คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : การปรากฎตัวขึ้นของคู่แข่งคนใหม่
“
ตื่นได้ แล้วเอริโกะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะลูก”แม่พูดพลางเคาะประตูห้องฉันแต่เช้าเพื่อให้ฉันตื่นไปอาบน้ำแล้วไปทานข้าวเช้ากับแม่และพี่ๆของฉัน
“ค่ะ แม่ หนูตื่นแล้วค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”ฉันรีบลุกออกจากที่นอน เพื่อที่จะไปอาบน้ำแต่งตัว
เพื่อที่จะไปทานข้าวเช้า หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวสักประมาณ 15 นาที ฉันก็ลงไปทานข้าวเช้า
กับพี่ๆและแม่ที่โต๊ะอาหารอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างเป็นประจำทุกเช้า หลังจากทาน
อาหารเช้าเสร็จ พี่เอมิก็ต้องรีบไปมหา
’ลัย ส่วนฉันและพี่เรย์จิก็ต้องรีบไปโรงเรียนเหมือนกันหลังจากออกจากบ้านมาได้สักพัก พี่เรย์จิก็ถามขึ้นระหว่างที่กำลังขับรถอยู่ว่า”ปวดแผลหรือป่าว
เนี่ย ทานยายังอ่ะ “พี่เรย์จิถามฉันด้วยความห่วงใย ฉันจึงตอบว่า”ทานแล้วจ้า ทำยังกับฉันเป็นเด็ก
อ่ะ ฉันไม่เด็กแล้วนะ รู้ไว้ด้วย”ฉันตอบพี่เรย์จิไป “จ้าๆๆพี่รู้แล้วว่าเรานะโตแล้ว แต่ก็ระวังตัวเอง
บ้าง เดี๋ยวก็เจ็บตัวอีกหรอก”พี่เรย์จิบอกกับฉัน “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ดูแลตัว
เองดีกว่า พี่เป็นถึงนายแบบชื่อดังดูแลสุขภาพตัวเองบ้าง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”ฉันบอกพี่เรย์จิด้วย
ความเป็นห่วงสุขภาพ เพราะว่าช่วงนี้พี่เรย์จิทำงานหนักมากไหนจะงานถ่ายแบบ งานประธานนัก
เรียนอีกล่ะ ไหนจะเรื่องเรียนอีกล่ะ “ยิ่งเรียนหนักทุกวันเลยนิ”ฉันบอกพี่เรย์จิ “จ้า ขอบใจนะที่เป็น
ห่วง เอริโกะก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยล่ะ เดี่ยวไม่สบายเอา”พี่เรย์จิบอกฉัน หลังจากคุยกันมาตั้ง
นาน พวกเราก็มาถึงโรงเรียนสักที พี่เรย์จิก็บอกว่า”เดี๋ยวพี่เอารถไปเก็บก่อนนะ เจอกันตอนเลิก
เรียนเหมือนเดิมล่ะ พี่ไปก่อนนะ”พี่เรย์จิบอกฉันแล้วก็ไป ฉันจึงต้องเดินมาที่ห้องเรียนคนเดียว แต่
ระหว่างที่เดินไปห้องเรียนฉันก็เจอสายตาหลายๆคู่กำลังมองฉันด้วยสายตาไม่พอใจ โดยเฉพาะ
สายตาของแฟนคลับพี่เรย์จิที่กำลังจ้องฉันยังกับจะกินเลือดกินเนื้อแน่ะ แต่ฉันก็ทำเป็นทองไม่รู้
ร้อนเหมือนเดิม ใครจะว่ายังงัยฉันไม่สน เพราะฉันไม่แคร์อยู่แล้ว ฉันเดินมาได้สักพักจนจะถึง
ห้องฉันแล้วล่ะ ฉันก็เจอกับผู้หญิงกลุ่มเดิมที่มาหาเรื่องฉันเมื่อวาน ฉันจำได้แม่นเลยล่ะ แต่เอ๊ะ
แล้วผู้หญิงคนนั้นคือใครอ่ะ แต่รู้สึกว่าหน้าคุ้นๆนะเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่งแน่ๆเลย
