ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~นายโรคจิต&นางสาวซาดิสต์~

    ลำดับตอนที่ #7 : การปรากฎตัวขึ้นของคู่แข่งคนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 49


     

    ตื่นได้ แล้วเอริโกะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะลูก”แม่พูดพลางเคาะประตูห้องฉันแต่เช้าเพื่อให้

    ฉันตื่นไปอาบน้ำแล้วไปทานข้าวเช้ากับแม่และพี่ๆของฉัน

    “ค่ะ แม่ หนูตื่นแล้วค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”ฉันรีบลุกออกจากที่นอน เพื่อที่จะไปอาบน้ำแต่งตัว

    เพื่อที่จะไปทานข้าวเช้า หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวสักประมาณ 15 นาที ฉันก็ลงไปทานข้าวเช้า

    กับพี่ๆและแม่ที่โต๊ะอาหารอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างเป็นประจำทุกเช้า หลังจากทาน

    อาหารเช้าเสร็จ พี่เอมิก็ต้องรีบไปมหาลัย ส่วนฉันและพี่เรย์จิก็ต้องรีบไปโรงเรียนเหมือนกัน

    หลังจากออกจากบ้านมาได้สักพัก พี่เรย์จิก็ถามขึ้นระหว่างที่กำลังขับรถอยู่ว่า”ปวดแผลหรือป่าว

    เนี่ย ทานยายังอ่ะ “พี่เรย์จิถามฉันด้วยความห่วงใย ฉันจึงตอบว่า”ทานแล้วจ้า ทำยังกับฉันเป็นเด็ก

    อ่ะ ฉันไม่เด็กแล้วนะ รู้ไว้ด้วย”ฉันตอบพี่เรย์จิไป “จ้าๆๆพี่รู้แล้วว่าเรานะโตแล้ว แต่ก็ระวังตัวเอง

    บ้าง เดี๋ยวก็เจ็บตัวอีกหรอก”พี่เรย์จิบอกกับฉัน “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ฉันดูแลตัวเองได้ พี่ดูแลตัว

    เองดีกว่า พี่เป็นถึงนายแบบชื่อดังดูแลสุขภาพตัวเองบ้าง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”ฉันบอกพี่เรย์จิด้วย

    ความเป็นห่วงสุขภาพ เพราะว่าช่วงนี้พี่เรย์จิทำงานหนักมากไหนจะงานถ่ายแบบ งานประธานนัก

    เรียนอีกล่ะ ไหนจะเรื่องเรียนอีกล่ะ “ยิ่งเรียนหนักทุกวันเลยนิ”ฉันบอกพี่เรย์จิ “จ้า ขอบใจนะที่เป็น

    ห่วง เอริโกะก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยล่ะ เดี่ยวไม่สบายเอา”พี่เรย์จิบอกฉัน หลังจากคุยกันมาตั้ง

    นาน พวกเราก็มาถึงโรงเรียนสักที พี่เรย์จิก็บอกว่า”เดี๋ยวพี่เอารถไปเก็บก่อนนะ เจอกันตอนเลิก

    เรียนเหมือนเดิมล่ะ พี่ไปก่อนนะ”พี่เรย์จิบอกฉันแล้วก็ไป ฉันจึงต้องเดินมาที่ห้องเรียนคนเดียว แต่

    ระหว่างที่เดินไปห้องเรียนฉันก็เจอสายตาหลายๆคู่กำลังมองฉันด้วยสายตาไม่พอใจ โดยเฉพาะ

    สายตาของแฟนคลับพี่เรย์จิที่กำลังจ้องฉันยังกับจะกินเลือดกินเนื้อแน่ะ แต่ฉันก็ทำเป็นทองไม่รู้

    ร้อนเหมือนเดิม ใครจะว่ายังงัยฉันไม่สน เพราะฉันไม่แคร์อยู่แล้ว ฉันเดินมาได้สักพักจนจะถึง

