ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ◑ †нє ∂ιмεитισи ◐

    ลำดับตอนที่ #5 : 4th ❀ Stranger.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 58
      0
      2 ธ.ค. 54

    Supercell

    4th
    Stranger

     

    “กรรมล่ะข้า ตายตายตาย ข้าตายแน่

    เสียงหนึ่งสถบอย่างหัวเสียปนร้อนรน ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบที่มืดมิด

                เสียงอะไร..?’

                ลูน่ามองตรงไปข้างหน้า แต่สิ่งที่เห็นมีเพียงฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจาย..

                “โอ้ยย .. อย่าเป็นอะไรไปน้า..”

                เสียงนั้นเริ่มร้อนรนขึ้นเรื่อยๆ

                เธอเอื้อมมือของตนเองไปข้างหน้าช้าๆ.. โบกไปโบกมาฝ่ากลุ่มควันจนมันฟุ้งกระจายยิ่งกว่าเดิม ..บดบังทัศนวิสัยของตนเองเสียมิด..

                แต่เหมือนมีมือหนึ่งเอื้อมมาคว้าเธอเอาไว้..

                และดึงเธอออกจากกลุ่มควันนั้นไป..

                แต่ว่า..

     

     

    ใครกันนะ????

     

                .

                .

                .

                .

                .

                ฟึ่บ!

                เหมือนมีแรงกระชากเธอออกมาจากอะไรบางอย่าง เด็กสาวลืมตาขึ้นมาอย่างมึนๆ สิ่งแรกที่ปรากฏเข้าในทัศนวิสัยการมองเห็นคือ.. หน้าของคนๆหนึ่ง

                ดวงตากลมโตใสแจ๋วกำลังจ้องมาทางเธอด้วยความปิติยินดี ในวินาทีนั้นลูน่ากำลังพยายามจูนสมองและเรียบเรียงความทรงจำของตนเอง ..

                แต่ตัวเธอเองนั้นกลับจับจ้องอยู่แต่ที่บุคคลแปลกประหลาดเบื้องหน้า

    ใบหน้าเรียว ขาวเนียน จมูกโด่งเป็นสัน กับเรือนผมสีน้ำตาลเฉกเช่นเดียวกับดวงตาที่ยุ่งฟูยังกับถูกรุมทึ้งมา

    นี่มันผู้หญิงหรือผู้ชายฟะ?!

    คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในใจ..

    “ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ฟื้นซะแล้วว! ดีใจจริงๆที่เจ้าฟื้น!” อีกฝ่ายพูดเสียงเริงร่า เขย่าไหล่เธออย่างมีความสุข เสียงทุ้มๆนั่นเป็นผู้ชายแน่นอน.. อืม.. ผู้ชายสินะ..

    อ่าวเฮ่ยผู้ชาย?!’

    ผลักร่างสูงใหญ่นั้นออกไปแล้วถอยกรูดติดหัวเตียง มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง

    ที่นี้มันที่ไหนกัน?!

    “ไม่ต้องมองบ้านข้าซะแปลกขนาดนั้นก็ได้”

    ชายหนุ่มปริศนาเอ่ยพร้อมทำหน้ายู่ราวกับเด็กๆ แต่ลูน่าไม่มีเวลามาสนใจความเด็กของเขา สมองตันๆที่ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่กำลังประมวลผลอย่างเร็วจี๋

    ออกไปเดินเล่นในเมือง .. กินขนม .. กลับบ้าน .. ง่วง.. เสียงอะไรซักอย่าง.. แล้วก็..

    แล้วก็...!

    “โอ๊ะ” ความเจ็บแปลบแล่นปรี้ดอยู่แถวๆบริเวณหน้าผาก เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเอานิ้วจิ้มๆตรงนั้นเบาๆ ก่อนจะทำหน้าสำนึกผิดเมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเธอ

    “โอ๊ะ ขอโทษที ยังเจ็บอยู่หรอ?” ลูน่าพยักหน้าเงียบๆ แตะหน้าผากตัวเองเบาๆ รู้สึกถึงสัมผัสนิ่มๆปนหยาบของผ้าก้อช แล้วจึงเอ่ยถามเสียงเบา

    “เกิดอะไรขึ้นกับหัวฉะ..อ..เอ้ย ..ข้า?”

