คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ 1...
ท่ามกลางต้นพีชสีชมพูที่กำลังออกดอกเต็มต้นมีชายหนุ่มอายุราวๆ 15 ปีนั่งอยู่ที่ปลายหลุมศพเงียบๆ
"มานั่งตรงนี้อีกแล้วเหรอคะ พี่ชาย" เสียงใสๆ ของเด็กหญิงอายุประมาณ 10 ขวบดังขึ้นข้างๆ ชายหนุ่มหันไปมองต้นเสียง เด็กหญิงเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เอื้อนเอ่ยอะไรจึงพูดต่อ
"มายเห็นพี่ชายมานั่งตรงนี้ทุกวัน..." เด็กหญิงมองไปที่รูปเด็กหญิงผมเหยียดตรงสีดำที่ติดไว้ที่ป้ายหลุมศพ มีชื่อเขียนไว้ว่า "ไอริน วิวัฒน์สันติโรจน์"
"น้องสาวพี่เหรอคะ" เด็กหญิงถามต่อ
"คะ น้องสาวพี่เอง" เขาตอบเสียงเครือ
"พี่รักเธอมากเหรอคะ"
"คะ รักมากที่สุด" เขาตอบสั้นๆ
"ไอรินเป็นอะไรถึงตายเหรอคะ" เด็กหญิงถามต่อ
"รถชนคะ พี่เป็นคนทำเอง พี่ไม่น่าปล่อยให้ไอไปเดินเล่นเลย ไม่น่าเลย"
"สองปีแล้วเหรอคะ" เด็กหญิงถามเมื่อเห็นวันที่ที่เธอตาย ชายหนุ่มพยักหน้ารับ
"พี่ชายพักอยู่ที่ไหนคะ เดี๋ยวมายจะไปส่งเองนะคะ ให้มายเป็นน้องสาวพี่ชายได้มั้ยคะ" ชายหนุ่มหันมามองเด็กหญิงข้างๆ ด้วยความแปลกใจระคนสงสัย
"มายอยากมีพี่ชายค่ะ พี่ชายมายตายด้วยอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อนเหมือนกัน" ชายหนุ่มตัดสินใจไม่นานก็เอ่ยปาก
"ได้สิ ต่อไปนี้มายก็เป็นน้องสาวพี่ได้ พี่ชื่อธีระ"
11 ปีต่อมา...
ณ ห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเทพฯ หญิงสาวอายุ 25 ปีรูปร่างสูงเพรียวหุ่นนางแบบ ผิวขาวจัดอมชมพูอย่างคนมีสุขภาพดี ผมสีน้ำตาลอ่อนออกสีทองเป็นเกลียวสวยสยายยาวปลิวไสว ใบหน้าอมชมพูงดงามไร้เครื่องสำอาง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโตภายใต้แพขนตางอนยาวกว่าธรรมดาของผู้หญิงทั่วไป 2 เท่า จมูกเล็กโด่งสวยงาม ริมฝีปากดั่งกลีบกุหลาบสีชมพู ท่อนขาเรียวยาวก้าวเข้าไปในร้านตุ๊กตาน่ารักแห่งหนึ่ง
กึก!
นั่นอะไร...กลางร้านตรงนั้นน่ะ ผู้หญิงผมดำที่ซอยสั้นคนหนึ่งกำลังควงแขนกับผู้ชายผมสีน้ำตาลเข้ม มันก็ไม่น่าสนใจนักหรอก ถ้า...ถ้าหากว่ากระเป๋าสีชมพูใบนั้นไม่ใช่ใบเดียวกับที่เพื่อนฉันใช้ และถ้าผู้ชายคนนั้นไม่หน้าเหมือนแฟนฉันขนาดนี้!!!
ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะเห็นฉันแล้ว...หน้าไอ้คนทรยศเวลาโดนจับได้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง มือเรียวบางฉวยตุ๊กตาตัวใหญ่ขึ้นมาแล้วขว้างไปโดนหน้าคมสันที่ตอนนี้ขาวซีดยิ่งกว่าไก่ต้มค้างคืนอย่างแรง...