“ นี่เธอ ใช่ซาวาดะ เอริโกะหรือป่าว “ ยัยนั้นถามฉันด้วยสายตาที่น่ากลัว
“ ใช่ แล้วทำไมหรอ “ฉันตอบกลับไปโดยไม่รู้สึกกลัวสักนิด
“ นี่หล่อนกล้าดียังงัยมาต่อปากต่อคำฉัน ชักจะมากไปแล้วนะ “ยัยนั้นก็เถียงกลับ
“แล้วงัย ..มีอะไรหรือป่าว คนกำลังรีบ ขอทางหน่อยจะเข้าห้องเรียน”ฉันตอบกลับไปอย่างเฉยชา
“ ไม่หลีกแล้วทำไม ใครจะทำอะไร”ยัยนั้นตอบกลับมา
“ป่าวหรอก ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์ฆ่าคน อย่ามายั่วได้ไหม ไปนะ”ฉันตอบกลับอย่างเฉยชา
“แต่เอาเถอะ วันนี้ถือว่าทำบุญแล้วกัน เอาไว้วันหลังจะมาคิดบัญชี”ยัยนั้นตอบกลับมาและเดิน
จากไปกับสายลมของฤดูหนาวที่กำลังจะพัดมา “จะไปจิงๆหรอ เฮมี ยัยนี้มันหยามเธอนะ เธอยอม
มันหรอ “หนึ่งในพูดขึ้นระหว่างที่กำลังเดินไป แต่เอ๊ะชื่อนี้คุ้นๆนะเหมือนเคยได้ยินที่ไหน อ่อ..ฉัน
คิดออกแล้วผู้หญิงในคืนนั้นงัยที่อยู่ในผับที่นั่งอยู่ข้างอีตาโรคจิตฮันซอง(ฉันคิดในใจพลางนึกถึง
เรื่องในผับวันนั้น อยู่ๆอีตาฮันซองและยัยนั้นก็จูบกันต่อหน้าฉันและคนในผับอย่างไม่แคร์สายตา
คนอื่นที่กำลังมอง ) ไม่สนใจดีแล้วไปเข้าเรียนดีกว่า อย่าไปสนใจเรื่องพรรค์นั้นเลย
ระหว่างที่ฉันเดินเข้าไปในห้อง ทำไมทุกๆคนต้องเดินเข้ามาถามฉันด้วยอ่ะ
“เป็นงัยบ้าง ไม่โดนเฮมีจัดการหรอ เห็นยืนอยู่กันตั้งเยอะ “เพื่อนคนหนึ่งถามฉัน
“
ไม่นิ เขาไม่ได้ทำอะไรฉันเลย มีอะไรกันหรือป่าว” ฉันถามเขา แต่เขายังไม่ทันได้ตอบก็มีเสียงหนึ่งตอบขึ้นมาแทน “นี่เธอไม่รู้หรอ นั่นนะเจ้าแม่ประจำโรงเรียน เป็นลูกสาวแก๊งค์อันธพาลของที่นี่ ดัง
มากเลยนะ เคยฆ่าคนมาแล้ว”เฮจินตอบแทนเพื่อนคนนั้น “ จิงอ่ะ “ฉันตกใจพร้อมอุทานออกมา
“ อืม..แล้วเป็นงัยบ้างอ่ะปวดแผลหรือป่าว”เฮจินถามอาการของฉัน
“ไม่เท่าไรจ๊ะ เรื่องแค่นี้สบายมากเลย “ฉันตอบเฮจิน
“อืม .งั้นไปนั่งเรียนกันเถอะอาจารย์เข้าแล้ว เดี๋ยวโดนดุเอา”เฮจินบอกพลางชวนฉันมานั่งที่
แต่เอ๊ะแล้วอีตาโรคจิตไปไหนอ่ะ แล้วทำไม่ไม่มาเรียนล่ะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา คงไม่หรอกอี
ตานั่นน่ะออกจะเก่ง ( ฉันคิดในใจพลางมองหาฮันซองไปด้วย ) “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เดี๋ยวฮันซอง
ก็มา ไม่ต้องมองหาหรอก เขาแค่ไปทำธุระอ่ะ”เฮจินตอบฉัน “อืม แล้วเธอรู้ได้งัยอ่ะ บอกมานะ”
ฉันตอบเฮจินพลางถามกลับไป “อ่อ เมื่อกี๊ฉันเจอฮันซองอ่ะ เขาฝากมาบอกไม่ต้องห่วงเขาหรอก
เดี๋ยวเขาก็กลับมา เขาแค่ไปทำธุระอ่ะ”เฮจินตอบฉัน “อืม นั่นสิ”ฉันตอบเฮจิน แล้วเราจะไปสนใจ
