คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2st ❀ The New World.
2nd
❀ The New World ❀
ตุ้บ!
ติ้ง .. เสียงหยดน้ำม้วนตัวกลิ้งลงจากใบนี้หยดลงสู่ลำธารเล็กๆ...
จิ้บจิ้บจิ้บ .. เสียงหวานใสของเหล่าบรรดานกน้อยพากันร้องขับขานต้อนรับผู้มาเยือน...
แซ่ด แซ่ด แซ่ด แซ่ด .. เสียงใบไม้สีกันเมื่อสายลมพัดผ่านมันไปช้าๆ...
ว่าแต่..
ที่นี้มัน..
คือที่ไหนกัน ??
.
.
.
.
.
พรึ่บ!
เรนนี่ทะลึ่งตัวขึ้นมา มองซ้ายมองขวาด้วยความงุนงง
หันไปอีกทาง เห็นเหล่าบรรดาพี่น้องของตนกำลังพยุงตัวขึ้นมานั่งอย่างมึนงงไม่ต่างอะไรกัน
“ก..เกิดอะไรขึ้น??” ลูน่าถามขึ้นมาแบบเบลอๆ
“เหมือนเมื่อกี้เราอยู่กันหน้าทีวีไม่ใช่เรอะ” เอลน่าบ่นงึมงำเบาๆ
“เหมือนจะเกิดอะไรบางอย่างกับพวกเรานะคะ.. หรือนี่เป็นความฝัน??” รูนเน่เอ่ยอย่างเลื่อนลอย
“หรือว่าพวกเราโดนทีวีดูดเข้ามา!?” และจบด้วยเรนนี่ที่เอ่ยปิดท้าย
ป๊าป! เสียงเอลน่าตีหัวเรนนี่อย่างแรง มองหน้าน้องชายของตนอย่างเอือมๆ
“ดูหนังมากเกินไปแล้วเรนนี่ จะบ้ารึไง”
“โอ้ยย แล้วทำไมพี่ต้องตีหัวผมด้วยเล่า..” บ่นงุบงิบ แล้วมองหน้าพี่สาวของตนอย่างค้อนๆ
แต่เอลน่าก็ไม่ได้สนใจ เธอกำลังมอบไปรอบๆบริเวณเพื่อที่จะวิเคราะห์ออกมาว่าตอนนี้ตนและน้องๆอยู่ที่ไหนกัน
แต่รอบๆนั้นก็มีเพียงแค่ต้นไม้ ลำธาร และผืนดิน ไม่ต่างอะไรไปจากป่าธรรมดาทั่วไป
“เอ๊ะ! ตรงนั้นเหมือนจะมีหมู่บ้านนะคะ” รูนเน่ร้องอุทานขึ้นมา ชี้ไปทางทิศนึงของป่า ทุกคนหันไปตามทางนั้น และพบว่าเป็นอย่างที่น้องสาวคนเล็กบอกจริงๆ มีสิ่งที่หน้าตาคล้ายๆบ้านหลายๆเรียงกันไปเป็นแนวยาวอยู่ที่มุมหนุ่มของป่า
“หาคนก่อนเถอะ แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากัน” พี่ใหญ่สรุป ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนำเหล่าน้องๆไปยังทิศทางนั้น
ที่ๆพวกเขาจะได้เริ่มต้น .. ‘ชีวิตใหม่’
.
.
.
.
.
.
และเมื่อพวกเขาเดินเข้ามาในเมือง ก็ต้องงงเพิ่มมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ทั้งเมืองเต็มไปด้วยผู้คนมากมากส่งเสียงจ้อกแจกจอแจ เสียงตะโกนซื้อขายกันดังลั่น บรรยากาศดูครึกครื้นน่าสนุกสนาน รถเกวียนขับผ่านไปทีละขันสองขัน เหล่าม้าและลาส่งเสียงร้องอย่างเกียจคร้าน ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่สวนไปสวนมา ล้วนอยู่ในชุดพื้นบ้านกันทั้งนั้น
“นี่เราหลงมาอยู่ยุคไหนเนี่ย..” เด็กชายคนเดียวในกลุ่มบ่นพึมพำเบาๆ มองซ้ายมองขวาอย่างตื่นเต้น
“ไม่รู้สิ่ .. แต่เค้าชักหิวแล้ว ..” ลูน่างึมงำๆอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย จมูกสูดดมกลิ่นของอาหารที่เหล่าผู้คนนำมาขายข้างทางแล้วก็ลูบท้องตัวเอง “โถ่.. เจ้าท้องน้อยที่น่าสงสาร”
เอลน่าเหลือบมามองน้องคนรองเล็กน้อยแบบเอือมๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนึงแถวนั้น
“พี่ๆ ที่นี่ที่ไหนหรอ?”
