เรื่องรอบ ๆ ตัวแบบนี้ "คุณรู้หรือไม่"

ลำดับตอนที่ #450 : รู้หรือไม่ "หูฟังที่เราใช้ฟังเพลงมีกี่แบบกัน"

          คำตอบมาจากบทความใน guru.sanook.com ที่ให้ข้อมูลไว้ว่า หูฟัง หรือเฮดโฟน (Headphone) แบ่งออกได้กว้างๆ เป็น 4 แบบ ดังนี้ 1.ฟูลไซซ์ เฮดโฟน (Circumaural) เป็นหูฟังที่มีขนาดใหญ่ ประเภทครอบเต็ม หรือคาดบนศีรษะ มีลักษณะแบบครอบทั้งใบหู หรือแนบบนใบหู ลักษณะเด่นจะมีลำโพงขนาดค่อนข้างใหญ่พอที่จะครอบทับหูของเราได้ ช่วยให้เสียงที่ได้มีบรรยากาศ มีมิติที่ดี สมจริงใกล้เคียงลำโพงเครื่องเสียงภายในบ้าน โดยปกติหูฟังแบบนี้เหมาะสำหรับการใช้งานแบบส่วนตัวและอยู่กับที่ ไม่เหมาะกับการพกพา เพราะข้อจำกัดของหูฟังที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำหนัก

หูฟังแบบฟูลไซซ์ยังแยกย่อยได้เป็น 1.โอเพ่น ไทพ์ หรือแบบเปิด นิยมใช้ในหูฟังไฮ-ไฟทั่วไป โดยเสียงจะผ่านออกทางด้านข้างของตัวหูฟังได้ ข้อดีคือฟังได้นาน ไม่อึดอัด เหมาะสำหรับใช้งานภายในที่พักอาศัยทั่วๆ ไป ไม่เหมาะใช้งานในสตูดิโอ เพราะจะได้ยินเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอกเล็ดลอดเข้ามา 

2.โคลส ไทพ์ หรือแบบปิด ด้านข้างของหูฟังจะถูกซีลเอาไว้เพื่อป้องกันเสียงภายนอกลอดเข้ามา และเสียงจากหูฟังก็จะไม่ดังลอดผ่านออกไปได้เช่นกัน เหมาะสำหรับงานมอนิเตอร์ สตูดิโอ งานคอนเสิร์ต โดยเฉพาะสำหรับดีเจ.ทั้งหลาย เนื่องจากป้องกันเสียงรอบข้างรบกวนได้ดีเยี่ยม 

3.แบบกึ่งเปิด-ปิด ส่วนใหญ่มักจะใช้ในงานสตูดิโอ ซาวด์เอ็นจิเนียร์ แต่อาจไม่เหมาะสำหรับดีเจ.หรืองานคอนเสิร์ต เพราะเสียงเล็ดลอดเข้า-ออกได้อยู่บ้าง หรือจะเอาไว้ฟังในที่พักอาศัยก็ได้



2.เซมิ-ฟูลไซซ์ เฮดโฟน (Supra-aural) คือหูฟังแบบฟูลไซซ์ที่ย่อส่วนลงมา ทำให้มีขนาดเล็กกว่าพอสมควร ออกแบบมา เพื่อสามารถพกพาได้สะดวก ลักษณะเด่นของลำโพงเป็นแบบ แนบหู ไม่ได้ครอบปิดหูเหมือนแบบฟูลไซซ์ 

ข้อดีคือทำให้มีขนาดเล็กลง พกพาสะดวกขึ้น แต่มีข้อเสียคือป้องกันเสียงรอบข้างแทบจะไม่ได้เลย รวมถึงเสียงบรรยากาศที่ได้ก็ไม่เท่ากับหูฟังแบบฟูลไซซ์ แต่ด้วยจุดเด่นที่มีขนาดเล็กและพกพาสะดวก จึงมีการคิดค้นดีไซน์ออกมาหลายรูปแบบ และการแบ่งแยกหูฟังในส่วนนี้จะแยกตามรูปแบบการดีไซน์เป็นหลัก

3.ไมโคร-ไซซ์ (Micro-Size) เป็นหูฟังที่พัฒนามาจากแบบที่ 2 เพื่อให้พกพาได้ง่ายขึ้นและใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในท้องตลาดปัจจุบันถือได้ว่าเป็นหูฟังที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดและ มีจำหน่ายมากที่สุดในบรรดาหูฟังทุกประเภท มีหลากหลายยี่ห้อ ตั้งแต่ราคาและคุณภาพต่ำสุดจนถึงราคาแพงคุณภาพดีที่สุด 



จุดเด่นของหูฟังประเภทนี้คือ มีระยะที่ใกล้ชิดกับหู ทำให้ ได้ยินเสียงทุกมิติชัดเจน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นหูฟังที่ทำให้ มีคุณภาพดีได้ยากที่สุด เพราะข้อจำกัดของขนาดทรานส์ดิวเซอร์ (Transducer) ที่เล็กมากและระยะที่ใกล้ชิดกับหูมากๆ ทำให้ การออกแบบเพื่อได้มิติเสียงที่ดี โดยเฉพาะในย่านความถี่ต่ำ ทำได้ยาก



4.เฮดเซ็ต (Headset) หูฟังประเภทนี้มีลักษณะเด่นคือ มีไมโครโฟนยื่นออกมา สำหรับใช้ในการสื่อสาร งานด้าน คอลเซ็นเตอร์ และในหมู่นักเล่นเกมส์ออนไลน์ทั้งหลาย ซึ่งนอกจากจะใช้ฟังเสียงแล้วยังได้คุยสนทนาสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย ทั้งนี้ เฮดเซ็ตจะระบุไว้ชัดเจนว่าสำหรับสื่อสารเท่านั้น หรือเพื่อเล่นเกมส์ด้วย ซึ่งจะมีราคาแพงกว่า แต่แลกกับอรรถรสและความมันส์ในการเล่นเกมส์ที่มากกว่าเดิม



การเลือกซื้อหูฟังซักตัว นอกเหนือจากเรื่องเสียง รูปลักษณ์และงบประมาณแล้ว ควรดูลักษณะการใช้งานด้วยว่า ส่วนใหญ่เราใช้งานในลักษณะไหน เช่น ออกนอกบ้านบ่อยๆ ใช้ข้างนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ ก็ควรใช้หูฟังแบบเซมิ-ฟูลไซซ์ หรือไมโคร-ฟูลไซซ์ แต่ถ้าใช้อยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ น่าจะหาหูฟังแบบ ฟูลไซซ์ดีๆ ใส่สบายๆ จะดีกว่า

Credit http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakkwTURJMU9BPT0=&sectionid=
Y25Wd1lXbHRiMlJs&day=TWpBeE5TMHdNaTB5TkE9PQ==