คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : การปรากฎตัวของบอดี้การ์ดหน้าหวาน(ซะเมื่อไหร่กันเล่า)
ในขณะที่ฉันกำลังต่อสู้กับพวกยัยขี้อิจฉา เขาคนนั้นได้มาปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าฉันและยัยขี้อิจฉา
แฟนคลับของนายฮันซองและพี่เรย์จินั่นแหละค่ะ พวกยัยนั่นกล้ารังแกฉันโดยไม่รู้ว่าทางข้างหน้า
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อาจจะกลายเป็นศพโดยไม่รู้ตัว เพราะฉันน่ะได้รับฉายาว่า
”สาวซ่าส์หน้าหวาน”
เพราะว่าภายในแก๊งค์ของฉันจะประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่เก่งในแต่ละชนิดของการต่อสู้แต่สำหรับฉันเป็นกรณีพิเศษ เพราะว่าฉันเก่งไปทุกชนิดของการต่อสู้ทุกคนจึงยอมก้มหัวให้ฉันและ
ยกย่องฉันเป็นหัวหน้าแก๊งค์ แต่มีเพียงพี่ฉัน แม่ฉันและพ่อของฉันเท่านั้นที่ยังไม่รู้ว่าฉันตั้งแก๊งค์
อันธพาลขึ้นมา เพราะว่าทุกคนยังคิดว่าฉันเป็นเด็กเรียบร้อยอยู่ค่ะ สมาชิกภายในแก๊งค์ของฉันที่
ญี่ปุ่นมีทั้งหมด 9 คน แต่ใหญ่ที่สุดในโรงเรียนที่ฉันเคยเรียนอยู่ เพราะแก๊งค์ของฉันจะคุมภายใน
โรงเรียน และมีชื่อแก๊งค์ว่า”ยากูซ่าหน้าหยก” ซึ่งถ้าพูดถึงแล้วคงไม่มีใครปฎิเสธว่าไม่รู้จักหรอกค่ะ
เพราะว่าแก๊งค์ของฉันดังมากในเรื่องการต่อสู้ทุกรูปแบบ และดังมากในญี่ปุ่นค่ะ
“นี่ยัยบ้า ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่หรอว่าให้ระวังตัวเองให้มากกว่านี้ หัดจำไว้บ้างซิ”ฮันซองบ่นให้ฉัน
หลังจากที่เห็นสภาพฉันและพวกยัยแฟนคลับทั้งหลายที่กำลังร้องไห้บอกว่าโดนรังแกจากฉัน แต่
ท่าทางอีตาโรคจิตฮันซองจะไม่เชื่อ เพราะถ้าดูจากสภาพทั่วไปพวกยัยนั่นจะเจ็บมากกว่าฉัน ก็
อย่างว่าแหละค่ะฉันมันอดีตยากูซ่าชื่อดังของญี่ปุ่นที่ต้องผันตัวออกจากวงการนักเลง
“เป็นงัยมั่งอ่ะยัยเอ๋อเจ็บตัวมากหรือป่าว”นายฮันซองถามฉันแต่ไม่ไปถามพวกยัยขี้อิจฉา
แล้วนายฮันซองก็ตะโกนขึ้นมาว่า”ใครเป็นคนหาเรื่องเอริโกะ บอกมานะ”ฮันซองหันหน้าไปถาม
แล้วหนึ่งในนั้นก็บอกว่า”พวกเราไม่รู้เรื่องนะ พวกเราเพียงแต่โดนสั่งให้มาทำอ่ะ”
“ใครเป็นคนสั่ง บอกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันฆ่าพวกเธอแน่”ฮันซองพูดอย่างโกรธและไม่เหลือแววตาคน
เดิมที่ฉันเคยรู้จัก “แชริม อ่ะ เป็นคนสั่งให้พวกเราทำ”หนึ่งในนั้นบอกออกมาอย่างหวาดกลัว
“แชริมยังงั้นหรอ หึหึ พวกเธอไปซะ แล้วอย่ามาเรื่องเอริโกะอีกนะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ จำเอา
ไว้”ฮันซองบอกกับพวกนั้นด้วยสายตาที่น่ากลัวมาก ขนาดว่าสายตาพี่เรย์จิน่ากลัวแล้ว สายตาอีตา
นี้ยังน่ากลัวกว่าอีก แล้วยัยพวกนั้นก็วิ่งนี้ไป โดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย เพราะกลัวว่าจะ
โดนฮันซองฆ่าเอาอ่ะ (ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่านายฮันซองหรืออีตาโรคจิตที่ฉันชอบเรียกประจำจะน่า
กลัวขนาดนี้อ่ะ สงสัยต้องเรียกใหม่แล้ว) ฉันคิดในใจพลางมองหน้าอีตาฮันซองไปด้วย