พี่สาวคนนั้นหันมามองพวกเขาทั้งสี่ด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นทำหน้าเข้าใจ แล้วพยักหน้าหงึกหงัก
“มาจากอีกโลกคู่ขนานหรอ? เดี๋ยวเจ้าเดินตรงไปเรื่อยๆนะ แล้วเดี๋ยวจะเจอตึกใหญ่ๆสีครีมๆ ก็เดินเข้าไปข้างใน บอกว่าขอเข้าพบฝ่ายติดต่อและดูแลระหว่างมิติ แล้วก็ไปแจ้งว่าเป็นคนในอีกโลกคู่ขนานเลย แล้วเดี๋ยวพวกเขาจะจัดการเอง” พูดเพียงแค่นั้น ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมมากมายให้ได้เข้าใจเพิ่มมากขึ้นแล้วหันกลับไปจัดเก็บของอะไรมากมายอย่างวุ่นวายจนคนถามไม่กล้าถามอีกฝ่ายต่อ
“ในเมื่อเค้าบอกว่าให้เราเดินตรงไป ตอนนี้เราก็เดินตรงไปกันก่อนแล้วกันนะคะ” รูนเน่เสนอความคิด ทุกคนพยักหน้าตาม แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆตามคำบอกเล่าของพี่สาวคนนั้น..
.
.
.
.
.
เดินมาสักพัก พวกเขาก็เจอกับสิ่งก่อสร้างที่หน้าตาเหมือนตึกรูปร่างใหญ่โตสีครีมอย่างที่พี่สาวบอกไว้เป๊ะ ๆ หันมามองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน..
ภายในแลดูวุ่นวาย เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครม ผู้คนมากมายวิ่งวุ่น ทุกคนดูยุ่งไปหมด จนพวกเขาทั้งสี่ต้องยืนนิ่งอิ่งใบ้อยู่หน้าประตู
รูนเน่ส่ายหัว รวบรวมสติ แล้วเดินตรงไปยังเค้าท์เตอร์ที่มีป้ายเขียนไว้ว่า “ฝ่ายประชาสัมพันธ์”
“เอ่อ.. ขอโทษนะคะ..”
บุคคลที่นั่งอยู่ที่ประชาสัมพันธ์เงยหน้าขึ้นมามองพวกเขา แว่นสีใสที่ดูจะหนาเป็นคืบทำให้ขนาดของดวงตาหญิงสาวคนนั้นดูใหญ่เกินจริงจนน่ากลัว รูนเน่ผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะอ้าปากเตรียมถามคำถาม แต่อีกฝ่ายกลับพูดขัดขึ้นมาซะก่อน
“คนจากอีกโลกคู่ขนานหรอ เดินตรงไปแล้วก็เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย นะ เดี๋ยวจะเจอประตูที่มีป้ายเขียนว่า ‘ฝ่ายติดต่อและดูแลระหว่างมิติ’ แล้วก็เข้าไปได้เลย”
พูดจบปุ้ปก็ก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรซักอย่างลงบนกระดาษดังแกรกๆต่อในทันที ส่วนรูนเน่นั้นกำลังอยู่ในสภาวะงงจัด อึ้งจัดจนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะสะบัดหัวเล็กๆแล้วทวนสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งพูดมาเบาๆ “เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเลี้ยวขวาเลี้ยวซ้าย..”
เดินตรงไปหาบรรดาพี่ๆ แล้วถ่ายทอดสิ่งที่ประชาสัมพันธ์เพิ่งบอกมานั้น ก่อนจะออกเดินไปตามทางพร้อมๆกัน
‘ฝ่ายติดต่อและดูแลระหว่างมิติ’
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญเข้ามา”
แอ๊ด..
