ตอนที่ 30 : แม่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว
“แต่ระหว่างรอ.......มึงสองคนจะจัดการมันยังไงก็เรื่องของมึง” ประโยคหลังเสี่ยนพหันไปบอกกับทั้งสองคนที่รอโอกาสอยู่ก่อนแล้ว ท็อปไม่รอช้าแสยะยิ้มน่ารังเกียจก่อนจะเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม
“ไงครับ..น้องคริสจำพี่ท็อปได้ไหม” ท็อปพูดเบาๆ ราวกับคนโรคจิต เขาค่อยๆ ลูบไล้มือไปตามกรอบหน้าของคริสช้าๆ บลูเองก็ได้แต่นั่งฟังอย่างทำอะไรไม่ได้เพราะเสี่ยนพได้เอาเทปปิดปากตนเองไว้
คริสเองก็ไม่ได้ตอบอะไรเขามองท็อปด้วยสายตารังเกียจแต่อีกคนกับไม่รู้สึกรู้สา จนคริสต้องสะบัดหน้าหนีเพราะรู้สึกขยะแขยงจนทนไม่ไหว ท็อปเห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มและหยิบมีดพับขึ้นมาตัดสายรัดข้อมือของคนทั้งสองออกจากกัน
ดึงคริสให้ลุกขึ้นและผลักไปที่กำแพงอีกด้านหนึ่งจึงทำให้บลูได้เห็นหน้าของคริสเต็มตาแล้วเขาก็ต้องแปลกใจที่ได้ยินสองคนนั้นเรียกชายหนุ่มว่าคริส ใครกันทำไมหน้าเหมือนเฮียไคเลย บลูได้แต่คิดในใจ
“มึงไม่ต้องไปมองมัน...เอาตัวมึงให้รอดก่อนเหอะ” เสี่ยนพขู่ ก่อนจะกระชากบลูให้ลุกขึ้นบ้างแล้วตะคอกถาม” มึงฆ่าเพนนี่..มึงฆ่าลูกกูทำไม” เสี่ยนพคล้ายคนเสียสติเมื่อพูดถึงลูกสาวมือกำคอเสื้อของบลูแน่น
ชายหนุ่มจึงหันไปมองหน้าเสี่ยนพด้วยแววตาเย้ยหยัน แม้จะพูดตอบโตไม่ได้ แต่ก็ใช้สายตาสื่อออกไปแทน เสี่ยนพเห็นแววตาของบลูจึงโมโหขึ้นมาอีกครั้ง เขากระชากเทปปิดปากออกอย่างแรง จนบลูชาไปทั้งใบหน้าชายหนุ่มกัดฟันกรอด ก่อนจะก่นด่า
“ไอ้สัส..ลูกมึงตายแล้วเกี่ยวอะไรกับกูว่ะ” บลูระเบิดอารมณ์ออกมาทันที แววตาของชายหนุ่มฉายแววน่ากลัว เสี่ยนพได้ฟังก็โมโหหนักกว่าเดิม เขาใช้ด้ามปืนตบไปที่ใบหน้าของบลูอีกครั้งจนเลือดกบปาก
ผัวะ
“ไม่เกี่ยวได้ไง...ก่อนเพนนี่จะตายมีคนเห็นว่าขับรถออกมากคอนโดของมึง...มึงยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เกี่ยวอีกเหรอ” เสี่ยนพตะคอกกลับ ทำให้ภพที่ยืนดูอยู่คว้าปืนมาจ่อไว้ที่หัวก่อนจะเอ่ยถาม
“ยิงมันเลยไหมป๊า”
“ง่ายไป...ค่อยให้มันตายต่อหน้าผัวมัน” คำพูดของเสี่ยนพทำเอาบลูหันไปจ้องหน้านิ่ง มันรู้ได้ยังไง บลูคิดในใจ