    ห้องฉันแล้วล่ะ ฉันก็เจอกับผู้หญิงกลุ่มเดิมที่มาหาเรื่องฉันเมื่อวาน ฉันจำได้แม่นเลยล่ะ แต่เอ๊ะ

    แล้วผู้หญิงคนนั้นคือใครอ่ะ แต่รู้สึกว่าหน้าคุ้นๆนะเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่งแน่ๆเลย

    “ นี่เธอ…ใช่ซาวาดะ เอริโกะหรือป่าว “ ยัยนั้นถามฉันด้วยสายตาที่น่ากลัว

    “ ใช่…แล้วทำไมหรอ “ฉันตอบกลับไปโดยไม่รู้สึกกลัวสักนิด

    “ นี่หล่อนกล้าดียังงัยมาต่อปากต่อคำฉัน ชักจะมากไปแล้วนะ “ยัยนั้นก็เถียงกลับ

    “แล้วงัย…..มีอะไรหรือป่าว คนกำลังรีบ ขอทางหน่อยจะเข้าห้องเรียน”ฉันตอบกลับไปอย่างเฉยชา

    “ ไม่หลีกแล้วทำไม ใครจะทำอะไร”ยัยนั้นตอบกลับมา

    “ป่าวหรอก ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์ฆ่าคน อย่ามายั่วได้ไหม ไปนะ”ฉันตอบกลับอย่างเฉยชา

    “แต่เอาเถอะ วันนี้ถือว่าทำบุญแล้วกัน เอาไว้วันหลังจะมาคิดบัญชี”ยัยนั้นตอบกลับมาและเดิน

    จากไปกับสายลมของฤดูหนาวที่กำลังจะพัดมา “จะไปจิงๆหรอ เฮมี ยัยนี้มันหยามเธอนะ เธอยอม

    มันหรอ “หนึ่งในพูดขึ้นระหว่างที่กำลังเดินไป แต่เอ๊ะชื่อนี้คุ้นๆนะเหมือนเคยได้ยินที่ไหน อ่อ..ฉัน

    คิดออกแล้วผู้หญิงในคืนนั้นงัยที่อยู่ในผับที่นั่งอยู่ข้างอีตาโรคจิตฮันซอง(ฉันคิดในใจพลางนึกถึง

    เรื่องในผับวันนั้น อยู่ๆอีตาฮันซองและยัยนั้นก็จูบกันต่อหน้าฉันและคนในผับอย่างไม่แคร์สายตา

    คนอื่นที่กำลังมอง ) ไม่สนใจดีแล้วไปเข้าเรียนดีกว่า อย่าไปสนใจเรื่องพรรค์นั้นเลย

    ระหว่างที่ฉันเดินเข้าไปในห้อง ทำไมทุกๆคนต้องเดินเข้ามาถามฉันด้วยอ่ะ

    “เป็นงัยบ้าง ไม่โดนเฮมีจัดการหรอ เห็นยืนอยู่กันตั้งเยอะ “เพื่อนคนหนึ่งถามฉัน

    ไม่นิ เขาไม่ได้ทำอะไรฉันเลย มีอะไรกันหรือป่าว” ฉันถามเขา แต่เขายังไม่ทันได้ตอบก็มีเสียงหนึ่ง

    ตอบขึ้นมาแทน “นี่เธอไม่รู้หรอ นั่นนะเจ้าแม่ประจำโรงเรียน เป็นลูกสาวแก๊งค์อันธพาลของที่นี่ ดัง

    มากเลยนะ เคยฆ่าคนมาแล้ว”เฮจินตอบแทนเพื่อนคนนั้น “ จิงอ่ะ “ฉันตกใจพร้อมอุทานออกมา

    “ อืม..แล้วเป็นงัยบ้างอ่ะปวดแผลหรือป่าว”เฮจินถามอาการของฉัน

    “ไม่เท่าไรจ๊ะ เรื่องแค่นี้สบายมากเลย “ฉันตอบเฮจิน

    “อืม….งั้นไปนั่งเรียนกันเถอะอาจารย์เข้าแล้ว เดี๋ยวโดนดุเอา”เฮจินบอกพลางชวนฉันมานั่งที่