“นี่ยัยเอ๋อ จะจ้องหน้าฉันอีกนานมั้ย”ฮันซองพูดกับฉันและพลางมองไปทั่วลำตัวฉัน
“เอ๊ะ .อีตานี้โรคจิตจริงๆเลย มองอยู่ได้ (ฉันคิดในใจ)”
“นี่ยัยเอ๋อ เอ๋อสมชื่อจริงๆนะเธอ แล้วจะกลับบ้านยังงัยเนี่ย ไม่ใช่พี่เธํอรออยู่หรอ”ฮันซองถามฉัน
“นั้นสิ ไม่ใช่พี่เรย์จิรอฉันอยู่หรอ รีบไปดีกว่าเดี๋ยวพี่จะว่าเอา”ฉันบอกฮันซองแล้วรีบวิ่งออกไปทัน
ทีแต่ก็ต้องล้มลง เพราะว่าแผลที่ฉันสู้เมื่อกี๊เกิดเจ็บขึ้นมา เลยทำให้ฉ้นล้มและเดินไม่ไหว จึงทำให้
อีตาโรคจิตฮันซองต้องเข้ามาพยุงฉันไว้ เพื่อพาฉันไปหาพี่เรย์จิที่กำลังรอฉันอยู่หน้าโรงเรียน
ระหว่างทางที่ฉันกำลังโดนพยุงจากอีตาโรคจิตฮันซอง อยู่ดีๆเขาถามขึ้นมา
“ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าเธอจะเก่งขนาดนี้ สู้ได้ยังงัยตั้ง 6 คนที่กำลังรุมเธออยู่นะ”ฮันซองถามฉัน
“ไม่อยากจะโม้อ่ะ ว่าฉันเคยตั้งแก๊งค์ขึ้นมา และแก๊งค์ฉันก็เก่งมาก จนใครๆทั่วญี่ปุ่นต้องยอมรับฝี
มือและยอมแพ้ให้กับแก๊งค์ฉัน”ฉันบอกกับฮันซอง แล้วนายฮันซองก็หัวเราะขึ้นมา(5555+)อย่าง
ไม่เชื่อหูตัวเองว่าสาวน้อยหน้าหวานอย่างฉันจะดุ เด็ด เผ็ด มันอย่างนี้
“แต่เอาเถอะวันหลังก็ระวังแล้วกัน อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีกล่ะ ถ้าคราวนี้ฉันไม่ผ่านมานะ
เธอคงเจ็บมากกว่านี้”ฮันซองบอกกับฉันด้วยสายตาที่อ่อนโยนอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 17 ปี เพิ่งได้เห็นครั้งแรกอ่ะ แต่เอาเถอะถือว่าเป็นสิ่งดีทีมีค่าในชีวิตของฉันอีก
อย่างหนึ่งแล้วกัน แล้วพวกเราก็เดินมาถึงที่ที่พี่เรย์จิยืนรออยู่ พี่เรย์จิพอหันมามองปั๊ปก็ต้องตกใจ
กับสภาพของฉันที่ต่างจากหมาที่โดนกัดมางั้นแหละ “เฮ้ย ใครทำน้องข้าว่ะ อย่าให้ข้ารู้นะแม่จ
ฆ่าไม่ให้เหลือซากเลย”พี่เรย์จิบ่นพร้อมมองดูสภาพร่างกายของฉันอย่างเป็นห่วง “เอ่อ..แล้วใคร
เป็นทำอ่ะฮันซอง”พี่เรย์จิถามฮันซอง แล้วฮันซองก็ตอบว่า”ไม่รู้เหมือนกันครับรุ่นพี่ เพราะดีผมผ่าน
ไปเห็นเข้าเลยพาเขามาส่ง งั้นผมไปนะครับ”ฮันซองบอกลาและรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ แต่เอาเถอะ ไม่เจ็บตัวมากเท่าไร งั้นกลับบ้านกันเอริ”พี่เรย์จิบอกพร้อมพยุงฉันให้ขึ้นรถ
ระหว่างที่ขี่รถอยู่ พี่เรย์จิก็หันหน้ามาถาม”นี่เอริโกะ ใช่พวกแฟนคลับพี่หรือป่าวที่ทำร้ายเธอ ถ้า
ใช่ก็บอกพี่นะ พี่จะได้ไปจัดการให้”พี่เรย์จิถามฉันและพูดกับฉันอย่างอ่อนโยนมากๆ
“ไม่ใช่ค่ะพี่ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดอ่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ หนูดูแลตัวเองได้อยู่
ค่ะ”ฉันบอกพี่เรย์จิและไม่สบกับตาพี่เรย์จิ ขืนบอกไปมีหวังพวกนั้นตายแน่ๆเพราะฉันรู้มาว่าพี่เรย์จิ
อ่ะเก่งเรื่องต่อสู้มากๆและมีแก๊งค์ที่คุมโรงเรียนนี้อยู่ นั่นก็คือพวกฮันซอง มินโซ ยูอิ ลีซุนและฮันวู
หลังจากมาจากโรงเรียนฉันก็รีบตรงขึ้นไปบนห้องทันที ขืนให้แม่รู้และพี่เอมิเห็นมีหวังโดนส่งไปอยู่
