ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Sun Seeker - ผู้ตามหาตะวัน (จบภาค)

    ลำดับตอนที่ #14 : -- ๖ – เด็กหญิงผู้เป็นที่รักแห่งสุริยเทพกับพวกปีศาจ - “แต่...เขายังเป็นเด็กนะฮะ”

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 339
      0
      13 ต.ค. 53

    เด็กหญิงผู้เป็นที่รักแห่งสุริยเทพกับพวกปีศาจ

     

    ทันทีที่ถูกแก้มัดขา ดึงตัวลงจากรถไปยังทางระบายน้ำเก่าๆ และแก้ผ้ามัดปากออก อมาเนเซราก็อาเจียนยกใหญ่จนแสบท้อง เธอได้ยินเสียงใครอีกคนอยู่ข้างตัว ครั้นเหลือบมองก็เห็นเด็กชายมีเขากำลังอาเจียนด้วยอาการไม่ต่างกัน

    ใช่...มันเป็นพวกเดียวกันหมดจริงๆ สัมผัสความมืดของเด็กหญิงเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อเธอตั้งสติได้ และกวาดมองพวกที่จับตนมา ชายสวมแจ็คเก็ตเทาถอดฮู้ดออกแล้ว เผยให้เห็นเขาอันน่าชัง คนขับรถผมแดงเกรียนสวมเสื้อหัวกะโหลกที่ลงมายืดแขนบิดขี้เกียจก็มีเขา หญิงสาวที่นำกระติกน้ำมาให้เด็กชายมีเขาดื่มก็มีความมืดในตัว ถึงจะไม่มีเขาให้เห็นก็ตาม

    หญิงคนนั้นยื่นกระติกน้ำให้เด็กหญิงเป็นคนต่อไป แต่เธอก็รีบหันหน้าไปอีกทางทันที ตั้งใจจะไม่ดื่มกินของของปีศาจเด็ดขาด แต่ครั้นเห็นภาพตรงหน้าชัด อมาเนเซราก็ผงะ เผลอก้าวถอยหลังจนแทบล้มลงนั่ง

    ที่นี่ที่ไหน เธอไม่เคยเห็นมาก่อน สภาพของมันดูเหมือนเมือง แต่ก็เป็นเมืองที่ดูเวิ้งว้าง...ทั้งๆ ที่แคบ และมืดมิดจนน่ากลัว ไม่มีโคมไฟส่องทาง แต่มีเพียงแสงริบหรี่เลือนรางที่ขอบฟ้า ครั้นกวาดมองโดยรอบ ก็พบว่าซากบ้านเรือนตรงหน้ามีเห็ดรางอกแซมปกคลุม บางชนิดส่องแสงเรืองเป็นหย่อม

    แก...แกพาฉันมาที่ไหน เด็กหญิงถาม ตะกุกตะกักในทีแรก ก่อนจะกลับกลายเป็นตะโกน พวกแก! พวกแกพาฉันมาที่ไหน! ไอ้ปีศาจ!”

    อย่าส่งเสียงดัง เดี๋ยวพวกเยติก็ออกมาหรอก หญิงผมสีดำบอกเธอ อยากถูกมันลากไปกินรึไง

    อมาเนเซราจ้องตอบหญิงคนนั้น แสดงท่าทางให้รู้ว่าเธอไม่กลัวคำขู่

    เด็กหญิงรู้จักเยติ หลังหายนะจากฟากฟ้ามาเยือน สิ่งมีชีวิตอื่นที่รอดมาบางชนิดเริ่มดุร้ายขึ้น กระทั่งพัฒนาตนเองให้กินสิ่งมีชีวิตได้แทบทุกอย่าง ทั้งพืชและสัตว์ ไปจนถึงพวกเดียวกันเอง... เยติเป็นสัตว์ตระกูลลิงที่มีลักษณะเช่นนั้น ตำราเขียนไว้ว่าพวกมันชอบอาศัยอยู่เป็นฝูงตามป่าเห็ดรารกชัฏ หรือซากเมืองร้างที่เต็มไปด้วยขยะสารพิษจนมนุษย์ไม่อาจอาศัยอยู่ได้อีกต่อไป

    เธอไม่เคยเห็นเยติเป็นๆ แต่เคยเห็นซากของมันถูกสตัฟฟ์ในพิพิธภัณฑ์ เทียบกับลิงโบราณที่สูญพันธุ์ไป พวกมันตัวโตกว่าอย่างเห็นได้ชัด ช่วงอกหนาขึ้น ขนยาวฟูป้องกันอากาศหนาวเย็น สีเทาเข้มกลืนกับความมืดรอบด้าน แขนยาว เล็บงอกยาวแหลม เขี้ยวแหลม ช่วงขาแข็งแรงและยาวขึ้นเพื่อให้วิ่งบนพื้นราบได้เร็วกว่าเดิม ...ดูน่ากลัว แต่ก็ห่างไกลเกินกว่าจะเป็นความกลัวจริงจัง สำหรับเด็กหญิงผู้ไม่เคยเดินทางออกนอกเมือง

    ก็ดี! จะได้ลากพวกปีศาจอย่างแกไปกินให้หมด!”