หมอนั่นทำไมนะ เราก็ไม่ชอบขี้หน้าอยู่แล้วนิ ยังจะไปถามหาอีตานั่นอีก ( ฉันคิดในใจพลางหน้า
แดงไปด้วย ไม่รู้เป็นอะไรเวลาอยู่ใกล้อีตาโรคจิตฮันซอง ฉันมักจะหน้าแดงตลอดเลย ชักจะเพี๊ยน
ไปใหญ่แล้วนะเรา ) ฉันจึงตั้งใจสลัดความคิดที่อยู่ในใจทิ้ง และเอาเวลามาตั้งใจเรียนดีกว่าเดี๋ยว
จะไม่เข้าใจ จนกระทั่งหมดคาบแรกของช่วงบ่ายไป เขายังไม่กลับมาเรียนหรอเนี่ย หรือว่ามีอะไร
เกิดขึ้นกับเขากันแน่ ฉันชักจะทนไม่ไว้แล้วนะ “โอ๊ย หมดความอดทนแล้วนะ ขออนุญาตไปข้าง
นอกค่ะอาจารย์”ฉันลุกออกจากเก้าอี้และรีบขออนุญาตอาจารย์ออกไปข้างนอก ซึ่งท่านก็ไม่ว่า
อะไร เพียงแต่บอกว่าให้รีบกลับมาเท่านั้น ฉันจึงไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปทันที แต่เอ๊ะเหมือนฉันได้ยิน
เสียงคนทะเลาะกันอ่ะ แต่ฉันไม่สนใจเพราะสิ่งที่ฉันสนใจก็คืออีตาโรคจิตฮันซองที่ชอบแกล้งแหย่
ฉันประจำ แต่หาเท่าไรฉันก็หาไม่พบ แล้วนายไปอยู่ไหนกันแน่จะทิ้งให้ฉันเหงาอย่างงี้หรอ
ผ่านไปเกือบชั่วโมงฉันก็ยังหาเขาไม่เจอเลยค่ะ ไม่รู้เขาไปอยู่ที่ไหนกันแน่ ปล่อยให้คนอื่นตามหา
อยู่ได้ ป่านนี้อาจารย์คงจะว่าเราแล้วล่ะ รีบกลับดีกว่า ขืนไปช้าจะโดนดุเอา แล้วฉันก็รีบวิ่งขึ้น
ห้องเพื่อที่จะเรียนคาบสุดท้ายของวัน แต่ไม่ยังจะถึงห้องเรียนฉันก็ต้องสะดุดตากับสภาพบริเวณ
รอบๆตัวที่ดูเปลี่ยนไปหมด เหมือนกับมีการต่อสู้เกิดขึ้น แต่บริเวณที่ต่อสู้กับว่างเปล่าเหมือนการ
ต่อสู้ได้ผ่านไปนานแล้ว แต่เอาเถอะถึงใครจะตีกันก็ช่างมันก็ไม่เกี่ยวกับเราอยู่แล้วนี่นา จะไปสน
ใจทำไม ระหว่างที่ฉันกำลังเดินขึ้นห้อง ฉันจำเป็นต้องเดินผ่านห้องพยาบาลก่อนที่จะถึงห้องเรียน
ของฉัน ฉันก็ไปสะดุดตาเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังทำแผลให้ตัวเองอยู่อย่างทุลักทุเล ฉันจึง
อดขำไม่ได้ จึงเดินเข้าไปทำแผลให้ เพื่อให้เสร็จแล้วรีบไปเข้าเรียนดีกว่าเสียเวลามามากแล้ว
แต่เอ๊ะอีตานี่หน้าคุ้นๆนะเหมือนอีตาโรคจิตฮันซองเลย แต่พอมองไปมองฉันถึงกับกรี๊ดลั่นห้อง
พยาบาลเลย ก็คนที่ฉันกำลังทำแผลให้คืออีตาฮันซองนั่นแหละค่ะ
“กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ อะไรกันนี่ ตกลงว่าเป็นนายใช่ไหมที่ฉันทำแผลให้อ่ะ “ฉันถามเขา
“ อืม .ใช่แล้วทำไม มีปัญหาอะไรหรอ ฉันไม่ได้เรียกเธอมาช่วยทำแผลให้นะ “ฮันซองตอบฉัน
“เอ่อ..ใช่ฉันผิดเองที่มาทำแผลที่นายตั้งนาน งั้นเชิญนายทำแผลต่อเลยนะ งั้นฉันไปล่ะ“
ฉันตอบฮันซองและพยายามรีบเดินออกจากห้องพยาบาลเพื่อที่จะไปเรียน
“ เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป เมื่อกี๊ฉันขอโทษ แค่ล้อเล่นเองนะ ทำเป็นโกรธไปได้ โอ๋ๆๆหายโกรธฉันนะ”ฮัน
