ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องรอบ ๆ ตัวแบบนี้ "คุณรู้หรือไม่"

    ลำดับตอนที่ #186 : รู้หรือไม่ "สมองเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายต่างกันยังไง"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.03K
      1
      26 ส.ค. 52

    สมองหญิงชายต่างกันอย่างไร


    สมองหญิงชายต่างกันอย่างไร (Mother & Care)

              เรื่องสมองเป็นเรื่องที่มนุษย์พยายามศึกษาวิจัยกันมาช้านาน และก็มีผลงานวิจัยที่ทำให้เราต้องทึ่งกับการทำงานของสมองกันมากมาย เช่นกัน แม้กระทั่งความแตกต่างกันเรื่องเพศ ก็เป็นผลพวงจากการทำงานของสมองที่ต่างกัน ทำให้พฤติกรรม ความสามารถความถนัดแต่ละด้านมีความแตกต่าง ฉบับนี้มาดูข้อมูล ความแตกต่างของสมองผู้หญิง ผู้ชายเพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะมีความเข้าใจในธรรมชาติของลูกมากขึ้น

              สมองเด็กผู้หญิง

              ระบบการเชื่อมโยงของเซลล์สมองมีมากกว่าเด็กผู้ชาย

              ใช้สมองทั้งสองซีกได้ดีมาก หากมีการทำลายสมองซีกซ้าย เด็กผู้หญิงยังสามารถใช้สมองซีกขวาในการสื่อสารได้ แต่เด็กผู้ชายทำไม่ได้หรือทำได้ช้ากว่า

              ขนาดของสมองส่วนคอร์ปัส คัลโลซุ่ม (Corpus Callosum) มีมากกว่าเด็กผู้ชาย จึงมีความสามารถในการส่งข้อมูลระหว่างสมองซีกซ้ายกับซีกขวาที่เร็วกว่าเด็กผู้ชาย

              ความสามารถในการแสดงความรู้สึก อารมณ์ และสร้างความผูกพันทางอารมณ์ดีกว่าเด็กผู้ชาย

              รับรู้ เข้าใจ การแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง จดจำหน้าคนได้ดีสามารถรับรู้อารมณ์ที่แสดงออกทางเสียงดีกว่าเด็กผู้ชาย (ไวต่อกลิ่น รส การสัมผัส และเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงสูง)

              พัฒนาการของสมองซีกขวาเติบโตเร็วกว่าเด็กผู้ชาย มีความสามารถด้านภาษา ไวยากรณ์ ลูกสาวจึงเป็นเด็กช่างพูดช่างเจรจา

              มีความสามารถในการอ่าน โดยเฉพาะการอ่านที่มีข้อความสัมพันธ์กับความรู้สึกและอารมณ์

              การรับรู้ทางสายตา โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดต่างๆ มีความคล่องแคล่วในการใช้กล้ามเนื้อมือ-ตา

              มีความสามารถในการรับข้อมูลและนำมาคิดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะงานที่ให้เลือกตอบโดยอาศัยความเร็ว เช่น ข้อสอบแบบมีตัวเลือก

              มีความสนใจในเรื่องความรับผิดชอบทางสังคม ความรู้สึกเข้าอกเข้าใจคนอื่น


              สมองเด็กผู้ชาย

              จำนวนเซลล์สมองมากกว่าเด็กผู้หญิงประมาณ 4% และมีเนื้อสมองมากกว่าเด็กผู้หญิงประมาณ 1 ขีด

              ใช้สมองซีกซ้ายได้ดีกว่าเด็กผู้หญิง

              มีทักษะในด้านมิติสัมพันธ์ที่ดี การรับรู้ เกี่ยวกับมิติต่างๆ ความลึก ทิศทาง ระยะห่าง การรับรู้วัตถุที่มีสามมิติซ่อนอยู่ในภาพสองมิติได้

