ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    งานศึกษาและวิจัยจากทั่วโลกที่น่าสนใจ

    ลำดับตอนที่ #23 : รู้ทัน “ไรฝุ่น” ป้องกันโรคภูมิแพ้

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 51


    รู้ทัน “ไรฝุ่น” ป้องกันโรคภูมิแพ้
    โดย ผู้จัดการออนไลน์
    เครื่องใช้ในบ้านอย่าง ฟูก โซฟา หมอน และผ้าห่ม นุ่มๆ เป็นตัวช่วยสำคัญในยามเหนื่อยล้า ทว่าการพักผ่อนก็คงไม่โสภาแน่นอน ถ้าหากต้องทนเจ็บ ทนรำคาญไปกับสัตว์ตัวจิ๋วน่ารำคาญอย่าง “ไรฝุ่น” ที่ซุกซ่อนอยู่บนเครื่องนอน ก่อกวนเราทุกทีที่เอนกายลงนอน
           
           ผศ.อำมร อินทร์สังข์ ผู้ทำวิจัย “ไรฝุ่น อันตรายผู้ใกล้ชิด” บอกว่า ไรฝุ่นหรือไรฝุ่นบ้าน เป็นภัยใกล้ตัวที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้แก่ผู้อยู่อาศัยในที่ที่มีไรฝุ่นได้ โดยผู้ที่ได้รับผลจากไรฝุ่นจะมีอาการแสดงออกมาเช่น เยื่อจมูกอักเสบ ผิวหนังอักเสบ และอาการของโรคหอบหืด ปัจจุบันคนไทยป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นแล้วประมาณ 10 ล้านคน ทำให้สูญเสียรายได้ไปกับการรักษาตัวไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท/ปี จึงมีความจำเป็นที่คนไทยต้องรู้เท่าทันไรฝุ่นให้มากขึ้น
           

           ทั้งนี้ ในการวิจัยโดยการสนับสนุนจากโครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย (โครงการบีอาร์ที) ของนักวิจัยจากคณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังรายนี้ ก็ทำให้ได้ภาพเกี่ยวกับไรฝุ่นในประเทศไทยชัดเจนขึ้น และสมาชิกในครัวเรือนต่างๆ ก็สามารถนำความรู้นี้ไปใช้เพื่อป้องกันตัวเองและคนที่รักให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ได้ไม่ยาก
           
           ผศ.อำมร เผยว่า จากการเก็บข้อมูลอ้างอิง ณ ตำบลห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เขาพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการป้องกันและกำจัดไรฝุ่นแบบพื้นบ้านได้อย่างน่าสนใจหลายประการด้วยกัน โดยพบว่า ไรฝุ่นทั่วไปจะมีขนาดเล็กมาก เพียง 0.3 มิลลิเมตร ไรฝุ่นในประเทศไทยแทบทั้ง 100%พบได้ที่เตียงนอน หมอน ผ้าห่ม และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเส้นใยอย่างโซฟาและพรมปูพื้น ดังนั้นจึงยากที่เราจะหลีกเลี่ยงไรฝุ่นในชีวิตประจำวันได้
           

           “แม้เราจะมีเครื่องเรือนใหม่หมดทั้งบ้าน แต่ก็ใช่ว่าเราจะหนีพ้นจากไรฝุ่นได้ คำถามที่ว่าไรฝุ่นมาอยู่กับเราได้อย่างไร ตอบได้ง่ายมาก เพราะไรฝุ่นมีขนาดเล็กมาก มันจึงสามารถติดมากับนก หนู สัตว์เลี้ยงภายในบ้าน ลมพัดมา และอาจติดมากับเสื้อผ้าของผู้ที่มาเยี่ยมเยียนได้ โดยภายใน 6 เดือน ไรฝุ่นก็จะเข้ามาในบ้านได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
           
