ลำดับตอนที่ #397
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #397 : รู้หรือไม่ "เขตปลอดทหารต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง"
เขตปลอดทหาร (Demiitarized zone) มีตัวย่อเรียกว่า DMZ ดีเอ็มซี คืออาณาบริเวณซึ่งปฏิบัติการทางทหารใดๆ รวมไปถึงการวางกำลังทั้งในเชิงรุกและรับ ถูกสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด โดยอนุสัญญา ข้อตกลง หรือคำสั่งของหน่วยงานสากลซึ่งมีอำนาจ ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ซึ่งมักเกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างประเทศที่มีการวางกำลังเผชิญหน้ากัน
จุดประสงค์หลักของการตั้งเขตปลอดทหาร คือเพื่อลดความตึงเครียดและโอกาสในการปะทะกันจนก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง
ส่วนใหญ่แล้วเขตปลอดทหารจะเกิดขึ้นหลังเกิดการสู้รบรุนแรงระหว่างสองดินแดนเป็นอย่างน้อย จนมีผู้คนล้มตายอย่างไม่ขาดสาย จึงจำเป็นต้องตั้งเขตกั้นที่ไม่มีทหารของสองฝ่ายเข้าไปอยู่
เขตปลอดทหารบางแห่งยังถือเป็นพื้นที่อันไม่ถูกครอบครองโดยชาติใดๆ หรือไม่มีประเทศใดมีอธิปไตยเหนือพื้นที่ดังกล่าวด้วย เรียกว่า พื้นที่เป็นกลาง (Neutra Teritory) เนื่องจากไม่มีหน่วยงานด้านความมั่นคงใดๆ ได้รับอนุญาตในพื้นที่ รวมทั้งไม่มีหน่วยงานด้านพลเรือนที่มีสิทธิขาดในพื้นที่นั้นด้วย ในบางกรณีอาจเป็นพื้นที่เป็นกลางต่อไปแม้หลังการตัดสินเรื่องอธิปไตยจบไปแล้ว
นอกจากนี้ เขตปลอดทหารหลายแห่งในโลกกลายเป็นพื้นที่อนุรักษ์ไปโดยปริยายด้วย เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงไม่กล้าเดินทางเข้าไปเพื่อทำกิน จึงทำให้ปราศจากสิ่งปลูกสร้าง พลเรือน และโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน
ปัจจุบันเขตปลอดทหารทั่วโลกมีอยู่ 11 แห่ง ได้แก่
1.บริเวณเมืองเซต้ากับมาลิญ่า ชายแดนประเทศโมร็อกโกกับสเปน
2.ทวีปแอนตาร์กติกา หรือขั้วโลกใต้
3.ชายแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
4.ชายแดนประเทศอิรักและคูเวต
5.คาบสมุทรไซไน ซึ่งจำกัดปริมาณการวางกำลังของอียิปต์
6.ที่ราบสูงโกลันในประเทศอิสราเอล เป็นพื้นที่ประจำการ กองกำลังผู้สังเกตการณ์ยุติการปะทะแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นดีโอเอฟ
7.พื้นที่กันชน หรือบัฟเฟอร์โซน ระหว่างสาธารณรัฐไซปรัสเหนือที่แยกตัวออกมาจากประเทศไซปรัส 8.หมู่เกาะโอลันด์ นอกชายฝั่งประเทศฟินแลนด์ 9.พื้นที่กันชนระหว่างสาธารณรัฐมอลโดวาและประเทศทราสนิสเตรียที่แยกตัวออกมา
10.ชายแดนยาว 5 กิโลเมตร ระหว่างประเทศโคโซโวกับเซอร์เบีย และ 11.หมู่เกาะสวาลบาร์ของประเทศนอร์เวย์
สำหรับเขตปลอดทหารกรณีบริเวณเขาพระวิหารที่พิพาทกันระหว่างประเทศไทยและกัมพูชานั้นเป็นมาตรการชั่วคราวที่ศาลโลกมีคำสั่งเมื่อ 18 ก.ค.2554 เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีและลดภาวะตึงเครียดในพื้นที่เท่านั้น ซึ่งประชาชนทั่วไปในพื้นที่ยังอยู่อาศัยได้ตามปกติ
คำสั่งเปลี่ยนแปลงได้ หากมีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยเหนือดินแดนของฝ่ายใดทั้งสิ้น และเป็นเพียงระยะเวลาชั่วคราวจนกว่าศาลจะตีความพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเสร็จสิ้น
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น