    แต่เอ๊ะแล้วอีตาโรคจิตไปไหนอ่ะ แล้วทำไม่ไม่มาเรียนล่ะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา คงไม่หรอกอี

    ตานั่นน่ะออกจะเก่ง ( ฉันคิดในใจพลางมองหาฮันซองไปด้วย ) “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เดี๋ยวฮันซอง

    ก็มา ไม่ต้องมองหาหรอก เขาแค่ไปทำธุระอ่ะ”เฮจินตอบฉัน “อืม…แล้วเธอรู้ได้งัยอ่ะ บอกมานะ”

    ฉันตอบเฮจินพลางถามกลับไป “อ่อ…เมื่อกี๊ฉันเจอฮันซองอ่ะ เขาฝากมาบอกไม่ต้องห่วงเขาหรอก

    เดี๋ยวเขาก็กลับมา เขาแค่ไปทำธุระอ่ะ”เฮจินตอบฉัน “อืม…นั่นสิ”ฉันตอบเฮจิน แล้วเราจะไปสนใจ

    หมอนั่นทำไมนะ เราก็ไม่ชอบขี้หน้าอยู่แล้วนิ ยังจะไปถามหาอีตานั่นอีก ( ฉันคิดในใจพลางหน้า

    แดงไปด้วย ไม่รู้เป็นอะไรเวลาอยู่ใกล้อีตาโรคจิตฮันซอง ฉันมักจะหน้าแดงตลอดเลย ชักจะเพี๊ยน

    ไปใหญ่แล้วนะเรา ) ฉันจึงตั้งใจสลัดความคิดที่อยู่ในใจทิ้ง และเอาเวลามาตั้งใจเรียนดีกว่าเดี๋ยว

    จะไม่เข้าใจ จนกระทั่งหมดคาบแรกของช่วงบ่ายไป เขายังไม่กลับมาเรียนหรอเนี่ย หรือว่ามีอะไร

    เกิดขึ้นกับเขากันแน่ ฉันชักจะทนไม่ไว้แล้วนะ “โอ๊ย…หมดความอดทนแล้วนะ ขออนุญาตไปข้าง

    นอกค่ะอาจารย์”ฉันลุกออกจากเก้าอี้และรีบขออนุญาตอาจารย์ออกไปข้างนอก ซึ่งท่านก็ไม่ว่า

    อะไร เพียงแต่บอกว่าให้รีบกลับมาเท่านั้น ฉันจึงไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปทันที แต่เอ๊ะเหมือนฉันได้ยิน

    เสียงคนทะเลาะกันอ่ะ แต่ฉันไม่สนใจเพราะสิ่งที่ฉันสนใจก็คืออีตาโรคจิตฮันซองที่ชอบแกล้งแหย่

    ฉันประจำ แต่หาเท่าไรฉันก็หาไม่พบ แล้วนายไปอยู่ไหนกันแน่จะทิ้งให้ฉันเหงาอย่างงี้หรอ

    ผ่านไปเกือบชั่วโมงฉันก็ยังหาเขาไม่เจอเลยค่ะ ไม่รู้เขาไปอยู่ที่ไหนกันแน่ ปล่อยให้คนอื่นตามหา

    อยู่ได้ ป่านนี้อาจารย์คงจะว่าเราแล้วล่ะ รีบกลับดีกว่า ขืนไปช้าจะโดนดุเอา แล้วฉันก็รีบวิ่งขึ้น

    ห้องเพื่อที่จะเรียนคาบสุดท้ายของวัน แต่ไม่ยังจะถึงห้องเรียนฉันก็ต้องสะดุดตากับสภาพบริเวณ