“มึงคงคิดว่าจะปิดได้งั้นดิ...” เสี่ยนพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย เพราะตนได้ให้คนสะกดรอยตามรามแต่ไม่คิดว่าจะได้เจอเรื่องอะไรดีๆ
ในตอนนั้นที่มันหายหัวไปตั้งหลายเดือนเสี่ยนพจึงให้คนมาตามบลูแทน ไม่คิดเลยว่ามันจะโผล่หัวมาอีกครั้ง เขาเลยให้ลูกน้องตามมันด้วยอีกคนแต่เมื่อวานมันเสือกรู้ตัวจัดการลูกน้องของเขาเสียก่อน ดีนะที่ไอ้นั่นมันรายงานก่อนตายไม่งั้นเขาคงไม่รู้เรื่องนี้หรอก
“เรื่องของกูมึงไม่ต้องเสือก...แล้วกูก็ไม่ได้ฆ่าลูกมึงด้วย”
“งั้นมึงก็บอกกูมาว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น” เสี่ยนพตะคอกถามอีกครั้ง
“กูไม่บอก” บลูแกล้งยียวนไม่บอกเรื่องในวันนั้น เอาจริงๆ เขาก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้เพนนี่ตาย
“แม่งเอ๊ย” ภพสบถก่อนจะหันปลายกระบอกไปที่หัวของบลูอีกครั้ง
ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!
แต่เสียงปืนที่ดังกราดอยู่ด้านนอกขัดขึ้นเสียก่อน ภพลดปืนลงก่อนจะหันไปมองต้นทางของเสียง ที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดังมาจากทางไหนเพราะดูเหมือนจะมั่วไปหมด
“เสียงอะไรวะ มึงออกไปดู” เสี่ยนพบอกกับลูกน้องให้ออกไปดูที่ด้านนอก ซีเคไม่รอช้าพยักหน้ารับแล้วพาลูกน้องคนอื่นๆ ออกไปทันที หลังจากที่เห็นว่าคนของตัวเองออกไปแล้วเขาเองจะชักปืนออกมาเพราะในนี่เหลือเพียงแค่พวกตัวเองกับตัวประกัน
ปัง!! ปัง!! ปัง!! ปัง!! ปัง!! ปัง!!
เมื่อเสียงปืนที่รัวอยู่ด้านนอกค่อย ๆ ดังเข้ามาใกล้และเพียงไม่นานก็มีคนบุกเข้ามา เสี่ยนพจึงจับบลูขึ้นมาเป็นตัวประกัน และท็อปก็ดึงคริสมารวมตรงนั้นด้วยเช่นกัน
“โธ่นึกว่าใคร หมารับใช้นี่เอง” เสี่ยนพเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเห็นหน้าราม ก่อนจะมองไปที่คนข้าง ๆ อย่างแปลกใจ เพราะใครจะไปคิดว่าทั้งสองคนจะมาด้วยกัน
“Welcome to Thailand นะไคหวัง ปาร์ตี้ต้อนรับกำลังเริ่มขึ้นแล้ว” เสี่ยนพพูดอย่างยียวนกวนประสาท ก่อนจะเล็งกระบอกปืนไปที่คนทั้งคู่
ตอนนี้ด้านนอกมีลูกน้องของรามกำลังจัดการคนของเสี่ยนพอยู่ เสียงปืนที่ดังสนั่นทั่วไปหมดไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร จึงทำให้คนด้านนอกไม่รู้ว่า รามกับไคและลูกน้องบางส่วนได้เข้ามาด้านในเรียบร้อยแล้ว
