ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~นายโรคจิต&นางสาวซาดิสต์~

    ลำดับตอนที่ #6 : การปรากฎตัวของบอดี้การ์ดหน้าหวาน(ซะเมื่อไหร่กันเล่า)

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 49



    ในขณะที่ฉันกำลังต่อสู้กับพวกยัยขี้อิจฉา เขาคนนั้นได้มาปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าฉันและยัยขี้อิจฉา

    แฟนคลับของนายฮันซองและพี่เรย์จินั่นแหละค่ะ พวกยัยนั่นกล้ารังแกฉันโดยไม่รู้ว่าทางข้างหน้า

    จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อาจจะกลายเป็นศพโดยไม่รู้ตัว เพราะฉันน่ะได้รับฉายาว่าสาวซ่าส์หน้า

    หวาน” เพราะว่าภายในแก๊งค์ของฉันจะประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่เก่งในแต่ละชนิดของการต่อสู้

    แต่สำหรับฉันเป็นกรณีพิเศษ เพราะว่าฉันเก่งไปทุกชนิดของการต่อสู้ทุกคนจึงยอมก้มหัวให้ฉันและ

    ยกย่องฉันเป็นหัวหน้าแก๊งค์ แต่มีเพียงพี่ฉัน แม่ฉันและพ่อของฉันเท่านั้นที่ยังไม่รู้ว่าฉันตั้งแก๊งค์

    อันธพาลขึ้นมา เพราะว่าทุกคนยังคิดว่าฉันเป็นเด็กเรียบร้อยอยู่ค่ะ สมาชิกภายในแก๊งค์ของฉันที่

    ญี่ปุ่นมีทั้งหมด 9 คน แต่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียนที่ฉันเคยเรียนอยู่ เพราะแก๊งค์ของฉันจะคุมภายใน

    โรงเรียน และมีชื่อแก๊งค์ว่ายากูซ่าหน้าหยก” ซึ่งถ้าพูดถึงแล้วคงไม่มีใครปฎิเสธว่าไม่รู้จักหรอกค่ะ

    เพราะว่าแก๊งค์ของฉันดังมากในเรื่องการต่อสู้ทุกรูปแบบ และดังมากในญี่ปุ่นค่ะ

    “นี่ยัยบ้า…ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่หรอว่าให้ระวังตัวเองให้มากกว่านี้ หัดจำไว้บ้างซิ”ฮันซองบ่นให้ฉัน

    หลังจากที่เห็นสภาพฉันและพวกยัยแฟนคลับทั้งหลายที่กำลังร้องไห้บอกว่าโดนรังแกจากฉัน แต่

    ท่าทางอีตาโรคจิตฮันซองจะไม่เชื่อ เพราะถ้าดูจากสภาพทั่วไปพวกยัยนั่นจะเจ็บมากกว่าฉัน ก็

    อย่างว่าแหละค่ะฉันมันอดีตยากูซ่าชื่อดังของญี่ปุ่นที่ต้องผันตัวออกจากวงการนักเลง

    “เป็นงัยมั่งอ่ะยัยเอ๋อเจ็บตัวมากหรือป่าว”นายฮันซองถามฉันแต่ไม่ไปถามพวกยัยขี้อิจฉา

    แล้วนายฮันซองก็ตะโกนขึ้นมาว่า”ใครเป็นคนหาเรื่องเอริโกะ บอกมานะ”ฮันซองหันหน้าไปถาม

    แล้วหนึ่งในนั้นก็บอกว่า”พวกเราไม่รู้เรื่องนะ พวกเราเพียงแต่โดนสั่งให้มาทำอ่ะ”

    “ใครเป็นคนสั่ง บอกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันฆ่าพวกเธอแน่”ฮันซองพูดอย่างโกรธและไม่เหลือแววตาคน

