ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Sun Seeker - ผู้ตามหาตะวัน (จบภาค)

    ลำดับตอนที่ #118 : -- ๓ – โทษทัณฑ์ของคนบาป - “ค่ะ จะบอกว่าฉันขี้โกหกก็เชิญ”

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 174
      0
      12 ก.พ. 54

    โทษทัณฑ์ของคนบาป

     

    ...ขอโทษนะ...นิกซ์...

    ...สุดท้าย...ฉันกลับทำร้ายเธอแทนจนได้...

    ...เหมือนย่า...กับคุณซาเวียร์...

    ...สุดท้าย...ความเห็นแก่ตัวของฉันก็...

    แอนเธียซบใบหน้าลงริมเตียง ซึ่งมีเด็กชายที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ท่าเดิม มีผ้าห่มคลุมเสมออก แขนทั้งสองวางพาดเหนือผ้าห่ม ข้างหนึ่งเสียบสายน้ำเกลือค้างไว้

    ดูเผินๆ เหมือนไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง แต่หากสังเกตดีๆ จะพบว่าเขารูปทรงม้วนทั้งสองข้างศีรษะนั้นดูใหญ่และยาวขึ้นบ้าง...แม้ไม่มากมาย แต่ก็โตขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาแค่สามวัน

    ตรงตามที่หมอโจเซฟเปรยไว้ เมื่อเนฟิลิมเริ่มใช้พลัง เขาก็จะเริ่มโตเร็วขึ้น และจะเปลี่ยนจากจุดที่ยังเป็นเขาอ่อนสั้นตัดได้ง่าย สู่เขาแข็งซึ่งตัดยาก หากขืนตัดจะเสียเลือดมาก ทั้งยังติดเชื้อง่ายจนไม่ควรเสี่ยง

    อย่างไรก็ดี ชายวัยกลางคนก็ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าหากนิกซ์ยังต้องการตัดเขาเมื่อฟื้นขึ้นมา ก็จะหาวิธีที่ปลอดภัยที่สุด และพยายามช่วยจนสุดความสามารถ

    แต่แอนเธียก็ยังกลัว เธอไม่อยากให้นิกซ์ต้องเสี่ยงกับความตาย ถึงจะรู้ว่าเขาของเด็กชายกำลังจะงอกใหญ่ขึ้นจนไม่อาจปกปิดได้ง่าย หากทิ้งไว้ แกย่อมไม่อาจไปโรงเรียนได้อีก...ไม่นับว่าอาจใช้ชีวิตในโซลาริสอย่างเปิดเผยไม่ได้อีกด้วยซ้ำ

    และก็มีแต่ต้องไปอยู่กับเผ่าอัสลาน

    เธอไม่มีทางทำอะไรได้เลย สภาพร่างกายของเด็กชายยิ่งอ่อนแอลงหลังจากใช้พลังแปลกประหลาดครั้งนั้น ซ้ำร้ายเขายังไม่ยอมตื่น เพียงหลับเฉยๆ ...ทั้งๆ ที่ไม่มีอาการผิดปกติทางกายใดๆ หมอโจเซฟเองก็ไม่รู้สาเหตุ แม้จะจำได้ว่าเคยมีเนฟิลิมซึ่งมีพลัง ดูดกลืนเหมือนกับนิกซ์ถูกจับมาที่ศูนย์วิจัยคนหนึ่งก็ตาม

    ไม่มีข้อมูลของความสามารถนั้นมากพอจะสรุปอะไรได้ ในเมื่อเนฟิลิมตนนั้นมาถึงศูนย์ในสภาพไร้ลมหายใจ หลังจากชักหมดสติ หัวใจวายแทบทันทีที่ดูดกลืนครูเซเดอร์คนหนึ่งเข้าไป

    นั่นทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งมืดแปดด้าน แอนเธียคิดอะไรแทบไม่ออก นอกจากนิกซ์เป็นอะไรไม่รู้ และกำลังจะตาย...ตายเพราะสิ่งที่เธอทำลงไป

    ...ทุกอย่างเป็นเพราะเรา...เพราะเราทั้งนั้น...