"คนทรยศ!" ใบหน้าขาวจัดอมชมพู กลายเป็นสีแดงจัดด้วยความโกรธ
"ฉันไม่นึกเลยนะมิ้นท์ว่าเธอจะกล้าทรยศหักหลังฉัน...ฉันอุตส่าห์ไว้ใจเธอ ทำไมผู้ชายในโลกนี้มันหายากนักรึไงถึงได้มาแย่งแฟนฉัน ฉันไว้ใจเธอแต่เธอกลับทรยศฉันได้อย่างเลือดเย็น...ไม่ต้องพูด ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น" ว่าจะสะใจก็เบนเข็มเป้าหมายไปที่ชายร่างสูงคนข้างๆ
"ต้า เสียดายที่เราคบกันมาตั้ง 2 ปี หวานไม่คิดว่าต้าจะเป็นคนอย่างนี้ เราเลิกกัน!" สาวร่างบางหุ่นนางแบบยืนนิ่งรอฟังคำตอบ
"ก็ได้ ถ้าหวานต้องการ" หญิงสาวอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็เชิดหน้าขึ้นนิดๆ
"คะ น้ำผึ้งต้องการ" เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียกตัวเอง เน้นเล็กน้อยที่ชื่อตนเอง ก่อนจะเดินสาวท้าวผ่านร่างสูงไปโดยไม่หันมามอง
"โอ้ย พอเถอะยัยน้ำผึ้ง แกก็ทะเลาะกับเขาทุกวันนั่นแหละ สุดท้ายแกก็ต้องไปง้อเค้าถึงที่" สาวผิวสีน้ำผึ้งในชุดนักศึกษากระโปรงสั้น ใบหน้าเรียวได้รูปที่ตอนนี้ฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มนิดๆ ที่พยายามปิดไว้เต็มที่
"แต่ครั้งนี้ฉันขอเลิกกับเขาไปแล้ว" คัคนางค์บอกเสียงอ่อย
"หา!! ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว"
"อืม ฉันเห็นเค้าควงกับมิ้นท์กลางห้าง แกคิดว่ายังไงล่ะฟ้า ให้ฉันเดินเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า ไงเป็นไงบ้าง มาเที่ยวกันสองคนเหรอ ขอให้สนุกนะ ฉันทำไม่ได้หรอกนะยะ ฉันก็เลยขอเลิกกับต้าไปเลย แถมยังมีหน้ามาบอกอีกว่า ได้เลยถ้าหวานต้องการ เค้าคงคิดว่าฉันจะไปตามง้อเค้าอีก ไม่อีกแล้วล่ะฟ้า ฉันจะไม่อีกแล้ว" หญิงสาวพูดเสียงสั่นเครือจนคนเป็นเพื่อนอดสงสารไม่ได้
"ฉันก็ไม่เข้าใจหรอกนะไอ้เรื่องพวกนี้น่ะ แกก็รู้ว่าฉันน่ะ...ไม่มีแฟน ฉันเลยไม่รู้จะช่วยแกยังไงดี" อริสาพูดอย่างอ่อนใจ
"ฉะ...ฉันอยากร้องไห้" ไม่พูดเปล่าเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าในดวงตาคู่สวยขึ้นมาแล้ว
"เฮ้ย! น้ำผึ้ง อย่าทำตัวเป็นคุณหนูตอนนี้สิ เข้มแข็งหน่อยสิวะ...ฉันว่าแกไปเปิดสมองผ่อนคลายบ้างก็ดีนะ ไปเที่ยวไง" หญิงสาวที่เพิ่งถูกว่าไปหยกๆ ชะงักนิดนึง
