ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Life Reset รีเซทชีวิต : การกลับมาของผู้แบกความแค้น [ภาค 1]

    ลำดับตอนที่ #3 : เผ่าพันธุ์และเวทย์มนต์

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 61


    「「「「「...........」」」」」

    เมื่อพวกนักเรียนได้ยินแบบนั้นทุกคนถึงกับใบ้แดกกันเลยทีเดียวในหัวพวกเขาคิดเพียงแต่เรื่อง แล้วพ่อแม่ ล่ะ จะไม่ได้กลับไปจริงๆหรอ นี้มันเรื่องอะไรกัน!!

     จู่ๆก็บอกว่าต้องกำจัดจอมมารบ้างล่ะ ทำสงครามบางล่ะบอกปฏิเสษก็ไม่ได้นี้มันบังคับกันชัดๆ! นักเรียนบางคนที่เข้าใจถึงเหตุการณ์ บางคนก็ร้องให้ ทำหน้าเศร้า...

     แต่ทว่าเสียงของเจ้าโล้นตรงหน้ากลับไปให้กำลังใจ.. ไม่สิ.. ข้อตกลงมากกว่าสินะ

    「อย่าเศร้าใจไป.. ถึงแม้ข้าจะบอกว่าพวกเราไม่อาจส่งกลับคืนได้.. แต่ทว่าเจ้าจอมมารมันมีแหล่งพลังเวทย์อยู่ภายในตัวสูง.. หรือจะให้อธิบายง่ายๆ หากพวกเจ้าเหล่าผู้ถูกเลือก.. ใช่.. 'ผู้กล้า!' กำจัดโค่นจอมมารได้ล่ะก็เพียงเอสแหล่งพลังเวทยนั้นมาส่งกลับเพียงพอแล้ว!!」

     นักเรียนที่เศร้าโศกเมื้อกี้ได้ยินเช่นนั้นพวกเขารู้สึกว่าต้องกำจัดจอมมารแต่ว่าในหัวของเขายังคิดว่า สามารถทำได้หรอ ? พวกเราแค่นักเรียนธรรมดา ภายในประเทศที่ไร้สงครามนะ

    ก่อนพวกเขาทุกคนจะคอตกอีกรอบ... แต่ทว่าเจ้าโล้นใส่ชุดคล้ายบาทหลวงตรงหน้าที่เห็นเช่นนั้นและก้มหน้าลงและใช้มือปิดกั้นใบหน้าไว้ก่อนที่จะแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว และเงยหน้าขึ้นมากล่าว

    「ไม่ต้องกังวลไปข้ารู้ว่าพวกเจ้าคิดอะไรอยู่.. พวกเจ้าลืมแล้วหรอว่าพวกเจ้าคือ 'ผู้กล้า' พลังที่ท่านเซเลส มอบให้พวกเจ้าน่ะเหนือกว่าพวกเจ้าจะจินตนาการ!」
    「ตามข้ามา」

    พอพูดงั้นเสร็จเจ้าโล้นตรงหน้าก็หันหลังให้ก่อนจะเดินหน้าไปหาประตูพวกเขาที่ช็อคเมื้อกี้ก่อนจะดีใจและกลับมาเศร้าอีก และแสงสว่างก็ส่องออกมาอีกว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่ง...

     พวกเขาที่ได้สติคืนก็เดินตามหลังไปเพราะยังไงก็ไม่มีทางเลือกอื่นพวกเขาเริ่มคุยซุบซิบกันไปมาและเริ่มคุยกันตามปกติได้ในที่สุด.. แน่นอนว่าคุยเกี่ยวกับโลกใบนี้..

    ในตอนนี้เองไม่มีใครรู้เลยรวมถึงเซย์จิ.. ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเบื้องหน้า

    เซย์จิจ้องมองเจ้าโล้นแบบขอไปทีก่อนจะพึมพำในใจออกมาว่า 『เห้ยๆ แบบนั้นมันฆ่าเพื่อตัวเองไม่ใช่หรอ.. ถึงจะไม่รู้ว่าจอมมารเนี้ยเลวทรามไหมก็เถอะแต่ก็มีในอนิเม มังกะ บ่อยๆนี้แบบจอมมารตัวดีไรงี้... ยัง ผู้กล้า****กับจอมมาร***** ไรงี้』

     ในตอนนั้นเองจู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาเป็นเสียงที่คุ้นเคย...