    หญิงสาวขมวดคิ้ว แล้วก็พูดเสียงเย็น

    ตกลงจะดื่มน้ำล้างปากไหม

    ถ้าไม่อยากให้ ฉันก็ไม่รับ

    ตามใจ อีกฝ่ายกลับพูดง่ายๆ แล้วก็ปิดกระติกน้ำเดินไปอีกทาง ยังผลให้เด็กหญิงเม้มปากแน่น พยายามกลืนน้ำลายล้างรสเปรี้ยวขื่นในปากออกไป แล้วถ้าอยากตะโกนเรียกพวกเยติจนคอแตก ก็เชิญเถอะ คนอื่นเขาดูแลตัวเองได้ เธอนั่นล่ะจะตายคนแรก

    ก็พวกแกอยากให้ฉันตายอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ!” อมาเนเซราขึ้นเสียง เอาสิ! ฆ่าฉันเลย! แต่บอกไว้ก่อน...องค์สุริยเทพไม่ปล่อยพวกแกแน่ที่ฆ่าฉัน! พวกแกต้องตกนรกหมกไหม้!”

    ซีเรนา ชายแจ็คเก็ตเทาพูดเสียงเรียบ แต่ดังให้ทุกคนได้ยินชัดเจน มัดปากมัน แค่ได้ยินเสียงก็ปวดหัวแล้ว

    อย่านะ!” เด็กหญิงพยายามดิ้น แต่ก็ไม่พ้นถูกหญิงสาวเอาผ้าอุดปากโดยเร็ว ชายแจ็คเก็ตเทาดึงตัวเธอขึ้นไปนั่งบนรถบรรทุก ชายสวมแจ็คเก็ตสีแดงซึ่งเป็นคนขับรถ และเด็กชายตามขึ้นมาไม่ช้า

    ราดา แกมีรสนิยมแบบนี้เองเรอะชายเสื้อแดงหรี่ตามองเธอด้วยสายตาน่ารังเกียจ ถามกลั้วหัวเราะ เจอสาวไม่ฉุด ดันฉุดเด็กกะโปโล แถมรุนแรงถึงขั้นฉีกเสื้อฉีกผ้า จับมัดหยิกข่วนซะ

    อมาเนเซราอาจยังเด็ก แต่ก็ใช่จะไม่รู้ความหมายของเขา ท่านพี่สอนอยู่เสมอว่าโลกภายนอกกำแพงมหาวิหารนั้นโสมม มีพวกที่ถูกความมืดแทรกซึมจนจิตหยาบกระด้าง กระทำลามกเลวทรามกระทั่งกับเด็กผู้หญิงไม่รู้เดียงสา ท่านพี่จึงห้ามเธอออกไปข้างนอก ห้ามไว้ใจ พูดคุยข้องแวะกับชายอื่นใด นอกจากพ่อกับพี่ชาย พวกนักบวช คนรับใช้ และครูเซเดอร์ เมื่อเผลอคิดว่าปีศาจพวกนี้อาจทำร้ายเธออย่างชั่วช้าแบบนั้น...ตัวเธอก็เผลอเกร็งขึ้น

    เด็กหญิงเพิ่งกลัวเช่นนั้นมาหมาดๆ เมื่อจู่ๆ ชายแจ็คเก็ตเทาผลักตัวเธอเข้าไปในตรอกแคบ ฉีกกระชากเสื้อผ้าเธอเองมามัดมือเท้าและปาก ...ถึงเขาจะไม่ล่วงละเมิดเธอในตอนนั้น แต่มีหลักประกันอะไรว่าปีศาจพวกนี้จะไม่กระทำหยาบช้าจริงๆ ในเมื่อพาเธอออกนอกคีรีเอมาได้แล้ว

    และในเมื่ออยู่นอกคีรีเอ...องค์สุริยเทพจะคุ้มครองเธอได้อย่างไร ท่านพ่อกับท่านพี่จะรู้และตามมาช่วยเธอได้อย่างไร

    ชายชื่อ ราดา ไม่ตอบ เขาเพียงลูบรอยเล็บที่เด็กหญิงฝากไว้เป็นแถบบนหน้า หญิงสาวอีกคนรีบเข้าไปใกล้ราดา ถามว่าเจ็บไหม ถึงได้คำตอบเป็นการส่ายหน้า เธอก็ยังตรงไปค้นลังกุกกัก ครั้นได้กล่องพยาบาลสีมอซอ ก็ถือมานั่งทำแผลให้

    งั้นแกหิ้วมันมาทำไม ชายเสื้อแดงถามอีกครั้ง คราวนี้ถามจริงจังนะเว้ย

    ราดายังคงเงียบ คนที่พูดขึ้นกลับเป็นเด็กชาย ซึ่งมองอมาเนเซราเงียบๆ มาตลอด

    เขา...เป็นลูกสาวของมหาสังฆราชานี่ฮะ ไม่ใช่...พวกเดียวกับเรา ปล่อยเขาไปไม่ดีกว่าเหรอฮะ

