ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Sun Seeker - ผู้ตามหาตะวัน (จบภาค)

    ลำดับตอนที่ #18 : -- ๒ – เด็กชายผู้ไม่รู้ความสามารถของตน - “ขอบคุณฮะ คุณราดาใจดีจริงๆ”

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 320
      0
      16 ต.ค. 53

    เด็กชายผู้ไม่รู้ความสามารถของตน

     

    นิกซ์ตื่นขึ้นเมื่อรถยังวิ่งอยู่

    ที่จริง เด็กชายค่อนข้างชินกับการงีบหลับไม่เป็นเวลาในรถ เพราะเวลาตระเวนไปแสดงตามเมืองต่างๆ ก็มักเดินทางข้ามวันข้ามคืน กระทั่งต้องนอนหลับและกินอาหารบนรถเพื่อประหยัดเวลา แต่ตอนนี้เขาไม่ง่วงเลย คงเพราะแปลกที่ และเหตุอื่นๆ อีกมาก

    ตะเกียงดวงโตในลังยังคงสว่างเท่าเดิม นิกซ์เห็นทาลอสนั่งหลับในท่าเดิมจากตอนแรกพบ เมื่อมื้อกลางวันก่อนหน้า ชายคนนั้นก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมากินร่วมกับทุกคน แต่ซีเรนาบอกว่าไม่มีความจำเป็นต้องปลุก ทาลอสเพิ่งทำงานมา จึงเหนื่อยมาก และเมื่อเหนื่อยก็จะหลับไปคราวละนานๆ เด็กชายไม่กล้าถามว่าทาลอสเพิ่งทำงานอะไร และไม่มีใครบอกเขาเลย

    ที่จริง เขาคงกล้าถามไปแล้ว หากชายชื่อราดาที่ซีเรนาบอกว่า ใจดี จะไม่พูดขึ้นก่อนหน้า

    ...ทิ้งเรื่องที่แม่นายเคยสอนไปได้เลย คนทั้งโลกไม่มีวันเห็นใจพวกเรา ต่อให้เราเห็นใจพวกมันก่อน ทีหลังอย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ฉันไม่ชอบคำพูดของเด็กไร้สาระ...

    นิกซ์ไม่คิดว่าแม่ไร้สาระ เพราะพวกพี่ๆ ในคณะละครสัตว์ค่อยๆ ทำดีกับเขาเมื่อเขาทำดีให้ก่อน ทีแรกใครๆ กลัวเขา ไม่กล้าเข้าใกล้ และคิดว่าเขาเป็นปีศาจจริงๆ ...แต่เมื่อเด็กชายอาสาเอาตัวเข้ารับเวลาหัวหน้าคณะเฆี่ยนตีหรือระบายอารมณ์ใส่ใคร คนคนนั้นก็ขอบคุณเขาทีหลัง แล้วก็กลายเป็นพูดคุย แบ่งปันสิ่งต่างๆ ให้เขาในไม่ช้า นิกซ์ยิ่งกว่าดีใจเวลาพวกเขาพูดคุยด้วยก่อน ให้อาหารหรือขนมแม้เพียงเล็กน้อยเป็นของขวัญ เหมือนเวลาที่พ่อซื้อขนมให้เขา หรือแม่ทำอาหารอร่อยๆ ให้

    แต่เพราะไม่อยากให้ราดาโกรธและเล่นงานตนโดยไม่จำเป็น เด็กชายจึงเลือกจะเงียบเสีย เขาไม่พูดอะไรกับชายหนุ่มเลย หากอีกฝ่ายไม่ถามก่อน