    เพราะเธอดึงความทรงจำไปจากเซรา เพราะเธอดึงดันจะดำเนินแผนการช่วยเหลือคนในคณะละครสัตว์ เพราะเธอไม่คิดให้นิกซ์ไปหลบในที่ปลอดภัยเสียก่อน ทุกสิ่งที่เธอคิดและทำลงไปผิดพลาดทั้งหมด

    ...เพราะเราโลภมาก...คิดแต่จะช่วยตัวเอง...คิดแต่ว่าถ้าช่วยนิกซ์กับคนอื่นๆ ได้มากเท่าไร ก็จะลบความผิดที่เคยทำไว้ได้ แต่ลงท้าย...ก็มีแต่หลอกใช้คนอื่น ทำร้ายพวกเขา ทั้งนิกซ์...ทั้งครูเซเดอร์ที่ตายไป...

    เสียงเคาะประตูเบาๆ ทำให้หญิงสาวรีบปาดน้ำตา ยกศีรษะขึ้น หันไปเห็นราดาเดินเข้ามา

    เที่ยงแล้ว เดี๋ยวคุณมาร์กาเร็ตคงทำอาหารเสร็จ เธอลงไปกินแล้วนอนพักเถอะ ฉันจะเฝ้านิกซ์ให้ชายหนุ่มอาสา แล้วก็ดึงเก้าอี้อีกตัวในห้องมานั่งลงข้างเตียง มองเด็กชายที่นอนอยู่

    ขอบคุณค่ะหญิงสาวเบือนหน้ากลับมา ซ่อนดวงตาบวมแดง ตอบอย่างสุภาพแต่ระแวดระวัง แต่ฉันไม่หิว คุณไปกินก่อนเถอะ เดี๋ยวคุณป้ามาร์กาเร็ตคงยกขึ้นมาให้เอง

    ท่าทางเธอไม่ได้นอนทั้งคืนนะหัวหน้าเนฟิลิมเปรย แล้วฉันก็ไม่ได้คิดจะอุ้มนิกซ์ไปล้างสมองที่ไหนด้วย

    ฉันไม่ได้หาว่าคุณจะอุ้มแกไปที่ไหนนี่คะแอนเธียย้อน แค่คิดว่าคุณต่างหาก ที่ควรพักผ่อนมากกว่า ถึงแผลจะไม่เป็นไรแล้ว แต่คุณก็เสียเลือดไปเยอะเหมือนกัน...เพราะมือสมัครเล่นอย่างฉัน

    หญิงสาวไม่ได้ห่วงใยราดาแมนธิสนักหรอก บางทีคงเพราะเธอคิดว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเข้าใจเธอ เขายังคงยึดติดกับ ความเป็นเนฟิลิมซึ่งไม่ใช่ทุกสิ่งของชีวิตจนเกินไป แต่อย่างน้อย เธอก็ไม่อยากให้เขาหรือใครตายต่อหน้าต่อตา...หรือตายคามือ ตอนตัดสินใจผ่าตัดเอากระสุนออกอย่างฉุกละหุกที่สุด โดยไม่มีเครื่องมืออะไรเลยนอกจากมีดพกที่เธอเช็ดเลือดกรัฟเฟ็ดออก และใช้ไฟแช็กที่ขอยืมจากแม็กนัสลนปลายฆ่าเชื้อ ถึงจะมีความทรงจำของใครบางคนเป็นต้นแบบด้วยก็ตาม

    เคราะห์ยังดีที่มีท่านหญิงอมาเนเซรา กับพลังของคริสตาลา โซลาริส ช่วยสมานแผลลึกได้รวดเร็ว...ไม่อย่างนั้นเธออาจจะทำเขาตายคามือไปจริงๆ แล้วก็ได้

    ถ้ามือสมัครเล่นอย่างเธอไม่ทำ ฉันคงตายไปแล้ว ไหนเธอว่าตอนนั้นฉันเสียเลือดมากเพราะกระสุนโดนม้ามไม่ใช่รึชายหนุ่มย้อน เธอกับใครๆ ถึงได้กลัวว่าฉันจะช็อกตายก่อนถึงโรงหมอ...ไม่นับว่าต้องเป็นโรงหมอที่ไม่ตกใจตอนได้คนไข้เนฟิลิมอย่างหมอโจเซฟด้วย ฉันควรชมมากกว่า ว่าทำไมสาวขายดอกไม้อย่างเธอถึงรู้วิธีผ่าตัดเอากระสุนออก อย่างกับหมออาชีพด้วยซ้ำ