    ชายเสื้อแดงกับหญิงสาวที่กำลังทำแผลให้ราดาหันไปมองผู้พูดเป็นตาเดียว ก่อนจะหันกลับมาทางชายหนุ่ม ซึ่งยังคงสวมแว่นสีเข้มปิดบังนัยน์ตา และตั้งคำถาม

    รู้ได้ยังไง ว่าเด็กนี่เป็นลูกสาวของมหาสังฆราชา

    ก...ก็เขา...บอกผมอย่างนั้นฮะ เมื่อเช้า...เขาพาพวกครูเซเดอร์มาจับผม...ที่คณะละครสัตว์เด็กชายลังเลครู่หนึ่ง แล้วก็พูดต่อ ผ...ผมชื่อนิกซ์ฮะ คือตอนเกิดระเบิด พวกเขาปล่อยผม คุณคนขายดอกไม้เลยพาผมวิ่งหนี แล้ว...พอเจอคุณเวซาโน เขาก็พาผมมาที่นี่

    อ้อ ราดารับเรียบๆ ดีแล้ว พาพวกมากมารุมจับเด็กตัวนิดเดียว ตัวเองโดนรุมเสียบ้างจะได้เข็ด

    แต่...เขายังเป็นเด็กนะฮะ เด็กชายพูด คือ...เขาไม่ใช่พวกเรา...แล้วจะพาเขาไปทำไม แล้วเขาก็ยังเด็ก...พวกคุณ...คุณราดา...คงไม่ฆ่าเขาใช่ไหมฮะ พ่อแม่เขาต้องเป็นห่วงเขามากแล้วแน่ๆ เห็นใจพ่อแม่เขาหน่อยเถอะฮะ

    ราดามองตรงมาทางเด็กชายอีกครู่ แล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะขบขัน

    เห็นใจ! พ่อของมันเคยเห็นใจพ่อแม่คนอื่นบ้างไหมล่ะ! ตอนพวกมันจับแก...เห็นใจพ่อแม่ญาติพี่น้องของแกบ้างไหม! ตอนจับพวกลูกปีศาจอย่างเราๆ ไปฆ่า...มันเห็นใจพวกเราในฐานะคนบ้างไหม!”

    ...แต่...แม่ผมบอกว่า...ถ้าไม่เห็นใจคนอื่นก่อน คนอื่นจะเห็นใจเราได้ยังไงฮะ เด็กชายกลับตอบ ก่อนหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มพูดแทรก

    นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นแล้ว ราดา เสียงของเธอเคร่งเครียด นายคิดจะทำอะไร พวกอัสลานไม่ได้สั่งให้เราลักพาตัวเด็กนี่ ถ้ามันเป็นลูกของพระมหาสังฆราชาจริง อย่างนี้ไม่เกิดสงครามหรือ พวกนั้นไม่โทษเราหรือ

    ก็ปล่อยให้โทษไป ปล่อยให้เกิดไป ราดาพูดง่ายๆ แค่นี้ พวกมันก็เห็นเราเป็นแค่หมา จิกหัวใช้งานกันเกินพอแล้ว ทำท่าจะรบกับโซลาริสอยู่นาน แต่ไม่กล้าลงมือเต็มที่เสียที โดนบีบอัดให้สู้หลังชนทะเลพิษเสียบ้างเป็นไร

    พวกอัสลาน... อมาเนเซราเบิกตากว้างขึ้น ปีศาจพวกนี้ทำอะไรตามคำสั่งพวกนั้น ...ระเบิด ใช่ พวกมันวางระเบิดคีรีเอไม่ต้องสงสัย แต่แค่ระเบิดหรือ ต้องมีอะไรอีกสักอย่าง อะไรที่พวกมันทำมากกว่านั้น

    ...ขโมย...ช่วงชิง...

    ราวกับมีเสียงกระซิบ อมาเนเซราหันไปเห็นลังซึ่งมีดวงแสงกลมอยู่ด้านใน รังสีอบอุ่นคุ้นเคย...แต่ยังทำให้เด็กหญิงหนาวเยือกที่สุดเมื่อเห็นในที่ที่เต็มไปด้วยหมู่ปีศาจ อุกอาจ จาบจ้วง พวกมันช่างกระทำสิ่งเกินอภัย

    ทว่าขณะมองแสงสีส้มสลัวจากในลัง ไม่ใส่ใจเสียงพูดซึ่งยังดำเนินต่อ เด็กหญิงก็ค่อยๆ สงบลง ยังมีทางออก ใช่ เพราะเธอกับของขวัญขององค์สุริยเทพอยู่ที่นี่ ยังมีโอกาสทำลายปีศาจพวกนั้น พวกมันยังไม่รู้ความสามารถของเธอ

    ยังให้รู้ไม่ได้ เธอต้องรอ รอให้ถึงวันครีษมายัน แล้วลงมือในทีเดียว ให้ท่านพ่อกับท่านพี่รู้ และทำลายพวกมันให้สิ้นซาก

    ให้พวกมันต้องเสียใจ ที่มาพบอมาเนเซรา ลูเชียส ผู้เป็นที่รักแห่งสุริยเทพ

     

    * * * * *

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×