    นึกถึงตอนนี้ เด็กชายก็สั่นศีรษะ เขาไม่อยากคิดเรื่องของราดาต่อ จึงมองไปรอบๆ ในรถ เห็นซีเรนานั่งหลับตาพิงลังอยู่อีกมุมหนึ่ง มีเสื้อโค้ตคลุมร่างต่างผ้าห่ม ท่านหญิงนอนตะแคงคุดคู้ หลับตาทั้งๆ ที่ยังมีผ้ามัดปากกับมือเท้า คงหลับไปแล้วทั้งสองคน เวซาโนนั้นไม่ต้องพูดถึง ชายหนุ่มนอนแผ่หลา ถอดเสื้อแจ็คเก็ตแดงทิ้งไว้ เหลือเพียงเสื้อยืดแขนกุดสีดำลายหัวกะโหลก เสียงกรนคร่อกๆ ยืนยันไม่ต้องสงสัย ส่วนราดาเป็นคนขับรถตอนนี้

    นิกซ์ขยับเปลี่ยนท่านั่ง แล้วก็ยืดเส้นสาย

    ที่จริง เด็กชายไม่รู้ว่าความเมื่อยเป็นอย่างไร ทว่าแม่เคยกำชับไม่ให้นั่งหรือนอนท่าเดิมนานๆ เพราะจะทำให้ข้อสึก อายุมากขึ้นจะเคลื่อนไหวไม่ถนัด หรืออาจเป็นแผลเรื้อรังรักษาไม่หาย สุดท้ายก็ต้องตัดเนื้อหรืออวัยวะทิ้ง

    ตอนนี้รถวิ่งไม่แกว่งนัก เด็กชายจึงลุกขึ้นยืนและเดินวนไปมา ครั้นแล้ว ความสงสัยก็นำเขาไปสู่ลังใส่โคมใหญ่ใบนั้น เขาก้าวเข้าไปใกล้มัน และลองยื่นมือออกไป...

    อย่าจับ เดี๋ยวมือพองหรอก เสียงห้วนๆ ดังมาจากหน้ารถ

    เสียงของราดา...นิกซ์สงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไร ก่อนจะเห็นชายหนุ่มสบตากับตนผ่านกระจกมองหลัง

    ราดาปลดฮู้ดและถอดแว่นดำออกแล้ว เผยเขาทรงโค้งที่มีรอยตามพื้นผิวเป็นข้อปล้อง ปลายชี้ลงสู่พื้น และนัยน์ตาขวาคล้ายตาซ้ายของเด็กชาย ผิดกันเพียงตาของราดาเป็นสีส้มแดง ไม่ใช่สีฟ้าเหมือนเขา

    สารหล่อเย็นที่ใส่ไว้ไม่ค่อยได้คุณภาพ ถ้าเข้าใกล้ยังร้อนมากอยู่ นายไม่รู้สึกหรือ

    ข...ขอโทษฮะ นิกซ์รีบพูด ผ...ผมไม่รู้ว่ามันร้อน

    ราดาในกระจกมองหลังขมวดคิ้ว เด็กชายยิ่งกลัวเขาไม่พอใจ

    ผม...ไม่รู้ว่าความร้อนเป็นยังไงฮะ นิกซ์ตัดสินใจตอบตรงๆ ผม...ไม่สบาย...เป็นมาแต่เกิดแล้ว

    ไม่สบายยังไง ชายหนุ่มถาม แล้วก็พยักพเยิด ปีนข้ามมานั่งข้างฉัน นายตัวเล็ก ลอดช่องได้สบายอยู่แล้ว มาเล่าให้ฉันฟังซิ

    เด็กชายทำตามแต่โดยดี เขาปีนช่องกระจกที่ถูกรื้อจนเหลือแต่กรอบหลังจากเวซาโนทำแตก แล้วก็ลงมานั่งในที่นั่งข้างคนขับ ค่อยๆ พูดเรื่องที่ตนเคยบอกสมาชิกในคณะละครสัตว์คนอื่นๆ และตอบสิ่งที่ราดาซักถามตามตรงโดยไม่เก็บงำ

    นิกซ์ไม่เคยรู้ว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร พ่อแม่อธิบายให้เขาฟังเป็นสิบครั้ง แต่เขาก็เข้าใจเพียงว่ามันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดี ไม่เป็นที่ต้องการ ทำให้คนส่งเสียงร้องหรือมีน้ำตา แม้ไม่อาจรู้สึกด้วยตนเอง

