ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Sun Seeker - ผู้ตามหาตะวัน (จบภาค)

    ลำดับตอนที่ #133 : -- ๔ – มุมมองของผู้อยู่ในแสงสว่าง - “แล้วตอนนั้น เราคงมีงานให้เธอทำ”

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 166
      0
      27 ก.พ. 54

    มุมมองของผู้อยู่ในแสงสว่าง

     

    เสียงเคาะประตูนำหน้าเสียงระบุตัวตน

    ร้อยเอกฮัมเบิร์ต ไวสวอลด์ ครับ ฯพณฯ ท่าน

    เข้ามา

    เทมพลาร์หนุ่มเดินเข้ามาในห้อง หยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานของพระราชาคณะเอลิยาห์ ลูเชียส ก่อนจะชิดเท้า ทำมือแสดงความเคารพนิ่งอยู่ กระทั่งได้รับคำอนุญาต

    นั่งลงสิพระราชาคณะวัยหนุ่มหยิบกระดาษปึกบางที่มีรอยยับเหมือนเคยถูกขยำขึ้นมา เราอยากให้เธอดูนี่ แล้วบอกว่าเธอคิดอย่างไร

    ขณะที่ไวส์วอลด์อ่านกระดาษพวกนั้น นักบวชหนุ่มก็นึกทวนข้อความซึ่งตนแทบจำได้ขึ้นใจ...

    พวกป่าเถื่อนนั่นยังพอมีสติปัญญาอยู่ เมื่อกระแสสนับสนุนสันติภาพถูกจุดขึ้นโดยสตรีอาภรณ์แสงสุริยัน ไม่ช้าพวกมันก็ออกแถลงการณ์ว่าพวกตนใฝ่หวังสันติภาพเช่นกัน ทั้งยังอาสาจะช่วยโซลาริสคลี่คลายคดีวางเพลิงคณะละครสัตว์ และสังหารครูเซเดอร์อย่างอุกอาจกลางคีรีเอ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับเนฟิลิม ในเรื่องที่โซลาริสยังไม่ทราบอีกด้วย

    พวกอัสลานมันยอมรับว่าตนเลี้ยงเนฟิลิมจริงๆ แต่ก็ไม่มีเนฟิลิมที่มีพลังทำให้คนหายไปเฉยๆ โดยทิ้งไว้เพียงแขนข้างเดียวให้ดูต่างหน้ากับรอยเลือดเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้จึงอ้างได้ว่าถึงผู้ก่อคดีจะเป็นเนฟิลิม ก็ย่อมไม่ใช่เนฟิลิมที่อยู่ในสังกัดของตน

    อีกประการ ทุกครั้งที่คนอัสลานหรือเนฟิลิมก่อการร้าย ก็จะประกาศความรับผิดชอบมาโดยตลอด จนถึงครั้งล่าสุดคือการวางระเบิดและวางเพลิงในคีรีเอเมื่อเทศกาลโคมตะวัน มีเพียงเรื่องการขโมยเพทรา โซลาริสเท่านั้นเองที่ยังไม่ได้ประกาศ เพราะโซลาริสมิได้ประกาศก่อนว่าศิลาศักดิ์สิทธิ์ถูกขโมยไป ไม่มีเหตุผลและความเชื่อมโยงใดๆ ที่อัสลานจะโจมตีคณะละครสัตว์ที่ไม่เกี่ยวข้องแห่งนี้

    ในเรื่องสันติภาพ ผู้นำกลุ่มอัสลานตอบรับก็จริง แต่ยังไม่ยอมศิโรราบโดยง่ายนักหรอก มันบอกว่าหากอยากดำเนินการให้เกิดสันติภาพ บนความเท่าเทียม โดยแท้จริง ก็จะยินดี ...แต่ก่อนหน้านั้น พวกมันเรียกร้องให้โซลาริสรับประกันว่าจะไม่มีการโจมตีชุมชนชาวอัสลานในเวสต์แลนด์ ไปจนถึงขอเพิ่มสิทธิให้คอนเวิร์ต ขอความช่วยเหลือด้านอาหาร ยารักษาโรค เครื่องมือทางการเกษตรและเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งขอเพทรา โซลาริส ไว้กับเวสต์แลนด์ ในฐานะ ของขวัญแห่งสันติภาพ