เสียงประตูเปิดออก พร้อมทั้งร่างทั้งสี่เดินผ่านประตูเข้ามา แล้วยิ่งนิ่งๆเอ๋อๆแบบคนทำอะไรไม่ถูกอยู่หน้าประตู
“นั่งสิ่”
ในห้องเล็กๆนั่นมีเพียงโต๊ะหนึ่งตัว ตั้งอยู่กลางห้อง มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หลังโต๊ะ ก้มหน้าก้มตาจดอะไรยุกยิกไม่หยุด บนโต๊ะของเขาเต็มไปด้วยกองเอกสารที่วางซ้อนทับกันจนสูง ส่วนบุคคลที่นั่งอยู่นั่นแทบจะกลืนหายไปกับกองกระดาษ
ทั้งสี่คนมองหน้ากัน ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่มีสี่ตัวอย่างพอดับพอดีหน้าโต๊ะทำงานของผู้ชายคนนั้นอย่างประหม่า แต่ชายหนุ่มก็ดูยังไม่มีทีท่าว่าจะเงยหน้าขึ้นมาพูดอะไรกับพวกเขาซักหน่อยเลย
“อะแฮ่ม ..” ลูน่ากระแอมนิดนึงเป็นการเรียกอีกฝ่ายแบบกลายๆ
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะอุทานว่า “โอ๊ะ ! ขอโทษนะ”
เขาวางปากกาลง
“อื้ม.. พวกเจ้า เอ้ย พวกคุณรู้กันมั้ยว่าตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหนกัน?”
“ไม่รู้ฮะ/ค่ะ”
“งั้นผมขออธิบายก่อนเลยล่ะกันนะ คุณเคยได้ยินใช่มั้ยว่าจริงๆแล้วโลกของเราน่ะมีหลายมิติ แล้วจะมีมิติหนึ่งที่เป็น ‘มิติโลกคู่ขนาน’ หรือมิติที่ขนานกับเราอยู่ ซึ่ง โลกที่คุณจากมานั้น คือโลกที่ขนานกับโลกของเราอยู่นี้ ซึ่งก็คือ พวกคุณได้หลุดเข้ามาในอยู่ในโลกอีกใบที่ขนานกับโลกที่คุณอยู่นั่นเอง”
ทั้งสี่อ้าปากค้าง .. มึน งง อึน ทุกอย่างสารพัดปนเปตีกันเข้าไปในหัว ..
ให้ตายเหอะ ! พวกเขาชอบอ่านนิยายแฟนตาซีก็จริง แต่ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้มันจะมาเกิดขึ้นจริงๆกับพวกเขานะ !
“ล..แล้วเราหลุดเข้ามาได้ยังไง ? แล้วจะกลับไปยังไง ??” ลูน่าถามเสียงตะกุกตะกักด้วยความช็อคจัด
“อืม .. อันนี้มันก็แล้วแต่กรณีอ่ะนะ พวกคุณลองคิดดูดีๆสิ่ว่าก่อนพวกคุณจะมาอยู่ที่นี่ พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่ ?”
พี่น้องทั้งสี่นั่งคิด.. ระลึกความหลัง ..
“อืมมมม ..”
“เดี๋ยวนะ.. ตอนนั้น .. แย่งรีโมทมา .. เปลี่ยนช่อง ..แล้วก็...”
“นั่งอยู่หน้าทีวี!”
เสียงทั้งสี่ประสานขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ชายหนุ่มหน้ามนมองพวกเขาแล้วยิ้ม
“นั่นล่ะครับ”
“ล..แล้ว.. ทำไมต้องพวกเรา ? ทำไมมันถึงเกิดกับพวกเรา ?? แล้วเราจะกลับไปยังไง ????” หลากคำถามรัวออกมาจากปากของเอลน่าที่สติกำลังไม่อยู่ร่องกับรอย ชายหนุ่มคนนั้นยกมือขึ้นเบรกเอลน่า ก่อนจะตอบกลับอย่างใจเย็น
“มันไม่มีเหตุผลครับในการที่บุคคลใดๆจะถูกส่งมายังที่แห่งนี้ เหมือนกับว่ามัน.. เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าละมั้งครับ? ผู้คนส่วนมากที่หลุดจากโลกคู่ขนานมาอยู่ยังที่แห่งนี้มักจะเป็นบุคคลที่ขาดหายหรือสูญเสียบางสิ่งบางอย่างในชีวิตไป พวกเขาจึงได้ถูกส่งมายังโลกใบนี้ เพื่อที่จะได้อยู่และอาศัย เริ่มต้นชีวิตใหม่ ณ โลกแห่งนี้”
คำพูดทำเอาเด็กทั้งสี่นิ่งงัน .. ขาดหายหรือสูญเสียงั้นหรือ? นั่นสินะ.. พวกเขา ..
“แล้วพวกคุณล่ะครับ?”
เด็กทั้งสี่มองหน้ากัน .. ดวงตาสีน้ำตาลแดงทั้งสี่คู่ฉายแววเจ็บปวดรวดร้าวออกมาเล็กๆ.. สิ่งที่ขาดหายตั้งแต่เกิดมา .. และยังความสูญเสียที่มากมายเกินกว่าจะเอื้อนเอ๋ยออกมาเป็นคำพูดได้.. พวกเขาต้องพานพบกับความเจ็บปวดตั้งแต่ยังเล็ก..