"เที่ยวเหรอ...อืมก็ดี แกไปด้วยดิ" คัคนางค์ชวน
"เออ ฉันก็อยากเหมือนกันแหละ แต่ฉันจะตามไปทีหลัง ว่าแต่แกจะไปที่ไหนอ่ะ"
"เอื้อง นั่นจะไปไหนน่ะลูก" เจ้านางคำแก้ว สุเตนันท์เอ่ยถามด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นลูกสาวคนเล็กของท่านแพ็กกระเป๋า
"เอื้องจะไปเชียงใหม่ค่ะเจ้าแม่ ตอนนี้เอื้องก็เรียนจบแล้วอยากจะไปรีแล็กซ์บ้าง เครียดมาทั้งปีแล้ว" บุตรีสาวหน้าหวานตอบโดยที่ไม่หันมามองมารดา
"ไปคนเดียวหรือคะลูก" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"คะเจ้าแม่ เอื้องจะไปพักที่เรือนแก้วคัคนางค์ค่ะ"
"แล้วจะไปนานมั้ยคะ"
"ไม่มีกำหนดกลับค่ะเจ้าแม่แม่ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ..." บุตรสาวหันมาหามารดา แล้วสวมกอดพร้อมกับหอมแก้มไปอีกที
"เอื้องจะโทรมาหาเจ้าแม่ทุกวันเลยคะ"
"จ้า เจ้าแม่จะรอนะคะ"
ยิ่งฝืนก็ยิ่งเจ็บ เขาก็ยิ่งเบื่อ
ยอมให้มันเหลือเท่าที่เหลือก็แล้วกัน
ไม่รักก็ไม่บอก บอกมาก็จบกัน
ปล่อยให้ฉัน ฝันอยู่ข้างเดียว
กลับมารักตัวเอง กลับมาเป็นเหมือนเก่า
อยู่ตามประสาเราที่เคยเป็น
สนุกไปวันๆ อยากเป็นอะไรก็เป็น
ขาดเขา ไม่เห็นจะเป็นไร
เมื่อเขาไม่รักเรา ก็อย่าไปรักเขา
เขาก็แค่หลอกเราให้หลงดีใจ
เมื่อเขาไม่รักจริง ก็ต้องปล่อยเขาไป
อย่าฝืนให้มันเหนื่อยใจ อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย
(เขาไม่รักเรา เอ็ม The star)
มือเรียวบางเอื้อมไปปิดเพลง...ใช่ เมื่อเขาไม่รักเรา ก็อย่าไปรักเขา...รักเล็บดีกว่า คัคนางค์ ผู้เป็นดาวคณะ แต่ไม่สวยพอเป็นดาวมหาลัยผู้รักเล็บเป็นชีวิตจิตใจ (รองจากแฟน) ทุกอาทิตย์เธอจะต้องเปลี่ยนลายเล็บใหม่ เล็บสีชมพูที่เคยตัดสั้นตอนอยู่ม.ต้น พอตอนม. ปลายบังเอิญเปิดทีวีไปเจอช่องที่กำลังประกวดเพ้นท์เล็บกันอยู่ ตั้งแต่นั้นเธอก็ค่อยๆ ไว้เล็บให้ยาวที่สุด จนตอนนี้ยาวออกมาเกือบเกือบนิ้วนึงแล้ว เพิ่งมีโอกาสได้เพ้นท์ครั้งแรกตอนเรียนป.ตรีที่เมืองไทยก็ไม่เห่อเท่าไหร่เพราะขี้เกียจไปนั่งเพ้นท์แต่พอไปเรียน ป.โทที่อมริกานี่แหละเปลี่ยนลายทุกอาทิตย์ เสาร์ - อาทิตย์ที ก็ไปนั่งอยู่ร้านเล็บครึ่งวัน
