ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : รู้หรือไม่ "โอวัลตินกับไมโล ใครเกิดก่อนกัน"
ถ้าจะให้พูดถึงกำเนิดของเครื่องดื่มนมผสมมอลต์สกัดรสช็อกโกแลตหรือโกโก้ว่าระหว่างโอวัลตินกับไมโลนั้น แบรนด์ใดที่มีขึ้นก่อนกัน คงต้องตอบว่าเป็นแบรนด์ของโอวัลตินซึ่งได้รับการแนะนำให้เป็นที่รู้จักครั้งแรกในปี 1904 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่ไมโลนั้น ผลิตขึ้นโดยบริษัทเนสท์เล่ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเริ่มในปี 1934
สำหรับผู้คิดค้นสูตรโอวัลตินดั้งเดิมนั้นคือ ดร.อัลเบิร์ต วันเดอร์ ลูกชายเจ้าของบริษัทวันเดอร์ เอจี บริษัทย่อยของทไวนนิงส์ โดยแต่เดิมโอวัลตินไม่ได้มีชื่ออย่างที่เราเรียกกันในปัจจุบัน แต่ชื่อของมันคือ Ovomaltine ที่มาจากคำว่า ovum ที่แปลว่าไข่ในภาษาละติน และคำว่า malt ซึ่งทั้งไข่และมอลต์เป็นส่วนประกอบสำคัญในสูตรดั้งเดิมของเครื่องดื่มนมผสมชนิดนี้ จนในปี 1909 เมื่อโอวัลตินถูกส่งออกขายในประเทศอังกฤษ กระบวนการจดทะเบียนการค้ากลับมีการสะกดชื่อแบรนด์ผิด จนกลายเป็น Ovaltine หรือโอวัลตินที่เรารู้จักมาจนปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในปี 2002 บริษัท Associated British Foods หรือ ABF ก็ซื้อสิทธิ์ในการผลิตและส่งออกเครื่องดื่มนมรสช็อกโกแลตมอลต์ตราโอวัลตินที่จะส่งออกให้กับสวิตเซอร์แลนด์ จีน ฟิลิปปินส์ และไทยมาจากบริษัทโนวาร์ทิสของสวิตเซอร์แลนด์ แต่ในสหรัฐฯ นั้นการผลิตโอวัลตินออกขายก็ยังเป็นสิทธิ์ของโนวาร์ทิสอยู่เช่นเดิม
สำหรับ ไมโลนั้นได้รับการพัฒนาสูตรขึ้นโดยโธมัส เมย์น ซึ่งทำการวิจัยคิดค้นสูตรอย่างหนักในโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองสมิธ ทาวน์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ส่วนชื่อผลิตภัณฑ์นั้นได้มาจากชื่อของนักกีฑาชาวกรีกโบราณที่ชื่อ ไมโลแห่งเมืองโครตอน โดยในปี 2004 ที่ผ่านมานี้ บริษัทเนสท์เล่ได้ฉลองการผลิตไมโลออกขายครบรอบ 70 ปีพอดีอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยก็เป็นลูกค้าคนสำคัญของทั้งสองแบรนด์มานมนานตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า ขึ้นอยู่กับว่าใครจะพอใจในรสชาติของแบรนด์มากกว่ากัน
ที่มา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
สำหรับผู้คิดค้นสูตรโอวัลตินดั้งเดิมนั้นคือ ดร.อัลเบิร์ต วันเดอร์ ลูกชายเจ้าของบริษัทวันเดอร์ เอจี บริษัทย่อยของทไวนนิงส์ โดยแต่เดิมโอวัลตินไม่ได้มีชื่ออย่างที่เราเรียกกันในปัจจุบัน แต่ชื่อของมันคือ Ovomaltine ที่มาจากคำว่า ovum ที่แปลว่าไข่ในภาษาละติน และคำว่า malt ซึ่งทั้งไข่และมอลต์เป็นส่วนประกอบสำคัญในสูตรดั้งเดิมของเครื่องดื่มนมผสมชนิดนี้ จนในปี 1909 เมื่อโอวัลตินถูกส่งออกขายในประเทศอังกฤษ กระบวนการจดทะเบียนการค้ากลับมีการสะกดชื่อแบรนด์ผิด จนกลายเป็น Ovaltine หรือโอวัลตินที่เรารู้จักมาจนปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในปี 2002 บริษัท Associated British Foods หรือ ABF ก็ซื้อสิทธิ์ในการผลิตและส่งออกเครื่องดื่มนมรสช็อกโกแลตมอลต์ตราโอวัลตินที่จะส่งออกให้กับสวิตเซอร์แลนด์ จีน ฟิลิปปินส์ และไทยมาจากบริษัทโนวาร์ทิสของสวิตเซอร์แลนด์ แต่ในสหรัฐฯ นั้นการผลิตโอวัลตินออกขายก็ยังเป็นสิทธิ์ของโนวาร์ทิสอยู่เช่นเดิม
สำหรับ ไมโลนั้นได้รับการพัฒนาสูตรขึ้นโดยโธมัส เมย์น ซึ่งทำการวิจัยคิดค้นสูตรอย่างหนักในโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองสมิธ ทาวน์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ส่วนชื่อผลิตภัณฑ์นั้นได้มาจากชื่อของนักกีฑาชาวกรีกโบราณที่ชื่อ ไมโลแห่งเมืองโครตอน โดยในปี 2004 ที่ผ่านมานี้ บริษัทเนสท์เล่ได้ฉลองการผลิตไมโลออกขายครบรอบ 70 ปีพอดีอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยก็เป็นลูกค้าคนสำคัญของทั้งสองแบรนด์มานมนานตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า ขึ้นอยู่กับว่าใครจะพอใจในรสชาติของแบรนด์มากกว่ากัน
ที่มา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น