คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ – ตำนานผู้กล้าแห่งพาร์ฟ - “ผู้กล้าอาเน่”
บทนำ
ตำนานผู้กล้าแห่งพาร์ฟ
ที่จัตุรัสกลางเมืองพาร์ฟ เมืองเล็กๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมือง “ทางผ่าน” ของทุกขบวนเดินทางโดยสิ้นเชิงในอาณาจักรมิโทเซีย มีอนุสาวรีย์ที่น่าชวนหัวอยู่แห่งหนึ่ง และเหตุผลก็ใช่จะเป็นเพียงเพราะมันติดอันดับอนุสาวรีย์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในอาณาจักร หรืออาจจะเล็กที่สุดบนแผ่นดินอิลลูเซีย
หากมองเผินๆ จากที่ไกล ผู้คนจะเห็นเพียงน้ำพุซึ่งมีสวนเกาะอยู่ตรงกลาง และมีรูปปั้นเล็กๆ อยู่เบื้องหลังกอพืชบนเกาะนั้น ราวกับเป็นเพียงเครื่องตกแต่งชิ้นหนึ่ง ทว่าหากสังเกตดีๆ ก็จะพบว่าพืชที่ปลูกประดับอยู่นั้นไม่ใช่ไม้ดอกสวยงามใดๆ มันมีใบใหญ่และแผ่ขยายเหมือนผักกาดสีเขียวเข้ม แม้ในยามฤดูใบไม้ผลิจะออกดอกช่อเล็กๆ สีขาวอมม่วง ซึ่งดูสวยงามในแบบของมัน และในยามฤดูใบไม้ร่วงก็ติดผลรูปทรงคล้ายมะเขือเทศสีเหลือง เล็กเพียงปลายนิ้ว อันกลายเป็นสิ่งมงคลที่ใครๆ ล้วนอยากเก็บได้ในเทศกาลเก็บเกี่ยว ยังความฉงนสงสัยให้แก่เหล่านักเดินทางที่แวะเวียนผ่านมาในช่วงนั้นเป็นอันมาก
แต่ไม่ว่าในฤดูกาลใด หากสังเกตที่น้ำพุให้ชัดเจนขึ้น ก็จะเห็นรูปปั้นเด็กตัวป้อม ซึ่งสวมชุดแปลกตา ทั้งหมวกศึกที่ดูคล้ายแถบคาดผม ประดับขนนกหรือใบพืชคล้ายเฟิร์นเป็นแนวเหมือนปีกสองข้างหู เสื้อเกราะที่ดูคล่องตัวทับกระโปรงพลิ้วบานราวกับกลีบดอกไม้ ผมยาวสลวยที่ถักทอไว้ข้างหลังเหมือนจะพลิ้วไหวไปตามลม ในมือทั้งสองซึ่งแบประสานกันราวกับประคองสิ่งสำคัญ มีสิ่งที่ดูคล้ายเมล็ดพืช หรือผลไม้ลูกเล็กๆ อยู่
ที่ฐานของกระถางต้นไม้มีป้ายทองเหลือง จารึกถ้อยคำง่ายๆ ไว้เพียง “ผู้กล้าอาเน่” และปีศักราชปีหนึ่งของอิลลูเซีย ปีซึ่งไม่มีเหตุการณ์ใหญ่ที่ใครๆ จดจำ เช่นการพิชิตจอมมารตนใด
ทว่าหากผู้เดินทางผ่านเมืองพาร์ฟสงสัย และถามชาวเมืองคนใดก็ตาม พวกเขาก็มักตอบเป็นเสียงเดียวกัน ...ผู้กล้าอาเน่เป็นผู้ปกป้องเมืองพาร์ฟ และต้นไม้ที่เติบโตเบื้องหน้ารูปปั้นก็คือลูกหลานของผู้กล้า
ครั้นแล้ว พวกเขาก็มักจะชี้ไปที่ยอดหอคอยสีขาวซึ่งปรากฏลิบๆ ที่ชานเมืองด้านหนึ่ง ก่อนจะบอกว่านั่นคือหอคอยของแม่มดเอริเธีย หรือที่พวกเขาเรียกกันว่า ‘แม่มดทมิฬ’ แรกเริ่มเดิมที ผู้กล้าอาเน่มาจากหอคอยแห่งนั้น
ในคืนฤดูใบไม้ผลิคืนหนึ่ง ซึ่งไอเย็นจากฤดูหนาวยังคงตกค้างอยู่...
* * * * *
ความคิดเห็น