“พวกเราทั้งสี่คน.. เป็นเด็กกำพร้าฮะ” เรนนี่เป็นคนพูดขึ้นมา เขาก้มหน้า กำมือแน่น
“แล้ว.. ผู้อุปถัมภ์ของเราทั้งสี่ก็.. เสียชีวิตหมดเลยค่ะ..” รูนเน่กล่าวต่อเสียงเบา.. แม้จะฝืนกลั้นแค่ไหน ความเจ็บปวดยังตามมาหลอกหลอนทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้
“แล้วพวกเราทั้งสี่คน ..ก็ได้มาเจอกัน และตัดสินใจอาศัยอยู่ด้วยกันนับตั้งแต่นั้นมา ในฐานะ ‘พี่น้อง’” เอลน่าจบประโยค ชายหนุ่มผู้นั้นประสานมือไว้บนโต๊ะ พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“นั่นคือเหตุผลที่พวกคุณมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้ ยังไงล่ะครับ ส่วนสำหรับคำถามของคุณที่ว่า ‘จะกลับไปยังไง’ นั่น ผมคงไม่มีคำตอบให้”
ทั้งสี่เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนพูดทันทีแบบอึ้งๆและตะลึง
“ห..หมายความว่าไงคะ?” รูนเน่ถามเสียงเบาหวิว
“อย่างที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า ผู้ที่หลุดมายังโลกนี้นั้นส่วนมากมักเป็นคนที่ขาดหายหรือสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิต ดังนั้นการที่พวกเขามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี้ มีชีวิตดีๆที่นี้ ดังนั้น พวกเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปยังโลกเดิมอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะครับ?”
“ยกเว้นจะมีในบางกรณี ที่ไม่มีความสุขกับชีวิตใหม่เลย ก็จะหายไปจากโลกใบนี้ กลับไปยังโลกใบเดิมเอง .. แบบไร้เหตุผล .. ก็อย่างที่ผมว่าล่ะครับ มันเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า”
“อ่ออ..” ลูน่าพยักหน้าเบาๆ แม้จะยังรู้สึกงงเล็กน้อยแต่เธอกลับทำใจได้อย่างง่ายดาย ก็นะ.. ไม่มีอะไรจะต้องเสียอยู่แล้วนี่นา ยังไงพวกเขาก็มีกันอยู่แค่สี่คนนี่แหละ..
“เอาล่ะครับ ในเมื่อเข้าใจกันดีแล้ว ผมก็ขอจดชื่อพวกคุณลงในทะเบียนสำมะโนครัวหน่อยนะครับ พวกคุณชื่ออะไรกันบ้างครับ เริ่มที่คุณแล้ว” เขาชี้ปากกาไปที่เอลน่า เอลน่าชี้มาที่ตัวเองเป็นเชิงถาม และเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับ เธอก็ตอบกลับไป
“เอลน่า เคฟฟาย โกโคลาดา ค่ะ”
“เอลน่า เคฟฟาย โกโคลาดา.. ผมสีบลอนด์ทอง.. ตาสีน้ำตาลแดง .. คุณคนต่อไปต่อเลยครับ”
“ลูนาเรีย มิคาเอล ไซรอส โกโคลาดา ค่ะ”
“ลูนาเรีย มิคาเอล ไซรอส โกโคลาดา.. ผมสีแดง.. ตาสีน้ำตาลแดง .. ต่อเลยครับ”
“เรนนี่ ฟอลล์ โกโคลาดา ฮะ”
“เรนนี่ ฟอลล์ โกโคลาดา.. ผมสีบลอนด์ทอง.. ตาสีน้ำตาลแดง .. คุณคนสุดท้ายต่อเลยครับ”
“รูนเน่ กราเซียส โกโคลาดา ค่ะ”
“รูนเน่ กราเซียส โกโคลาดา.. ผมสี เอิ่ม ..” เงยหน้าขึ้นมามองคนพูดนิดนึง แล้วขมวดคิ้ว ก่อนจะก้มลงไปจดหยิกๆลงบนกระดาษพร้อมทั้งพึมพำเบาๆ “บลอนด์ปนๆเทาปนๆน้ำตาล ..ตาสีน้ำตาลแดง”
รูนเน่ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำบรรยายสีผมของตนเอง
“เอาล่ะ!” เขาวางปากกาลง “เสร็จเรียบร้อย เอ๊ะ ว่าแต่ พวกคุณไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงมีนามสกุลเดียวกันล่ะครับ?”