    เราเองก็เป็นเช่นมนุษย์ทั้งมวลที่ใฝ่หวังสันติภาพ แต่ก่อนสันติภาพ มนุษย์ทั้งมวลย่อมต้องการปัจจัยสี่อันเป็นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต ต้องการความปลอดภัยในการดำรงชีวิต และการยอมรับในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เราตั้งกองกำลังป้องกันตนเองในทีแรกเพราะเราถูกละเมิดสิทธิพื้นฐานเหล่านั้น ดังนั้น หากได้รับสิทธิที่พึงมีคืน เราย่อมสนับสนุนสันติภาพของทั้งเราและท่านอย่างเต็มที่ บนพื้นฐานของไมตรีจิตอันดี

    นั่นไม่ใช่ท่าทางของผู้แพ้ เอลิยาห์รู้ ชาวอัสลานเคยทระนงสมชื่อ ชนแห่งราชสีห์อย่างไร บัดนี้ก็ยังทระนงอย่างนั้น

    ที่ร้ายยิ่งกว่านั้น คือท่าทางบิดาของเขา กับสตรีอาภรณ์แสงสุริยันจะเห็นคล้อยตาม ความเท่าเทียมที่พวกมันยกมาอ้างเสียด้วย

    แค่ความโอหังของหมาจนตรอกเท่านั้นเองครับเป็นคำตอบของผู้กองไวส์วอลด์ ขณะวางกระดาษนั้นคืนกับโต๊ะด้วยท่าทางเหยียดหยาม ที่จริง ผมเห็นว่าเราน่าจะหาวิธีทำลายพวกมันให้สิ้นซากด้วยซ้ำ

    โดยไม่ให้เป็นที่ครหาเอลิยาห์ต่อคำ ล้างเผ่าพันธุ์พวกมันน่ะไม่ยากหรอก แต่จะทำอย่างไรให้ ชอบธรรม กระทั่งในตระกูลลูเชียส เรายังกลายเป็นเสียงส่วนน้อยแค่คนเดียวไปเลย

    คนชรากับเด็กผู้หญิงย่อมใจอ่อนเป็นธรรมดานี่ครับเด็กหนุ่มตอบยิ้มๆ ที่จริง ฯพณฯ ท่านน่าจะหาวิธีอ้างว่ามันละเมิดข้อตกลงก่อนได้ไม่ยากนะครับ

    หาได้ไม่ยากจริงพระราชาคณะรับ แต่ต้องรอจังหวะดีๆ นั่นล่ะ ตอนนี้กระแสชูสันติภาพกับเห็นใจเผ่าอัสลานยังมาแรงจนน่ากลัว ต้องทิ้งช่วงสักพักให้ซาลงไป แล้วตอนนั้น เราคงมีงานให้เธอทำ

    รับทราบครับผู้กองไวส์วอลด์ค้อมศีรษะ ผมรอเวลาที่จะได้รับใช้ ฯพณฯ ท่าน เต็มความสามารถ

    เอลิยาห์ไม่มองเด็กหนุ่ม แต่เสมองไปยังสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ ไม่ได้อยู่ในเมืองหรือแม้แต่โลกเบื้องนอก...สิ่งซึ่งอยู่ในอนาคตที่ตนพยายามเอื้อมมือไขว่คว้า

    เขาเองก็ต้องรอเวลา เวลาที่จะได้กวาดล้างเหลือบไรน่ารังเกียจพวกนั้นไปจากแผ่นดิน จะได้ลืมเลือนตราบาปที่พวกมันประทับให้แก่ชีวิตของเขา ลืมเลือนว่าเคยมีพวกมันอยู่...

    ...เพื่อที่แสงตะวันจะได้สาดส่องให้เขาอีกครั้ง...

     

    * * * * *

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×