    เดิมที่ฉันเคยรู้จัก “แชริม อ่ะ เป็นคนสั่งให้พวกเราทำ”หนึ่งในนั้นบอกออกมาอย่างหวาดกลัว

    “แชริมยังงั้นหรอ หึหึ พวกเธอไปซะ แล้วอย่ามาเรื่องเอริโกะอีกนะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ จำเอา

    ไว้”ฮันซองบอกกับพวกนั้นด้วยสายตาที่น่ากลัวมาก ขนาดว่าสายตาพี่เรย์จิน่ากลัวแล้ว สายตาอีตา

    นี้ยังน่ากลัวกว่าอีก แล้วยัยพวกนั้นก็วิ่งนี้ไป โดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย เพราะกลัวว่าจะ

    โดนฮันซองฆ่าเอาอ่ะ (ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่านายฮันซองหรืออีตาโรคจิตที่ฉันชอบเรียกประจำจะน่า

    กลัวขนาดนี้อ่ะ สงสัยต้องเรียกใหม่แล้ว) ฉันคิดในใจพลางมองหน้าอีตาฮันซองไปด้วย

    “นี่ยัยเอ๋อ……จะจ้องหน้าฉันอีกนานมั้ย”ฮันซองพูดกับฉันและพลางมองไปทั่วลำตัวฉัน

    “เอ๊ะ….อีตานี้โรคจิตจริงๆเลย มองอยู่ได้ (ฉันคิดในใจ)”

    “นี่ยัยเอ๋อ…เอ๋อสมชื่อจริงๆนะเธอ แล้วจะกลับบ้านยังงัยเนี่ย ไม่ใช่พี่เธํอรออยู่หรอ”ฮันซองถามฉัน

    “นั้นสิ…ไม่ใช่พี่เรย์จิรอฉันอยู่หรอ รีบไปดีกว่าเดี๋ยวพี่จะว่าเอา”ฉันบอกฮันซองแล้วรีบวิ่งออกไปทัน

    ทีแต่ก็ต้องล้มลง เพราะว่าแผลที่ฉันสู้เมื่อกี๊เกิดเจ็บขึ้นมา เลยทำให้ฉ้นล้มและเดินไม่ไหว จึงทำให้

    อีตาโรคจิตฮันซองต้องเข้ามาพยุงฉันไว้ เพื่อพาฉันไปหาพี่เรย์จิที่กำลังรอฉันอยู่หน้าโรงเรียน

    ระหว่างทางที่ฉันกำลังโดนพยุงจากอีตาโรคจิตฮันซอง อยู่ดีๆเขาถามขึ้นมา

    “ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าเธอจะเก่งขนาดนี้ สู้ได้ยังงัยตั้ง 6 คนที่กำลังรุมเธออยู่นะ”ฮันซองถามฉัน

    “ไม่อยากจะโม้อ่ะ ว่าฉันเคยตั้งแก๊งค์ขึ้นมา และแก๊งค์ฉันก็เก่งมาก จนใครๆทั่วญี่ปุ่นต้องยอมรับฝี

    มือและยอมแพ้ให้กับแก๊งค์ฉัน”ฉันบอกกับฮันซอง แล้วนายฮันซองก็หัวเราะขึ้นมา(5555+)อย่าง

    ไม่เชื่อหูตัวเองว่าสาวน้อยหน้าหวานอย่างฉันจะดุ เด็ด เผ็ด มันอย่างนี้

    “แต่เอาเถอะวันหลังก็ระวังแล้วกัน อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีกล่ะ ถ้าคราวนี้ฉันไม่ผ่านมานะ

    เธอคงเจ็บมากกว่านี้”ฮันซองบอกกับฉันด้วยสายตาที่อ่อนโยนอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

    ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 17 ปี เพิ่งได้เห็นครั้งแรกอ่ะ แต่เอาเถอะถือว่าเป็นสิ่งดีทีมีค่าในชีวิตของฉันอีก