    กระสุนโซลาริสฝังร่างคนแถวบ้านฉันมาเท่าไรละคะหญิงสาวไม่อาจห้ามตนเองไม่ให้นึกถึงความทรงจำเหล่านั้น ย่าของฉันเป็นหมอสมุนไพร พอเข้ายุคตะวันดับถึงต้องมาผ่ากระสุนฉุกเฉินอยู่บ่อยๆ ฉันเลยเคยเป็นลูกมือย่า ก็เท่านั้นเอง

    ที่จริง ยังมีความทรงจำของใครอีกคนหนึ่ง...แพทย์หญิงชาวโซลาริสที่อุทิศตนรักษาคนบาดเจ็บ...ไม่ว่าจากฝ่ายไหน แต่กลับถูกทั้งสองฝ่ายที่ตนต้องการช่วยเหลือทำร้ายสาหัส รอยจำฝังลึก กระทั่งสิ้นความต้องการเป็นหมอ และมอบทุกสิ่งทั้งดีร้ายให้แก่เธอด้วยปรารถนาของตนเอง

    ฉันว่าเธอน่าจะอยากเป็นหมอชายหนุ่มเปรยอย่างคาดไม่ถึง ตอนอยู่ในห้องเธอ ฉันเห็นตำราแพทย์เก่าๆ อยู่เป็นตั้ง นั่นคงไม่ใช่ของที่ช่างทำดอกไม้ธรรมดาๆ เขาอ่านเล่นกันหรอก

    ช่างสังเกตเหมือนกันนี่คะเธอต้องชมเขาในแง่นั้น

    แล้วทำไมไม่เป็นล่ะเขาตั้งคำถาม เธอเองก็มีแวว ชอบช่วยคน รอบคอบ มีไหวพริบ ตัดสินใจเร็ว มือทำงานละเอียดดีมาก ดูอย่างดอกไม้ที่ฉันซื้อจากเธอวันนั้น

    แอนเธียเหลือบมองเขาทางหางตา จับสีหน้าชายหนุ่มซึ่งเรียบเฉย ดูไม่ออกว่าพูดด้วยจุดประสงค์ใด

    คุณจำได้?”

    ฉันทึ่ง ที่มีคนทำดอกนาร์ซิสซัสได้เหมือนจริงขนาดนั้น เหมือนอย่างกับเคยเห็นด้วยตาของตัวเอง

    หญิงสาวหันกลับไป เปลี่ยนหัวข้อสนทนาสู่เรื่องเดิมทันที

    ตอนมาอยู่คีรีเอใหม่ๆ ฉันอยากเรียนหมอ พอมีคนรู้ ก็ให้หนังสือพวกนั้นมา แต่สุดท้าย...ฉันก็ทำไม่ได้กระทั่งเข้าโรงเรียนสามัญขั้นสูงด้วยซ้ำ เคยฝันจะเป็นหมอ แต่สุดท้ายก็เป็นได้แค่คนทำดอกไม้...ตลกมากใช่มั้ยคะ

    เธอยังเป็นหมอได้ราดาแมนธิสแย้ง ไม่ต้องเรียนในโซลาริสหรอก เรียนจากหมอโจเซฟแล้วกลับไปรักษาคนอัสลานก็ได้ ที่นั่นใครจะไปสน ว่าเธอมีใบประกอบโรคศิลป์หรือเปล่า

    ฉันกลับไปไม่ได้ค่ะเธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ลังเลที่จะพูดต่อ แต่สุดท้ายก็คิดว่า...บอกเขาไปก็ไม่เป็นไร นั่นไม่ใช่บ้านของฉันอีกแล้ว ไม่มีใครรอ คาดหวัง หรืออยากให้ฉันกลับไปหรอก

    ...ใช่...ที่นั่นไม่ใช่บ้านของเธออีกต่อไปแล้ว...

    ...เพราะเธอเป็นคนทำลาย บ้านของตนเองลงกับมือ...

    ...ไม่มีคนอัสลานที่ไหนจะยอมรับคนที่เกิดมาเป็นอัสลาน ต่อมากลายเป็นเนฟิลิม และใช้ชีวิตอย่างคอนเวิร์ตในโซลาริสได้หรอก...ยิ่งได้รู้ว่าที่แท้เธอเป็นใคร เคยผ่านสิ่งใด...ก็มีแต่จะยิ่งเดียดฉันท์...

