู่ท่านเพิ่งต่อยกับจอมแว่นขาวจะเป็นจะตาย ตอนนี้กลับจะช่วยเขา...เพราะไม่อยากให้ตัวเองตายงั้นเหรอ

    ก็เออสิวะ! ชายหนุ่มรับอย่างเดือดดาล

    นั่นอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ...ลำพังตัวเขาตายไม่เท่าไรหรอก ถ้าจอมเวทขาวจะตายโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เขาก็ไม่สนใจ (มิหนำซ้ำยังคิดว่าไม่มีมันสักคน โลกอาจจะน่าอยู่ขึ้นด้วย) แต่ถึงอย่างไร มาเทียสย่อมอยากปกป้องเมลิส และคนอื่นๆ ที่ตนเห็นควรปกป้องอยู่นั่นเอง

    โยฮันน์ยิ้มอย่างปลงๆ ก่อนจะขยับแว่นเป็นครั้งที่สาม

    งั้นคงต้องตามเข้าไปในตัวนี้ดฮ็อกด้วยกระมัง

    ท่านว่าอะไร มาเทียสเลิกคิ้วอย่างสงสัย

    ตาม เข้า ไป ใน นี้ดฮ็อก อีกฝ่ายย้ำคำช้าๆ พูดง่ายๆ ก็คือยอมให้มันกินท่านเข้าไปอีกคนนั่นล่ะ

    แล้วข้าจะไม่เป็นอะไรหรือ... ความพรั่นพรึงพลุ่งขึ้นโดยไม่ทันห้าม มาเทียสตั้งคำถามอยู่ในใจ

    ถ้ากลัว ก็ไม่ต้องทำก็ได้ ไม่มีใครโทษท่านทั้งนั้น ชายสวมแว่นยักไหล่ ทำใจตัวเองให้สงบ รอจุดจบโดยไม่ร้อนใจ เวลาตายจะได้ขึ้นสวรรค์ไม่ดีกว่าหรือ

    ข้าแค่อยากรู้ความเสี่ยง ช่างตีเหล็กแย้ง ถ้าอัลบัสเข้าไปประสาทแตกอยู่ในตัวนี้ดฮ็อก แล้วข้าจะเป็นอย่างเดียวกันหรือเปล่า หรือป้องกันได้

    ก็...ถ้าเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคง น่าจะป้องกันได้ ไม่อย่างนั้นก็มีวิธีช่วยเสริมความมั่นคงขึ้นไปอีก

    นั่นคือ...

    เพื่อนร่วมทาง คงเพราะมาเทียสทำสีหน้างุนงงอยู่ โยฮันน์จึงได้อธิบาย เมื่ออยู่ตัวคนเดียว มนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมย่อมรู้สึกไม่มั่นคง แต่เมื่ออุ่นใจว่ามีพวกพ้อง จิตใจก็จะเข้มแข็งขึ้น ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นพวกพ้องกันได้

    หมายความว่าข้าต้องเข้าไปกับอีกคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ใครก็ได้?

    ถูกต้อง

    มาเทียสครุ่นคิด คนที่น่าจะรู้จักอัลบัสดีที่สุดในที่นี้คือเฮลิออส...แต่เฮลิออสก็ต้องรับมือกับโยเวียส ดังนั้นย่อมไปกับเขาไม่ได้ เอริเธียเองก็คงไม่ได้รู้จักอัลบัสดีนัก มิหนำซ้ำเธอยังมีปมในใจของตนเองที่ยังแก้ไม่ตก (เขาไม่อยากให้นี้ดฮ็อกกลายเป็นมังกรสองหัว หัวหนึ่งไล่ด่าจอมมาร ส่วนอีกหัวไล่ล่าหาเงิน) เมลิสยังเป็นเด็ก เขาย่อมไม่ต้องการให้เธอมีอันตรายไปด้วย อาเน่ที่กำลังช่วยรับมือจอมมารอยู่ก็เคยได้รับผลกระทบจากความเจ็บปวดของนี้ดฮ็อก ย่อมไม่เหมาะที่จะเข้าไปท่ามกลางความกดดันนั้น

    แล้วท่านไปกับข้าไม่ได้หรือ เขาตั้งคำถาม ท่านโยฮันน์ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้ดี มีท่านไปด้วยข้าจะอุ่นใจ และท่านก็ให้คำแนะนำข้าได้

    ไม่ได้หรอก

    ทำไมล่ะ!”

