ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Sun Seeker - ผู้ตามหาตะวัน (จบภาค)

    ลำดับตอนที่ #93 : -- ๑ – อุปสรรค - “ไม่มีทางเอาผิดคนคนนั้นเลยหรือคะ”

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 175
      0
      12 ม.ค. 54

    อุปสรรค

     

    ไม่มีทางเอาผิดคนคนนั้นเลยหรือคะ

    บาทหลวงนิโคลัส คลอส มองหญิงสาวอ่อนวัยที่นั่งอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาของเธอเรียบเฉย ทว่าจริงจังและแฝงความลึกซึ้ง...บางทีก็มากกว่าอายุจนเกินไป เช่นเดียวกับในตอนนี้

    อย่างที่พ่อบอก กรัฟเฟ็ด เจ้าของเซอร์คัส แม็กซิมัส ไม่ธรรมดาเลย มันรู้จักคบหาเจ้าพ่อในเก็ตโต หนำซ้ำคราวนี้ยังมีเส้นสายกับเจ้าหน้าที่เมืองคีรีเอเสียอีก ถึงได้เข้ามาเปิดแสดงในนี้ได้ถึงสองเทศกาลติดกัน ต่อให้ยื่นเรื่องร้องเรียนว่าเขาทารุณกรรม ลูกจ้าง ทางนั้นคงปัดว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล และยกฟ้องเสียเฉ ยๆ มีวิธีกันไม่ให้พวกลูกจ้างพูดได้อีกมาก แล้วถ้าจะให้นิกซ์เป็นคนฟ้องร้องเอง ก็เสี่ยงกับเด็กคนนั้นเกินไป

    ถึงอย่างไร ตอนนี้นิกซ์ก็ยังเป็นเนฟิลิม และจะเป็นไปชั่วชีวิต ต่อให้เร่งโจเซฟผ่าตัดโดยเร็ว ร่องรอยของฐานเขาย่อมหลงเหลืออยู่ หากเด็กชายยินยอมเป็นโจทก์ เขาจะต้องถูกตรวจร่างกายอย่างละเอียด และย่อมพบหลักฐานที่จะพิพากษาตัวเด็กชายเสียเอง มากกว่าร่องรอยการถูกทารุณกรรม ซึ่งเลือนหายไปตามกาลเวลา

    นิกซ์เสี่ยงมามากเกินพอแล้ว แทบเรียกได้ว่า ปาฏิหาริย์ด้วยซ้ำที่ยังเบิกป้ายทะเบียนตัวตนใหม่ในชื่อจริงได้จากทะเบียนประชากร ซึ่งระบุว่าหายสาบสูญทั้งพ่อแม่ลูก เพราะได้โจเซฟลงนามรับรองใบตรวจร่างกายกับรหัสพันธุกรรมว่าเด็กชายคือ นิกซ์ เอเทอร์นา ตัวจริง และเจ้าหน้าที่ทะเบียนที่นิโคลัสรู้จักช่วยเดินเรื่องให้อย่างลับๆ

    หนูรู้ค่ะ แอนเธียก้มหน้าลง หนูก็ไม่อยากให้เด็กคนนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหรอก ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นเนฟิลิม แต่ให้เด็กตัวแค่นั้นไปพูดเรื่องที่ตัวเองเคยถูกผู้ใหญ่กระทำต่อหน้าคนอีกเป็นสิบ...มันโหดร้ายเกินไป

    ...พ่อขอโทษ ชายวัยกลางคนกลั้นเสียงถอนใจ ด้วยรู้ว่านั่นจะทำให้คู่สนทนารู้สึกไม่ดีไปกว่าเดิม

    ไม่ใช่ความผิดของหลวงพ่อหรอกค่ะ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสั่นศีรษะ และยิ้มเจื่อนๆ หนูรู้ว่าหลวงพ่อทำดีที่สุดแล้ว