    แล้วถ้าอยู่กับพวกเราเนฟิลิมล่ะ

    แอนเธียกำมือแน่น สะกดความขุ่นมัวที่พลันพลุ่งขึ้น...ว่าลงท้ายราดาแมนธิสก็ยังคิดแต่จะรวมกลุ่มเนฟิลิม ไปชิงอำนาจบนความทุกข์ของคนอื่น

    ...ที่รออยู่นี่ ก็คงเพราะตั้งใจจะกล่อมนิกซ์ซึ่งพลั้งมือฆ่าคนเสียแล้วให้ไปด้วยเท่านั้นเอง...

    คุณยังคิดแต่เรื่องแบบนี้อยู่อีกหรือหญิงสาวสะบัดเสียงโดยไม่มองหน้าเขา เนฟิลิมเห็นแก่ตัว !

    ฉันแค่คิดว่าถ้าเธออยากเป็นหมอจริงๆ ก็ยังมีโอกาสอยู่ หมอรักษาคนเจ็บป่วยได้ทุกคนไม่ใช่หรือเสียงตอบของอีกฝ่ายข่มอารมณ์ชัดแจ้ง แล้วที่เวสต์แลนด์ พวกเราก็ต้องการหมอดูแลแทบตลอดเวลา

    ไปหาหมอคนอื่นเถอะค่ะแอนเธียตัดบททันควัน ฉันไม่ได้เป็นหมอ ชีวิตนี้คงไม่มีทางเป็นได้

    หญิงสาวเคยอยากเป็น...อยากเป็นอย่างแรงกล้า...เมื่อเห็นตัวอย่างทั้งจากย่าและลุงโจเซฟ แต่เธอดับความหวังลมๆ แล้งๆ หมดสิ้นแล้ว และผันมาช่วยคนด้วยความสามารถที่มีแต่เธอเท่านั้นที่ทำได้แทน

    ...ความสามารถซึ่งบัดนี้เธอกังขาขึ้นมา ว่าเป็นการช่วยเหลือหรือทำร้ายใครๆ ยิ่งไปกว่าเดิมกันแน่

    เอาเถอะ ฉันขอโทษ ถ้าพูดอะไรให้เธอไม่สบายใจราดาแมนธิสกลับเข้าจุดประสงค์เดิม เธอดูเพลียมาก ยังไงก็ควรพักอยู่ดี ฉันนอนพอแล้ว นั่งเฝ้าเด็กสักคนกินแรงที่ไหน

    ฉันอยากเป็นคนพูดกับแกก่อนค่ะหญิงสาวบอกตรงๆ ในทันที ฉันมีเรื่องที่ต้องรีบพูดกับแก ไม่อย่างนั้นอาจจะสายเกินไป

    เรื่องที่แกฆ่าคนน่ะเหรอ

    ความเงียบเข้าปกคลุมในทันใด ลอยอ้อยอิ่งในอากาศรอบตัวทั้งสอง

    กระนั้น คำว่า ฆ่าก็ราวกับจะสะท้อนก้องในบรรยากาศซ้ำไปมา อย่างน้อยสำหรับหญิงสาวผู้ฟัง

    นั่นไม่ใช่เรื่องที่ควรพูดง่ายๆ นะคะสุดท้ายเธอก็เอ่ยเคร่งขรึม แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่พูดได้ง่ายๆ ด้วย

    ฉันก็รู้ แต่เธอจะทำยังไง ลบความทรงจำของนิกซ์มันเหรอ

    ถ้าแกต้องการ ฉันก็จะทำอย่างนั้น

    และเธอก็รอจะพูดอย่างนั้นกับมัน

    ค่ะ

    นั่นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาหรอกนะหัวหน้าเนฟิลิมค้าน ก็เหมือนที่เธอลบความทรงจำเด็กเซรานั่นล่ะ

    จะหาว่าฉันเป็นคนที่ตื้นเขินมาก รังแต่จะลบความทรงจำของคนอื่น...ทั้งๆ ที่เห็นแล้วว่าผลมันร้ายแรงขนาดไหน ก็พูดไปสิคะเธอไม่อาจห้ามเสียงของตนเองไม่ให้แข็งขึ้น ฉันไม่สนหรอก สำคัญที่สุดคือนิกซ์ไม่ควรเจอเรื่องเลวร้ายอะไรอีกแล้วต่างหาก คุณจะให้เด็กตัวแค่นี้แบกรับเรื่องที่ตัวเองฆ่าคนด้วยพลังเหนือธรรมชาติเหรอ !