    ข้าเกลียดพวกที่เอามนุษย์กับตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลอย่างจอมแว่นขาว ขืนข้าเข้าไป จะอยากฆ่ามันตายเสียมากกว่า...อ๊ะ!” สีหน้าของโยฮันน์เปลี่ยนไปราวกับเพิ่งบรรลุบางสิ่ง ยังมีวิธีนี้อยู่นี่นา

    วิธีอะไร

    ท่านเข้าไป แต่ไม่ต้องช่วยจอมแว่นขาวออกมา ฆ่ามันทิ้งเสียเลย พอไม่มีจิตของมัน นี้ดฮ็อกก็จะหายคลั่ง มิหนำซ้ำแผ่นดินสูงขึ้นอีกตั้งวา

    นี่ไม่ใช่เวลาล้อเล่นนะ!มาเทียสเดือดดาลขึ้นมาอีกครา

    อะไรกัน ข้าว่ามันเป็นความเสี่ยงที่คุ้มออก จอมแว่นขาวที่อยู่ไปก็รกโลกสักคน กับชีวิตของคนอื่นๆ ที่ท่านอยากปกป้อง หรืออาจจะรวมถึงโลกทั้งใบ ในหลายๆ ครั้ง การเสียสละส่วนน้อย หรือสิ่งที่ไม่ใช่ พวกเดียวกัน เพื่อรักษาส่วนมากก็จำเป็นไม่ใช่หรือ

    ช่างตีเหล็กกำมือแน่น พร้อมกับกัดฟันกรอด ในใจพยายามนึกแย้ง...หากไม่ลองรักษาทั้งสองฝ่ายไว้ก่อนจะได้หรือ แต่ก็รู้ดีว่าต่อให้พูดออกไป อาจารย์ผู้สอนระบบนิเวศวิทยาแห่งอิลลูเซียย่อมมีข้อโต้แย้งสักทาง

    ขณะเดียวกัน อีกใจหนึ่งเขาก็อดคิดตามไม่ได้ อัลบัสสำคัญอะไรต่อเขา...คนอื่นๆ...หรือกระทั่งโลกใบนี้ มนุษย์ทุกคนเกิดมาล้วนต้องตาย หากใครสักคนยอมให้มือเปื้อนเลือด ฆ่าเขาเพื่อปกป้องอีกหลายๆ ชีวิต มันก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่เกินคุ้มค่าไม่ใช่หรือ

    รีบตัดสินใจหน่อยก็ดีนะ เสียงพูดของโยฮันน์ยังคงเรียบเฉย แม้ในยามพยักพเยิดไปทางมังกรสีขาว ซึ่งเวลานี้ขึ้นจากอ่างเก็บน้ำแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปทางเมือง โดยมีโยเวียสไล่ตามไปติดๆ และสามผู้กล้าไล่ตามไปอีกที

     

    * * * * *

     

    คมเคียวของโยเวียสฟาดฟันลงบนร่างของนี้ดฮ็อกแล้ว

    เสียงกรีดร้องของมังกรแห่งอิกดราซิลทำให้แก้วหูของอาเน่ลั่นเปรี๊ยะ และห่านเพรียงชะงักงัน ดูเหมือนความเจ็บปวดของนี้ดฮ็อกจะเชื่อมต่อกับความเจ็บปวดของเผ่าพันธุ์พืชอื่นๆ โดยรอบ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่มันดิ้นทุรนทุรายนั้น

    ...ทนหน่อยนะ เจ้าห่าน... เด็กหญิงผมเขียวปลอบสัตว์พาหนะ ก่อนจะบอกให้มันบินตามไป จอมมารบนหลังแมนติคอร์ยังคงรับมือกับทั้งคมดาบของเฮลิออส และเวทมนตร์ของเอริเธียได้ราวกับไม่เปลืองแรง

    มนุษย์แมนเดรกยังไม่รู้ว่าตนจะช่วยทั้งสองได้มากสักเพียงไร...ในเมื่อปราศจากดาบวิเศษที่มีอำนาจคลื่นคำรามอย่างแกรม แต่ในเวลานี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากช่วยสู้ให้เต็มที่เท่านั้นเอง

    กระนั้น ขณะที่กำลังจะเข้าไปถึงวงล้อมของการต่อสู้ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเหมือนกับจะเรียกเธออยู่ในใจ

    พวกต้นไม้เบื้องล่างบอกว่ามีคนต้องการให้อาเน่ไปหา...มาเทียสต้องการให้อาเน่ไปหา นั่นทำให้เด็กหญิงสงสัย แต่ก็ยินยอมชักห่านเพรียงให้โผกลับลงไปแต่โดยดี

