คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #67 : -- ๑๑ – ชายผู้เคยลบล้างตนเอง... - “ใช่ เขาล้างสมองผมจนสะอาดทีเดียว”
๑๑ – ชายผู้เคยลบล้างตนเอง และชายผู้ต้องการลบล้างคนอื่น
“แอนเธียเสียใจมากเกินไป” โจเซฟพูดขึ้นทันที หลังจากเชิญร้อยเอกฮัมเบิร์ต ไวส์วอลด์ ให้นั่งลงบนเก้าอี้อีกฟากโต๊ะเอกสาร “ผมหวังว่าคุณจะไม่ถือสาเธอ”
“เธอทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน ถึงผมไม่ถือสา ก็เว้นโทษไม่ได้” อีกฝ่ายตอบอย่างเย็นชา “คุณก็เห็น พวกอัสลานป่าเถื่อนไร้สมองทั้งตัวผู้ตัวเมีย ไม่สมควรถูกล้างเผ่าพันธุ์ให้หมดจริงๆ หรือ ผู้พันเมนเกเล”
ชื่อที่ไม่ได้ยินมาแสนนาน...แต่ก็ยังติดตรึงไม่อาจลบเลือนสำหรับชายวัยกลางคน กระนั้นเขาก็ได้แต่รักษาสีหน้าให้คงเดิม
เจ้าเด็กนี่ทำการบ้านมาดี...เขาต้องยอมรับ
“ผู้กองไวส์วอลด์ ผมลาออกจากครูเซเดอร์แล้ว และผมก็เปลี่ยนนามสกุลเป็นมอสคาตีมานานหลายปี ตอนนี้ผมเป็นเพียงนายแพทย์โจเซฟ มอสคาตี ไม่มีพันโทโจเซฟ เมนเกเลของกองทัพครูเซเดอร์อีกต่อไป”
“ผมไม่เข้าใจ ผู้พันเมนเกเล” เด็กหนุ่มกลับพูดต่อ ราวกับไม่สนใจคำพูดก่อนหน้าของอีกฝ่าย “ผู้หญิงหากินแค่คนเดียวมีดีอะไร ทำไมคุณถึงกับทิ้งตำแหน่งหน้าที่การงานมาหมกตัวในเก็ตโตโสโครกกับมัน พวกเราโซลาริสยังต้องการคุณ”
“เอแซดสองสามศูนย์ที่คุณใช้ไปเมื่อคืน น่าจะเพียงพอแล้ว สำหรับผลการรับใช้โซลาริสของผม” ชายวัยกลางคนพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณคงรู้แล้ว ว่าผมใช้สูตรของมันแลกกับชีวิตของมาร์กาเร็ต”
“แสดงว่าคุณเองยังไม่ลืมเสียทีเดียว” ไวส์วอลด์เหยียดยิ้มน้อยๆ “’เทวทูตแห่งความตาย’ แห่งหน่วยอัซราเอล”
ใช่ นั่นเคยเป็นฉายาของเขา เป็นฉายาที่โจเซฟคงไม่มีวันลืมได้ชั่วชีวิต เช่นเดียวกับเอแซดสองสามศูนย์...ในฐานะยาพิษที่เขาเมื่อตอนเป็นพันโทเมนเกเลคิดขึ้นมา บนชีวิตอันดับสิ้นของเชลยและนักโทษมากมาย
“แต่มันยังไม่เพียงพอ” เด็กหนุ่มพูดต่อไป “ผู้พัน ยาตัวสุดท้ายของคุณเหมาะแก่การลอบสังหารเป็นอย่างยิ่ง แต่เรายังต้องการยาที่มีประสิทธิภาพในด้านอื่นมากกว่านี้ โดยเฉพาะยาพิษชีวภาพซึ่งมีผลต่อชาวอัสลานเท่านั้น เพื่อเราจะได้กวาดล้างเผ่าพันธุ์โสโครกนั่นไปจากเวสต์แลนด์อย่างหมดจดเสียที...และผมก็คิดไว้แล้วด้วยว่า ‘ตัวทดลอง’ ตัวแรกที่เหมาะกับยานั้นที่สุดคือพวกมันตัวไหน”