    อย่างหนึ่งแล้วกัน แล้วพวกเราก็เดินมาถึงที่ที่พี่เรย์จิยืนรออยู่ พี่เรย์จิพอหันมามองปั๊ปก็ต้องตกใจ

    กับสภาพของฉันที่ต่างจากหมาที่โดนกัดมางั้นแหละ “เฮ้ย…ใครทำน้องข้าว่ะ อย่าให้ข้ารู้นะแม่จ

    ฆ่าไม่ให้เหลือซากเลย”พี่เรย์จิบ่นพร้อมมองดูสภาพร่างกายของฉันอย่างเป็นห่วง “เอ่อ..แล้วใคร

    เป็นทำอ่ะฮันซอง”พี่เรย์จิถามฮันซอง แล้วฮันซองก็ตอบว่า”ไม่รู้เหมือนกันครับรุ่นพี่ เพราะดีผมผ่าน

    ไปเห็นเข้าเลยพาเขามาส่ง งั้นผมไปนะครับ”ฮันซองบอกลาและรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

    “เอ่อ…แต่เอาเถอะ ไม่เจ็บตัวมากเท่าไร งั้นกลับบ้านกันเอริ”พี่เรย์จิบอกพร้อมพยุงฉันให้ขึ้นรถ

    ระหว่างที่ขี่รถอยู่ พี่เรย์จิก็หันหน้ามาถาม”นี่เอริโกะ…ใช่พวกแฟนคลับพี่หรือป่าวที่ทำร้ายเธอ ถ้า

    ใช่ก็บอกพี่นะ พี่จะได้ไปจัดการให้”พี่เรย์จิถามฉันและพูดกับฉันอย่างอ่อนโยนมากๆ

    “ไม่ใช่ค่ะพี่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดอ่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ หนูดูแลตัวเองได้อยู่

    ค่ะ”ฉันบอกพี่เรย์จิและไม่สบกับตาพี่เรย์จิ ขืนบอกไปมีหวังพวกนั้นตายแน่ๆเพราะฉันรู้มาว่าพี่เรย์จิ

    อ่ะเก่งเรื่องต่อสู้มากๆและมีแก๊งค์ที่คุมโรงเรียนนี้อยู่ นั่นก็คือพวกฮันซอง มินโซ ยูอิ ลีซุนและฮันวู

    หลังจากมาจากโรงเรียนฉันก็รีบตรงขึ้นไปบนห้องทันที ขืนให้แม่รู้และพี่เอมิเห็นมีหวังโดนส่งไปอยู่

    กับยายที่อเมริกาแน่ เพราะว่าแม่และพี่เอมิเกลียดการต่อสู้มากจึงไม่อยากให้ฉันมีเรื่อง

    หลังจากอาบน้ำทำแผลเสร็จ ฉันก็ตรงไปที่โทรศัพท์เพื่อที่จะโทรบอกนายฮันซองเรื่องวันนี้

    ( ฮัลโหล..ยัยเอ๋อหรอ มีอะไรหรือป่าว; ฮันซองถามฉัน )

    “ป่าวหรอก….ไม่มีอะไร แค้อยากจะโทรมาบอกว่าขอบคุณนะสำหรับเรื่องวันนี้ ถ้าไม่ได้นายฉันคง

    ถูกพี่เรย์จิฆ่าแน่ๆเลย”ฉันกล่าวขอบคุณอีตาโรคจิต

    ( อ่อ…ไม่เป็นไรหรอก เรื่องธรรมดาน่า ฮั่นแน่นึกว่าฉันอยากจะช่วยนักหรอยัยเอ๋อ ฉันก็แค่ช่วย

    เพื่อนมนุษย์เหมือนกันเท่านั้นแหละ อย่าคิดมากไปล่ะ : ฮันซองพูดมาและหัวเราะไปด้วย )