    รอบๆตัวที่ดูเปลี่ยนไปหมด เหมือนกับมีการต่อสู้เกิดขึ้น แต่บริเวณที่ต่อสู้กับว่างเปล่าเหมือนการ

    ต่อสู้ได้ผ่านไปนานแล้ว แต่เอาเถอะถึงใครจะตีกันก็ช่างมันก็ไม่เกี่ยวกับเราอยู่แล้วนี่นา จะไปสน

    ใจทำไม ระหว่างที่ฉันกำลังเดินขึ้นห้อง ฉันจำเป็นต้องเดินผ่านห้องพยาบาลก่อนที่จะถึงห้องเรียน

    ของฉัน ฉันก็ไปสะดุดตาเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังทำแผลให้ตัวเองอยู่อย่างทุลักทุเล ฉันจึง

    อดขำไม่ได้ จึงเดินเข้าไปทำแผลให้ เพื่อให้เสร็จแล้วรีบไปเข้าเรียนดีกว่าเสียเวลามามากแล้ว

    แต่เอ๊ะอีตานี่หน้าคุ้นๆนะเหมือนอีตาโรคจิตฮันซองเลย แต่พอมองไปมองฉันถึงกับกรี๊ดลั่นห้อง

    พยาบาลเลย ก็คนที่ฉันกำลังทำแผลให้คืออีตาฮันซองนั่นแหละค่ะ

    “กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ อะไรกันนี่ ตกลงว่าเป็นนายใช่ไหมที่ฉันทำแผลให้อ่ะ “ฉันถามเขา

    “ อืม….ใช่แล้วทำไม มีปัญหาอะไรหรอ ฉันไม่ได้เรียกเธอมาช่วยทำแผลให้นะ “ฮันซองตอบฉัน

    “เอ่อ..ใช่ฉันผิดเองที่มาทำแผลที่นายตั้งนาน งั้นเชิญนายทำแผลต่อเลยนะ งั้นฉันไปล่ะ“

    ฉันตอบฮันซองและพยายามรีบเดินออกจากห้องพยาบาลเพื่อที่จะไปเรียน

    “ เดี๋ยว…อย่าเพิ่งไป เมื่อกี๊ฉันขอโทษ แค่ล้อเล่นเองนะ ทำเป็นโกรธไปได้ โอ๋ๆๆหายโกรธฉันนะ”ฮัน

    ซองตอบฉันและพยายามง้อฉัน “นี่ถ้าแฟนคลับนายมาเห็นเข้าคงจะคิดว่าเราเป็นแฟนกันแน่เลย”

    ฉันบอกฮันซอง “ อืม..ฉันก็คิดเหมือนเธอนั่นแหละ แต่เวลาเธองอนอ่ะก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย

    ไม่เห็นเหมือนกับตัวจริงๆเลย “ฮันซองตอบกลับมาและยิ้มให้กับฉันอย่างอ่อนโยน

    “เอ่อ….แล้ววันนี้นายไปไหนมาอ่ะถึงไม่เข้าเรียนตั้งแต่เช้าเลย มีอะไรหรือป่าววันนี้ “ฉันถามฮันซอง

    แต่นายฮันซองกลับไม่ยอมตอบ กลับเอาแต่ยิ้มเฉยๆไม่สนใจคำถามของฉันที่ถามไป ชั่วขณะนั้นที่

    ฉันกำลังหันหน้าเพื่อที่จะทำแผลให้กับเขาต่อ หน้าของฮันซองก็หันมาพอดีทำให้จังหวะนั้นเองปาก

    ของเราทั้งคู่ก็ได้ประกบกันชั่วขณะหนึ่งประมาณ 5 วินาทีได้ เราทั้งคู่ต่างก็ผละตัวออกจากกัน

    อย่างกับมีสปริงหรือมีเชือกมาดึงให้ทั้งคู่ต้องถอยออกมา “อ๊ายยยยย…ฉันกับฮันซองจูบกัน เกิด