    ถึงเธอลบความทรงจำของเขา พลังของเขาก็ยังอยู่ เรื่องที่เขาทำลงไปก็ยังอยู่ราดาแย้ง ไม่นับว่านิกซ์มันอาจจะใช้พลังปลดสะกดความทรงจำของตัวเองได้ เหมือนที่ปลดให้เซราด้วย แบบนั้นถึงลบไปยังไง...ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี

    หญิงสาวนิ่งอึ้งไป...เมื่อนึกได้ถึงเรื่องที่ชายหนุ่มช่างย้ำหนักหนา แต่ตนเองก็รู้ว่าเป็นความจริง

    เธอจำได้ว่าสะกดความทรงจำของท่านหญิงลูเชียสไว้ แต่บัดนี้กลับนึกรายละเอียดไม่ออกเลย ว่าช่วงที่เด็กหญิงรู้จักกับนิกซ์เป็นอย่างไร...รู้สึกอย่างไร...ทำอะไรร่วมกัน

    ราวกับสิ่งเหล่านั้นขาดหายไปจากลิ้นชักความทรงจำของเธอเอง

    แต่คุณก็จะบอกให้แกไปกับพวกคุณ ไปเป็นผู้ก่อการร้ายด้วยกันที่เวสต์แลนด์ไม่ใช่เหรอกระนั้น แอนเธียยังไม่ยอมแพ้ เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองหัวหน้าเนฟิลิม ไม่ซ่อนเร้นโทสะในน้ำเสียงและดวงตาอีกต่อไป ถึงกล่อมฉันไม่สำเร็จ...ก็ยังจะเอาเด็กคนนี้ไป ! คุณนี่มัน—”

    “...แสดงว่าเธออ่านใจฉันไม่ออกจริงๆราดาแมนธิสดักทาง เลยไม่รู้ว่าที่จริงฉันคิดยังไง ก่อนหน้านั้นเธอแค่เดาจากท่าทาง และข้อมูลที่รู้เกี่ยวกับพวกเรา แล้วมันก็บังเอิญถูกเท่านั้นเอง

    แอนเธียมีสีหน้าตะลึงงันเพียงชั่วแวบ ก่อนจะจ้องเขาเขม็ง รู้สึกเหมือนโดนดูถูกถึงที่สุด ว่าเป็นคนหลอกลวงกลับกลอก...ซึ่งพูดปดเพื่อปกป้องตัวเองอย่างน่าเวทนา

    ...เหมือนตอนนั้น...ตอนที่พูด ความจริง’...แต่ใครๆ กลับไม่เห็นมันเป็น ความจริง’...

    ค่ะ จะบอกว่าฉันขี้โกหกก็เชิญเธอกระชากเสียง ถ้าไม่ได้แตะหน้าผากกัน ฉันก็อ่านความคิดคุณหรือใครๆ ไม่ได้หรอก ฉันแค่วางท่าข่มคุณไปอย่างนั้นเอง น่าสมเพชใช่มั้ยล่ะ

    งั้นก็อ่านสิชายหนุ่มกลับพูดง่ายๆ สีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่ไยดี จะได้รู้ว่าฉันอยากพูดอะไรกับนิกซ์

    แอนเธียเดาแผนการของเขาออกง่ายดาย

    คุณจะได้เลียนแบบความสามารถของฉันไปทำกับคนอื่น หรือแม้แต่ตัวฉันเองน่ะสิ

    งั้นเธอก็ทำให้ฉันลืมเรื่องที่คิดเกี่ยวกับความสามารถของเธอไปสิเขาท้า ไม่ก็ลืมกระทั่งตัวเธอกับนิกซ์ไปเลย ถ้ากลัวว่าฉันจะลบเรื่องของเด็กนั่นไปจากเธอ แล้วล้างสมองมันให้เป็นพวกของฉัน

    หญิงสาวไม่ตอบอะไร เอาแต่มองเด็กชายซึ่งยังคงอยู่ในห้วงนิทรา ไม่รู้เรื่องราวที่ผู้ใหญ่ทั้งสองถกเถียงกัน พร้อมกันนั้นก็บอกตนเองว่าราดาแมนธิสกำลังหลอกลวงเธอ พยายามทำให้เธอเชื่อใจ ...จะไม่หลอกได้อย่างไร...ในเมื่อเธอหลอกใช้เขาในแผนการอันเห็นแก่ตัวของเธอ จนตัวเขาเองแทบเอาชีวิตไม่รอด

