ล้ำโลกโลกาภิวัฒน์

ลำดับตอนที่ #193 : ครั้งแรกของโลก “แขนคนเหล็ก” พัฒนาใช้ได้จริงแล้ว

        แขนจักรกลดังที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์ฮอลลีวูดแนวคนเหล็กทั้งหลายได้ฤกษ์แสดงตัวแล้ว หลังทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ สามารถพัฒนาจนเป็นผลสำเร็จ และทดลองให้ชายชาวโคโลราโด นาม Leslie Baugh ผู้สูญเสียแขนทั้งสองได้สวม ซึ่งเขาสามารถควบคุมมันได้หลังการอบรมการใช้งานเพียง 10 วันเท่านั้น
       
       จากชายผู้โชคร้ายที่ต้องสูญเสียแขนทั้งสองไปนานกว่า 40 ปี มาวันนี้ Leslie Baugh กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รับแขนจักรกลมาสวมทดแทน ซึ่งเขาสามารถสั่งการให้แขนทั้งสองข้างทำงานต่าง ๆ เช่น ย้ายสิ่งของจากชั้นวางหนึ่งไปยังอีกชั้นหนึ่งได้แล้ว
       
       ความสำเร็จครั้งนี้เป็นของนักวิจัยจาก Applied Physics Laboratory (APL) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นแขนกลชิ้นแรกที่มนุษย์สามารถสวมได้ พร้อมระบบการควบคุมการเคลื่อนไหวแขนทั้งสองข้างได้ในเวลาเดียวกัน
       
       สำหรับระยะเวลาที่ใช้ในการพัฒนานั้น ทางนักวิจัยเผยว่าใช้เวลานานกว่า 10 ปี โดยโครงการดังกล่าวได้รับทุนสนับสนุนจาก The Defense Advanced Research Project Agency และ Baugh ก็เป็นหนึ่งในทีมงานการทดลองนี้ด้วย
       
       แม้ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในวงการแพทย์ แต่แน่นอนว่า เส้นทางของการพัฒนาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของรอยยิ้ม หรือเสียงหัวเราะ เพราะ Baugh เผยว่า เขาต้องทนทุกข์ทรมานในการผ่าตัด และความเจ็บปวดมามากมาย
       
       อีกทั้ง Baugh ยังต้องเข้ารับการสแกนร่ายกายเพื่อสร้างชุดโปรโตไทป์ขึ้นมาให้เข้ากับร่างกายของเขา รวมถึงกำหนดจุดที่จะเชื่อมต่อเส้นประสาทเข้ากับระบบสั่งการของแขนจักรกลในการเคลื่อนไหว
       
       

       
       นักวิจัยยังได้จัดคอร์สอบรมเพื่อให้เขาได้ทดลองสั่งการแขนจักรกลในระบบเสมือนจริงด้วย โดยหน้าที่ของเขาคือการฝึก “คิด” ให้แขนจักรกลยกขึ้น-ลง ซึ่งถ้าการเชื่อมต่อทำได้สำเร็จ แขนจำลองก็จะสามารถยกขึ้นลงได้อย่างที่เขาตั้งใจ
       
       แม้จะเป็นงานที่ยากลำบากพอสมควร แต่ Baugh ก็ผ่านการทดสอบนั้นมาได้ ตอนนี้เขาสามารถควบคุมแขนจักรกลให้ยกสิ่งของจากที่หนึ่งไปวางอีกที่หนึ่งได้แล้ว
       
       “ความสำเร็จของเราในวันนี้ก็เหมือนยุคเริ่มแรกของอินเทอร์เน็ต มีโอกาสมากมายรอเราอยู่ ซึ่งอีก 5-10 ปีข้างหน้าอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่อย่างที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้” Mike McLaoughlin หัวหน้าโครงการแขนเทียมกล่าวปิดท้าย 

ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000145624