    「เจ้าแว่นโอตาคุโง่เง่า! โชโกะเขาเป็นห่วงทำไมไม่รวมกันห๊ะในสถานะการแบบนี้」


    เจ้าของเสียงแน่นอนว่าเป็นใครที่ไหนไม่ได้ที่จะเข้ามาคุยกับเซย์จิและแม้จะสถานะการแบบนี้ก็ตามที.. นั้นคือ ชิซึรุ..และตามมาด้วยโชโกะ

     พอเห็นทั้งคู่แบบนี้แล้วเซย์จิก็หวนนึกถึงคนอีกคนนั้นคือเอริ.. เขาคิดว่า... 『แล้วทำไมยัยเอริถึงไม่ออกหน้าช่วยพวกนักเรียนตัวเองล่ะเนี้ย... เห้ยๆอย่าบอกนะว่า.. นิสัยตกใจมากกว่าคนปกติเขายังไม่หาย..』 คิ้วของเซย์จิกระตุกทันที

     เซย์จิจะเรียก เอริ ว่ายัยไม่แปลกเลยจะยังไงซะแต่ก่อนก็เป็นเพื่อนกันไม่ใช่ว่าไม่เคารพคุณครูอะไรแบบนั้นนะแต่จะว่าไงล่ะ ติดเป็นนิสัยมั้ง อะแฮะ ?

    สำหรับชิซึรุ เป็นพวกที่แบบนั้นล่ะทำตัวเป็นผู้นำ (ถึงจะในทางที่ซึนๆ) ไม่ขี้โวยวายเป็นบ้าเป็นหลัง คนมีเหตุผล (แบบซึนๆ) จะยังไงก็ตามแต่เขาก็เป็นห่วงเซย์จิมาก... แน่ว่าเซย์จิพอมองออกอยู่บ้าง..
    「เห๋.... ใช่หรอ.. ไม่ใช่ว่าเธอหรอกหรอเป็นห่วงชั้น」
    「ใครจะไปห่วงคนอย่างนายกันย้ะ !!! ไปกันเถอะโชโกะ」

    กล่าวเสร็จก็ลากแขนโชโกะออกไปทันทีเซย์จิถอนหายใจคราหนึ่งก่อนจะเดินตามหลังเจ้าโล้นไปกับคนอื่น... ะอหันมองซ้ายมองขวาสายตาก็ไปบรรจบกับจุดๆหนึ่ง...

     นั้นคือเอริ!! เอริกำลังเดินตามเจ้าโล้นด้วยตัวสั่นๆพร้อมนักเรียนล้อมหน้าล้อมหลัง...เซย์จิหรี่ตาลงพร้อมพึมพำ 『เห้ยๆ คนที่ควรปกป้องต้องเป็นอาจารย์ไม่ใช่หรอ... เห้อ~~ หลังจากนี้ค่อยไปหาล่ะกัน』

     แน่นอนเพราะว่าไปตอนนี้มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่?

    พอเดินออกจากจุดเดิมผ่านประตูออกมาก็สามารถมองเห็นบ้านผ่านมุมมองต่ำเพราะว่านี้คือใจกลางปราสาท!!! ก่อนจะเดินลงไปตามบันไดเลื่อยๆ... 

     และตามทางไปก็มีพวกยามทหาร ใส่ชุดเกราะเต็มไปหมดบ้านเรือนส่วนใหญ่ก็เป็นบ้านยุคกลาง... และเห็นคนก่อสร้างบ้าง และเห็นคนฝึกภายในนี้บาง..ซึ้งคนฝึกส่วนใหญ่จะมีคัมภีร์ลอยอยู่ตรงหน้าด้วย

     บางคนอาจไม่มีแต่กับมีพลังร่างกายที่สูงลิบสะงั้น... แต่แบบนั้นก็ไม่ทำให้เซย์จิตกใจ นอกเหนือจากเซย์จิตกใจกันหมด.. เพร่ะว่าเซย์จิมีความจำเกี่ยวกับเวทย์มนต์นั้นเอง..

     ในเวลาต่อมาไม่นาพวกเขาได้หยุดลงเป็นตึก.. ไม่สิปราสาททรงกลมสูงกว่าห้าเมตรซึ้งมีขนาดใหญ่มากๆไม่สามารถเดาได้เลยว่าอะไรข้างใน...

     หลังจากนั้นเจ้าโล้นก็เดินเข้าไปภายในพวกนักเรียนรวมถึงเซย์จิก็เดินตามไปด้วย... ภาพเบื้องหน้าทำให้พวกเขาอ้าปากค้างเบิกตากว้าง... มันคือห้องสมุด!! ที่น่าแปลกคือ มันเป็นชั้นสมุดจนไปถึงช่วงบนสุด และไม่มีบันไดเลย!!

     อีกอย่างตรงกลางมีกล่องสีดำๆลอยอยู่ที่สูงกว่าพื้นราวๆสามเมตร มันเป็นกล่องสี่เหลี่ยม แต่ไม่ได้ตั้งอยู่เชยๆมันหมุนไปมาไม่เร็วไม่ช้า และมีหนังสือบางส่วนลอยไปลอยมา!
    「เอาล่ะ.. ยินดีต้อนรัลสู่โลกแห่งเวทย์มนต์ อาณาจักรไทน์มิด!! ข้ามีชื่อว่า เฟลิกซ์ เป็นผู้นำเหลาผู้ศรัทธาในท่านเซเลสของโลกใบนี้.. ยินดีที่ได้รู้จักผู้กล้าทุกท่าน」

     เจ้าโล้นเฟลิกซ์โค้งลงอย่างช้าๆก่อนจะกล่าวต่อ..