    เธอไม่รู้ใจเขา ไม่เชื่อใจเขา ก็แค่ทำให้ตัวเองดูถือไพ่เหนือกว่า จะได้ใช้เขาทำงานที่เธอทำไม่ได้ เหมือนกับแม็กนัส...พี่มารี...เพื่อนๆ เด็กกำพร้าที่รู้จัก...เหมือนกับใครอีกหลายคน...กระทั่งคุณลุงโจเซฟกับหลวงพ่อนิโคลัส

    เธอต่างหาก...ที่เป็นแค่ผู้หญิงสกปรกเห็นแก่ตัว เอาตัวไม่รอดแล้วยังแค่นจะไปช่วยคนอื่น เพื่อให้รู้สึกว่าตนเองมีเหตุผลให้ใช้ชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อให้ความรู้สึกที่ว่าตนเองมีค่าและเป็นคนดีพองฟูขึ้น...กลบทับปิดฝังความผิดบาปในใจ...ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่อาจขจัดมันออกไปได้

    เอาเถอะ อยากเฝ้าต่อก็ตามใจสุดท้ายชายหนุ่มก็พูดขึ้น ก่อนจะยื่นหนังสือพิมพ์พับหนึ่งให้เธอ ถือว่าฉันเอานี่มาให้เธออ่าน แล้วก็ให้นิกซ์มันอ่านด้วย

    หญิงสาวดึงหนังสือพิมพ์ไปจากมือของเขา คลี่ออก ตั้งสมาธิเพ่งสายตาเมื่อยล้า อ่านข่าวพาดหัว แล้วเลื่อนลงมาที่หัวข่าวรอง ก่อนดวงตาพลันเบิกกว้างขึ้น

    “...นี่มัน...

    เด็กนั่นเข้าใจ ไม่น่าดีใจแทนนิกซ์หรอกเหรอหัวหน้าเนฟิลิมตั้งคำถาม แล้วบางที ยายเด็กเซราอาจจะเจริญรอยตามเธอกับหลวงพ่อของเธอเสียอีกคนก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ สถานการณ์คงสงบลงได้อีกพักหนึ่ง ถึงยังรับประกันไม่ได้ว่าจะไม่เกิดสงคราม

    แอนเธียไม่ตอบอะไร เธอยังไม่เชื่อว่าราดาแมนธิสบอกตนด้วยเจตนาบริสุทธิ์ แต่อีกใจหนึ่ง...น้ำตาก็เริ่มไหลลงมาเมื่ออ่านสิ่งที่ท่านหญิงอมาเนเซรา ลูเชียสพูดในงานศพของครูเซเดอร์ที่ตายไปเพราะความผิดพลาดของหญิงสาว

    สิ่งที่เห็นไม่อาจลบล้างความรู้สึกผิดในใจ และไม่อาจทำให้เธอวางใจหัวหน้าเนฟิลิม แต่แอนเธียก็โล่งอกแทนนิกซ์ไปได้อย่างหนึ่ง เธอบีบมือที่นิ่งสนิทของเด็กชาย พยายามพูดให้เขาได้ยิน

    นิกซ์...เธอต้องรีบตื่นนะ ท่านหญิง...เซราไม่โทษเธอ ไม่โทษสิ่งที่เธอทำลงไป เธอต้องตื่นขึ้นมาอ่านคำพูดของเขาให้ได้นะ

    ...ตื่นขึ้นมาเถอะ...ตื่นขึ้นมาแล้วโทษฉันเท่าไรก็ได้...เกลียดชังโกรธแค้นฉันอย่างไรก็ได้...แต่อย่าโทษตัวเองเลย...คนที่ผิดคือฉันต่างหาก...เธอไม่มีความผิดแม้แต่นิดเดียว...คนที่แบกรับน้ำหนักชีวิตของคนคนนั้นไม่ใช่เธอ...แต่เป็นฉัน...ฉันคนเดียวเท่านั้น...

    ไม่มีเสียงตอบรับจากเด็กชาย เปลือกตาของเขาเพียงขยับน้อยๆ ...แต่มิใช่เพราะคำพูด เป็นเพียงปฏิกิริยาของคนกลอกตายามหลับฝัน เด็กชายกำลังฝัน แต่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจปลุกเขาให้ตื่น แม้แต่ความสามารถในการเห็นความทรงจำของเธอ...ก็ไม่อาจทำให้เธอสื่อถึงใจของนิกซ์ได้

    ไม่อาจทำอะไรได้เลย...นอกจากโทษตนเอง...หวัง...และรอคอย

     

    * * * * *

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×