    เด็กชายเข้าใจคำว่าความเจ็บปวดและอาการที่เป็นเมื่อไร เขาเองไม่แน่ใจ แต่พ่อแม่รู้ก่อนเขา พวกท่านเล่าว่ารู้ตอนฟันน้ำนมเขาเพิ่งขึ้นไม่นาน และกัดนิ้วตนเองเป็นแผลเหวอะหวะ เดินเตาะแตะเอานิ้วมาอวดแม่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ครั้งแล้วครั้งเล่า ถูกห้ามหรือตีก็ไม่เคยฟัง มีเพียงสีหน้างุนงงมากกว่าเจ็บปวด

    พวกท่านพานิกซ์ไปหาหมอ หลายคน หลายเวลา ตามแต่กำลังทรัพย์ หลายแห่งจนปัญญา บางแห่งระบุชื่อโรคอันฟังแปลกหูได้ แต่บอกว่าไม่มียาหรือวิธีรักษา พ่อแม่ได้แต่ป้องกันเขาด้วยวิธีอื่น ให้หมอถอนฟันน้ำนมเขาหมดปาก กันไม่ให้กัดตนเองเป็นแผล รอให้เขาโตพอฟันแท้งอก และเข้าใจอะไรมากกว่านี้ จับเขาสวมแว่นตาดำน้ำ กันไม่ให้ขยี้ตา ให้เขาสวมหมวกนิรภัย สนับศอกและเข่าเวลาวิ่งเล่น ทั้งยังต้องฝึกสร้างพฤติกรรมให้เขาอีกหลายประการ

    ในโรงเรียน เด็กอื่นๆ เรียกนิกซ์ว่าเด็กอนามัยและไอ้หลอเพราะเขาไม่มีฟัน กินได้แต่อาหารเหลว ซ้ำกินซุปใส่น้ำแข็งได้หน้าตาเฉย หลายคนล้อเมื่อแม่ตามมาดูแลเขาที่สนามเด็กเล่น ห้ามปรามตลอดเวลาไม่ให้เล่นห้อยโหนผาดโผนหรือวิ่งเร็ว ผลคือนิกซ์กลายเป็นเด็กที่ไม่เคยมีเพื่อนสนิท ทว่าแม่ก็ทุ่มเททั้งชีวิตให้เขา แม่ของคนอื่นๆ ทำงาน แต่แม่ของนิกซ์ลาออกจากงานมาดูแลเขาโดยเฉพาะ พ่อก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน รวมถึงค่ายาค่าหมอ ตอนยังเด็ก เขาไม่เข้าใจ ร้องไห้อาละวาดใส่แม่ว่าอยากมีเพื่อน อยากเล่นสนุกเหมือนเด็กอื่นๆ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใดจึงเข้าใจ จึงยอมรับ จึงมีแม่เป็นเพื่อนสนิทแทน

    มีหลายอย่างที่นิกซ์ไม่รู้จัก และรู้ว่าตนจะไม่รู้จักจนวันตาย ไม่ว่าจะเป็นการปวดเข้าห้องน้ำ ความร้อนหนาว การมีเหงื่อออก หรือความหิว แต่เขาก็ฝึกทำตามคำที่แม่บอกเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา เอาปรอทวัดอุณหภูมิร่างกายทุกสองชั่วโมง หากสูงเกินไปก็หาผ้าชุบน้ำเช็ดตัว ต่ำเกินไปก็สวมเสื้อผ้าหนาขึ้นหรือกอดตนเองแน่นๆ หากมีเลือดไหลก็กดปากแผลให้หยุด หรือให้คนอื่นช่วยดูแลทำแผล ใช้ปรอทวัดอุณหภูมิอาหารก่อนกิน เพื่อตรวจดูว่ามันไม่ร้อนจนลวกปาก และกินอาหารเป็นเวลาวันละสามครั้ง