แล้วเมื่อเช้าก่อนจะมาเชียงใหม่ เธอก็เพิ่งไปเพ้นท์มาใหม่ใช้เวลาตั้ง 2 ชั่วโมงกว่า คราวนี้เป็นออกสีเทา - ฟ้า ติดก้านดอกไม้คริสติลเล็กๆ มีมุขเม็ดเล็กๆ แซมด้วยกากเพชร ลูกปัดเม็ดเล็กๆ ก็ร้อยกับลวดพันรอบติดที่โคนเล็บแล้วพันขึ้นมาที่นิ้วเล็บหนึ่งบ้าง ติดก้านคริสติลที่เลียนแบบกิ่งไม้ธรรมชาติอันเล็กๆ ไว้บ้าง บางนิ้วก็ติดเม็ดคริสตัลเรียงเป็นแถวตั้งแต่โคนนิ้วยันปลายนิ้ว ติดตุ๊กตาการ์ตูนตัวเล็กๆ ไว้บ้าง ลายแต่ละเล็บก็จะไม่เหมือนกัน แตกต่างกันไปเลยใช้เวลาแต่งนาน และลายนี้แหละที่เคยชนะการประกวดที่ญี่ปุ่นมาแล้ว
และไม่ว่าด้วยความที่อยู่กับเธอนานเกินไปหรือไงก็ไม่ทราบ อริสาตอนนี้ก็เพ้นท์เล็บเหมือนกัน แต่ก็ไม่ขยันเปลี่ยนลายทุกวันเหมือนเธอ
ด้วยความที่รักการเพ้นท์เล็บจัด น้ำผึ้งก็เลยไปเรียนเพ้นท์มาจากลอนดอนจนเพ้นท์เก่งยิ่งกว่ามืออาชีพ แต่ที่ไปร้านเพ้นท์ก็เพราะเพ้นท์ให้ตัวเองไม่ได้ และร้านนั้นก็ไม่ใช่ร้านใคร ร้านของเธอเอง ลูกน้องคนสนิทของเธอก็เพ้นท์เก่ง ไม่เสียแรงที่ลงทุนส่งไปเรียนที่ลอนดอนมาเหมือนกัน และด้วยอานิสงส์ที่เธอชอบเพ้นท์เล็บ ทั้งแม่บ้าน แม่ครัว คนใช้ รวมไปถึงคุณแม่ของเธอจึงพลอยเล็บสวยไปด้วย
และเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเหลือเกินก็คือชื่อของเธอ เธอมีชื่อ (ถ้าไม่รวมชื่อจริง) ตอนนี้ 3 ชื่อ ชื่อแรกคือจ้าวนางน้อย (ชื่อที่คนใช้ หรือคนเหนือที่รู้จักเรียกเธอ) 2. น้ำผึ้ง (ชื่อที่พ่อเธอตั้งให้) และ 3. เอื้องแก้ว (คุณแม่ตั้งให้) ชื่อสุดท้ายนี้มีเพียงแม่เธอ กับคนที่สนิทกันจริงๆ ในหมู่ครอบครัวเท่านั้นที่เรียกกัน แต่ส่วนใหญ่จะเรียกว่าเจ้านางน้อย และเพื่อนก็เรียกว่าน้ำผึ้ง
รถสปอร์ตสีดำจอดสนิทที่หน้าบ้านหลังใหญ่ทำด้วยหินอ่อนบนยอดเขาในจังหวัดเชียงใหม่ หน้าบ้านมีป้ายไม้เขียนไว้ว่า "เรือนแก้วคัคนางค์" บ้านของเธอจะออกแนวรีสอร์ทธรรมชาติ มีสวนดอกไม้เมืองหนาวอยู่หน้าบ้าน เพราะจ้าวนางคำแก้วเป็นคนรักดอกไม้มาก จึงลงทุกจ้างนักออกแบบจัดสวนจากอมริกามาออกแบบสวนให้จนกลายเป็นสวนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยดอกไม้เกือบร้อยชนิด ออกดอกชูช่อแข่งกันบานได้ทั้งปี