ซองตอบฉันและพยายามง้อฉัน “นี่ถ้าแฟนคลับนายมาเห็นเข้าคงจะคิดว่าเราเป็นแฟนกันแน่เลย”
ฉันบอกฮันซอง “ อืม..ฉันก็คิดเหมือนเธอนั่นแหละ แต่เวลาเธองอนอ่ะก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย
ไม่เห็นเหมือนกับตัวจริงๆเลย “ฮันซองตอบกลับมาและยิ้มให้กับฉันอย่างอ่อนโยน
“เอ่อ .แล้ววันนี้นายไปไหนมาอ่ะถึงไม่เข้าเรียนตั้งแต่เช้าเลย มีอะไรหรือป่าววันนี้ “ฉันถามฮันซอง
แต่นายฮันซองกลับไม่ยอมตอบ กลับเอาแต่ยิ้มเฉยๆไม่สนใจคำถามของฉันที่ถามไป ชั่วขณะนั้นที่
ฉันกำลังหันหน้าเพื่อที่จะทำแผลให้กับเขาต่อ หน้าของฮันซองก็หันมาพอดีทำให้จังหวะนั้นเองปาก
ของเราทั้งคู่ก็ได้ประกบกันชั่วขณะหนึ่งประมาณ 5 วินาทีได้ เราทั้งคู่ต่างก็ผละตัวออกจากกัน
อย่างกับมีสปริงหรือมีเชือกมาดึงให้ทั้งคู่ต้องถอยออกมา “อ๊ายยยยย ฉันกับฮันซองจูบกัน เกิด
มาฉันไม่เคยจูบกับใครเลยนะ ทำไมต้องเป็นอีตาโรคจิตนี้ด้วยล่ะที่ได้จูบแรกฉันไป ไม่จริงใช่ไหม “
ฉันคิดในใจพลางจับปากตัวเองสลับกับหน้าแดงไปด้วย นี่แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ ทำไงดี
เนี่ย หน้าอายมากเลยนะ ไม่เอาแล้วกลับดีกว่า เพราะว่าเลิกเรียนแล้ว
ระหว่างที่กำลังเดินกลับไปที่ห้อง ฉันก็เดินจับปากตัวเองมาด้วย แล้วพรุ่งนี้ฉันจะกล้าคุยกับเขา
เหมือนเดิมไหมเนี่ย ไหนจะยัยเฮมีนั่นอีก “โอ๊ย เป็นอะไรกันไปหมดล่ะเนี่ย ชักจะน่าเบื่อแล้ว
นะเนี่ย “ฉันบ่นออกมาอย่างอารมณ์เสีย แต่พอฉันเข้าไปถึงในห้องฉันก็เจอกับยัยเฮมีและบรรดา
ลูกสมุนทั้งหลายของยัยเฮมีที่กำลังจับเฮจินเอาไว้ สภาพของเฮจินไม่ต่างจากโดนหมาฟัดมาอย่าง
งั้นแหละ “ นี่ ปล่อยเพื่อนชั้นนะ “ฉันบอกยัยเฮมี “ ไม่ปล่อยยยยย ใครจะทำไม มีปัญหาอะไร
ไม่ทราบ “ยัยเฮมีตอบกลับมาอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด
“ ป่าวก็แค่ไม่มีอะไรหรอก ปล่อยเพื่อนชั้น แล้วเรามาสู้กันตัวต่อตัวดีกว่าไหม “ ฉันบอกยัยเฮมีและ
ยื่นข้อเสนอให้ยัยเฮมีตัดสินใจว่าจะเอายังงัยกันแน่ โดยไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าอาจไม่มีชีวิตรอด
บรรดาลูกสมุนของยัยเฮมีต่างก็พากันส่งเสียงร้องให้ยัยเฮมีรับข้อเสนอที่ฉันยื่นให้ แต่ท่าทางยัยเฮ
มีจะไม่เห็นด้วย เพราะหล่อนกำลังคิดและยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น ขนาดลูกสมุนถึงกับสั่นอย่าง
กับผีเข้างั้นแหละ “ ไม่เอาหรอก เรามาตกลงกันดีกว่า ง่ายๆสั้นๆเลยนะ เธอเลิกยุ่งกับฮันซองดีกว่าถ้าไม่อยาก
เจ็บตัว ถ้าเธอเลิก
ยุ่งกับฮันซองแล้ว ฉันจะเลิกยุ่งกับเธอทันทีและจะไม่มาหาเรื่องเธออีกตกลงหรือป่าว ถ้าเธอไม่ตกลงเท่ากับเธอเป็นศัตรูกับฉัน O.K.ป่าว”เฮมีถามฉันพร้อม