    หมอคนหนึ่งบอกว่าอาจเป็นเคราะห์ดี ที่เด็กชายไม่มีอาการปัญญาอ่อนร่วมด้วยเหมือนผู้ป่วยบางคน ครั้นอายุได้เก้าขวบจึงเข้าใจ และทำตามกฎเกณฑ์ได้พอประมาณ

    แต่เมื่อเขาอายุได้สิบขวบ ก็เกิดอาการแปลกประหลาด ผิวหนังบนศีรษะเหนือใบหูตึงอย่างบอกไม่ถูก และไม่ช้าก็มีปลายเขาแข็งๆ งอกออกมา

    ซ้ำจู่ๆ ตาซ้ายของเด็กชายเปลี่ยนแปลงไป ชั่วข้ามคืนที่เขางอก มันกลายเป็นอย่างที่มันเป็นตอนนี้

    พ่อแม่กังวล กลัวคนอื่นๆ จะหาว่าเขาเป็นปีศาจ จึงให้เขาลาเรียน สวมหมวกไหมพรมกับที่ปิดตา ออกเดินทางไปเมืองคีรีเอด้วยกัน หวังจะหาหมอที่ไว้ใจได้ ...แต่ก่อนถึง ทั้งสามก็มีอันต้องพลัดจากกันไปคนละทาง

    นิกซ์ลงเอยในเซอร์คัส แม็กซิมัส ในฐานะเด็กปีศาจที่ไม่เจ็บปวด หัวหน้าคณะให้เขาอยู่ในกรงเหล็ก สวมปีกปลอมเหมือนค้างคาว ขู่คำราม แสดงท่าทางดุร้ายต่อคนอื่น และไม่สะทกสะท้านกับปลายมีดหรือสิ่งของที่ขว้างปาเข้ามาได้โดยไม่ต้องแสดง

    แต่บางที การไม่รู้ความเจ็บปวดคงเป็นเรื่องดี พี่ๆ ในคณะบอกเด็กชายอย่างนั้น พวกเขาพูดว่าหากรู้ความเจ็บ ความร้อนหนาว ความหิว คนที่เคยมีชีวิตสุขสบายในแซงค์ชัวรีมาตลอดอย่างนิกซ์คงไม่อาจทนใช้ชีวิตอย่างทาสละครสัตว์ แต่เด็กชายไม่แน่ใจ

    ที่จริง เขายังอยากรู้ว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร แต่ก็คิดว่าหากรู้ ตนจะไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นด้วยการรับความเจ็บปวดแทนพวกเขาได้ เพราะฉะนั้น เป็นอย่างที่เป็นอยู่อาจจะดีแล้วก็ได้

    ไม่รู้ความเจ็บปวด...นั่นคือ ความสามารถ ของนายหรือราดาถามเมื่อเด็กชายเงียบไป

    ความสามารถ? นิกซ์งุนงงยังไงเหรอฮะ

    นอกจากเขา พวกเราทุกคนมีร่างกายส่วนหนึ่งที่ไม่เหมือนมนุษย์ธรรมดา ของแต่ละคนจะต่างกัน อย่างของฉันเป็นตาขวา นายตาซ้าย เวซาโนเป็นลิ้น ทาลอสเป็นมือ และซีเรนา...ท้อง หลายคนบอกว่านั่นเป็นอวัยวะของเทพอนธการ ราดาอธิบาย แต่ละคนจะมีความสามารถที่เกี่ยวกับอวัยวะนั้น แต่ของนายคงไม่ใช่ เห็นนายว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดมาแต่เกิด ไม่น่าจะเกี่ยวกัน ปกติความสามารถจะแสดงออกมาหลังจากเขางอกมากกว่า ตาซ้ายของนายเคยมีอะไรแปลกๆ ไหม