    มาฉันไม่เคยจูบกับใครเลยนะ ทำไมต้องเป็นอีตาโรคจิตนี้ด้วยล่ะที่ได้จูบแรกฉันไป ไม่จริงใช่ไหม “

    ฉันคิดในใจพลางจับปากตัวเองสลับกับหน้าแดงไปด้วย นี่แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ ทำไงดี

    เนี่ย หน้าอายมากเลยนะ ไม่เอาแล้วกลับดีกว่า เพราะว่าเลิกเรียนแล้ว

    ระหว่างที่กำลังเดินกลับไปที่ห้อง ฉันก็เดินจับปากตัวเองมาด้วย แล้วพรุ่งนี้ฉันจะกล้าคุยกับเขา

    เหมือนเดิมไหมเนี่ย ไหนจะยัยเฮมีนั่นอีก “โอ๊ย……เป็นอะไรกันไปหมดล่ะเนี่ย ชักจะน่าเบื่อแล้ว

    นะเนี่ย “ฉันบ่นออกมาอย่างอารมณ์เสีย แต่พอฉันเข้าไปถึงในห้องฉันก็เจอกับยัยเฮมีและบรรดา

    ลูกสมุนทั้งหลายของยัยเฮมีที่กำลังจับเฮจินเอาไว้ สภาพของเฮจินไม่ต่างจากโดนหมาฟัดมาอย่าง

    งั้นแหละ “ นี่…ปล่อยเพื่อนชั้นนะ “ฉันบอกยัยเฮมี “ ไม่ปล่อยยยยย…ใครจะทำไม มีปัญหาอะไร

    ไม่ทราบ “ยัยเฮมีตอบกลับมาอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลยสักนิด

    “ ป่าวก็แค่ไม่มีอะไรหรอก ปล่อยเพื่อนชั้น แล้วเรามาสู้กันตัวต่อตัวดีกว่าไหม “ ฉันบอกยัยเฮมีและ

    ยื่นข้อเสนอให้ยัยเฮมีตัดสินใจว่าจะเอายังงัยกันแน่ โดยไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าอาจไม่มีชีวิตรอด

    บรรดาลูกสมุนของยัยเฮมีต่างก็พากันส่งเสียงร้องให้ยัยเฮมีรับข้อเสนอที่ฉันยื่นให้ แต่ท่าทางยัยเฮ

    มีจะไม่เห็นด้วย เพราะหล่อนกำลังคิดและยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น ขนาดลูกสมุนถึงกับสั่นอย่าง

    กับผีเข้างั้นแหละ “ ไม่เอาหรอก เรามาตกลงกันดีกว่า ง่ายๆสั้นๆเลยนะ เธอเลิกยุ่งกับฮันซองดีกว่าถ้าไม่อยาก

    เจ็บตัว ถ้าเธอเลิกยุ่งกับฮันซองแล้ว ฉันจะเลิกยุ่งกับเธอทันทีและจะไม่มาหาเรื่องเธออีก

    ตกลงหรือ
    ป่าว ถ้าเธอไม่ตกลงเท่ากับเธอเป็นศัตรูกับฉัน O.K.ป่าว”เฮมีถามฉันพร้อม

    กับรอคำตอบที่จะออก
    จากปากฉัน “ O.K. ฉันรับข้อเสนอเธอ งั้นพวกเธอก็ปล่อย

    เพื่อนชั้นดิ พวกเราจะได้รีบกลับบ้านสัก
    ทีเดี๋ยวพี่ชั้นเป็นห่วง “ฉันตอบเฮมีและรีบวิ่ง

    เข้าไปรับเฮจินที่ตอนนี้กำลังสลบอย่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย
    “ งั้นพวกเราไปล่ะนะ อย่าให้