    “ย่ะ…งั้นก็ขอบใจมากนะ แค่นี้ล่ะ บาย” ฉันลาฮันซอง

    ( เดี๋ยวอย่าเพิ่งวาง )แต่ช้าไปแล้วค่ะ เพราะฉันวางโทรศัพท์ก่อนที่นายโรคจิตนั้นจะพูดจบค่ะ

    แล้วฉันก็ล้มตัวลงนอน พลางคิดถึงเรื่องวันนี้ที่นายฮันซองช่วยฉัน มันกลับทำให้ฉันหน้าแดงเวลาที่

    นึกถึงแววตาของที่อ่อนดยนของนายฮันซองว่าจะมีกับเขาด้วยค่ะ แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะเวลาที่ฮัน

    ซองยิ้มหรืออาย หูเขาจะแดง จมูกจะแดงอย่างกับแอปเปิ้ลเลยค่ะ ยิ่งยิ้มนี้นะค่ะแทบจะทำให้

    สาวๆที่เห็นรอยยิ้มถึงกับต้องเพ้อหาเลยค่ะ เฮจินยังเคยบอกเลยค่ะถ้าใครได้เห็นรอยยิ้มของฮัน

    ซองจะต้องเพ้อหา เพราะว่าอีตาโรคจิตนานๆจะยิ้มค่ะ เขาถึงว่าเป็นเสือยิ้มยากที่ยิ้มยากมากเลย

    ค่ะ แต่เฮจินยังเคยเล่าอีกว่าที่โรงเรียนแห่งนี้จะมีแก๊งค์หนุ่มหล่ออยู่ทั้งหมด 6 คนรวมทั้งพี่เรย์จิ

    ด้วย ทุกคนจะเก่งกันคนละด้านและเป็นคณะกรรมการนักเรียนประจำโรงเรียน พี่เรย์จิเป็น

    ประธานนักเรียน มินโซเป็นกรรมการด้านกีฬา ยูอิเป็นกรรมการด้านความประพฤติ ส่วนลีซุนและ

    ฮันวูเป็นผู้ช่วยของทั้ง 4 คน ส่วนฮันซองเป็นรองประธานนักเรียนที่คุมทุกด้านและช่วยเหลือทุกๆ

    ด้าน เพราะฮันซองเป็นคนที่เก่งมากสามารถจัดการได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่

    สักพักหลังจากฉันคิดถึงแววตาคู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงแม่และพี่เอมิกลับเข้ามาที่บ้านและกำลังเรียก

    ฉันให้ลงไปทานข้าวเย็นด้วยกันแต่ฉันไม่ลงไปทานค่ะ เพราะว่ามันเจ็บแผลมากเลยไม่อยากลุกค่ะ

    หลังจากนั้น ฉันจึงหลับไปอย่างอ่อนแรง เพราะว่าวันทั้งวันฉันต้องออกแรงค่ะ เลยทำให้เหนื่อย

    ง่ายและทำให้หลับสบาย แต่เอ๊ะแล้วพรุ่งนี้ฉันจะมีหน้าไปพบฮันซองหรอเนี่ย เพราะนายนั่นแหละ

    ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ โอ๊ยยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม เอาเป็นว่าไว้วันพรุ่งนี้ค่อยติดต่อแล้วกัน เพราะว่าวันนี้

    ภาพหน้านายลอยเต็มหน้าฉันไปหมดแล้วเนี่ย แล้วฉันจะหลับลงหรอค่ะ ก็เล่นลอย

    มาทั้งหน้าวะขนาดนี้ ฉันจะหลับไหมเนี่ย หลับดีกว่าพรุ่งนี้ฉันยังต้องเจอนายฮันซอง

    ถ้าไม่รีบหลับเดี๋ยวฉันไม่
    สวยค่ะ

    ZzZZZZZZzzzzzzZZZZZZZZZZzzzzzzZZZZzzzzz…………………………………
    ................................................................................................
    ยังงัยก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×