"จ้าวนางน้อย" หญิงสาวที่กำลังก้าวลงจากรถหันไปทางต้นเสียงด้วยรอยยิ้ม
"ป้าเอิบ" หญิงชราสวมกอดหญิงสาวด้วยความรักและคิดถึง หญิงชราคลายอ้อนกอด แล้วสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์
"จ้าวนางน้อยโตขึ้นมากเลยนะเจ้าคะ ครั้งสุดท้ายข้าเจ้าจำได้ที่จ้าวนางน้อยมาที่นี่ก็ตอนอายุ 12 ก็เกือบ 10 ปีแล้วสิเจ้าคะที่เจ้านางน้อยไม่เคยมาอีกเลย" น้ำเสียงตัดพ้อเต็มไปด้วยความน้อยใจ
"โอ๋ ป้าเอิบขา ก็เอื้องยุ๊งยุ่งนี่คะ เนี่ยกว่าจะมาได้ก็เกือบตายแน่ะคะ เพิ่งสอบเสร็จ" น้ำเสียงออดอ้อนไม่กี่คำก็ทำให้หญิงชรากลับมายิ้มได้อีกครั้ง
"ว่าแต่ป้าเอิบมีอะไรให้เอื้องทานมั่งคะ เนี่ยหิวมากก ขึ้นเครื่องมาก็ไม่ได้กินอะไรเลย ตั้งใจหิ้วท้องมาฝากไว้กับป้าเอิบเลยนะคะเนี่ย" พูดไปก็ลูบท้องไป แม่บ้านชราถึงกับหัวเราะออกมาในความน่ารักของหญิงสาวที่ไม่เคยเปลี่ยน
"มีข้าวซอยของโปรดจ้าวนางน้อยเจ้าค่ะ"
"พี่ธีระ!!!" หญิงสาววัย 21 ปีใบหน้าน่ารักรับกับผมสไลด์บางๆ โผเข้ากอดชายหนุ่มใบหน้าหวานได้รูปคมเข้มเพราะไว้หนวดเครารุงรังทั่วใบหน้า ผมซอยประบ่าสีน้ำตาลทองขับให้ผิวที่ขาวจัดยิ่งแลดูขาวขึ้นอีก ดวงตาสีสนิมใต้แพขนตางอนยาวไม่ผิดจากผู้หญิง แต่งกายด้วยชุดเสื้อยืดสีขาวไม่มีลาย กับกางเกงยีนส์สีซีดที่มีรอยขาดเต็มไปหมด
"โอ้ย! มาย พี่หายใจไม่ออก" ชายหนุ่มพูดแล้วไอสองสามทีเพื่อความสมจริง จนน้องสาวอดมองตาขวางไม่ได้
"แหมพี่ธีระ มายไม่ได้เจอพี่ธีระตั้ง 3 ปีก็คิดถึงอยากกอดบ้างสิ" ผู้เป็นน้องพูดเสียงกระเง้ากระงอดอย่างอนๆ
"ก็เจอพี่ธนะทุกวันอยู่แล้วนี่" ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ
"เชอะ...เอ๋ แล้วนี่พี่ธีระย้อมผมเหรอคะเนี่ย ปล่อยผมซะยาวเลย ไว้หนวดเคราด้วย ตอนแรกที่มายเห็นนึกว่าเป็นคนป่าหลุดมาซะอีก" น้องสาวเอ่ยพร้อมกับสำรวจพี่ชายอีกรอบ
"เอาๆ สำรวจซะให้พอเพราะพี่จะต้องไปแล้ว แค่แวะมาเอาของ" ชายหนุ่มพูดจบก็วิ่งเข้าไปในบ้าน 2 นาทีต่อมาก็วิ่งออกมาหอมแก้มน้องสาวทีหนึ่งแล้วขึ้นรถออกไปเลยทิ้งให้น้องสาวยืนมองตามตาปริบๆ