              เด็กผู้ชายมีความความผูกพันกับคนอื่นน้อยกว่าเด็กผู้หญิง

              การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทำได้ดีกว่าเด็กผู้หญิง

              สามารถคิดได้ซับซ้อน เช่น เรื่องแผนที่ ปริศนาต่างๆ

              มีความสามารถในการวิจัยและค้นคว้า ทดลอง สังเกตสิ่งต่างๆ ได้ดี

              มีความสามารถในการใช้ภาษาที่จะสื่อ อธิบายเหตุผล หรือความคิดทางคณิตศาสตร์

              มีความคิดที่อิสระในสถานการณ์ต่างๆ มากกว่าเด็กผู้หญิง


              หลักการพัฒนาสมอง

              การพัฒนาสมอง สิ่งสำคัญคือการกระตุ้น ฝึกฝนทักษะจากทุกส่วนประสานกัน เพื่อให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆ รอบตัว ผ่านการเรียนรู้ไปทีละขั้นตอนโดยทำความเข้าใจสิ่งที่เรียนรู้มาก่อน เมื่อมีประสบการณ์ใหม่เข้ามา ก็จะทำความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ให้ชัดเจนขึ้น การเรียนรู้ในขั้นตอนเดิมจะมีผลต่อการทำความเข้าใจสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามา ช่วยให้เด็กเกิดความเข้าใจ จากข้อมูลที่สะสม โยงความคิดเข้าด้วยกัน ยิ่งสร้างหรือส่งเสริมเท่าไร สมองก็ยิ่งมีศักยภาพความสามารถมากขึ้น

              ต่อไปนี้ คือช่วงลำดับการเติบโตของสมองในแต่ละวัยที่สำคัญ พร้อมแนวทางการพัฒนา เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่นำไปประยุกต์ใช้กับลูกน้อยค่ะ

              4 เดือน : สมองเด็กทุกคนตอบสนองต่อเสียงได้ เริ่มรับรู้ภาษาจากการฟังเสียงสูง เสียงต่ำ รับรู้และปรับเข้ากับความแตกต่างของอารมณ์จากน้ำเสียงการเล่นละคร หุ่นมือ ใช้เสียงสูงต่ำเล่าเรื่อง จะช่วยกระตุ้นการเชื่อมโยงของเซลล์สมองได้ดี

              8-9 เดือน : สามารถจดจำบางสิ่งบางอย่างจากประสบการณ์ที่ได้รับ เช่น จะทำให้ลูกบอลกลิ้งได้อย่างไร การเล่นกับลูกก็เป็นการเรียนรู้ สร้างประสบการณ์ที่สนุกวิธีหนึ่ง

              10 เดือน : จำแนกและสร้างเสียงเฉพาะของตัวเองได้ เช่น ดาดา การเปิดโอกาสให้ลูกมีปฏิสัมพันธ์เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ได้ยิน ได้เห็นอะไรใหม่ๆ จะช่วยกระตุ้นเซลล์สมองให้เชื่อมโยงกันมากขึ้น

              12 เดือน : สมองสามารถจดจำ เรียกความจำบางส่วนที่เก็บไว้ออกมาใช้ เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลที่ดีขึ้น ทักษะต่างๆ พัฒนามากขึ้น เช่น กล้ามเนื้อมัดเล็ก-มัดใหญ่ การเปล่งเสียงที่เริ่มพัฒนาไปสู่การพูด

              ฉะนั้น ไม่ว่าลูกเพศใดก็ตาม ก็สามารถพัฒนาศักยภาพสมองได้ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ที่มีส่วนในการเลี้ยงดูที่เหมาะสม สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของลูก



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก



    ฉบับเดือนกรกฎาคม 2552

    ข้อมูลอ้างอิง

    - รายงานสิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้ สร้างสมองเด็กให้ฉลาดได้อย่างไร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี และหนังสือชุดสร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะโดย ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์

    - องค์ความรู้เรื่องสมองและการเรียนรู้ในปัจจุบันและสภาพปัญหา เพื่อชี้ทางออกสำหรับพัฒนาเด็กไทยและเยาวชน : พญ.จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ

    Credit www.kapook.com

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×