กับยายที่อเมริกาแน่ เพราะว่าแม่และพี่เอมิเกลียดการต่อสู้มากจึงไม่อยากให้ฉันมีเรื่อง
หลังจากอาบน้ำทำแผลเสร็จ ฉันก็ตรงไปที่โทรศัพท์เพื่อที่จะโทรบอกนายฮันซองเรื่องวันนี้
( ฮัลโหล..ยัยเอ๋อหรอ มีอะไรหรือป่าว; ฮันซองถามฉัน )
“ป่าวหรอก .ไม่มีอะไร แค้อยากจะโทรมาบอกว่าขอบคุณนะสำหรับเรื่องวันนี้ ถ้าไม่ได้นายฉันคง
ถูกพี่เรย์จิฆ่าแน่ๆเลย”ฉันกล่าวขอบคุณอีตาโรคจิต
( อ่อ ไม่เป็นไรหรอก เรื่องธรรมดาน่า ฮั่นแน่นึกว่าฉันอยากจะช่วยนักหรอยัยเอ๋อ ฉันก็แค่ช่วย
เพื่อนมนุษย์เหมือนกันเท่านั้นแหละ อย่าคิดมากไปล่ะ : ฮันซองพูดมาและหัวเราะไปด้วย )
“ย่ะ งั้นก็ขอบใจมากนะ แค่นี้ล่ะ บาย” ฉันลาฮันซอง
( เดี๋ยวอย่าเพิ่งวาง )แต่ช้าไปแล้วค่ะ เพราะฉันวางโทรศัพท์ก่อนที่นายโรคจิตนั้นจะพูดจบค่ะ
แล้วฉันก็ล้มตัวลงนอน พลางคิดถึงเรื่องวันนี้ที่นายฮันซองช่วยฉัน มันกลับทำให้ฉันหน้าแดงเวลาที่
นึกถึงแววตาของที่อ่อนดยนของนายฮันซองว่าจะมีกับเขาด้วยค่ะ แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะเวลาที่ฮัน
ซองยิ้มหรืออาย หูเขาจะแดง จมูกจะแดงอย่างกับแอปเปิ้ลเลยค่ะ ยิ่งยิ้มนี้นะค่ะแทบจะทำให้
สาวๆที่เห็นรอยยิ้มถึงกับต้องเพ้อหาเลยค่ะ เฮจินยังเคยบอกเลยค่ะถ้าใครได้เห็นรอยยิ้มของฮัน
ซองจะต้องเพ้อหา เพราะว่าอีตาโรคจิตนานๆจะยิ้มค่ะ เขาถึงว่าเป็นเสือยิ้มยากที่ยิ้มยากมากเลย
ค่ะ แต่เฮจินยังเคยเล่าอีกว่าที่โรงเรียนแห่งนี้จะมีแก๊งค์หนุ่มหล่ออยู่ทั้งหมด 6 คนรวมทั้งพี่เรย์จิ
ด้วย ทุกคนจะเก่งกันคนละด้านและเป็นคณะกรรมการนักเรียนประจำโรงเรียน พี่เรย์จิเป็น
ประธานนักเรียน มินโซเป็นกรรมการด้านกีฬา ยูอิเป็นกรรมการด้านความประพฤติ ส่วนลีซุนและ
ฮันวูเป็นผู้ช่วยของทั้ง 4 คน ส่วนฮันซองเป็นรองประธานนักเรียนที่คุมทุกด้านและช่วยเหลือทุกๆ
ด้าน เพราะฮันซองเป็นคนที่เก่งมากสามารถจัดการได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่
สักพักหลังจากฉันคิดถึงแววตาคู่นั้น ฉันก็ได้ยินเสียงแม่และพี่เอมิกลับเข้ามาที่บ้านและกำลังเรียก
ฉันให้ลงไปทานข้าวเย็นด้วยกันแต่ฉันไม่ลงไปทานค่ะ เพราะว่ามันเจ็บแผลมากเลยไม่อยากลุกค่ะ
หลังจากนั้น ฉันจึงหลับไปอย่างอ่อนแรง เพราะว่าวันทั้งวันฉันต้องออกแรงค่ะ เลยทำให้เหนื่อย
ง่ายและทำให้หลับสบาย แต่เอ๊ะแล้วพรุ่งนี้ฉันจะมีหน้าไปพบฮันซองหรอเนี่ย เพราะนายนั่นแหละ
ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ โอ๊ยยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม เอาเป็นว่าไว้วันพรุ่งนี้ค่อยติดต่อแล้วกัน เพราะว่าวันนี้
ภาพหน้านายลอยเต็มหน้าฉันไปหมดแล้วเนี่ย แล้วฉันจะหลับลงหรอค่ะ ก็เล่นลอย
มาทั้งหน้าวะขนาดนี้ ฉันจะหลับไหมเนี่ย หลับดีกว่าพรุ่งนี้ฉันยังต้องเจอนายฮันซอง
ถ้าไม่รีบหลับเดี๋ยวฉันไม่สวยค่ะ
ZzZZZZZZzzzzzzZZZZZZZZZZzzzzzzZZZZzzzzz
................................................................................................
ยังงัยก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น