"อ้า อิ่มสุดๆ ไปเลยคะป้าเอิบ" เจ้านางน้อยกำลังนั่งลูบท้องหมดสภาพอยู่บนเก้าอี้ ข้างๆ มีแม่นมยืนยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆ
"อ้อ! ป้าบอกจ้าวนางน้อยรึยังเจ้าคะเรื่องเรือนพลอยคัคนางค์น่ะค่ะ" ป้าเอิบพูดด้วยเสียงไม่แน่ใจ เรียกความสนใจจากหญิงสาวได้เต็มที่
"เรื่องอะไรหรือคะ" คัคนางค์ถามด้วยเสียงแปลกใจ เรือนพลอยคัคนางค์คือบ้านที่สร้างจากไม้เนื้อหอม อยู่ติดกับเรือนแก้วคัคนางค์มีเพียงต้นหอมหมื่นลี้ปลูกเป็นแถวกั้น มีต้นแก้วปลูกล้อมรอบบ้าน แต่ภายในตกแต่งแบบตะวันออก เป็นเรือนที่เธอรักมาก
"คือจะมีคนมาเช่าเจ้าคะ แล้วป้าก็อนุญาตไปแล้ว"
"อืม จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน เรือนนั้นไม่มีคนอยู่มานานแล้ว เอาเป็นว่าน้ำผึ้งอนุญาตคะ แล้วเขาจะมาอยู่เมื่อไหร่คะ" เธอหยิบนมในแก้วทรงสูงขึ้นมาจิบ
"คืนนี้เจ้าคะ"
พรวด!
นมที่เพิ่งจิบเข้าไปพุ่งออกมา ตามด้วยอาการสำลักของผู้อยากเล่นสงกรานต์เมื่อครู่
"แค่กๆ คืนนี้เหรอคะ" เธอถามอย่างตกใจ
"เจ้าคะ เค้าติดต่อมาตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้วเจ้าคะ" หญิงสาวพยักหน้ารับนิดๆ
"งั้นเดี๋ยวน้ำผึ้งไปเช็คความเรียบร้อยก่อนนะคะ อ้อ! เขาจะมาพักกี่คนล่ะจ๊ะ"
"2 เจ้าค่ะ สองคน"
"อืม เตียงนี่ดีแล้วล่ะจ๊ะ แต่เอื้องไม่อยากให้มันเรียบเหมือนโรงแรม เอาผ้าปูสีครีมของฉันมาเปลี่ยนแล้วกันนะ" คนใช้สองคนพยักหน้าแล้วออกไปทำตามคำสั่ง
"ส่วนม่านก็ช่วยเปลี่ยนเป็นสีครีมด้วย ในห้องน้ำก็ขัดอ่างด้วยนะ อ้อ! จัดดอกไม้ไว้ห้องละแจกันด้วยนะ แล้วก็ไปเก็บดอกลีลาวดีมาลอยน้ำ แล้วไว้ที่โต๊ะเล็กด้วยนะจ๊ะ" หญิงสาวสั่งเป็นชุด จนคนใช้ต้องจดรายการไว้ในมือกันลืม
"เจ้าค่ะจ้าวนางน้อย"
"จ้าวนางน้อยเจ้าคะ คุณเอิบให้ข้าเจ้ามารายงานว่าแขกจะมาถึงอีกครึ่งชั่วโมงเจ้าค่ะ" คนใช้รายงาน คนใช้ แม่บ้าน รวมไปถึงคนสวนที่นี่จะแต่งชุดพื้นเมือง ผู้ชายจะใช้ผ้าโพกศีรษะ ใส่ชุดผ้าพื้นเมือง ส่วนผู้หญิงจะใส่ผ้าซิ่น เสื้อแขนยาว ใส่เครื่องเงินตามที่มี ขมวดผมปักปิ่นบ้าง ปักดอกไม้บ้างแล้วแต่คนชอบ
"ดีจ๊ะ คือนี้ก็จัดอาหารรับแขกไว้ที่เรือนแก้วด้วยนะ เอื้องจะทานข้าวกับเขา" เจ้านางน้อยสั่งแล้วเดินลงเรือนกลับเรือนแก้วคัคนางค์
ความคิดเห็น