    นี่มัน.. เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันเนี่ย ???

    “ฉัน?” ว่าพลางเลิกคิ้วเล็กน้อย “เพิ่งมาใหม่สินะ” พยักหน้าอย่างเข้าใจไปตามความคิดตนเอง “นี่เจ้าจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น?”

    ลูน่าส่ายหน้ามึนๆ.. แตะหน้าผากตัวเองเบาๆ พยายามจะนึก

    “ก็เจ้าสะดุดเฮดโฟนของข้าหัวคะมำน่ะสิ่ ข้าอุตส่าห์ตะโกนเรียกแล้วแท้ๆนะ เจ้าก็ยังจะหันมาทำหน้าเอ๋อใส่ข้า แล้วก็สะดุดเฮดโฟนหัวคว่ำดิ่งลงพสุธาไปเลยยยย..”

    อ..เอ๋ ??

    ท..ทำหน้าเอ๋อ ??

    ด..ดิ่งพสุธา ??

    อะไรน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ?!?!?

    “ข้าก็เลยพาเจ้ามาทำแผลที่บ้านข้าก่อน ข้าทำแผลไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่ก็.. ข้าทำให้เจ้าสุดความสามารถเลยน้า” กล่าวโดยไม่หันมามองหน้าคนที่พูดด้วยเพราะมัวยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่าง ก่อนจะหันใบหน้ายิ้มแย้มเจิดจรัสกลับมาพร้อมถาดอาหารในมือ วางลงบนตักของเธอที่นั่งอยู่บนเตียง

    “กินสิ่ ท่าทางเจ้าจะหิว”

    กล่าวโดยไม่รู้เลยว่าคนที่ตนพูดอยู่ด้วยนั้นเพิ่งไปเหมาเค้กทั้งร้านมาหมาดๆ

    ลูน่ายังคงมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างระแหวงๆ..

    เออใช่ ว่าแต่..

    “จ..เจ้าเป็นใคร??”

    “หืมม ข้าหรออ..”

    สบดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วนั้นกับเธอในระยะประชิด จนลูน่าต้องผงะไปข้างหลังเพื่อสร้างระยะห่าง

    “บอกชื่อเจ้ามาก่อนสิ่” เขายิ้มหวาน

    “ข..ข้าชื่อ ลูนาเรีย มิคาเอล ไซรอส โกโคลาดา ..”

    “โอโห.. ชื่อเจ้าจะยาวไปไหน ฮ่าๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะลูนาเรีย ~

    ลูน่าพยักหน้าแกนๆแล้วถามกลับ “แล้วชื่อเจ้าล่ะ?”

    “ชื่อข้าหรออ...” ลากเสียงยาวพร้อมทั้งจ้องตาเธอนิ่ง

    จึก

    นิ้วเรียวจิ้มเข้าที่จมูกของเธอเบาๆ เด็กสาวสะดุ้ง

    “ไม่บอกหรอก ฮ่าๆ”

    ใบหน้าหวานแดงซ่าน ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆก่อนจะถอยใบหน้าออกห่าง เด็กสาวลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วบ่นอีกฝ่าย “ไหงงั้นล่ะ”

    “กินข้าวสิ่ เดี๋ยวก็เย็นหมดก่อนหรอก” แต่เด็กชายกลับเฉไปอีกเรื่องซะอย่างนั้น

    ลูน่าทำหน้ายู่เล็กน้อย “อือๆ” แต่ก็ตอบรับแล้วรีบกินอาหารในถาดทั้งหมดหมดไปอย่างรวดเร็ว ยังไงเรื่องกินก็สำคัญสุด

    ก็แบบ.. สลบไปนาน .. ร่างกายมันเอาไปเผาผลาญหมดเกลี้ยงแล้ว..