    เด็กชายสั่นศีรษะ เคยมีคนถามเหมือนกันว่าตาซ้ายของเขามองเห็นหรือไม่ และนิกซ์ก็คิดว่าตนมองเห็นเป็นปกติดี

    อย่างนั้นหรือ เอาเถอะ อยู่ด้วยกันไปก็รู้เอง ที่จริง เขานายงอกเร็วกว่าคนอื่น ความสามารถในตัวคงตื่นแล้ว แต่นายไม่เคยรู้ เลยไม่เคยใช้กระมัง

    นิกซ์พยักหน้ารับ ครั้นแล้วก็รวบรวมความกล้า

    หมายความว่า...คุณราดา...จะให้ผมไปด้วยเหรอฮะ

    มาถามอะไรตอนนี้ ชายหนุ่มย้อน ทว่าริมฝีปากคลี่ยิ้มเหมือนขัน ไม่อยากอยู่กับพวกเราหรือ

    ป...เปล่าฮะ เด็กชายก้มหน้า ต...แต่ผมไม่เคย...อยู่กับคนที่มีเขาเหมือนกันมาก่อน แล้วถ้าผมไม่มี...ความสามารถ...ก็คง...

    นิกซ์ ฉันไม่คิดหรอก ว่านายต้องมีประโยชน์ ถึงจะพาไปด้วย ราดาพูด เพราะถ้าคิดอย่างนั้น ฉันจะไม่ต่างจากพวกที่มันสูบกินประโยชน์จากเราอยู่ทุกวันเลย ทุกคนที่นี่เอือมระอากับการถูกเลี้ยงไว้ใช้ประโยชน์เกินพอแล้ว

    ...ฮะ นิกซ์รับ ที่จริงก็ไม่ค่อยรู้มาก แต่เดาได้จากคำที่ซีเรนาพูด ว่าพวกเธอทำงานให้อัสลาน

    โซลาริสฆ่าเด็กปีศาจ ส่วนพวกอัสลานเลี้ยงไว้ใช้งาน สั่งให้มาวางระเบิดคีรีเอในวันนี้

    แล้วถ้านายอยากตามหาแม่ ชายหนุ่มพูดต่อ ก็ตามสบาย เราขึ้นเหนือล่องใต้กันตลอดเวลา เร็วกว่าคณะละครสัตว์เป็นสิบๆ เท่า ไม่ช้านายคงพบแม่ แล้วถ้าติดเรื่องค่าไถ่ตัว ฉันจะช่วยให้

    จริงเหรอฮะ!” นิกซ์ยิ้มออกจริงๆ ในครั้งนี้

    จริงสิ แต่หลังจากนี้นายจะอยู่กับแม่ไม่ได้ เขาจะเป็นอันตรายไปด้วย คงเข้าใจนะ แต่ไม่เป็นไร ฉันจะให้นายส่งเงินไปให้ ส่งจดหมายข่าวคราวหรือแวะเยี่ยมเยียนกันบ้าง ตกลงไหม

    ฮะ เด็กชายพยักหน้า เสียใจอยู่บ้างที่จะไม่ได้อยู่กับแม่ แต่แค่ได้พบแม่อีกครั้ง แค่ช่วยให้แม่ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายก็พอแล้ว ขอบคุณฮะ คุณราดาใจดีจริงๆ

    ฉันนี่นะ ราดารับเหมือนขันอีกครั้งฉันไม่ได้...ใจดีหรอก อาจจะอิจฉานายก็ได้

    ฮะ?