    นิโคลัสเคยบอกตนเองอย่างนั้น...หลายครั้งแล้ว เมื่อเขาไม่สามารถช่วยเหลือใครได้เต็มที่ ...เมื่อไม่สามารถห้ามเพื่อนทหารด้วยกันไม่ให้ฆ่าหรือทรมานเชลยอัสลาน หรือกระทั่งคนที่พยายามขออพยพเข้ามาในฐานะคอนเวิร์ต ...เมื่อพบว่าตนเองลาออกจากตำแหน่งพันเอกครูเซเดอร์มาเป็นนักบวชโดยไม่มีวันได้ก้าวหน้าทางสมณศักดิ์ใดๆ ...เมื่อไม่สามารถเอาผิดผู้มีอำนาจที่ข่มเหงเด็กตัวเล็กๆ จนชอกช้ำทั้งกายใจ ทิ้งให้เขาได้แต่รับมาดูแล

    ...และเมื่อไม่สามารถหาทางให้แอนเธียที่มุมานะเรียนในระบบการศึกษาของโซลาริส...ด้วยหวังผลไม่ใช่แค่พอผ่าน แต่ให้ได้คะแนนสูงพอที่จะสอบเรียนแพทย์ เจริญรอยตามโจเซฟที่เคยช่วยเหลือเธอ...เพียงเพื่อพบว่ามีกฎหมายห้ามไม่ให้คอนเวิร์ตเข้าเรียนโรงเรียนสามัญขั้นสูงของทางการ ไม่ต้องพูดถึงวิทยาลัยแพทย์ต่อจากนั้น

    หลายอย่างเป็นเรื่องที่อาจแก้ไขได้ง่ายดาย...แต่นิโคลัสก็ไม่มีกำลังทรัพย์พอจะแก้ มรดกของตระกูลเขาหมดไปตั้งแต่ตอนตัดสินใจสร้างโบสถ์ของตนเป็นองค์กรสงเคราะห์เด็กกำพร้าและคอนเวิร์ตแล้ว ตอนนี้นอกจากพึ่งเงินบริจาคกับเงินบำรุงโบสถ์ของโซลาริส เขายังต้องกู้เงินเป็นครั้งคราวหากจำเป็น แต่ก็พยายามไม่ให้เกินกำลังตนเองจะสามารถใช้หนี้ได้ภายในเวลาที่กำหนด

    ถ้าจะช่วยคนของเซอร์คัส แม็กซิมัส พ่อคิดว่ายังมีอีกทางหนึ่ง นักบวชวัยกลางคนตัดสินใจเสนอ เราขอซื้อสัญญาจ้างของทุกคนจากกรัฟเฟ็ดได้ เหมือนที่ท่านหญิงลูเชียสเคยซื้อสัญญาของนิกซ์ ถึงจะใช้เงินมากสักหน่อย—“

    หนูไม่ยอมเอาเงินไปประเคนให้พวกที่เลี้ยงตัวบนความทุกข์ของคนอื่นเปล่าๆ หรอกค่ะ แอนเธียพูดเสียงแข็งทันที อีกอย่าง ถึงเราซื้อตัวคนที่นิกซ์รู้จักมาได้ มันก็คงหาซื้อคนอื่นๆ มาแทนได้ไม่ยาก แล้วก็จะมีคนที่ถูกซ้อมถูกตี ฝึกให้แสดงเสี่ยงอันตราย กับรองรับอารมณ์ของมันเหมือนเดิม

    นิโคลัสเคาะนิ้วบนโต๊ะไม้ซึ่งคั่นกลางระหว่างทั้งสอง รู้สึกอ่อนใจ...แต่ก็ใช่จะไม่คาดหวังไว้