    “ว่าแต่..” ว่าพลางลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียง จ้องหน้าเด็กสาวอย่างสนอกสนใจจนคนโดนจ้องอดประหม่าไม่ได้

    “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้นานแค่ไหนแล้วล่ะ ?”

    “อืม.. ฉัน อ.. เอ้ย ข้าเพิ่งมาถึงวันนี้เอง”

    “ถ้าเจ้าไม่ถนัดพูดด้วยสรรพนามนั้นก็ไม่ต้องพูดก็ได้ พูดปกติเถอะ เดี๋ยวข้าปรับเข้าหาเจ้าเองล่ะกัน เอ.. ต้องแทนตัวเองว่าไงนะ.. ข้าจากมานาน .. ลืม.. อ่อ ! ผม สินะ? แล้วก็เธอ..

    “อื้ม”

    “แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ โลกใบนี้”

    “อืมม..” ลูน่าทิ้งช่วงในการตอบคำถาม ไม่ใช่ว่าเธอนึกคำตอบไม่ออก แต่เป็นเพราะว่าโลกใบนี้มันสมบูรณ์แบบ ดีพร้อมไปหมดทุกอย่างจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลยต่างหาก

    “ทุกอย่างดู.. เพอร์เฟ็คไปหมดน่ะ สมบูรณ์แบบมากๆ”

    อีกฝ่ายพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นสินะ สมบูรณ์แบบจริงๆ”

    ลูน่าพยักหน้ารับคำพูดของชายหนุ่มที่ทวนคำพูดเธอมาอีกที แล้วเอ่ยถาม “อือ.. ว่าแต่นี่บ้านนายใช่มั้ย ? นายอยู่คนเดียวงั้นหรอ ?”

    เขาพยักหน้าหงึกๆ อมยิ้มเล็กน้อยกับสรรพนามที่ดูใกล้ชิดสนิทสนมขึ้นมาอีกหน่อยที่สาวเจ้าเผลอหลุดออกมาตามความเคยชินโดยไม่รู้ตัว

    “จริงๆผมมีลุงด้วยน่ะ แต่ท่านอาศัยอยู่อีกบ้าน”

    “อ่อ.. แล้วสรุป ..” พออิ่มท้องเรื่องที่ลืมไปแล้วก็กลับมานึกได้ใหม่ “ชื่อนาย?”

    จากอาการเคอะเขิน พูดตะกุกตะกักในตอนแรก เด็กสาวเริ่มเรียกอีกฝ่ายได้อย่างสนิทสนมมากขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับรู้จักกันมาเป็นเวลาเสียอย่างนั้น

    “บอกแล้วไงว่าไม่บอก ฮ่าๆ”

    ลูน่ายู่จมูกใส่เด็กชายเล็กๆ “ทำไมกันล่ะ แล้วอย่างนี้ฉันจะรู้ได้ไงว่านายเป็นใครชื่อเสียงเรียงนามอะไร เป็นคนดีหรือเปล่า และที่สำคัญ ฉันจะเรียกนายยังไง”

    “คนเราไม่ได้ตัดสินกันได้ด้วยชื่อสักหน่อย อีกอย่าง เธอก็เรียกได้นิ ก็เห็นเรียกนายๆอยู่นี่ไม่หยุด”

    ชายหนุ่มกล่าวตอบพลางหัวเราะเบาๆ

    “มันไม่เหมือนกันน่า.. เฮ้อ ช่างเหอะ นายไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก” ถอนหายใจอย่างเซ็งๆเล็กๆ แล้วใช้ช้อนตักตรงขอบๆชามอาหารเพื่อดูว่ายังมีอาหารเหลืออยู่มั้ย ทำให้ชายหนุ่มระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง

    “ห..หัวเราะอะไรของนาย” เด็กสาวเหวอไปเล็กน้อย

    “ก็เธอน่ะสิ ตลกชะมัด ยังหิวอยู่งั้นหรอ? เดี๋ยวผมไปเอาขนมหวานมาให้ล่ะกันนะ”