    ต้นไม้ไม่เคยกล่าวเท็จ และรับรู้ได้ว่ามนุษย์เรียกหาสิ่งมีชีวิตอื่นด้วยจุดประสงค์อย่างใด

    ช่างตีเหล็กกำลังลังเลและเคร่งเครียด แต่ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความห่วงใยผู้อื่น

    ไม่ช้า ผู้กล้าแมนเดรกก็มองเห็นคนที่รอพบตน มาเทียสยืนอยู่เบื้องล่างกับเมลิส และโยฮันน์

    มาเทียส! มีอะไรหรือ!” เด็กหญิงร้องถามโดยไม่ลงจากหลังห่าน

    เราต้องเข้าไปช่วยอัลบัสออกมาจากตัวนี้ดฮ็อก เจ้าไปกับข้าได้ไหม

    อาเน่ประหลาดใจ แต่ก็รีบพยักหน้าในไม่ช้า

    แล้วข้าต้องทำอะไรบ้าง

    พวกท่านต้องเข้าไปหาจิตกับร่างของจอมแว่นขาวให้เจอ แล้วก็พาออกมา โยฮันน์ตอบ ฟังเหมือนง่าย แต่ก็ใช่จะทำง่ายหรอกนะ ในตัวของนี้ดฮ็อกกักเก็บและดึงดูความรู้สึกด้านลบของมนุษย์ จะฝ่าไปในนั้นได้ต้องทำใจแข็งเข้าไว้ จะดึงจิตของคนที่หลงเตลิดไปกับความรู้สึกพวกนั้นออกมาก็ต้องทำใจแข็งยิ่งกว่า

    แต่...เราจะพาร่างของอัลบัสออกมาได้ยังไง จากความสูงขนาดนั้น เด็กหญิงผมเขียวฉุกคิดได้ ไม่สิ จะเข้าไปได้ยังไงในทีแรกด้วยซ้ำ

    ห่านเพรียงพาพวกท่านไปจนถึงปากมันได้ จากนั้นก็กระโดด

    เอ๋...แต่มาเทียส—”

    มินิมัส!” อาจารย์โรงเรียนผู้กล้าหันไปโบกมือใส่คนที่เพิ่งถูกเรียกชื่อ

    อาเน่เบิกตาค้าง เมื่อร่างกายของชายหนุ่มพลันหดเล็กลงอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตา จนสุดท้ายก็เหลือความสูงเพียงไล่เลี่ยกับเด็กหญิงแมนเดรก

    ห่านเพรียงน่าจะรับน้ำหนักคนตัวจิ๋วได้สามคนพร้อมกัน ส่วนจอมแว่นขาวนั่น ถ้ามันโดนจอมมารสาปให้ลืมมนตร์ย่อกาย หรือมนตร์ชะลอความเร็วเวลาตกจากฟ้าได้ ก็ไม่ควรจะครองตำแหน่งลำดับเจ็ดแห่งมิโทเซียด้วยซ้ำ ไปเร็วเข้า เวลาไม่คอยท่า

    ผู้กล้าแมนเดรกพยักหน้ารับ และรอจนกระทั่งมาเทียสในร่างเล็กราวหนึ่งไม้บรรทัดพูดจากับน้องสาวของตนอีกเล็กน้อย ก่อนจะช่วยดึงเขาขึ้นมาบนหลังห่านเพรียง อานที่ทำไว้ให้เด็กหญิงคนเดียวออกจะแคบไปเล็กน้อย แต่ก็มีที่ให้พอนั่งเบียดกันได้

    อาเน่สั่งห่านเพรียงให้บินขึ้นไป พร้อมกับที่โยฮันน์เอ่ยเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับรอยยิ้มขรึม

    อย่าลืมที่ข้าบอกไว้ล่ะ ท่านช่างตีเหล็ก

    เด็กหญิงผมเขียวอดสงสัยไม่ได้ ว่านั่นหมายความว่าอย่างไร กระนั้น เธอก็ไม่มีเวลาจะถาม และได้แต่บอกเจ้าห่านให้บินตรงไปยังกลางฟ้าที่เกิดการต่อสู้กันด้วยความเร็วสูง

     

    * * * * *

     

    ...อาเน่! เมื่อครู่นี้ไปไหนมา!... เอริเธียเปิดมนตร์สื่อสารทางใจ เมื่อเห็นห่านเพรียงบินกลับเข้ามาในวงล้อมของการต่อสู้...โดยมีอะไรบางอย่างที่ดูทั้งแปลกตาและคุ้นเคยอยู่บนหลังด้วย ...ช่างตีเหล็ก...นี่มันอะไรกัน!...