“คุณอย่าแตะต้องแอนเธีย” โจเซฟจ้องตาชายผู้อ่อนวัยกว่าเขม็ง “นี่ไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำเตือน หากเกิดอะไรกับแอนเธีย ผู้พันคลอสจะไม่อยู่เฉยอีกแน่”
ไวส์วอลด์แค่นหัวเราะเบาๆ
“นังตัวเมียชั้นต่ำนั่นคงมีชั้นเชิงมากสินะ ทั้ง ‘เทวทูตแห่งความตาย’ กับ ‘ดาบอัคคี’ ถึงได้ติดใจมันเหลือเกิน” เด็กหนุ่มจ้องตอบเขาอย่างท้าทาย “ผมชักอยากลองมันสักครั้งแล้วสิ ว่าจะหอมหวานแค่ไหน”
หลายปีที่ผ่านมาในฐานะหมอทหารฝึกให้ชายวัยกลางคนอดทน แต่นี่เป็นครั้งที่เขาแทบต้องใช้ความอดทนทั้งหมดที่มีทีเดียว
“คลอสเห็นเธอเป็นเหมือนลูกสาว ไม่ใช่เรื่องสกปรกอย่างที่คุณคิด” โจเซฟตอบอย่างใจเย็น “เขาอาจตามใจเธอไปบ้าง แต่ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เขาย่อมเห็นด้วยกับเธอ ผมเคยอยู่หน่วยวิจัย รู้ว่าข้างในพวกเนฟิลิมก็เลือดเนื้อเครื่องในเหมือนคนธรรมดา กระทั่งอวัยวะของพวกนั้นที่ว่าเหมือนเทพอนธการก็มีลักษณะโครงสร้างและดีเอ็นเอเหมือนส่วนที่เป็นมนุษย์ทุกอย่าง ผ่าศพไปก็เสียแรงเปล่า”
“แต่ครั้งนี้อาจไม่เสียแรงก็ได้” ผู้กองยังคงย้ำ
“คุณเคยพบเนฟิลิมจริงๆ มาก่อนหรือเปล่า นอกจากเด็กคนนี้” เขานึกอยากถาม
“เคยเห็นศพอาบยากับอวัยวะดองในศูนย์วิจัยบ้าง แต่ผมไม่ได้ทำงานที่นั่น” อีกฝ่ายตอบ “เด็กนี่เป็นเนฟิลิมเป็นๆ คนแรกที่ผมเจอ...ถึงจะเคยเห็นแค่ตอนหลับเป็นตายก็เถอะ”
“แล้ว...คุณรู้สึกอย่างไร”
เด็กหนุ่มแค่นเสียงในคอ คล้ายหัวเราะ
“คุณคิดว่าผมควรรู้สึกยังไง อย่าเทศน์ผมแทนอดีตผู้พันคลอสเลย คุณจะบอกว่ามันก็เหมือนกับพวกเรา ทั้งๆ ที่มันมีเขา มีสัญลักษณ์ของปีศาจร้ายอยู่บนตัวงั้นเหรอ ถ้ากระทั่งพวกอัสลานที่ดูภายนอกมีแขนขาตามือเหมือนพวกเรายังมีระบบสมองคล้ายสัตว์ เด็กนั่นก็ยิ่งเหมือนสัตว์ไปกว่านั้นอีก”
“แต่คนอัสลานกับเนฟิลิมทุกคนเป็นมนุษย์ ผู้กองไวส์วอลด์” โจเซฟเอ่ยช้าๆ “ผมเคยผ่าสมองคนอัสลานมากับมือ...ผ่าตอนเป็นๆ เสียด้วย ทำสารพัดอย่างจนพอจะรู้ว่าคณะนักบวชโซลาริสยกเรื่องไม่มีมูลอะไรมาพร่ำเพ้อ ส่วนเนฟิลิมทุกคนเกิดมาจากมนุษย์ และใช้ชีวิตเป็นมนุษย์มาตลอด เรื่องที่พวกนั้นมีเขางอกและอวัยวะเปลี่ยนไปในชั่วคืน เรายังหาข้อสรุปไม่ได้ ใครจะรู้...เรื่องแบบนี้อาจเป็นเหมือนโรคบางอย่าง มันอาจเกิดขึ้นกับลูกของคุณหรือผมในสักวันก็ได้ ถึงตอนนั้นเรายังจะเห็นลูกของตัวเองเป็น ‘สัตว์’ ได้หรือ”