    ชายหนุ่มเดินหัวเราะออกจากห้องไป จนเด็กสาวต้องส่งค้อนขวับตามหลังอีกฝ่าย ไม่นานนัก เขากลับมาพร้อมจานใบเล็กที่มีขนมเค้กวางอยู่

    “อ่ะ! นี่ขนมเค้กจากร้านคุณลุงผมเอง ขึ้นชื่อที่สุดในเมืองนี้เลยน้า”

    นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงของลูน่าเป็นประกายวิบวับ ภายในนั้นสะท้อนแต่ภาพของเค้ก เค้ก และเค้กที่อยู่เบื้องหน้าเธอเท่านั้น

    “ร้านอะไรหรอ? วันหลังฉันจะได้แวะไปมั่ง”

    sweet mania น่ะ”

    “หืม ? sweet mania ?? วันนี้ฉันเพิ่งไปมาเอง! ร้านของคุณลุงท็อฟฟี่ใช่มั้ย ??”

    เขาพยักหน้า ใช้ช้อนของตนตักเค้กขึ้นมาชิมเล็กน้อย “ใช่แล้ว นั่นล่ะลุงของผม”

    “ว้าว.. เจ๋งชะมัด.. มีคุณลุงเป็นคนทำขนมอร่อยขนาดนั้น .. คงได้กินขนมอร่อยๆทุกวันเลยสินะ.. น่าอิจฉาชะมัด..” เด็กสาวอมช้อนค้างไว้ในปาก ทำหน้าเพ้อฝัน ..จนชายหนุ่มอดหลุดหัวเราะออกมาอีกรอบไม่ได้

    “ท่าทางเธอจะชอบกินมาก ฮ่าๆ งั้นก็กินนี่เยอะๆเลยนะ” ว่าพลางเลื่อนจานเค้กไปให้ใกล้เด็กสาวมากยิ่งขึ้น ลูน่าผงกหัวขอบคุณเล็กน้อยแล้วตักเค้กคำไม่ใหญ่ไม่เล็กมากเข้าปาก เนื้อเค้กนุ่มกับรสหวานปะแล่มๆของสตรอเบอร์รี่ปนกับรสจืดๆของวิปครีมแผ่ซ่านไปทั่วปาก เธอหลับตาลง.. เคลิบเคลิ้มไปกับรสชาติของเค้ก

    “อร่อยสุดๆ!”

    ใบหน้าที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายอร่อยจริงแบบไม่เสแสร้งทำให้ชายหนุ่มมองหน้าอีกฝ่ายเพลินๆอย่างชอบใจ

    “อื้อ.. นายไม่กินหรอ?”

    ชายหนุ่มส่ายหน้ายิ้มๆแล้วตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอก เธอกินเถอะ ผมกินบ่อยแล้ว”

    เด็กสาวพยักหน้ารับหงึกๆ แล้วทำหน้ายู่ๆใส่อีกฝ่าย

    “เชอะ น่าอิจฉาชะมัด”

    บ่นงึมงำๆ แล้วจัดการเคลียร์เค้กจนหมดจาน ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวหลงเหลืออยู่ “อร่อยชะมัดด~

    ชายหนุ่มมองจานเค้กที่ว่างเปล่าราวกับไม่เคยมีอะไรอยู่บนนั้นมาก่อนอ้าปากค้าง ก่อนจะอมยิ้มแล้วลอบขำเบาๆ

    ผู้หญิงคนนี้.. น่าสนใจชะมัด..

    เมื่อกินเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มก็จัดการเก็บจานทั้งหมดออกไป ลูน่าที่นั่งอยู่บนเตียงมองอีกฝ่ายทำทุกอย่างจนเสร็จสรรพเรียบร้อย

    “สบายซะยังกับเป็นคนป่วยเลยนะ” เขาแขวะเล็กๆเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย

    เธอไม่ตอบ แต่ชี้ไปที่แผลบนหน้าผาก เหมือนจะเป็นเชิงโทษกลายๆ

    ชายหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆอย่างระอา

    “ว่าแต่บ้านเธออยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวผมไปส่ง”

    “บ้านฉัน.. อยู่ .. เอ่อ..”

