ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha Fiction] You're my Superstar ★

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 55


    © Tenpoints !

    คชาาาาาาา สายแล้วน้าาาว้อยยยยยย"
    
    	เป็นเวลาสามอาทิตย์แล้วครับ ที่ผมมายืนรอคชาหน้าบ้านเพื่อรอไปเรียนพร้อมกัน แล้วก็เป็นเวลาสามอาทิตย์แล้วครับ ที่คชามักจะสายเสมอ - -''
    
    มาแล้วว แฮ่กๆ" เหมือนจะเป็นภาพเดิมๆที่เห็นจนชินตา ไอ้ภาพผู้ชายตัวเล็กคนนี้วิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากบ้านเนี้ย!!
    
    สายตามเคยยยย!” อดไม่ได้ครับ ขอทับถมสักหน่อยนึง
    
    ก็..ก็นาฬิกาปลุกมันไม่ปลุกนี่นา" เอาอีกแล้วครับ เหตุผลยอดฮิตเดิมๆ- -a ผมว่าจะทำเคืองซะแล้วเชียวนะวันนี้ แต่พอเห็นใบหน้าอ้อนๆแบบสำนึกผิดของเขาแล้วก็.. ทำใจโกรธไม่ลงอีกตามเคย..
    
    เอาเหอะ รีบๆไปเรียนกัน! วันนี้เดี๋ยวเราปั่นให้ก็ได้" เราไปเรียนกันด้วยจักรยานของคชาครับ ผลัดกันปั่นสลับกันไปเรื่อยๆ เพราะผมไม่คิดจะหาจักรยานของตัวเองมาปั่นไปเอง ฮ่าๆ :P 
    
    อือออออ"
    
    	คชากระโดดซ้อนท้ายจักรยานแล้วกอดเอวผมเหมือนตามปกติ แล้วก็เหมือนปกติที่อาการไม่ปกติของผมจะเกิดขึ้นในเวลาที่อีกฝ่ายทำอะไรปกติๆอย่างงี้
    
    	ผมใจเต้น ใช่ ใจเต้น ไม่แปลกหรอก ถ้าใจผมไม่เต้นน่ะสิแปลก แต่! มันไม่ใช่แค่ใจเต้นปกติน่ะสิ ใจผมมันเต้นแรงๆ รัวๆ ถี่ๆ หายใจก็ไม่ค่อยจะออก แถมยังรู้สึกลนลานทำอะไรไม่ถูกไปหมด
    
    	ก็ใช่ว่าผมจะประสีประสาจนไม่รู้อ่ะนะว่าไอ้ที่เป็นอยู่น่ะมันคืออะไร แต่.. ผมก็ยังไม่ค่อยอยากจะยอมรับสักเท่าไหร่
    
    
    	ผมกลัวเสียเขาไป
    
    
    	.
    
    	.
    
    	.
    
    	ลมหายใจร้อนๆที่เป่าต้นคอผมอยู่ทำให้สมาธิของผมกระเจิดกระเจิง ผมพยายามเอี้ยวตัวไปมองคนข้างหลังที่หลับไปเรียบร้อยแล้ว ยิ่งเห็นใบหน้าไร้เดียงสายามนอนหลับแล้วมันก็ยิ่งทำให้ผม..
    
    	ฮึ่ยยย! ควบคุมสติๆ !!
    
    อือออ.. ถึงแล้วหรออ.. เฮ่ย! เต๋าเป็นไร! ตบหน้าตัวเองทำไมม!?”
    
    	เสียงรนๆของอีกฝ่ายทำให้สติที่กำลังจะกลับมาเตลิดไปอีกครั้ง ผมส่ายหน้าให้เขาโดยที่ไม่ได้หันไปมอง ขืนมอง.. ผมคงควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆแล้วล่ะทีนี้ !
    
    	แต่คชาก็ทำผมเสียที ด้วยการเอามือข้างนึงมาดันหน้าผมให้หันไปมองเขา
    
    เป็นไร? เจ็บมากมั้ยเนี่ย? โห.. แดงหมดเลยอ่ะ !”
    
    	มือของเขาแตะๆที่ใบหน้าผมเบาๆแล้วทำหน้าเจ็บปวดแทน ผมต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกัดฟันแล้วหลุบตาลงต่ำ แต่กลับยิ่งเป็นการทำร้ายตัวเองหนัก เมื่อสายตาเจ้ากรรมมันดันเหลือบไปเห็นริมฝีปากสีชมพูเรื่อๆที่กำลังขยับกล่าวคำพูดอะไรสักอย่างที่ผมฟังไม่เข้าหู
    
    	ภาพของฉากในภาพยนตร์เมื่อวานที่ดูก่อนนอนก็กลับมาหลอกหลอน .. ไอ้ฉากที่พระเอกค่อยๆโน้มตัวลงไปจูบนางเอกช้าๆอย่างดูดดื่มนั่นน่ะ..
    
    	กริ้งงง!!
    