    ดูเหมือนหญิงสาวจะถือเรื่องความลำบาก ของคนอื่น เป็นที่สุด อย่างตอนเขาบอกว่าอาจต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่การศึกษากับโรงเรียนยอมยกเว้นให้รับเธอเข้าเรียน หรือหากไม่ได้ผลก็กู้เงินให้เธอเรียนโรงเรียนขั้นสูงกับวิทยาลัยแพทย์เอกชน ก่อนจะค่อยๆ ใช้คืนเมื่อเธอเรียนจบและทำงานแล้ว แอนเธียในตอนนั้นกลับปฏิเสธเสียงแข็ง บอกว่าไม่ต้องการเข้าเรียนด้วยวิธีอย่างคนคดโกงแบบนั้น...ในเมื่อเธอควรมีสิทธิ์เข้าเรียนด้วยความสามารถของตนเองแท้ๆ

    เด็กสาวพูดต่อหน้าเขาได้อย่างเข้มแข็งเหลือเกิน ถึงชายวัยกลางคนจะรู้ว่าเธอแอบหลบใครๆ ไปร้องไห้จนตาบวมอยู่หลายวัน

    ยามนี้ แอนเธียตรงหน้าเขาดูผิดหวัง แต่ก็ไม่มากเท่าคราวนั้น เธอเติบโตจากเด็กสาวกำพร้าที่ได้แต่พึ่งพาเงินบริจาคกับสวัสดิการสังคมผ่านเขา เป็นหญิงสาวที่หาเลี้ยงตนเองได้ และมีนัยน์ตาแข็งกร้าวแน่วแน่กว่าตอนนั้นจนนิโคลัสนึกหวั่น

    หนู...คงไม่คิดจะจัดการเอง อย่างที่พ่อคิดอยู่ใช่ไหม เขาตั้งคำถาม

    ขอโทษค่ะ หลวงพ่อ เสียงตอบของหญิงสาวกลับไม่ได้บอกว่าเธอสำนึกผิด หรือรู้สึกว่าสิ่งที่ตนกำลังจะทำเป็นเรื่องไม่ดีเลย หนูคิดอย่างที่หลวงพ่อคิดจริงๆ

    มันอันตรายนะ แอนเธีย

    หนูอยู่กับอันตรายมาจนชินแล้วค่ะ เธอตอบเหมือนไม่ยี่หระ แล้วหนูก็เกลียดคนที่รังแกคนไม่มีทางสู้ที่สุด แค่ทำให้ความจำเสื่อม เลอะเลือนว่าตัวเองเป็นใครยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ สำหรับคนพวกนี้

    แต่พ่อไม่อยากให้หนูเสี่ยง...

    ถ้ายังอยู่ในเวสต์แลนด์ หนูคงถูกยิงตายรายวันไปหลายครั้งแล้วค่ะ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นเป็นไรเลย แอนเธียยิ้มสดใส แต่นั่นกลับทำให้นิโคลัสยิ่งกังวล หนูไม่รู้...ว่าทำไมตัวเองถึงมีความสามารถนี้ แต่ในเมื่อหนูเป็นคนเดียวที่มีมันอยู่กับตัว หนูก็ควรช่วยเหลือคนอื่นๆ เท่าที่ทำได้ เหมือนที่หลวงพ่อกับคุณลุงโจเซฟทำอยู่ ก็เท่านั้นเองนี่คะ

    และก็เป็นเช่นทุกครั้ง ...เช่นครั้งที่แอนเธียอาสาจะเยียวยาจิตใจเด็กที่ติดยาหรือถูกทารุณกรรมรุนแรงทั้งหลาย หรือครั้งที่เธอขอเดินทางไปช่วยนิกซ์พร้อมครูเซเดอร์อีกสองคน ขณะที่นิโคลัสได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้จนไม่อาจไปด้วย... บาทหลวงอดีตครูเซเดอร์ไม่อาจปฏิเสธหญิงสาวผู้มีนัยน์ตาราวกับคนอายุมากกว่าตนหลายสิบปีได้เลย

    สุดท้าย เขาได้แต่ขอให้เธอโชคดี และกำชับให้ระวังตัวเท่านั้น

     

    * * * * *

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×