    “ว่าไง?”

    “เอ่อ..” เด็กสาวหลับตา นวดขมับเล็กน้อย ครุ่นคิดช้าๆ

    บ้านของเธอ .. อยู่ไหนนะ?

    “อะไรกัน นี่เธอจำบ้านตัวเองไม่ได้หรอ เฟอะจริงๆ” พูดพร้อมหัวเราะ จนลูน่าอดค้อนให้เล็กๆไม่ได้

    “ก็ฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่นี่นา!”

    “เอ้า! งั้นผมพาเธอไปที่ๆเธอสะดุดล้มล่ะกัน เดินจากตรงนั้นน่าจะไปได้นะ?” ลูน่าหยุดคิดซักพัก ก่อนจะพยักหน้ารับ

    “งั้นก็ไปกันเถอะ” เด็กสาวพยักหน้ารัวๆ ก้าวเท้าลงจากเตียง เดินต้อยๆตามอีกฝ่ายที่กำลังจะเดินออกไปจากห้อง

    “เออใช่!” ตะโกนขึ้นมาพร้อมหยุดกึกจนคนที่เดินตามมาเบรคแทบไม่ทัน

    เขาหันหน้ามา เกาศรีษะแล้วหัวเราะแห้งๆ

    “ผมลืมไป.. ตอนเธอสลบไปมันก็เย็นแล้ว แล้วดูกว่าเธอจะฟื้น.. แล้วกว่าจะกินเสร็จอีก.. ” เขายกนาฬิกาขึ้นมาแล้วยื่นให้เธอดู “ตอนนี้มันสี่ทุ่มแล้ว..”

    “อ๊า จริงด้วยสิ่ แล้วนายไปส่งฉันไม่ได้หรอ?”

    “ไอ้ไปส่งน่ะก็ส่งได้หรอก แต่ดึกๆดื่นๆมันมืดค่ำแล้ว ผมกลัวจะหลงทางเอาน่ะสิ่”

    “อือ.. นั่นสินะ.. แล้วทำยังไงล่ะ?” เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาถามอีกฝ่าย

    เป็นเพราะทั้งสองคนยืนใกล้กัน ทำให้ระดับความแตกต่างของส่วนสูงถูกปรากฏออกมาทันทีอย่างชัดเจน ลูน่านั้นสูงแค่เพียงประมาณอกของอีกฝ่ายเองเท่านั้น

    “อืมม..” ชายหนุ่มทำทีเป็นครุ่นคิดเล็กน้อย ทั้งที่จริงๆมีคำตอบอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว ..

    “สงสัยว่าคืนนี้..”

    เว้นช่วงไปหน่อยนึงให้ลูน่าส่งสายตาคำถามมาหา ก่อนจะพูดประโยคต่อไปที่ทำให้เด็กสาวถึงกับอ้าปากค้างด้วยความช็อค

     

    “เธอคงจะต้องค้างบ้านผมซะแล้วสิ่”

     

     
    พี่ลูน่าอย่าเพิ่งฆ่าเค้าน้าาา~~~
    แอบสปอยล์นิดนึงว่าตอนต่อไปก็ยังเป็นพี่ลูน่าทั้งตอน555555555 *โดนฆ่าทิ้ง* 
    เหมือนเรื่องนี้มันชักจะหลุดจากเมนเลิฟเข้าแฟนตาซีไปเรื่อยๆแล้วล่ะ -_- กร๊ากกก
    นี่พาเรื่องออกไปไหนเนี่ยย.. ฮว้อคคคคคคค T[]T
    เอาเถอะ ช่างมัน -..- กว่าจะมาอัพตอนนี้ได้ยากเย็นแสนเข็ญ
    ทั้งที่จริงๆแต่งเสร็จนานแล้ว 555555555
    โอเค ~ เจอกันตอนหน้าฮะะ :3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×