    นายมีพ่อแม่ที่ดี ถึงกลายเป็นอย่างนี้ ก็ยังมีพ่อแม่ที่ดี

    นิกซ์เงียบไป ขณะครุ่นคิดความหมายของคำพูดเขา ครั้นแล้วก็ห้ามความสงสัยไม่อยู่

    แล้ว...พ่อแม่คุณราดาล่ะฮะ

    รถกระชากไปข้างหน้าทันที เด็กชายแทบหัวคะมำ มีเสียงร้องของซีเรนาปนสบถของเวซาโนแว่วมาจากด้านหลัง

    ครั้นนิกซ์หันไปมองชายหนุ่ม ก็เห็นสีหน้าของเขาเรียบเฉยไร้อารมณ์ สองมือจับพวงมาลัยแน่นเกร็ง

    ...ข...ขอโทษฮะ นิกซ์คิดว่าตนควรพูด

    ราดาไม่ตอบ เด็กชายก้มหน้า บีบมือที่ประสานบนตักอย่างเสียใจ

    บางทีเขาคงพูดผิดไปจริงๆ หากราดาบอกว่าอิจฉาเขา และบอกว่าเขามีพ่อแม่ที่ดี แสดงว่าพ่อแม่ของชายหนุ่มคงไม่ดี ในเมื่อไม่ดี ย่อมไม่อยากให้ใครถาม

    ...ช่างเถอะ ราดาพูดหลังจากผ่านไปแสนนาน หลังขับรถต่อไปอีกครั้ง บนถนนรกร้างที่ไร้แสงใด นอกจากไฟหน้ารถ ฉันก็แค่...กลับจากนายเล็กน้อย แม่ฉันตายไปแล้ว ไม่ได้ตายเพื่อปกป้องฉันหรอก ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านจะว่ายังไงถ้ารู้ว่าฉันเป็นอย่างนี้ ส่วนพ่อ...

    เสียงของราดาเย็นชาจนนิกซ์ขนลุก

    ตอนยังไม่มีเขา มันเห็นฉันเป็นลูกแค่เพราะฉันมีความสามารถ ทำประโยชน์ให้มันได้ แต่พอเขาฉันงอก มันก็ไม่เห็นฉันเป็นลูกอีกต่อไป ก็...เท่านั้นเอง

    หลังจากนั้น ชายหนุ่มเงียบไปอีกครู่ แล้วก็บอกว่าที่พักอยู่อีกไกล เด็กชายควรนอนเอาแรงไว้

    นั่งหลับตรงนี้ก็ได้ ไม่ต้องปีนกลับไปหรอก ตอนนั้นเมารถไม่ใช่เหรอ นั่งข้างหน้ากระเทือนน้อยกว่า

    นิกซ์รับคำเบาๆ แล้วก็เอนศีรษะพิงเบาะ ทำเป็นหลับตา ทีแรกคิดแค่จะทำตามให้ราดาพอใจ แต่ไม่นานก็หลับไปจริงๆ คงเพราะเบาะรถนุ่มสบายกว่ารถของคณะละครสัตว์เหลือเกิน และราดาเปิดเพลงให้ฟัง

     เป็นเพลงเล่นด้วยเครื่องดนตรีอย่างเดียว น่าจะเป็นเปียโน ท่วงทำนองของมันอ่อนโยน ไหลเรื่อย แผ่วเบา นุ่มนวล ราวกับแม่ร้องเพลงกล่อม

    เด็กชายไม่พูดอะไร แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าราดาเปิดเพลงให้เขาโดยเฉพาะ ชายหนุ่มไม่ได้พูดอย่างนั้น และนิกซ์ก็ไม่ได้ขอบคุณ เพียงแต่คิดว่าราดาเป็นคนใจดี ตามที่ซีเรนาบอกจริงๆ ด้วย

     

    ไม่รู้ผ่านไปอีกนานเท่าใด นิกซ์สะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มตะโกนดังลั่น และรถเบรกเอี๊ยด

    เด็กชายหันขวับไปมอง เห็นราดาจ้องเขาด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง สีหน้าหวาดหวั่นราวกับเห็นเขาเป็นปีศาจตามท่านหญิงชุดขาวไปอีกคน

    แล้วเขาก็ได้รู้ในไม่ช้า ว่าคุณราดาผู้ใจดีสามารถเป็นคนใจร้ายได้อย่างคาดไม่ถึงเหมือนกัน

     

    * * * * *

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×