กับรอคำตอบที่จะออกจากปากฉัน “ O.K. ฉันรับข้อเสนอเธอ งั้นพวกเธอก็ปล่อย
เพื่อนชั้นดิ พวกเราจะได้รีบกลับบ้านสักทีเดี๋ยวพี่ชั้นเป็นห่วง “ฉันตอบเฮมีและรีบวิ่ง
เข้าไปรับเฮจินที่ตอนนี้กำลังสลบอย่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย“ งั้นพวกเราไปล่ะนะ อย่าให้
รู้นะว่าเธอยังไม่เลิกกับฮันซอง เธอได้เจ็บตัวแน่ “เฮมีพูดกับฉันและเดินออกไป แต่ไม่
วายบรรดาลูกสมุนยังหันไปถามเฮมีว่า” ทำไมเธอไม่จัดการมันเลยอ่ะ มันท้าทายเรา
ขนาดนี้ เธอทนเฉยได้งัยอ่ะ “หนึ่งในนั้นถาม “รอดูไปก่อน พวกเธอนึกหรอว่าฉันจะ
ปล่อยมันไป ฉันไม่ปล่อยมันไปง่ายๆหรอก “เฮมีตอบ แล้วพวกยัยเฮมีก็เดินจากไป
กับสายลมระหว่างนั้นฉันและเฮจินก็รีบเดินออกไปจากห้องเรียนโดยเร็ว เพราะว่าพี่
เรย์จิกำลังรอฉันอยู่ที่บริเวณหน้าโรงเรียน พอพวกเราเดินมาถึงหน้าโรงเรียน พี่เรย์จิ
ก็รีบวิ่งมาหาฉันและช่วยฉันพยุงเฮจินให้ขึ้นรถและพาเฮจินไปหาหมอก่อน เพราะดู
แล้วสภาพของเฮจินจะเจ็บมากๆเลยพี่เรย์จิก็เลยรีบขับรถออกไปอย่างเร็วที่สุดเห็น
จะได้ จนพวกเรามาถึงโรงพยาบาล พี่เรย์จิเลยอาสาอุ้มเฮจินไปที่ฉุกเฉิน พวกเรารอ
เฮจินอยู่ประมาณ 30 นาทีได้ คุณหมออกมาพร้อมกับบอกว่าคนไข้ปลอดภัยแล้ว ฉัน
กับพี่เรย์จิจีงโล่งอก พวกเราจึงเดินเข้าไปเยี่ยมเฮจินที่กำลังหลับฉันเห็นสภาพเฮ
จินแล้วรู้สึกสงสารเฮจินมากๆที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะฉัน (ฉันจึงพูดในใจว่า”พวกนั้น
ต้องเจ็บมากกว่าเฮจินหลายเท่า) แล้วพวกเราก็เดินทางกลับบ้าน ระหว่างที่กำลัง
กลับบ้าน พี่เรย์จิก็ถามฉันว่า” แล้วเฮจินไปทำอะไรมาน่ะ ถึงเป็นอย่างนี้ “พี่เรย์จิถาม
ฉัน “ไม่มีอะไรหรอก แค่ถูกหมากัดเฉยๆ “ฉันตอบพี่เรย์จิอย่างไม่สนใจ เพราะฉัน
กำลังสนใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึง พอฉันกลับมาถึงบ้าน ฉันจึง
รีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำและรีบลงมาทานข้าวเย็นกับพี่ๆของฉัน ส่วนแม่ของฉันนั้นไม่อยู่
ไปงานเลี้ยงข้างนอกดึกๆค่อยกลับ พอทานข้าวเย็นเสร็จฉันจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง
เพื่อที่จะวางแผนแก้เผ็ดยัยเฮมีให้มันสาสมกับที่ทำกับเฮจิน ระหว่างนั้นฉันก็นึกออก
และใช้ฮันซองให้เป็นประโยชน์และฉันจะเริ่มแผนแก้เผ็ดยัยเฮมีวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก
แล้วฉันก็หลับไปพร้อมกับแผนที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
ZZzZZZZZzZZzZzzzzZZzZzZzZzZZZZZZZ ..
ความคิดเห็น