    	เสียงกระดิ่งเรียกเข้าเรียนที่ดูจะดังกว่าปกติเรียกสติทั้งหมดของผมให้กลับเข้าที่ได้ทันที ผมเงยหน้าพรึ่บจนคชาตกใจสะดุ้ง เขามองหน้าผมงงๆ ส่วนผมนั้นก็รีบพูดรัวๆเพราะลิ้นชักจะพันกัน
    
    เฮ่ยสายแล้ว! ไปเข้าเรียนกันเหอะ!”
    
    	แล้วผมก็เดินตัวปลิวหนีออกไป ท่ามกลางความงุนงงของคนที่อยู่ข้างหลัง..
    
    
    	.
    
    	.
    
    	.
    
    เอาล่ะค่ะนักศึกษา เราใกล้จะจบปีการศึกษากันแล้ว โปรเจ็คสุดท้ายที่ครูจะให้นักศึกษาทุกคนทำนั่นก็คือ.. การทำภาพยนตร์"
    
    	ห้องที่กำลังเงียบๆอยู่ก็เอะอะขึ้นมาในทันที
    
    ฟังก่อนค่ะนักศึกษา! โดยโปรเจ็คนี่จะให้ทำแข่งกัน โดยแบ่งในห้องนี้ออกเป็นสองกลุ่ม คือครึ่งเลขที่แรกกับครึ่งเลขที่หลัง ใครทำได้ดีกว่าก็ถือว่าผ่าน ส่วนอีกกลุ่มนั่นต้องซ่อม เริ่มทำงานได้ตั้งแต่นี้เลยนะคะ เอาล่ะ เลิกคลาสได้ค่ะ"
    
    	ทีนี้ล่ะห้องก็ยิ่งครึกครื้นหนักเมื่ออาจารย์เดินออกไป ส่วนผมน่ะหรอ สติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหรอก ในหัวผมมันมีแต่ภาพเมื่อเช้ารีเพลย์ซ้ำไป..ซ้ำมา.. ผมจะเป็นบ้าอยู่แล้วนะเนี่ย!
    
    เต๋า..เต๋า.. เต๋า!”
    
    	ผมสะดุ้งตัวโยน หันไปมองคนข้างๆแบบมึนๆ คชาเลิกคิ้วข้างนึงใส่ผม
    
    เป็นไรป่ะเนี่ย? เห็นดูมึนๆแต่เช้าแล้ว หรือว่าไม่สบาย?”
    
    	คชาเลื่อนมือมาแตะที่หน้าผากของผม ผมรู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนรุมๆขึ้นมาทันที	 ผมรีบผงะหนีเขา
    
    เฮ่ยยย ตัวร้อนอ่ะเต๋าา ไม่สบายแน่ๆเลย ไปห้องพยาบาลมั้ย"
    
    ..ไม่เป็นไรหรอก อากาศมันร้อนน่ะ" ผมเถียงข้างๆคูๆ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าอากาศในห้องเรียนน่ะหนาวขนาดไหน คชาขมวดคิ้วเล็กๆ จนผมต้องรีบเอ่ยต่อ "ไม่เป็นไรจริงๆ ว่าแต่ เรื่องงานเอาไงอ่ะ?”
    
    	เหมือนคชาจะลืมเรื่องผมไม่สบายไปได้ ใบหน้าของเขาดูคลายความกังวลลง แล้วเขาก็ส่ายหน้าให้ผม
    
    ไม่รู้สิ แต่เห็นเมื่อกี้ไทด์บอกว่าเดี๋ยวพวกเลขที่ครึ่งหน้าให้อยู่รอที่นี่หลังเลิกเรียนอ่ะ เดี๋ยวจะประชุม" คชากำลังพูดถึงเพื่อนร่วมห้องคนนึงของเรา
    
    	ผมพยักหน้าแบบส่งๆ แล้วเมื่ออาจารย์คนถัดไปเข้ามาสอน ผมก็หลุดเข้าสู่ภวังค์ของตัวเองไปอีกรอบ ..
    
    
    	.
    
    	.
    
    	.
    
    	ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว แต่ผมกับคชายังไม่กลับบ้านกันครับ
    
    	ประชากรอีกครึ่งห้องก็ยังไม่กลับบ้านเช่นกัน
    
    เอาล่ะทุกๆคน เดี๋ยวเราจะมาแบ่งหน้าที่กันนะ ก่อนอื่นเราก็ต้องมีผู้กำกับ ผู้ช่วยผู้กำกับ แล้วก็คนเขียนบทก่อน ให้ทุกคนเสนอชื่อแล้วเดี๋ยวเราจะมาโหวตกัน เอาล่ะ ใครอยากจะเสนอใครบ้าง?”
    