“ปล่อยคุณบลูซะเสี่ย” รามเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบนัยน์ตาของเขาสั่นระริกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บลูเองก็ได้แต่มองตามเพราะตัวเองโดนมันเอาปืนจ่อหัวอยู่
รามมองไปทางคนรักด้วยสายตาเป็นห่วงเขาเล็งปืนขึ้น มือของเขาสั้นเพราะจับกระบอกปืนแน่นมาก เขาอยากฆ่ามันให้ตายนัก
ไคเหล่ไปมองที่รามนิดหนึ่ง เห็นว่าอีกคนกำลังจะขยับเข้าไป จึงยกมือห้ามชายหนุ่มเอาไว้เสียก่อนและพูดเบาๆ
“ใจเย็นๆ มีสติหน่อย” เสียงราบเรียบเอ่ยบอกก่อนจะพูดต่อ “บลูยังอยู่กับมัน...” ได้ผลชะงัดรามหลับตาลงพยายามสงบจิตสงบใจก่อนจะตั้งสติอีกครั้ง ชายหนุ่มไม่เป็นตัวของตัวเองเลยเมื่อเห็นคนรักบาดเจ็บเพราะเขาเองก็รู้สึกเจ็บไปด้วย
“ยอมซะเถอะเสี่ย” ไคพูดขึ้นบ้างขณะเล็งปืนไปที่หัวของท็อป มือของเขาจับปืนแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนไปทั่วทั้งแขน
“วางปืนลงซะ ไม่งั้นมันสองคนหัวกระจุยแน่” เสี่ยชัยเอ่ยขึ้นขณะขยับเข้ามาใกล้ ๆ ท็อป แต่ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หมอนนท์เดินเข้ามาอยู่ข้างหน้าไม่ไกลจากเสี่ยนพมากนัก ทุกคนเบิกตากว้างทันที คงจะมีแต่ราม ละมังที่ไม่แปลกใจเท่าไร
“เอาไงดีครับ” รามหันขอความเห็นจากไค ที่มองคนทั้งหมดตาไม่วางตา
“ดูไปก่อน” ไคพูดเบาๆ เพราะเขาเชื่อว่ามันจะต้องมีโอกาส เพราะมันกำลังจะแลกเปลี่ยนตัวประกันอาจจะใช้ช่องโหว่ตรงนี้ได้
หลังจากที่รามและไคได้ยินว่าพวกมันบอกให้หมอนนท์เดินเข้าไปหาเพื่อจะแลกตัวกับคริส ทั้งคู่หันมามองหน้ากัน ยกมุมปากยิ้มเพียงนิดเป็นเชิงรับรู้ ก่อนรามจะหันไปมองหน้าคุณบลูที่เสี่ยนพยังคงใช่ปืนจ่อไปที่หัวของเขาอยู่
รามจะพยักหน้าให้บลูที่หนึ่งบลูพยักหน้ารับเบาๆ ว่าเข้าใจ รามจึงยกยิ้มและลั่นไกลปืนทันทีเป็นจังหวะเดี๋ยวกันที่บลูสะบัดหน้าหลบไปอีกทาง
ปัง!!!
ทำให้กระสุนฝังใส่หัวของเสี่ยนพลงไปนอนกับพื้นทันทีและทำให้บลูล้มลงไปด้วยเพราะความอ่อนแรงอีกทั้งเสี่ยนพได้รั้งตัวชายหนุ่มไว้ไม่ยอมปล่อย
“ป๊าาาา” รามหันไปหาภพที่ร้องตะโกนร้องออกมาทันที เขาเล็งกระบอกปืนไปคนที่กำลังจะวิ่งเข้าไปหาพ่อของตัวเอง
ปัง!!!