    「อ่ะ แฮ่ม.. แนะนำตัวพวกท่านเอาไว้คราวหลัง.. ข้าจะขออธิบายเกี่ยวกับที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน และเกี่ยวกับเวทย์มนต์!!」

    ไม่รัรออะไรเจ้าโล้นกล่าวต่อทันที
    「ภายในโลกแห่งนี้.. มีเผ่าพันธุ์อยู่มากมายหลายเผ่าพันธุ์ แต่จำแนกออกเป็นเผ่าใหญ่ๆอยู่ 5 อย่าง... 1 มนุษย์... 2 อมนุษย์ 3 กึ่งมนุษย์ 4 มอนส์เตอร์ 5 ปีศาจ..... มนุษย์คือพวกเรา... อมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตน่ารังเกียจที่สามารแปรงกายเป็นมนุษย์ และไล่โจมตีมนุษย์เหมือนมอนส์เตอร์ (แตกต่างจากพวกอีกพวกหนึ่งที่แปรงกายได้เช่นกัน) กึ่งมนุษย์ คือพวกที่ครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ประหลาด มอนส์เตอร์... จะจำแนกว่าปีศาจชั้นต่ำก็ได้.. ปีศาจ.. เผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกับเรามานานแน่นอนว่าตอนนี้ด้วย.. พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์อันชั่วร้าย!!!」

    เจ้าโล้นมันกำหมัดแน่นในตอนที่กล่าวถึงปีศาจราวกับศัตรูพ่อศัตรูแม่ มันทำให้เซย์จิคิดขึ้นมาทันทีว่า 『เห้ยๆ ไม่เห็นมีข้อมูลที่แบบไล่ฆ่ามนุษย์ไร้เหตุปลเลยนะ ไหงกลายเป็นเลวสุดฟสะงั้น』

     เจ้าโล้นถอนหายใจก่อนจะมาตั้งหน้าตั้งตาอธิบายต่อ
    「สำหรับเวทย์มนต์... ในโลกแห่งนี้เวทย์มนต์จำแนกออกเป็นสามแบบ... หนึ่ง ผู้ใช้คัมภีร์เวทย์.. สอง ผู้ใช้เวทย์พิเศษ สาม ผู้ใช้เวทย์.... สำหรับผู้ใช้คัมภีร์เวทย์นั้นสามารถหาพบเจอได้ง่ายมาก... ไม่สิ จะว่าแบบนั้นก็ไม่ใช่าะทีเดียว เพราะขึ้นอยู่กัยความสามารถด้วย ถึงจะสามารถใช้เวทย์ได้... ผู้ใช้เวทย์พิเศษ คือคนที่ไม่สามารถใช้คัมภีร์เวทย์ได้แต่มีอาชีพเช่นนักสู้ สามารถเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายได้ และอื่นๆ แต่ไม่สามารถใช้เวทย์ธาตุและแข็งแกร่งได้ สาม.. ผู้ใช้เวทย์.. จะว่าตามตรงก็เป็นแค่ตำนานน่ะ ผู้ใช้เวทย์ เพียงแค่ร่ายเวทย์ก็สามารถปลดเวทย์มนต์ออกมาได้ ทั้งยังแข็งแกร่งกว่า คัมภีร์เวทย์ทุกชนิด...」

    「อ่ะ แฮ่ม.. ถึงจะกล่าวไปแบบนั้นแต่ผู้กล้าทุกท่านก็ต้องใช้ได้แค่คัมภีร์เวทย์เท่านั้นล่ะ.. เพราะว่าเวทย์พิเศษไม่สามารถปลูกฝังลงได้แม้แต่อำนาจของท่านเซเลสก็ตามที.. ดังนั้นจะไม่มีใครที่ไม่สามารถใช้คัมภีร์ได้นั้นเอง... สำหรับคัมภีร์เวทย์แล้ว... ยังแบ่งออกตามความสามารถของความแข็งแกร่งอีก 5 ขั้น.....
    1. ทองแดง (คัมภีร์สีทองแดง)
    2. เงิน (คัมภีร์สีเงิน)
    3. ทอง (คัมภีร์สีทอง)
    4. ทองคำดำ (คัมภีร์สีทองอมดำ)
    5. ไร้ลักษณ์ (ว่างปล่าวไม่มีสี.. ไม่มีอะไรเลย) - รวมถึงข้อมูล... ถึงจะบอกไปแบบนั้นในที่แห่งนี้มีทุกชั้นเลยล่ะไม่ว่าจะคัมภีร์ทองคำดำก็ตามที แต่ไร้ลักษณ์ นั้นไม่มีอยู่บนโลกนี้หรอก.. เพราะไม่เคยมี.. แต่ตามที่บอกต่อกันมา ก็มีข้อห้านี้ล่ะดูบิดเบือนที่สุด คงเป็นปลุงแต่งมาเอง แต่อย่าไปสนใจเลย...」 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×