“คุณไม่มีลูก และคุณทำให้ผู้หญิงหากินคนนั้นของคุณมีลูกไม่ได้เอง” ผู้กองเทมพลาร์ชักหน้าตึงทันที “กรุณาอย่าแช่งลูกของผมกับท่านหญิงลูเชียส”
สิ่งที่เด็กหนุ่มพูดเหมือนกับตีแสกหน้าหมอวัยกลางคนเข้าจังๆ กระนั้นเขาก็ยังรักษากิริยาให้นิ่งอยู่
“ผมไม่ได้แช่ง” โจเซฟเริ่มล้มเลิกความตั้งใจเดิม และตัดสินใจพูดตรงประเด็น “เรื่องของเรื่องคือ ผมและคนอื่นๆ อีกหลายคนที่นี่เห็นเด็กเนฟิลิมนั่นเป็นคน ในเมื่อแกนับถือศาสนาโซลาริสตั้งแต่เกิด แกก็ควรมีพิธีศพตามความศรัทธาของแก ผมยินดีจะรับผิดชอบพิธีศพของแกที่นี่โดยเร็วที่สุด...และจะตรวจสอบศพของแกเท่าที่ทำได้ระหว่างแต่งศพ หวังว่าคุณคงไม่ปฏิเสธ”
“แล้วผมจะแน่ใจได้ยังไง ว่าคุณจะไม่นั่งเทียนเขียนรายงานขึ้นมาเอง” เด็กหนุ่มพูดหยันๆ
“นี่ผมกำลังช่วยคุณนะ ผู้กอง” ชายวัยกลางคนเปลี่ยนแผนการเล็กน้อย “คนของคุณกะปริมาณยาพิษไม่ได้ความ ศพเด็กนั่นมีผลตกค้างของพิษแสดงอยู่ชัด ถ้าคุณเอาศพไปส่งศูนย์วิจัย เบื้องบนต้องรู้แน่นอน และพวกเขาจะไม่คิดหรอกว่าเป็นผม ในเก็ตโตหาวัตถุดิบทำยาตัวนี้ไม่ได้ง่ายๆ แล้วผมก็ไม่มีแรงจูงใจให้ฆ่าเด็กเนฟิลิมเลยด้วย
“จริงอยู่ว่าเนฟิลิมตายไปสักคนเป็นเรื่องเล็ก แต่ท่านผู้บัญชาการกับองค์พระสังฆราชาเกลียดคนที่อวดฉลาดทำนอกเหนือคำสั่งขนาดไหน คุณน่าจะรู้ดี ต่อให้เป็นคู่หมั้นของท่านหญิงน้อย พวกเขาก็ไม่ไว้หน้าหรอก”
ร้อยเอกไวส์วอลด์เสมองไปอีกทาง
“ก็ได้ เชิญคุณทำศพมันตามสบาย ผมจะถือว่านี่เป็นความต้องการของ ‘เทวทูตแห่งความตาย’ ที่ต้องการรับผิดชอบการตายของเด็กปีศาจคนหนึ่งจากยาตัวเอง” เด็กหนุ่มตอบ “รีบจัดการให้เสร็จเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ผมไม่อยากให้ท่านหญิงลูเชียสอยู่ในที่สกปรกแบบนี้นาน”
ชายวัยกลางคนยักไหล่ รับง่ายๆ โดยไม่โต้เถียงแต่อย่างใด
“ขอบคุณ”
ความเงียบเข้าครอบคลุมทั้งสองชั่วครู่ ก่อนผู้กองไวส์วอลด์จะขึ้นต้นใหม่อย่างลังเล