แต่ภพโดนสไนเปอร์ยิงเข้าใส่เสียก่อนที่รามจะลั่นไกปืน ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่ท็อปที่จับหมอนนท์เป็นตัวประกันอยู่ รามจึงหันปืนเล็งไปที่ท็อปทันทีไคเองก็เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะฉลาดเพราะได้หันตัวหมอนนท์ให้ยืนบังตนเองจากทิศทางของสไนเปอร์ที่ยิงมาเมื่อกี้
รามหันไปมองคุณบลูอีกครั้งเพราะความเป็นห่วง บลูดูเหมือนจะหมดเรี่ยวแรงชายหนุ่มต้องนั่งพิงผนังไว้ รามยกยิ้มให้คนรักเบาๆ บลูเองก็ฝืนยิ้มตอบและพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร รามอยากจะเข้าไปกอดเสียเดี๋ยวนั้น แต่ในตอนนี้ยังทำไม่ได้เพราะถ้าเขาขยับหมอนนท์อาจจะไม่ปลอดภัย
แต่เขาก็ต้องปวดหัวหนักเมื่อมีคนเข้ามาเพิ่ม ไคและรามจึงมองหน้ากันอีกครั้งทันที ก่อนจะหันกลับไปมองชายหนุ่มตัวเล็กผิวขาวที่เดินเข้ามาใหม่ซึ่งรามจำได้ว่าชื่อมิน รามมองทั้งสี่คนตรงหน้าด้วยสายตาอ่านอยาก ก่อนจะหันไปมองด้านข้างของไคที่กัดฟันกรอดจนได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมา รามก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไคคิดอะไรอยู่แต่น่าจะไม่ชอบใจเท่าไรหรอก
ทั้งคู่ที่ยังทำอะไรไม่ได้เพราะยังไม่มีจังหวะ เลยได้แต่ดูเชิงไปก่อน
รามมองท็อปที่ดูเหมือนว่าจะกำลังสับสนเพราะมินที่พยายามเกลี้ยกล่อม และก็เห็นด้วยว่าหมอนนท์ค่อย ๆ ขยับตัวออกไปช้า ๆ แต่แล้วเหมือนท็อปจะสังเกตเห็นในที่สุด ยกกระบอกปืนขึ้นเล็งไปยังหมอนนท์ทันที
ปัง!!!! “พี่นนท์ระวัง” เสียงมินและคริสตะโกนดังลั่น
ก่อนร่างของชายหนุ่มผิวขาวจะล้มลงไปในทันทีเพราะเอาตัวไปรับลูกกระสุนแทนหมอนนท์
ปัง!!!! ไคเองก็เหนี่ยวไกยิงไปที่หัวของท็อปทันที ร่างของชายหนุ่มก็ค่อยๆ ล้มลงไปกองกับพื้นและสิ้นใจไปในที่สุด
รามไม่รอช้าเขารีบวิ่งไปหาบลูทันที ลืมความเจ็บปวดจากแผลที่ตัวเองโดนยิงมาจนหมดสิ้น ทั้งคู่โผเข้ากอดกันแนบแน่น
“ไม่เป็นไรแล้วนะครับ” รามกอดปลอบอีกคนก่อนจะผละออก เขาอยากจะเอื้อมมือไปเตะแผลที่มุมปากของบลูแต่ก็ไม่กล้าพอเพราะกลัวว่าอีกคนจะเจ็บ
“เจ็บมากหรือเปล่า” เขาพูดขณะพยุงบลูให้ลุกขึ้น โดยมีทศและลูกน้องคนอื่นๆ ยืนคุมเชิงอยู่ห่าง ๆ
“ไม่เป็นไร..พ่อบาดเจ็บนิ” คาแรกบลูไม่ทันได้สังเกตเพราะมัวแต่ดีใจ จึงไม่รู้ว่ารามเองก็มีบาดแผล
“พ่อไม่เป็นไร..แม่ปลอดภัยก็ดีแล้ว” รามว่าและกอดบลูอีกครั้ง ก่อนจะผละออกแล้วพยุงบลูเดินออกมาจากตรงนั้น
“ขอบคุณมากนะครับ” ไคเอ่ยกับรามและบลูเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงตนเอง
“ไม่เป็นไรครับ” รามพูดออกมาเสียงเรียบ บลูเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น
ด้านนอกกำลังวุ่นวายเพราะตำรวจได้มาถึงแล้วพร้อมกับรถพยาบาล และตอนนี้ก็กำลังกันพื้นที่เพื่อหาหลักฐาน รามที่พยุงคุณบลูออกมารันเวย์เห็นเข้าจึงวิ่งเข้ามาหาทันที
“เฮีย..คุณบลู” รันเวย์ร้องเรียกพี่ชายทันทีก่อนจะเข้าไปช่วยพยุงบลู ตอนแรกชายหนุ่มจะขอมาด้วยแต่รามไม่ยอม เพราะจะให้รันเวย์นำกำลังตำรวจมาตอนที่ทุกอย่างจบแล้ว
“มึงพาคุณบลูไปที่รถพยาบาลก่อน” รามบอกกับน้องชาย
“แล้วพ่อละ” บลูถามขึ้น รันเวย์ที่ช่วยพยุงอยู่ก็ได้ยินถึงกับแปลกใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“แม่ไปเถอะก่อนนะครับ...” รามบอกก่อนจะพยักหน้าเบาๆ รันเวย์จึงพาบลูไปที่รถพยาบาลตามคำสั่งของพี่ชาย
จอมเห็นบลูออกไปแล้วจึงเดินเข้ามาพร้อมกับผู้กองอัครัฐที่หันไปสั่งลูกน้องให้เก็บหลักฐานเสร็จแล้ว รามพยักหน้าให้จอมนิดหน่อยก่อนจะหันไปสนใจนายตำรวจที่ยืนอยู่ตรงหน้า จอมจึงแนะนำทั้งสองให้รู้จัก
“ไอ้รามนี่ไอ้อัค” จอมบอกก่อนจะชี้ไปที่อัครัฐ รามจึงพยักหน้านิดหนึ่งเพราะเขาไม่สันทัดกับพวกตำรวจอยู่แล้ว ผิดกับไอ้จอมที่มันขาวสะอาด
“ไอ้อัคนี่ไอ้ราม” อัครัฐจองหน้ารามนิ่งและพยักหน้าเบาๆ ผู้กองอัครัฐเป็นเพื่อนของจอมและเป็นคนที่บุกจับพวกของเสี่ยนพเมื่อครั้งก่อนตอนที่กำลังขนยาไอซ์
จอมที่เห็นบรรยากาศไม่ค่อยดีจึงเอ่ยถามเพื่อนดึงความสนใจ “ไอ้อัค...ทำไมมาทำคดีนี้ได้วะ” คาแรกจอมแปลกใจที่ได้เจอเพื่อนเพราะเท่าที่ตนเองทราบอัครัฐประจำการอยู่ชายแดน
“กูเพิ่งย้ายมา...” อัคไม่ได้ตอบอะไรมากเพราะเป็นความลับทางราชการ อีกทั้งดูเหมือนอัครัฐจะไม่ได้สนใจตอบคำถามจอมเท่าไรหนัก แต่กับจ้องหน้ารามแทน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เชิญคุณไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยนะครับ”
รามเองก็ไม่ได้หลบสายตาแข็งกระด้างที่มองมาอีกทั้งยังจ้องตอบก่อนจะเอ่ย “ด้วยความยินดี” รามไม่กลัวอยู่แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
“มึงไปทำแผลก่อนไปไอ้ราม” จอมเห็นทั้งสองจ้องกันนิ่งเลยขัดขึ้นเพราะเกรงว่าเพื่อนจะแยกเขี้ยวใส่กันเสียก่อน
“อือ” รามกำลังจะเดินผ่านอัครัฐไป แต่กับได้ยินผู้กองหนุ่มพูดขึ้นมาลอยๆ “ระวังตัว..” รามแสยะยิ้มแล้วเดินเลยไปทันที
.......................
ยังไง...ผู้กองอัครัฐจ้องหน้าพี่รามทำไม ชอบพี่รามเหรอคุณบลูตบนะบอกเลยแม่เขาหวง
ตอนหน้าไรท์แนะนำตัวละครที่เพิ่มมาดีกว่าค่ะ
โปรดคอมเม้นติชมให้กำลังด้วยความสุภาพนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