           สำหรับสารก่อภูมิแพ้ของไรฝุ่น มักอยู่ในรูปของมูลและคราบของไรฝุ่นที่มีน้ำหนักเบา สามารถลอยปะปนในอากาศและสูดดมเข้าไปได้ โดยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดระดับสารก่อภูมิแพ้ไว้ที่ 2 ไมโครกรัม/ฝุ่น 1 กรัม หรือไรฝุ่น 100 -500 ตัว/ฝุ่น 1 กรัมเป็นระดับมาตรฐานที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการหืดหอบในผู้ป่วยภูมิแพ้ได้ ทว่า ในประเทศไทยกลับตรวจพบสารก่อภูมิแพ้เฉลี่ยถึง 11 ไมโครกรัม/ฝุ่น 1 กรัม และในกรุงเทพฯ พบปริมาณของสารก่อภูมิแพ้เฉลี่ย 5 ไมโครกรัม/ฝุ่น 1 กรัม
           
           ด้านปริมาณของไรฝุ่นนั้น ผศ.อำมร บอกว่า จะมีไรฝุ่นมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาดของผู้ใช้เครื่องนอนและอายุการใช้งานของเครื่องเรือนเป็นหลัก โดยที่นอนหรือฟูกที่ทำจากนุ่นและใยสังเคราะห์ที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 6 ปีจะมีความเสี่ยงจากไรฝุ่นจนเกิดโรคภูมิแพ้ได้มากที่สุด ขณะที่อาหารของไรฝุ่นนั้นต้องถือว่ามีมากเกินพอ เพราะไรฝุ่นจะกินเศษขี้ไคล ขี้รังแค และเศษผิวหนังของคนในบ้านเป็นอาหาร โดยเศษผิวหนังเพียง 1 กรัมก็สามารถเลี้ยงไรฝุ่น 1,000,000 ตัวเป็นเวลาถึง 1 สัปดาห์เต็มๆ แล้ว
           
           อย่างไรก็ดี ก็ใช่ว่าเราจะรับมือกับไรฝุ่นไม่ได้ และต้องเป็นฝ่ายตั้งรับเพียงอย่างเดียว ผศ.อำมร ชี้ว่า แนวทางการป้องกันและกำจัดไรฝุ่นมีอยู่ 4 ข้อง่ายๆ คือ 1.การหลีกเลี่ยงใช้งานเครื่องนอน พรม และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเส้นใยซึ่งมีอายุการใช้งานหลายปี เพื่อลดความเสี่ยงที่ต้องสัมผัสกับไรฝุ่นจำนวนมาก 2.การเลือกใช้ข้าวของเครื่องใช้ที่มีเส้นใยสานกันแน่น พลาสติก หรือเส้นใยไวนิล และไนลอน หรือเคลือบด้วยสารป้องกันไรฝุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้ไรฝุ่นเข้ามายุ่มย่ามกับเครื่องนอนภายในบ้าน
           
           3.การดูดฝุ่นทำความสะอาด ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถไล่ไรฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง และ 4.การซักเครื่องนอนเป็นประจำด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิอย่างน้อย 55 องศาเซลเซียส เพราะเป็นอุณหภูมิที่สามารถฆ่าไรฝุ่นและกำจัดสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นได้ดี โดยการตากแดดยังทำให้ไข่ไรฝุ่นที่ฝังตัวอยู่กับเครื่องนอนฝ่อได้ด้วย
           

           นอกจากนั้นแล้ว จากการศึกษายังพบด้วยว่า สารสกัดจากพืชก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นำมาใช้กำจัดไรฝุ่นได้ และถือเป็นวิธีใหม่ที่น่าสนใจและปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม โดย ผศ.อำมร พบว่า สารสกัดจากกานพลูและอบเชยสามารถฆ่าไรฝุ่นได้ดี โดยที่ความเข้มข้นของสารสกัด 1% สามารถฆ่าไรฝุ่นได้ 100% ทั้งวิธีการฉีดโดยตรงและการรม
            
           ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาให้บรรจุกระป๋องที่มีความสะดวกในการใช้งาน ขณะเดียวกันก็มีความคงตัวของสารสกัดดี มีสีและกลิ่นที่น่าใช้ พร้อมกับที่เวลานี้ได้มีภาคเอกชนติดต่อขอรับถ่ายทอดความรู้เพื่อผลิตสเปรย์ป้องกันไรฝุ่นวางขายในเชิงพาณิชย์แล้ว
           
           ด้วยวิธีป้องกันตัวจากไรฝุ่นไม่กี่ข้อเพียงเท่านี้ ก็จะทำให้เราและบุคคลรอบข้างรอดพ้นจากอันตรายของไรฝุ่นได้อย่างไร้กังวล
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×