“ตอนพ่อผมทราบว่าผมจะได้มาพบคุณ ท่านฝากคำพูดไว้” เขาเอ่ยช้าๆ “ว่าถ้าคุณยินดีกลับหน่วยอัซราเอล ท่านอาจอนุมัติให้คุณแต่งงานกับผู้หญิงหากินคนนั้นอย่างถูกต้องเป็นกรณีพิเศษก็ได้”
โจเซฟไร้ความลังเลกับข้อเสนอนี้
“ขอบคุณ แต่ผมขอปฏิเสธ” ชายวัยกลางคนประสานมือทั้งสองไว้เบื้องหน้า เหลือบมองแหวนโลหะแบบเรียบๆ ซึ่งสวมบนนิ้วนางซ้ายอย่างหวงแหน “ท่านนายพลเข้าใจผิด ไม่ว่าโซลาริสหรือครูเซเดอร์จะยอมรับหรือไม่ ผมก็ได้แต่งงานกับมาร์กาเร็ตแล้ว แต่งงานกันอย่างถูกต้องด้วยความรัก เท่านี้เองที่สำคัญ”
“แต่ถ้ากลับไป คุณก็สามารถใช้ชีวิตสุขสบายในแซงค์ชัวรีกับ...ผู้หญิงคนนั้นได้” เด็กหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนเลือกคำเรียกที่สุภาพกว่า “ไม่ต้องเปิดร้านหมอโกโรโกโสให้ผู้หญิงหากินในเก็ตโตแบบนี้”
“ผมมีความสุขดีแล้ว และไม่ต้องการความสบายที่ได้บนความทุกข์ทรมานของคนอื่น” หมอโจเซฟยังคงมองแต่มือของตน ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากเมื่อครู่เล็กน้อย
บางครั้ง เขายังคงเห็นมันเป็นเครื่องมือฆ่าฟัน ไม่ต่างจากมีดหรือปืน และอาจจะสร้างความทุกข์ทรมานให้เหยื่อสังหารมากกว่าด้วยซ้ำ
“ผมใช้มือคู่นี้ฆ่าคน หรือสร้างเครื่องมือฆ่าคนอื่นๆ มามากเกินพอแล้ว ผมได้แต่หวังว่า...มันจะรักษาชีวิตได้มากกว่าที่มันคร่าไปสักเล็กน้อยก็ยังดี”
“หึ” เด็กหนุ่มแค่นเสียง ราวกับตนเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังฟังความฝันของเด็กโง่งม “ท่าทางผู้พันคลอสจะล้างสมองคุณเสียหมดจด”
“ใช่ เขาล้างสมองผมจนสะอาดทีเดียว ลบสิ่งที่บดบังสายตาผมมาตลอดออกไปแทบทั้งหมด แต่ผมคิดว่าไม่ใช่คลอสคนเดียวที่ทำอย่างนั้นได้หรอก”
อดีตหมอครูเซเดอร์สบตากับเด็กหนุ่มอย่างจริงจัง ทั้งที่รู้ว่ามันอาจไร้ผล...
เด็กคนนี้อาจเป็นเหมือนบิดา หรือครูเซเดอร์ระดับสูงอื่นๆ จนเกินไป และเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเชื่อมาตลอดเกินกว่าจะตั้งคำถาม
ทว่าหากไม่เสี่ยงตอนนี้ ก็คงไม่มีวันได้ทำอีกแล้ว
“ถ้าคุณเปิดใจสักหน่อย คุณเองก็ลบล้างสิ่งที่ปิดกั้นสายตาและความคิดของคุณได้ ผู้กองไวส์วอลด์
“...แทนที่จะลบล้างแต่สิ่งที่คุณเห็นว่าไม่เหมือนพวกคุณ”
* * * * *
ความคิดเห็น