    รู้นะว่าเธอยังไม่เลิกกับฮันซอง เธอได้เจ็บตัวแน่ “เฮมีพูดกับฉันและ
    เดินออกไป แต่ไม่

    วายบรรดาลูกสมุนยังหันไปถามเฮมีว่า” ทำไมเธอไม่จัดการมันเลยอ่ะ มันท้า
    ทายเรา

    ขนาดนี้ เธอทนเฉยได้งัยอ่ะ “หนึ่งในนั้นถาม “รอดูไปก่อน พวกเธอนึกหรอว่าฉันจะ

    ปล่อย
    มันไป ฉันไม่ปล่อยมันไปง่ายๆหรอก “เฮมีตอบ แล้วพวกยัยเฮมีก็เดินจากไป

    กับสายลม
    ระหว่างนั้นฉันและเฮจินก็รีบเดินออกไปจากห้องเรียนโดยเร็ว เพราะว่าพี่

    เรย์จิกำลังรอฉันอยู่ที่
    บริเวณหน้าโรงเรียน พอพวกเราเดินมาถึงหน้าโรงเรียน พี่เรย์จิ

    ก็รีบวิ่งมาหาฉันและช่วยฉันพยุง
    เฮจินให้ขึ้นรถและพาเฮจินไปหาหมอก่อน เพราะดู

    แล้วสภาพของเฮจินจะเจ็บมากๆเลย
    พี่เรย์จิก็เลยรีบขับรถออกไปอย่างเร็วที่สุดเห็น

    จะได้ จนพวกเรามาถึงโรงพยาบาล พี่เรย์จิเลย
    อาสาอุ้มเฮจินไปที่ฉุกเฉิน พวกเรารอ

    เฮจินอยู่ประมาณ 30 นาทีได้ คุณหมออกมาพร้อมกับ
    บอกว่าคนไข้ปลอดภัยแล้ว ฉัน

    กับพี่เรย์จิจีงโล่งอก      พวกเราจึงเดินเข้าไปเยี่ยมเฮจินที่กำลังหลับ
    ฉันเห็นสภาพเฮ

    จินแล้วรู้สึกสงสารเฮจินมากๆที่ต้องมาเจ็บตัวเพราะฉัน (ฉันจึงพูดในใจว่า”พวกนั้น


    ต้องเจ็บมากกว่าเฮจินหลายเท่า) แล้วพวกเราก็เดินทางกลับบ้าน ระหว่างที่กำลัง

    กลับบ้าน พี่เรย์จิ
    ก็ถามฉันว่า” แล้วเฮจินไปทำอะไรมาน่ะ ถึงเป็นอย่างนี้ “พี่เรย์จิถาม

    ฉัน “ไม่มีอะไรหรอก แค่ถูก
    หมากัดเฉยๆ “ฉันตอบพี่เรย์จิอย่างไม่สนใจ เพราะฉัน

    กำลังสนใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ที่กำลัง
    จะมาถึง พอฉันกลับมาถึงบ้าน ฉันจึง

    รีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำและรีบลงมาทานข้าวเย็นกับพี่ๆของฉัน
    ส่วนแม่ของฉันนั้นไม่อยู่

    ไปงานเลี้ยงข้างนอกดึกๆค่อยกลับ พอทานข้าวเย็นเสร็จฉันจึงรีบวิ่งขึ้นไป
    บนห้อง

    เพื่อที่จะวางแผนแก้เผ็ดยัยเฮมีให้มันสาสมกับที่ทำกับเฮจิน ระหว่างนั้นฉันก็นึกออก

    และ
    ใช้ฮันซองให้เป็นประโยชน์และฉันจะเริ่มแผนแก้เผ็ดยัยเฮมีวันพรุ่งนี้เป็นวันแรก

    แล้วฉันก็หลับไป
    พร้อมกับแผนที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

    ZZzZZZZZzZZzZzzzzZZzZzZzZzZZZZZZZ……………………………………………………..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×