“คือว่า ..” เอลน่าล้วงมือเข้าไปในคอเสื้อตัวเอง แล้วหยิบสร้อยที่จี้สลักตัวอักษรอะไรบางอย่างออกมา ก่อนจะแย้มยิ้มเล็กๆ
“พวกเราทั้งสี่คนต่างก็มีจี้ที่มีคำว่า ‘โกโคลาดา’ ติดตัวกันน่ะ พวกเราเลยเอามันมาเป็นชื่อสกุลของพวกเราทั้งสี่คน แปลกเนาะคุณว่ามั้ย.. แต่ก็อย่างที่คุณว่านั่นแหละ มันคงจะเป็น ‘พระประสงค์ของพระเจ้า’ ละมั้ง”
เอลน่าอมยิ้ม รวมทั้งชายหนุ่มคนนั้นก็ยิ้มด้วยเช่นกัน
“ครับ มันเป็นเรื่องที่ดีสินะ เอาล่ะ ตอนนี้ คุณไปตามแผนที่นี้นะ แล้วเดี๋ยวคุณจะเจอบ้านใหม่ของคุณเอง ผมหวังว่าคุณจะมีชีวิตใหม่ที่ดีนะครับ..” ชายหนุ่มยิ้มสดใส เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเพิ่งสังเกตและเห็นพ้องต้องกันว่า ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาดูดีใช่ย่อย
เอลน่ารับแผนที่มาแล้วผงกหัวขอบคุณเล็กน้อย
“ว่าแต่ .. คุณชื่ออะไรหรอคะ?”
“ผมหรอ? ผมชื่อ เฟท เฟรนเชียร์ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ถ้ามีปัญหาอะไรมาบอกผมได้เสมอนะครับ” ชายหนุ่มที่คุยกันมาตั้งนานถึงจะเพิ่งจะรู้ว่ามีชื่อเสียงเรียงนามว่า ‘เฟท เฟรนเชียร์’ ยิ้มหวานให้ “อ่อ.. ผมลืมบอกไปอีกอย่างล่ะ ที่นี่เค้าใช้สรรพนามกันว่า ‘เจ้า’ ‘ท่าน’ อะไรพวกนี้กันนะครับ.. บอกไว้ก่อน ผมกลัวเดี๋ยวพวกคุณจะแป้กเอา ฮ่าๆ”
ทั้งสี่หัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นขอตัว เพื่อจะไปดูบ้านใหม่และพร้อมเริ่มต้นชีวิตใหม่สักที
“ขอบคุณมากๆนะคะ” เอลน่าค้อมตัวอีกที กล่าวคำขอบคุณเป็นตัวแทนแทนทุกๆคน เฟทยืนขึ้นด้วยเช่นกัน แล้วค้อมตอบ
“ครับ ไม่เป็นไรครับ”
ทั้งสี่หันหลัง เตรียมจะเดินออกจากห้อง จนเหลือเอลน่าเป็นคนสุดท้ายที่กำลังจะเดินผ่านประตูไป
“อ่อ..”
เธอหันกลับมา พร้อมรอยยิ้มหวานที่ทำเอาหัวใจชายหนุ่มผู้นิ่งสงบมาเป็นเวลาหลายปีต้องเต้นโครมคราม
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ.. เฟท เฟรนเชียร์”
แต่งสองรวดเลย ขยันสุดๆอ่ะะ แต่คงแค่ช่วงแรกๆเท่านั้นแหละ-..-
รู้สึกชอบพล็อตเรื่องนี้นะ ได้กลิ่นอายชนบทเก่าๆดี ฮ่าๆ
แบบบบ ไม่ต้องมีแอคชั่นผจญภัยเวทย์มนตร์สัตว์ประหลาดอะไรมากน่ะ 5555555
ขอเน้นนะะ ว่าเมนหลักคือ เลิฟ
และเหมือนเลิฟคู่แรกก็จะโผล่มาซะแล้วด้วยย .. คิคิคิ
โอเค เอาเป็นว่า จะอัพตอนที่สามเร็ววๆนี้ ฮาา
ว่าจะอัพแบบหนึ่งตอนต่อหนึ่งวันเลย แต่ไม่รู้จะทำไปได้นาแค่ไหน.. ฮาาา
หวังว่าทุกคนจะชอบตอนนี้นะฮับ :3 แล้วชอบกันตอนหน้าฮะะ
ความคิดเห็น