    เด็กหญิงแมนเดรกรีบเล่าให้แม่มดดำฟังผ่านการติดต่อทางจิต ถึงข้อเสนอของโยฮันน์และแผนการเกี่ยวกับนี้ดฮ็อก

    ...อย่างนี้นี่เอง ข้าจะบอกพี่ชายให้ ที่โยฮันน์คิดน่าจะเป็นไปได้ แต่คงเสี่ยงเหมือนกัน ระวังตัวด้วยล่ะ... หญิงสาวรับ ...ช่างตีเหล็กซื่อบื้อนั่นก็เหมือนกัน ฝากบอกเขาด้วยว่าระวังตัวให้ดี อย่าเจ็บตัวกลับมา...

    ...อื้อ ข้าจะบอกให้ว่าเอริเธียเป็นห่วง...

    ...เป็นห่วงบ้าบออะไร... แม่มดดำขมวดคิ้วทันควัน ...เขาไม่มีเงินค่ารักษาให้ข้าขูดรีด แล้วข้าอาจจะต้องซ่อมแซมอาวุธในเร็วๆ นื้ เลยไม่อยากเสียเวลารอเขาหายดีต่างหาก...

    อาเน่ตอบด้วยเสียงหัวเราะในใจ

    ...ข้ารู้หรอก ว่าเอริเธียใจดีกว่าที่คิด...

    หญิงสาวอดนึกไม่ได้ว่ามนุษย์ผักนี่ชักเซี้ยวเกินคาด

    ...เอริเธียก็ระวังตัวเหมือนกันนะ...

    ....แน่อยู่แล้ว... แม่มดตอบ ...ถึงอย่างไรก็ต้องจัดการเรื่องวุ่นวายนี่ให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีเทศกาลให้ข้าทำปราสาทกระจกเงา แล้วก็ลงประกวดเอาเงินสองหมื่นเกลนั่นพอดี...

    ผู้กล้าแมนเดรกรับคำสั้นๆ ครั้นแล้วก็บังคับห่านเพรียงให้บินล้ำหน้าไป

     

    * * * * *

     

    พร้อมนะ

    ฮื่อ

    มาเทียสเกาะไหล่ของอาเน่ไว้ ขณะที่ผู้กล้าแมนเดรกปลดสายเอ็นซึ่งยึดเข็มขัดของตนไว้กับอานของเจ้าห่าน และทิ้งสายนั้นห้อยลงไป

    จากนี้ต้องกระโดด

    เด็กหญิงเอี้ยวตัวกลับไปทางช่างตีเหล็ก และยื่นมือไป บอกให้เขาจับมือเธอให้แน่น มาเทียสรีบทำตาม...ก่อนที่อาเน่จะสังเกตได้ว่าในอัตราส่วนเท่านี้ มือป้อมๆ ของเธอยังใหญ่กว่าของชายหนุ่มเสียอีก

    แต่นี่ไม่ใช่เวลาทักหรือแปลกใจ อาเน่บอกว่าจะนับหนึ่งถึงสาม แล้วทิ้งตัวลงไปจากหลังของห่านเพรียงพร้อมกัน

    เจ้าห่านกำลังบินเสี่ยงตาย เลี้ยวลดอยู่เพียงเบื้องหน้าคมเขี้ยวของนี้ดฮ็อกซึ่งไล่งับมัน ที่ภายในปากนั้นเป็นห้วงลึกสีดำสนิท แทนที่จะเห็นคอหอยเหมือนกับสัตว์ธรรมดา

    มาเทียสถ่ายทอดคำพูดของโยฮันน์เธอในตอนบินขึ้น ว่าภายในตัวของมังกรไม่ใช่มิติกายภาพ ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องจะได้รับบาดเจ็บจากแรงตกกระแทก

    หนึ่ง...สอง...สาม!”