    	ใครสักคนที่ผมไม่รู้จักยกมือแล้วพูดว่า "ให้เหวยเหวยเป็นคนเขียนบทดิ้ เหวยเหวยเค้าเก่งเรื่องนี่นะ"
    
    	ทุกคนในห้องพากันพยักหน้าเออออ แล้วคนชื่อเหวยเหวยก็ลุกขึ้นมาโค้งตัวให้ทุกคนหน่อยพอเป็นพิธี
    
    เราว่าน่าจะให้คชาเป็นผู้กำกับนะ คชาเขารู้จักคนเยอะ น่าจะประสานงานได้ง่าย"
    
    	แล้วไทด์ก็เรียกให้คชาที่ยังงงๆอยู่ลุกขึ้น ทุกคนมองหน้าคชาแล้วก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย เห็นเงียบๆอย่างงี้.. แต่จริงๆแล้วคชารู้จักคนเยอะมากครับ  แต่ไม่ใช่คชาไปรู้จักคนอื่นเองนะ คนอื่นต่างหากที่มารู้จักกับคชา - -a
    
    งั้นคชาเลือกผู้ช่วยเองเลยล่ะกันนะ คชาจะเลือกใครเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ?”
    
    	คชากวาดตามองซ้ายขวาอย่างเลิกลั่ก ก่อนจะชี้ไปที่มุมนึงของห้องแล้วพูดว่า "ชาเลือกเจมส์ล่ะกัน เจมส์ก็รู้จักคนเยอะเหมือนกัน"
    
    	คนชื่อเจมส์ลุกขึ้นมาฉีกยิ้มกว้างๆให้ แล้วค้อมให้ทุกคน
    
    เอาล่ะ ๆ ทีนี้ก็ได้ครบล่ะ ทีนี้ไว้เดี๋ยวให้เหวยเหวยไปเขียนบทมา แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะมาคัดเลือกตัวนักแสดงกันนะ ประชุมเสร็จล่ะ กลับบ้านได้ทุกคน แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้"
    
    	ทุกคนพากันแยกย้ายกลับบ้าน รวมทั้งผมและคชาด้วย คชายังดูมึนๆกับบทบาทสำคัญที่ตนได้รับอยู่ จนผมอดไม่ได้ต้องเลื่อนมือไปขยี้หัวทุยๆนั่นสักหน่อย
    
    เป็นอะไรฮะ ทำหน้าเครียดเป็นเป็ดเชียว"
    
    	คชาหันมาทำยู่ใส่ผม แล้วเปลี่ยนเป็นใบหน้าแบบเครียดๆกังวัลๆ ผมหยุดอยู่ที่หน้าจักรยานแล้วคว้าไหล่ของคชาให้หันมาถามผม
    
    เป็นอะไร หืมม .. อย่าทำหน้าเครียดอย่างงั้นสิ"
    
    	คชาหลุบสายตาลงต่ำ แล้วสบตาผม ก่อนจะพูดเสียงสั่น "ชากลัวอ่ะ.. กลัวชาจะทำได้ไม่ดี มันเป็นโปรเจ็คใหญ่เลยนะ.. หน้าที่ที่ชาได้มันสำคัญเกินไป ชากลัวชาจะทำมันออกมาได้ไม่ดีอ่ะเต๋า" 
    
    	น้ำเสียงสั่นๆนั่นทำเอาใจผมสั่นไปด้วย ผมเอื้อมมือไปบีบจมูกคชาเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
    
    อย่าเครียดสิ่! คชาต้องทำได้อยู่แล้ว เราเชื่ออย่างนั้นนะ เพื่อนที่เหลือเขาก็เชื่ออย่างนั้นเหมือนกัน  ไม่งั้นเขาไม่เลือกชากันหรอก เชื่อมั่นในตัวเองหน่อยสิ่"
    
    	เขายังคงมองหน้าผมอย่างไม่มั่นใจ แล้วในที่สุด ผมก็ต้านทานความต้องการในใจไว้ไม่ได้อีกต่อไปเมื่อเห็นใบหน้าหงอยๆนั่น ผมรวบตัวเขาเข้ามากอดแน่นๆแล้วลูบผมอีกฝ่ายช้าๆ
    
    ถ้าเมื่อไหร่ที่ชาเครียด จำไว้อย่างเดียวก็พอว่า .. ชายังมีเราอยู่เสมอ เราจะอยู่ข้างๆชาเสมอ ไม่ว่ายังไงก็ตาม"
    
    	ผมรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างเปียกๆที่เสื้อของตัวเอง แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไร แค่รวบอีกฝ่ายไว้ให้แน่นยิ่งขึ้น
    
    	จนในที่สุด เสียงสะอื้นเบาๆนั้นก็ค่อยๆเบาลงไป มือเล็กๆดันหน้าอกผมจนผมต้องปล่อยเขาออกจากอ้อมกอด คนตัวเล็กใช้มือเช็ดน้ำตาป้อยๆก่อนจะพูดด้วยเสียงเบาๆว่า .. “ขอบคุณนะ"
    
    	ผมอมยิ้ม แล้วจูงมืออีกฝ่ายมาที่จักรยาน
    
    กลับบ้านกันเหอะ ป้ะ"
    
     
    ผมคงจะหลงรักเขาแบบถอนตัวไม่ขึ้นไปแล้วจริงๆล่ะครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×