    ชายหนุ่มกลั้นเสียงร้องไว้ ขณะที่ร่างเล็กกระจ้อยร้อยของเขากับอาเน่พุ่งแหวกอากาศ โดยเชื่อมโยงกันเพียงมือข้างเดียวที่เกาะกุมกันแน่น

    และดิ่งลงสู่ปากแสยะอ้าของมังกรยักษ์...ซึ่งยิ่งดูใหญ่โตขึ้นไปอีกหลายสิบเท่า

    มาเทียสอดไม่ได้ที่จะหลับตาลง

    ลมที่ปะทะหน้าหายไป ร่างกายของทั้งสองค่อยๆ ลดความเร็ว ราวกับปะทะบางสิ่งที่นุ่มหยุ่นเหมือนวุ้น ขณะเดียวกันก็เบาบางพอให้ร่างกายแทรกลงไปได้ ราวกับน้ำ

    แต่ก็ยังหายใจอยู่ในนั้นได้ ไม่ต่างจากอยู่ในอากาศธรรมดา แม้จะอึดอัดอยู่บ้าง

    เสียงสะท้อนดังอยู่รอบด้าน บ้างดังกระหึ่ม แต่บ้างแผ่วเบาเหมือนแว่วมาจากที่ไกลแสนไกล แต่ที่แน่ๆ คือเป็นเสียงที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกดีเลยแม้แต่นิดเดียว

    โหยหวน...กราดเกรี้ยว...กดดัน

    ช่างตีเหล็กลืมตาขึ้น เห็นภาพรอบด้านสับสนวุ่นวาย เต็มไปด้วยแสงสีและเงาวูบวาบ บางอันดูห่างไกล เป็นภาพการรบพุ่งวุ่นวาย ประกายคมอาวุธกับละอองเลือดสาดกระเซ็น...ขณะที่บางอันใกล้ตัวจนไม่น่าเชื่อ

    ...เมลิสเป็นตัวถ่วงของเราชัดๆ ...

    มาเทียสสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงนั้น

    มันเหมือนกับเสียงของตัวเขาเองจนน่ากลัว

     

    * * * * *

     
     

    คนเขียนขอคุย

     

    ขออภัยที่หายหน้าไปนานนะครับ แต่ก็คิดว่าเรื่องบางเรื่องต้องรอให้ไอเดียตกผลึกก่อนถึงจะเขียนออกมาได้ตามที่ตัวเองพอใจแฮะ

    ที่จริง วางไว้แต่แรกแล้วว่ามาเทียสกับอาเน่จะเข้าไปในตัวจอมแว่นขาว แต่พอนึกถึงเรื่องวิธีการและขั้นตอนแล้วก็คิดหนักนิดนึง ถึงอย่างนั้น ส่วนที่ยากที่สุดของตอนนี้ก็คือการเถียงระหว่างโยฮันน์กับมาเทียสนี่ละครับ

    เรื่องที่โยฮันน์พูดเกี่ยวกับเมืองพรีม่านี่ผมยอมรับว่าได้มาจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติเมื่อเดือนที่แล้วเยอะมาก บวกกับความรู้สึกระคายหูที่ได้ยินคำพูดบางอย่างที่ตัวเองรู้สึกว่าไม่ควรเลย ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดภัยพิบัติ ที่เขียนเรื่องนี้ก็อาจจะเพราะคิดว่ามนุษย์ควรจะปรับเปลี่ยนวิถีของตัวเองก่อนธรรมชาติจะเหลือทนกับเราแล้วจริงๆ แต่ก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลยที่ใครบางคนออกมาบอกว่าคนที่ตายเพราะภัยพิบัตินั้นต้องตายเพื่อชดใช้บาปกรรม ทั้งๆ ที่ผมไม่คิดว่าคนพูดเองก็เป็นเสาโฮปเวลล์ผู้บรรลุรู้แจ้งมาจากไหน ไปรู้ตื้นลึกหนาบางของผู้สูญเสียมากเท่าไร และก็รู้สึกว่ามันเป็นคำพูดที่ไม่ถูกกาลเทศะเอาจริงๆ ถึงได้สะท้อนออกมาทางมาเทียสนี่ละครับ

    ตอนนี้ใกล้ศึกสุดท้ายของเล่มแล้ว เลยออกจะเครียดกว่าเดิมขึ้นมา (ถึงอย่างนั้นก็อุตส่าห์หาช่องว่างเล่นมุกได้สักมุกสองมุกแหละนะ...หวังว่า ^^a ) แต่ก็หวังว่าจะไม่มากเกินไปนะครับ

    อาเน่กับมาเทียสลงไปอยู่ในตัวนี้ดฮ็อกแล้ว เสียงลึกลับนั้นเป็นใคร มาเทียสจะหาจอมแว่นขาวเจอด้วยอำนาจแห่งรักแท้ที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ไหม (???) และเอริเธียจะซึนแตกเมื่อไร ขอให้รอติดตามชมตอนต่อไปครับ :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×